เกาะล้าน เดินทางด้วยรถไฟ และจุดชมวิวทะเลบนเกาะล้าน 

2 วัน 1คืน 

เที่ยวคนเดียว แบบไม่มีรถส่วนตัว

คลิปวิดีโอ รายละเอียดการเดินทาง แบบมากๆๆๆๆๆๆๆ



ฝากติดตามเพจด้วยครับ

facebook fanpage : https://goo.gl/Fumgyi

[เกรียนแบกเป้เที่ยว]อย่าลืมกดLike กดShare และ subscribe ด้วยนะครับ

YouTube ►► https://bit.ly/2yFR22w



Chapter 1 : นั่งรถไฟไปเกาะล้าน


วันนี้ผมพาจะพาเพื่อนๆ ไปนั่งรถไฟ เที่ยวเกาะล้าน ในแบบ 2 วัน 1 คืน


รถไฟออกจากสถานีหัวโพง เวลา 06.45 น.



ผมนั่งขบวนรถปรับอากาศชั้น 2 กรุงเทพฯ - บ้านพลูตาหลวง

ขบวนรถชั้น 2 ที่ผมมา เป็นขบวนที่ให้บริการเฉพาะ วันเสาร์และอาทิตย์ 

ในราคา 170 บาทต่อเที่ยว (มีแค่วันละ 1 รอบ)

ขบวนรถไฟ ชั้น 2 ที่ผมมา เป็นขบวนที่ให้บริการเฉพาะ วันเสาร์และอาทิตย์เท่านั้น


ส่วนวันธรรมดา จะเป็นขบวนรถ ชั้น 3 พัดลม


เราสามารถจองตั๋วรถไฟและชำระผ่านเว็ป ticket.railway.co.th ได้เลย


สำหรับรอบวันเสาร์-อาทิตย์ ให้เลือกปลายทาง ที่สถานีพัทยา

ส่วนรอบวันธรรมดาให้เลือกปลายทางที่สถานีพัทยาใต้


ห้องน้ำที่นี่ สะอาดมาก


ผมมาถึงสถานีพัทยา เวลาประมาณ 9.30 น.

สรุปใช้เวลาเดินทางประมาณเกือบ 3 ชั่วโมง


จากนั้นให้รถสองแถว หรือรถตู้ ที่จอดอยู่หน้าสถานี

มาที่ท่าเรือแหลมบาลีฮาย 

ราคาประมาณ 50 บาท



ใช้เวลาประมาณ 15 นาที

เราก็มาถึงท่าเทียบเรือท่องเที่ยวพัทยา (ท่าเรือแหลมบาลีฮาย)

เมื่อมาถึงที่ท่าเรือแล้ว



จะมีให้เลือกลง 2 ท่า คือ ท่าหน้าบ้าน กับท่าหาดตาแหวน

ผมมาขึ้นเรือ รอบท่าหน้าบ้านไม่ทัน เพื่อไม่ให้เสียเวลา ก็เลยขึ้นเรือมาลงท่าเรือหาดตาแหวน


ค่าตั๋วเรือ อยู่ที่คนละ 30 บาท

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที


จากนั่นผมก็นั่งรถสองแถวที่จอดอยู่หน้าทางเข้าหาดตาแหวน ราคา 20 บาท

เพื่อไปรับมอเตอร์ไซค์ของที่พัก แถวท่าหน้าบ้าน


ผมพักที่ ชบาฮัต คืนละ799 บาท ที่นี่แถมทั้งมอเตอร์ไซค์และน้ำมันฟรีให้ด้วย



Chapter 2  จุดชมวิวยามเย็น ที่ ผาหน้ายักษ์



ผมขับรถไปนั่งรอ ทางเข้าจุดชมวิวลับ ที่คนถิ่นที่นี่ เรียกว่า ผาหน้ายักษ์



ผาหน้ายักษ์เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวลับๆ ที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย

ทางเข้าไปผานี้ จะอยู่ทางแยกด้านขวามือ ก่อนถึงหาดนวล



ผมติดต่อ พี่เอ จากเพจ ท่องเที่ยวKohlarn

เรานัดเจอกันหน้าบริเวณปากทางเข้า 

ตอนเวลาประมาณบ่าย3   45 นาที

ในรอบนี้ดูเหมือนจะมีแค่พวกเรา 4 คน เท่านั้น

ตอนแรกผมคิดว่าต้องเสียค่าบริการ

แต่พี่เอ บอกว่าไม่คิดค่าบริการ พี่เค้าแค่อยากให้ทุกคนได้มาชม และเห็นเท่านั้นเอง

และอีกเหตุผลที่ที่ต้องมีคนในพื้นที่นำทาง

เพราะ ด้านในนี้ มีงูชุกชุมด้วย อาจจะเป็นอันตรายแก่เราได้

เมื่อเดินหลุดพ้นโซนป่ามา จุดแรกเมื่อเดินขึ้นมาถึง เรียกว่า ผาแดง 

เป็นผาแรกที่เราพบหลังจากออกจากโซนป่า



และต้องเดินลัดเลาะไปตามเส้นทางเดิน อีกประมาณ 500 เมตร 


จนถึงบริเวณที่มีธงปักอยู่

ก็จะถึงผาหน้ายักษ์

จะว่าไปเหตุผลที่ผมอยากมาเที่ยวเกาะล้านครั้งนี้

ก็คือที่นี่เนี่ยหละ ผาหน้ายักษ์ สถานที่ที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อน



