แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดำ จิตรกรรมวัดภูมินทร์ แดนดินส้มสีทอง เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง

        ที่มาของชื่อเมืองน่าน มาจากชื่อแม่น้ำน่าน อันเป็นที่ตั้ง ของเมืองที่อยู่บนสองฟากฝั่งแม่น้ำน่าน ชื่อของเมืองน่าน ได้ปรากฏในศิลาจารึกของพ่อขุนรามคำแหง เรียกว่า เมืองน่าน คือ ตั้งแต่แรกตั้งเมืองใหม่ ณ ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่าน (nan.go.th)

1. ไปต่อไม่รอนะ...

แม้ว่ากระดาษสีเทาๆ หรือแดงๆ ก็ดี ได้แปรเปลี่ยนสลายหายไปจากทริปก่อน จะเหลือก็แต่เพียงกระดาษใบสีฟ้า ที่เฝ้าสะสมใบแล้วใบเล่า จนพอที่จะสามารถเปลี่ยนแปรแปลงกลับไป ให้มูลค่าเป็นสีเทาได้... แต่กระดาษสีเหล่านี้ ก็ช่างมีแรงผลักออกจากมือเราเสียเหลือเกิน...แต่นั้นแหละสถานที่ข้างนอกนั้น...ก็มีแรงดึงดูดเราให้ออกไปเช่นกัน...

2.ตูดชา


เส้นทางของคนเรามันต่างกัน วิถีของแต่ละคนก็ย่อมเฉพาะแล้วแต่บุคคลนั้นๆไป เกือบ 10 ชั่วโมง ที่เหล็กหุ้มหนัง 4 ล้อ ออกหมุนไปบนถนน เกือบ 800 กิโลเมตร ทำเอาระบบขับถ่ายและ ระบบกล้ามเนื้อขา ผิดสมดุลอ่อนล้ากันเลยทีเดี่ยว จังหวัดแล้วจะหวัดเล่าผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตาม GPS นำทาง สองข้างทางยังคงแปลกใหม่เมื่อเราพบในคราแรก และเป็นอดีตในไม่ช้าเพียงเราได้ผ่านพ้นไป

3.ตูบนา


ถ้ารีวิวที่พักที่นี่แล้วได้เงินก็คงดีไม่น้อย...เพราะหากใครคิดจะมานอนค้างอ้างแรมแบบสไตล์ธรรมชาติ ที่จังหวัดน่าน ที่นี่น่าจะไม่ผิดหวัง บรรยากาศเย็นสบาย สไตล์บ้านชิคๆคูลๆ แสงอาทิตย์ลับเมฆา ถึงยามนิทรามีแสงไฟสีส้มนวลจากโคมสลัวเรียงรายยาวตามทางเดินชวนมอง อาหารเย็นในชุดขันโตกราคาหัวละ 200 รสชาติกำลังดี แต่จริงๆแล้วบ้านพักสไตล์นี้มีให้เลือกจับจองหลายที่นัก ตลอดแนวทางที่ผ่านเข้ามา ก็เอาที่สะดวกการมา ราคาสบายใจกันไป แต่แนะนำให้ลองจองออนไลน์กันมาก่อนก็ดี เพราะนอกจากจะมีส่วนลด ท่านอาจจะเก้อเมื่อมาถึงก็เป็นได้ ยิ่งเทศกาลแล้วนั้น...อะนะ

4. W Road

        อรุณเบิกฟ้านกกาโบยบิน...กระจกถูกลดลง เพื่ออากาศเย็นสบายยามเช้า ได้สัมผัสปะทะกับใบหน้า เมื่อรถพุ่งมุ่งหน้าแหวกอากาศไปตามถนนลาดยาง และอีกนัยเพื่อให้รถมีกำลังมากขึ้น หากเพราะต้องแบกน้ำหนักมนุษย์ถึง 7 คนพร้อมสัมภาระเหมือนจะย้ายบ้านกันมาด้วย มองทางเห็นเส้นยึกยือบนหน้าจอโทรศัพท์ ที่มีทั้งโค้งเวียนวกหักศอก ทำเอาคนขับล้าลูกกระตากันเลยทีเดียว คนทำถนนนี่เก่งเนอะ...แต่ถ้าทำทางตรงเลยก็คงดีทีเดียว

