เราเริ่มต้นประนีประนอมกันตั้งแต่การกำหนดวันเดินทาง เนื่องจากผมทำงานประจำ จึงมีวันหยุดและวันลาพักร้อนสุดแสนจำกัด ในขณะที่จุ๋ย อาชีพหลักคือการเรียนภาษาจีนสลับกับการจิ๊กคนโน้น แซวคนนี้ในไลน์กลุ่ม ส่วนอาชีพรองคือการลงทุนในตลาดหุ้น ไม่ใช่เพื่อหวังเกร็งกำไร แต่เพื่อได้เปลี่ยนบรรยากาศในการเข้าประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี พร้อมรับของที่ระลึกติดไม้ติดมือให้ดูโก้ๆ ฉะนั้นการกำหนดวันเดินทางจึงยึดวันที่ผมสามารถลางานได้เป็นที่ตั้ง นั้นคือสัปดาห์ที่มีวันหยุดประเพณี ตามมาตรฐานการลาทั่วไปของมนุษย์เงินเดือน เพื่อที่จะได้ใช้วันลาพักร้อนให้น้อยที่สุด

ขั้นต่อไปคือการวางแผนการเดินทางที่พอเหมาะกับจำนวนวันเดินทาง เนื่องจากเป็นการเดินทางไปประเทศฟิลิปปินส์เป็นครั้งแรก ฉะนั้นกรุงมะนิลา (Manila) เมืองหลวงของประเทศจึงเป็นจุดหมายแรกสำหรับการเดินทางครั้งนี้ แม้ว่าใครต่อใครจะบอกว่าไม่มีที่เที่ยวที่น่าสนใจ แต่เราไม่คิดเช่นนั้น

เมืองต่อไปที่อยู่ในแผนการเดินทางคือ ซีบู (Cebu) เมืองที่ตั้งอยู่บนเกาะที่มีชื่อเดียวกัน นอกจากเป็นเมืองที่มีความเจริญเป็นอันดับ 2 ของประเทศแล้ว ยังเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของฟิลิปปินส์อีกด้วย เพราะเกาะซีบูนี้ตั้งอยู่ในตำแหน่งศูนย์กลางของบรรดาเกาะน้อยใหญ่ที่มีมากกว่า 7 พันเกาะ อีกทั้งตัวเกาะซีบูเองก็มีศักยภาพในการท่องเที่ยวอย่างเต็มเปี่ยม เพราะมีทั้งเรื่องราวอดีตในยุคล่าอาณานิคม และความงดงามของธรรมชาติโดยเฉพาะทะเล แถมยังเป็นที่ดูฉลามวาฬ จุดหมายหนึ่งในการเดินทางของจุ๋ย

ถัดจากเกาะซีบูลงมาทางทิศใต้ เป็นที่ตั้งของเกาะใหญ่อีกหนึ่งเกาะ นามว่า โบโฮล (Bohol) เกาะนี้ถือเป็นเป็นเกาะสำคัญในแง่ธุรกิจการท่องเที่ยว เพราะเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นช็อคโกแล็ตฮิลล์ สถานที่ไฮไลน์ที่ผมอยากไปเห็นเป็นบุญตา หรือตัวทาร์เซียสัตว์หายากที่อาศัยเฉพาะในหมู่เกาะฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียเท่านั้น

การประนีประนอมในเรื่องแผนการเดินทางจึงลงเอยด้วยดี เพราะไปยังสถานที่ที่ทั้งสองคนอยากไป คือเริ่มจากกรุงมะนิลาในเกาะลูซอน จากนั้นบินไปเกาะซีบู แล้วนั่งเรือข้ามไปเกาะโบโฮล การจองตั๋วเครื่องบินของเราจึงเป็นไปตามแผนการเดินทางนี้ โดยครั้งนี้เราใช้บริการทั้งสายการบินไทยในการบินไป – กลับ กรุงเทพ – มะนิลา และฟิลิปปินส์แอร์ไลน์ สำหรับการบินภายในประเทศ คือ ไป – กลับ มะนิลา – ซีบู

การประนีประนอมสุดท้ายก่อนที่การเดินทางจะเริ่มต้น คือการจองที่พัก ที่ราคาสมเหตุสมผลตามมาตรฐานที่ผมรับได้ แต่ก็ต้องเลิศหรูพอที่คุณชายจุ๋ยจะนอนหลับ ดีที่ฟิลิปปินส์ค่าครองชีพต่ำกว่าเมืองไทยนิดหน่อย ราคาที่พักในเขตตัวเมืองมะนิลากับซีบู สองเมืองหลักของการเดินทางครั้งนี้จึงอยู่ในราคาที่แสนประหยัดเมื่อเทียบกับราคาโรงแรมในเมืองไทย

แต่สำหรับโรงแรมบนเกาะพังเลา (Panglao) ซึ่งเป็นเกาะบริวารของเกาะโบโฮลนั้น เนื่องจากเราเลือกที่จะนอนริมชายหาดอโรนา หนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของฟิลิปปินส์ ราคาที่พักจึงขยับขึ้นมาราว 2 เท่า แต่นั้นก็ถือเป็นราคามาตรฐานของโรงแรมที่ตั้งอยู่ในทำเลเช่นนั้น เป็นอันว่าการจองที่พักเราตกลงกันได้ด้วยดี

ทีนี้ก็เหลือเพียงแค่การเดินทางจริง เราสองคนจะประนีประนอมได้ดีเช่นนี้จนตลอดรอดฝั่ง หรือจะเป็นไปตามการเม๊าท์ของเพื่อนๆว่า “ดูเถอะ ไปด้วยกันเดี๋ยวได้ทะเลาะกันตาย”