พวกเราตั้งใจมาชมพระอาทิตย์ตก แต่ดูเหมือนว่าเราจะขึ้นมาไวไป

กว่าพระอาทิตย์จะตกผิวหนังเราคงไหม้ก่อนแน่ๆเลย

พวกเราจึงเดินทางไปที่ เขาเรดาห์ ที่ด้านบนนี้

เป็นที่ตั้งของเสาโทรเลขและเรดาห์ ตามคำชวนของพี่เอ


บริเวณนี้สามารถมองเห็นชายหาดได้โดยรอบ รวมไปถึงวิวเมืองพัทยา


แถมบรรยากาศดี ลมพัดเย็นตลอดเวลา เหมาะสำหรับชมพระอาทิตย์ตก หรือถ่ายรูปเป็นที่ระลึก


จากนั้นพวกเราก็เดินลงมาลัดเลาะมายังผาหน้ายักษ์


เวลา 6 โมงเย็นกว่าๆ พวกเราก็ลงมาจากด้านบน



Chapter 3 : 250 ขั้น สู่จุดสูงบนเกาะล้าน



รุ่งเช้า ผมมีแพลนเดินทางไปยังจุดชมวิว

ที่อยู่ระหว่างทางไปหาดตาแหวนของเกาะล้าน ที่ สำนักสงฆ์แสนล้าน”




ทางที่ขึ้นไปค่อนข้างมีความชัน โปรดระวังมากๆด้วย


ที่นี่มีหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ 


สามารถมากราบไหว้หลวงปู่ได้ 


และความพิเศษของที่นี่คือ

เราสามารถมองเห็นวิวหาดตาแหวนได้แบบ 180 องศา

เมื่อมาถึงด้านบนจะเป็นที่นั่งชมวิวบนชะง่อนหิน สามารถมองหาดตแหวนได้แบบชัดแจ๋ว

นอกจากจะเห็นน้ำทะเลสุดลูกหูลูกตา


แต่ยังไม่หมดแค่นี้เพราะนี่แค่จุดชมวิวที่แรก

เราสามารถขับมอไซค์เลยขึ้นไปได้อีก เพราะด้านบน ยังมี จุดชมวิวอีก 2 จุด


จุดที่ 2 คือ จุดชมวิวเจ้าแม่กวนอิม 

และ จุดที่ 3 คือ พระธาตุเจดีย์เขาใหญ่ เขตธุดงคสถานเฉลิมพระเกียรติเกาะล้าน

การขึ้นไปยังจุดชมนี้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูง

เพราะว่าถนนค่อนข้างลูกรังที่เต็มไปด้วยความชันและความขรุขระ


จุดชมวิวที่ 2 คือ เจ้าแม่กวนอิมที่ตั้งตระหง่าอยู่หน้าริมหน้าผา 


จากนั้นผมเดินไปพระธาตุเจดีย์เขาใหญ่ ที่ต้องเดินขึ้นบันไดกว่า 250 ขั้น



ผมแนะนำ อย่าลืมพกน้ำดื่มซักขวด ขึ้นไปด้วยนะ

ที่นี่เป็นเจดีย์ที่กำลังบูรณะอยู่

โดยรอบรายล้อมไปด้วยป่าไม้และเบื้องหน้าที่เป็นทะเล แถมข้างบนนี้เงียบมากๆ


ผมกราบไว้และนั่งพักผ่อนอยู่บนนี้ได้ซักพักใหญ่ๆ



จากนั้นผมก็ขับรถกลับมายังที่พัก 

เก็บสัมภาระแล้วเช็คเอ้าท์ ก่อนขึ้นเรือที่ท่าหน้าบ้าน




โดยขากลับนี้ ผมกลับด้วยรถตู้

เพื่อนๆที่เคยมาที่นี่ หลายคนอาจจะงงแบบผม



คือตอนแรกนึกว่านั่งมินิบัสที่จอดตรงนี้กลับกทม แต่จริงๆคันนี้แค่ขับไปรับ-ส่ง 

ที่คิวรถตู้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามทางเรือ ด้านข้างอาคารจอดรถ

คิวรถตู้นี้ สามารถ เลือกลงได้ทั้ง เอกมัย หมอชิต หรือรังสิตก็ได้

ผมนั่งรถมาลงที่หมอชิต ราคา 150 บาท ใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า 

ผมก็มาถึงที่ หมอชิต กรุงเทพ

ฝากติดตามเพจด้วยครับ

facebook fanpage : https://goo.gl/Fumgyi

[เกรียนแบกเป้เที่ยว]อย่าลืมกดLike กดShare และ subscribe ด้วยนะครับ

YouTube ►► https://bit.ly/2yFR22w

ยิ้มแบกเป้เที่ยว RoamingYim

 วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เวลา 19.09 น.

ความคิดเห็น