5. 1715ภูคาบ่อเกลือ


          เขาว่ากันว่าคนไทยชอบถ่ายกับป้าย...ฉะนั้นเราคนไทยก็คงไม่ขอปฏิเสธป้ายก็แล้วกัน 1715 ตั้งเด่นเป็นแลนมาร์คให้ผู้คนต่อแถวเข้าเฟรมถ่ายรูปกันไม่ยอมเหน็ดยอมเหนื่อย อีกทั้งมีที่จอดรถและของกินพร้อมห้องน้ำปัสสาวะสะดวกสบาย ก่อนหน้าจะถึงที่นี่ได้แวะ อุทยานแห่งชาติภูคา มีจุดชมวิวลานกางเต็นท์ และเส้นทางธรรมชาติ นับเป็นที่น่าจะมาปักเต็นท์ในครั้งต่อไปไม่น้อย

6.เกือบพลาดเพราะสระอี

          ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด...นั้นคือ ฟังไม่ได้ความแจ่มชัด แล้วเอาไปพูดต่อหรือทำผิดพลาด แต่การที่ป้ายหน้าหมู่บ้านเขียนว่า “งานประเพณี”ของด”บ่อเกลือ” สระอีที่ดอเด็กมันหายไป เราก็เข้าใจว่ามันงด ถ้าหากไม่ขับเลยไปเจอป้ายที่ถูกต้อง “งานประเพณี”ของดีบ่อเกลือ” ก็เกือบพลาดสถานที่นี่เสียแล้ว บ่อเกลืออายุกว่า 100 ปี เกลือสินเธาว์ เกลือภูเขาแห่งเดียวในโลก ซึ่งที่นี่ชาวบ้านที่นี่ยังคงวิธีการต้มเกลือแบบดั้งเดิม ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและประเพณี เก่าแก่ให้ได้ศึกษา...

(บ่อเกลือโบราณ)

(ถนนหมายเลข 3 )

7. สายบุญ

          นอกจากธรรมชาติที่สงบและสวยสด ศิลปะวัฒนธรรมที่จังหวัดนี้ก็สวยงามไม่น้อยไปกว่าที่ใด เราใช้เส้นทางล่องลงจากอำเภอปัว บ่อเกลือ ลงมายัง อำเภอภูเพียง ซึ่งเป็นที่ตั้งของปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดน่าน “พระธาตุแช่แห้ง” เด่นสีทองอร่าม ณ วัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง ถัดต่อไปไม่ไกลนัก ที่จะไม่ไปไม่ได้ ที่มาของ คำว่า กระซิบรักบันลือโลก "ปู่ม่านย่าม่าน" มงคลล้านนา ณ วัดภูมินทร์ ผลงานงานจิตรกรรมฝาผนังของคุณหนานบัวผัน จิตรกรพื้นถิ่นเชื้อสายไทลื้อ ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นภาพที่สมบูรณ์แบบที่สุดทั้งด้านองค์ประกอบและอารมณ์ หากคุณรักใครสักคน...ลองกระซิบข้างๆหูเขาดูสิ...

(พระธาตุแช่แห้ง)

(วัดภูมินทร์)

(วัดภูมินทร์,จิตรกรรมฝาผนังภายในโบสถ์)

(วัดภูมินทร์,ภาพปู่ม่านย่าม่าน)

8. เวลาไม่เคยรอใคร

          การคาดการณ์ระยะทาง ที่จะพารถยนต์ไปบนถนนที่เป็นเส้นทางอันแสน เลี้ยวลดคดเคียว บนเนินเขานั้น ทำให้ใช้เวลาการเดินทางนานกว่าปกติ เมื่อเทียบกับทางราบปกติทั่วไป ความเร็วของรถที่สามารถเป็นไปได้และปลอดภัย ต้องแข่งขันกับ หัวใจระบบสุริยะหรือดวงอาทิตย์ หลังจากออกจากวัดภูมินทร์ มาได้ไม่นานก็พบว่าเราจำเป็นต้องตัดแพลนเที่ยวที่เป็นวัดออกทั้งหมดเพราะ คำนวณแล้วว่า เราอาจจะถึงสถานที่ปลายทาง มืดเกินไปหากยังดำเนินไปตามแผนที่วางไว้ต่อ...เหมือนเคยแผนมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ นั้นเป็นเพียงแค่ไกด์นำทางเรา แต่ไม่ใช่ทุกอย่างที่...ความยืดหยุ่นและการตกลงเฉพาะหน้าน่าจะเป็นสิ่งสำคัญ และดีที่สุดของเราในตอนนี้

