จำได้ดีว่าในสมัยเด็กเคยมา จ.ตรัง เพียงเพื่อหยุดพักทานอาหารเที่ยงในระหว่างการเดินทางจาก จ.ภูเก็ต สู่หาดใหญ่ ซึ่งในวัยวันที่ชีวิตการเดินทางยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเต็มที่ แค่หยุดพักทานอาหารเที่ยงผมก็นับแล้วว่าเคยมา จ.ตรัง แล้วเมื่อเวลาผ่านไปอีกกว่า 33 ปี ในวันนี้ผมจึงได้มีโอกาสเที่ยว จ.ตรัง แบบเต็มๆ ที่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า เมืองตรัง ผมเคยไปมาแล้ว

การเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางไปกับแท่ง เพื่อนร่วมทางคู่หูที่ไม่ได้ร่วมเดินทางกันนานกว่า 8 ปี ด้วยรูปร่างที่แตกต่างทำให้เราซึ่งมีแค่เพียง 2 คนตั้งชื่อกันเองว่า แก๊งค์อ้วนผอม ซึ่งหากจับรูปร่างและน้ำหนักของเราบวกกันแล้วหาร 2 ก็จะเป็นผู้ชายที่หุ่นดีมากทีเดียว (555)

ทริปนี้เหมือนทุกทริปที่ผ่านมาที่ไปกับแท่ง นั่นคือแผนการเดินทาง และการจัดเตรียมทุกอย่างเป็นความรับผิดชอบของผม ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ผมโอเคมาก แต่อย่างไงก็ตามสุดท้ายก่อนสรุปก็ต้องให้เพื่อนร่วมทางเห็นชอบด้วย

ตรัง จังหวัดที่นักท่องเที่ยวทั่วไปมักมองข้าม เพราะมองข้ามไปเที่ยวแต่ภูเก็ต กระบี่ หาดใหญ่ จึงมักมีแต่คนคิดว่าจังหวัดนี้ไม่ค่อยมีอะไรให้เที่ยว แต่เมื่อหลายปีก่อน ททท.โปรโมทสถานที่ท่องเที่ยว Unseen หนึ่งในนั้นคือ ถ้ำมรกต ก็ทำให้คนรู้จักและสนใจจังหวัดนี้มากขึ้น ซึ่งจริงๆแล้วตรังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายต่อหลายแห่งนั้นบนบกและในทะเล เนื่องจากมีเวลาเพียงแค่ 3 วัน 3 คืน เราจึงตัดสินใจเช่ารถจากตรังแลนด์ในราคาวันละ 900 บาท เพื่อที่สามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆให้ได้มากที่สุด

สายการบินไทยแอร์เอเชียพาเราเหินฟ้ามาถึงท่าอากาศยานตรังตรงตามเวลาคือ 14.40 น. ด้วยเป็นท่าอากาศยานขนาดเล็ก ลงจากเครื่องก็เดินแบกเป้ตรงเข้าสู่อาคารผู้โดยสารได้เลย นั่งรอสักพัก ราวๆบ่าย 3 รถที่เราเช่าก็มาจอดเทียบอาคาร โดย upgrade จากโตโยต้า Yaris เป็น Vios รุ่นปัจจุบัน

วันนี้เราวางแผนที่จะไปพักที่เกาะลิบง โดยจองที่พักไว้เรียบร้อยแล้ว จากการที่หาข้อมูล การไปเกาะลิบงต้องขึ้นเรือที่ท่าเรือหาดยาว โดยเรือจะหมดเวลา 17.00 น. ด้วยระยะทางแค่ 48 กม. เราจึงใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 1 ชม.ดีนักก็เดินทางมาถึง

ด้วยเวลาที่พอมี ผมจึงเลี้ยวรถเข้าไปชมความงามของหาดยาวก่อน หาดยาวนี้ ชายหาดทอดยาวสมชื่อจริงๆ มองไปจนสุดลูกหูลูกตายังไม่เห็นปลายทางเลยว่าสิ้นสุดตรงไหน อีกทั้งตลอดแนวชายหาดยังเรียงรายไปด้วยแนวต้นสน บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะกับมาหลีกเร้นเพื่อมาพักผ่อนยิ่งนัก

สำหรับต้นชายหาดซึ่งเป็นทางที่ผมเข้ามานี้ มีภูเขาหินความสูงราว 50 เมตร ตั้งขวางคลื่นลมเอาไว้ ซึ่งอีกด้านหนึ่งของภูเขาก็ชื่อที่ตั้งของท่าเรือหาดยาวนั่นเอง

ท่าเรือหาดยาวในเวลานี้ค่อนข้างเงียบเหงา แต่ก็มีรถจอดที่ลานจอดรถกลางแจ้งจนเต็ม แทนที่จะเสียค่าจอดคืนละ 50 บาท เราจึงต้องนำรถไปจอดที่ในร่มข้างร้านค้าในราคาคืนละ 100 บาท


ค่าเรือโดยสารไปเกาะลิบงคนละ 40 บาท แม้จะค่อนข้างเงียบเหงา แต่ก็มีผู้โดยสารรอขึ้นเรืออยู่ราว 7 – 8 คน รวมเราสองคนก็พอที่เรือจะออกได้ เพราะหากไม่มีผู้โดยสาร หรือกรณีมาหลัง 17.00 น. หากต้องการไปเกาะลิบงก็ต้องเหมาเรือในราคาเที่ยวละ 520 บาท

เรือใช้เวลาเดินทางแค่ 20 นาทีก็พาเรามาถึงท่าเรือบ้านพร้าว ซึ่งตั้งหลบคลื่นลมที่ปากคลองบ้านพร้าว บริเวณทิศเหนือของเกาะลิบง


กระทิงเปลี่ยวเที่ยวโลกกว้าง

 วันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เวลา 14.06 น.

ความคิดเห็น