สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในเขตอินทรามูโรสแห่งสุดท้ายที่เราไปเยือน คือ ป้อมแซนติเอโก้ (Fort Santiago) ป้อมสำคัญสมัยที่อยู่ภายใต้อาณานิคมของสเปน ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญริมแม่น้ำ Pasig บริเวณปากอ่าวมะนิลา

ป้อมโบราณแห่งนี้สร้างขึ้นในปีเดียวกับการสร้างโบสถ์มะนิลาและโบสถ์แซนอากุสติน เรียกได้ว่าสเปนได้เตรียมผังเมืองไว้พร้อม ทั้งป้อมปราการ กำแพงเมือง และโบสถ์ประจำเมือง เมื่อทุกอย่างพร้อมสรรพก็ประกาศให้เมืองมะนิลาเป็นเมืองหลวงของอาณานิคม โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่อินทรามูโรสแห่งนี้

ไม่ใช่แค่การทำหน้าที่เป็นป้อมปราการในการปกปักรักษาอินทรามูโรสเท่านั้น หากแต่ภายในป้อมแห่งนี้ยังถูกใช้เป็นที่คุมขังนักโทษ โดยนักโทษสำคัญที่ต่อมากลายเป็นวีรษุรุษของชาวฟิลิปิโน นามว่า โฮเซ รีซาล ก็เคยถูกคุมขังที่นี่ ก่อนที่จะถูกยิงประหารชีวิต ณ สถานที่ที่ปัจจุบันเป็นสวนรีซาล ที่อยู่ทางทิศใต้ของอินทรามูโรส

แต่แล้วเมื่ออำนาจถูกเปลี่ยนมือ เมื่อสหรัฐอเมริกาได้เข้ามาสวมบทบาทเป็นเจ้าอาณานิคม ป้อมแซนติเอโก้ก็เปลี่ยนฐานะเป็นกองบัญชาการฐานทัพอเมริกา และถูกใช้งานอย่างหนักในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จากการต่อสู้กับกองทัพญี่ปุ่น

แม้จะได้รับความเสียหายอย่างหนักทั้งจากเหตุแผ่นดินไหว และภัยสงคราม แต่เมื่อเดินเราผ่านซุ้มกำแพงที่มีอายุกว่า 4 ร้อยปี เราก็ได้พบกับภาพสลักบนแผ่นหินของซุ้มประตู Adornment ที่ยังคงเด่นชัด เป็นตราสัญลักษณ์ของกษัตริย์สเปน โดยเป็นรูปมงกุฎอยู่เหนือสิงห์คู่กับป้อมปราการคู่ เหนือขึ้นไปเป็นภาพเซนต์เจมส์ หรือชื่อในภาษาสเปนคือแซนติเอโก้ กำลังควบม้าศึกอยู่เหนือกองกำลังทหาร แซนติเอโก้นี้คือนักบุญในศาสนาคริสต์ที่ชาวสเปนให้การนับถือและยกย่องให้เป็นผู้ปกปักรักษาประเทศสเปน โดยตำนานได้กล่าวว่า ท่านขี่ม้าขาวมาจากสวรรค์ แล้วใช้ดาบปราบกองทัพแขกมัวร์ ศัตรูของชาวสเปนจนแตกพ่าย ซึ่งรูปแกะสลักนี้ก็เป็นรูปแสดงเหตุการณ์ในตำนานนี้นี่เอง

เราเดินไปรับลมบนป้อมปราการที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Pasig นอกจากสายลมที่พัดเย็นแล้ว บริเวณนี้ยังมีทิวทัศน์ที่งดงาม ของสายน้ำและตัวเมืองที่กำลังเติบโตตามกระแสของโลกธุรกิจ แต่ก็ยังคงไว้ด้วยวิถีชีวิตของการเป็นท่าเรือ นอกจากนักเดินทางต่างชาติที่เข้ามาเรียนรู้เรื่องราวในหน้าประวัติศาสตร์แล้ว ภายในป้อมปราการแห่งนี้ยังมากไปด้วยชาวฟิลิปิโนที่หอบลูกจูงหลานเข้ามาพักผ่อนหย่อนใจ เพราะปัจจุบันป้อมแซนติเอโก้ถูกดัดแปลงให้มีสภาพเหมือนสวนสาธารณะ จนแทบจะลบภาพอันโหดร้ายในอดีตเสียจนสิ้น

กระทิงเปลี่ยวเที่ยวโลกกว้าง

 วันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2564 เวลา 19.12 น.

ความคิดเห็น