9. ดาวนับล้านในคืนวันเพ็ญ


       เต็นท์ถูกกางขึ้น อย่างทุกลักทุเลในความมืด ที่มีเพียงแสงสว่างของหลอดนีออนจากที่ทำการอุทยานอยู่ไกลไกล แสงจากไฟฉายที่เตรียมมา และแสงจันทร์ที่ลอยเด่นอยู่บนฟ้า สองเต็นท์ของเพื่อนร่วมทีม เช่าของเอกชนมาได้กางและจับจองพื้นที่ไว้ก่อนแล้ว แม้วันนี้เป็นคืนวันอาทิตย์ คนก็ขึ้นมา ณ ที่นี่ ดอยเสมอดาวไม่น้อยเลยทีเดียว

       เพราะการเดินทางและเส้นทางนั้นมาถึงได้ไม่ยากนัก ชันน้อยกว่าดอยภูคาอยู่หลายเท่า ลมเย็น ๆ ในเดือนพฤศจิกายน เย็นพอสะท้านผิวอยู่ไม่น้อยหมูกระทะคงเป็นดินเนอร์ ใต้แสงจันทร์ คงเทียบไม่ได้กับภัตตคานเลิศหรู แต่เปลวไฟจากถ่านที่ลุกโชน แผดเผากระทะจนหมูสุกกลิ่นหอมกรุ่น บรรยากาศนี้สู้ได้แน่นอน
ไออุ่นๆของเตาพัดมาตามกระแสลมทำให้ร้อนวูบวาบที่ผิวผสมกับอากาศเย็นนั้นดีไม่น้อย ป้าเจ้าของหมูกระทะที่โทรจองไว้ แกก็ใจดีอุตสาเช่าเตาอุทยานให้ก่อน และยังจุดเตาไว้ให้ก่อนเรามาถึงอีกด้วย...แหมะดีนะป้าแกยังไม่ย่างหมูรอไว้ให้เราถ้ามาถึงคงนั่งกินกันได้เลย...แต่คืนนี้เห็นดาวน้อยจัง...นั้นซินะคืนพรุ่งนี้วันลอยกระทง

10. แสงแรกของวันใหม่

          ทิ้งทุกอย่างให้ผ่านพ้นไปในวันเก่า เพราะตัวเราไม่อาจเปลี่ยนแปลงอดีต... เช้าวันใหม่สดใสเสมอ เสียงคนเริ่มออกเดินพลุกพล่าน นั้นหมายถึงใกล้รุ่งแล้ว อากาศเช้านี้กำลังเย็นสบายไม่หนาวจนเกินไป เช็คจาก google พระอาทิตย์จะขึ้นประมาณ 6.21 น. แต่ท้องฟ้าภายนอกยังคงมืดเห็นดาวระยิบระยับเพราะ

          พระจันทร์นั้นหายไป ในไม่ช้าแสงสีส้มปนเหลืองอยู่ริมขอบฟ้าอยู่ไกลๆเริ่มเข้ามาแทนที่ ลานดูดาวดินจากจุดกลางเต็นท์ขึ้นไปด้านบนไม่ไกลนัก เป็นจุดชมวิวสามารถเห็นพระอาทิตย์คงขึ้นมาส่องแสงอย่างไม่มีวันหยุดได้ เช้านี้...ดูเหมือนธรรมชาติจะเข้าข้างเราอีกแล้ว 

          เมื่อแสงบนฟ้าเริ่มสว่างขึ้น เบื้องหน้าจากหมอกหนาๆเริ่มเปลี่ยนจากแอ่งผาเป็นทะเลหมอกสีขาวเหมือนปุยนุ่นนุ่มละเอียด น่ากระโดดโยนตัวเข้าใส่ ลมเย็นพัดอ่อนโชยแทรกผ่านสะท้านผิว ทำเอาใจสั่นหวิวเหมือนโหยหาสิ่งนี้มานาน คนเริ่มทยอยลงเมื่อแสงแดดที่เริ่มเพิ่มอุณภูมิขึ้น ความสงบรอบตัวเริ่มกลับมา...เพียงแค่ไม่กี่นาทีที่ทำให้เรารู้สึกถึงการอยุ่ในภวังค์...ในไม่ช้าเราจำเป็นต้องจากและกลับไปสู่ความเป็นจริงอีกครั้ง

---จบบริบูรณ์---
#เสือซ่อนยิ้ม

เสือซ่อนยิ้ม

 วันอังคารที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 17.15 น.

ความคิดเห็น