หลังจากที่ทางการได้ผ่อนคลายมาตรการโควิดลง การเดินทางของผมก็เริ่มขึ้นอีกครั้งในช่วงที่พายุเตี้ยนหมู่กำลังเข้าไทยทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายจังหวัด...ด้วยความที่ห่างหายจากการ camping ไปร่วมปีจึงตอบตกลงร่วมทริปกับเพื่อนโดยไม่ลังเล เพียงแค่อยากออกนอกเมืองไปสัมผัสกลิ่นอายของธรรมชาติอีกสักครั้ง 

ผมกับเพื่อนควบ jeep wranger ฝ่าสายฝนออกจาก กทม.โดยใช้เส้นรังสิต-นครนายกมุ่งหน้าสู่ อ.องครักษ์ ซึ่งเราได้นัดเจอกับเพื่อนร่วมก๊วนที่ปั๊มปตท.องครักษ์ เพื่อเดินทางสู่จุดหมายปลายทางของเราในทริปนี้ที่ "คลองมะเดื่อ"

การเดินทางไปคลองมะเดื่อ เราใช้เส้นทางเดียวกันกับทางไปน้ำตกวังตะไคร้ ก่อนถึงน้ำตกวังตะไคร้จะมีทางแยกซ้ายมือ ปากทางมีป้ายบอกทางเข้าวัดบ้านดง "คลองมะเดื่อ"แล้วขับเข้าไปประมาณ 6 กม.ระหว่างทางจะผ่านจุดกางเต้นท์หลายๆเจ้า อย่างสวนกำนันเป้,สวนลุงพร,สวนลุงโชย สภาพเส้นทางในช่วง 4-5 กฺิโลแรกจะเป็นทางราดยางช่วงที่เหลือจะเป็นทางลูกรังเป็นหลุมบ่อ แนะนำว่าใครจะมาควรใช้รถกระบะยกสูง หรือรถ 4 wd  แต้ถ้าใครเอารถเก๋งเข้ามาก็ต้องค่อยๆหยอด และวิ่งได้ถึงแค่คลองหนึ่งเท่านั้น ส่วนสัญญานโทรศัพท์เข้าไปแค่ครึ่งทาง ทรูกับดีแทคจะไม่มีคลื่นเหลือแค่ เอไอเอส ซึ่งก็เบาบางเต็มที

เมื่อรถวิ่งเข้าเขตคลองมะเดื่อ สายหมอกโผล่พ้นยอดไม้และทิวเขามาทักทาย ผมเปิดกระจกรถถอดแมสสูดอากาศเข้าไปเต็มปอด มันรู้สึกดีจริงๆ นานแล้วที่ไม่ได้ถอดแมสสูดอากาศแบบนี้ อากาศภายนอกรถค่อนข้างชุ่มฉ่ำ เป็นเพราะพายุเข้ามีฝนพรำตลอดเส้นทาง เมื่อรถเข้าจอดที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวตรงคลอง 1 ผมเดินลงมาดูจุดที่รถข้ามลำน้ำตรงบริเวณที่เป็นข่าวของคลอง 1 ระดับน้ำค่อนข้างสูงและไหลแรงพอสมควร ถ้าจะข้ามเข้าไปยังคลอง 2,3 ควรมีทักษะในการขับรถฝ่ากระแสน้ำ และประเมิณสภาพรถของเราเองก่อน  

บริเวณริมลำห้วยจะมีซุ้มศาลาไว้สำหรับนั่งพักผ่อนหรือกางเต้นท์ค้างแรม ราคาก็จะเป็นดังนี้ 

  • จอดรถพร้อมผู้โดยสาร 100 บาท
  • จอดรถค้างคืน 150 บาท
  • มอเตอร์ไซด์จอดค้างคืน 30-100 บาท
  • แคร่ไม้ไผ่ตัวล่ะ 150 บาท 
  • ซุ้มหลังล่ะ 300 บาท

เราสามารถกางเต้นท์ได้ตลอดแนวของลำคลองยาวไปจนถึงบริเวณสวนส้มโอ  ตรงจุดข้ามน้ำของคลองหนึ่งจะมีของกินของใช้ขายอยู่พอสมควร และมีห้องน้ำไว้บริการตลอดทั้งวันทั้งคืนเสียค่าเข้า 5 บาท 

เราตัดสินใจกันว่าจะไม่ข้ามไปนอนกันที่คลองด้านใน เพราะกังวลเรื่องฝนที่ตกตลอดทั้งวันและอาจจะมีน้ำป่าที่ทำให้ต้องติดอยู่ด้านใน เลยหาทำเลที่ห่างไกลผู้คนเพื่อความเป็นส่วนตัวและฮวงจุ้ยค่อนข้างดีที่ด้านหน้าติดน้ำด้านหลังติดเขา อยู่ในดงส้มโอ😆

ช่วงระหว่างที่เรากำลังกางเต้นท์ก็มีพวกบรรดาพี่ๆในกลุม jeep แวะมาทักทายกันตามประสาคนที่ชื่นชอบอะไรคล้ายๆกัน   

ช่วงเย็นฝนเริ่มซา เมฆหมอกยังคงล่องลอยผ่านไปมาอย่างช้าๆ ผมหยิบเก้าอี้มานั่งริมน้ำมองผู้คนรอบๆแคมป์ บางคนพาครอบครัวมาเล่นน้ำ บางคนแค่มานั่งอ่านหนังสือซึมซับบรรยากาศ แบบเช้าไปเย็นกลับ บางครั้งชีวิตเราก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากแค่หาความสุขใส่ตัวและให้เวลากับครอบครัวบ้างเท่านั้นก็พอ   

ถึงแม้จะมีฝนตกตลอดทั้งคืน อากาศก็ยังไม่ถึงกับหนาว ผมนอนหลับๆตื่นเพราะฝนเริ่มตกแรงเมื่อตอนเที่ยงคืนจนต้องลุกมาคอยดูระดับน้ำเกรงว่าน้ำป่าจะมา ข้าวของในเต้นท์ก็ไม่มีอะไร ของสำคัญก็เอาไว้ในรถหมด และคืนนั้นก็ผ่านพ้นไปด้วยดีไม่มีอะไรเกิดขึ้น

บรรยากาศชิลๆยามเช้ากับกาแฟรสชาติเข้มข้น ช่วยขับไล่ความมึนงงที่เมื่อคืนนอนน้อยไปหน่อย หลังจากนั้นค่อยเก็บเต้นท์ ก่อนลงไปอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวเดินทางกลับ  

"คลองมะเดื่อ"เป็นต้นธารของน้ำตกวังตะไคร้ถูกค้นพบเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วโดยกลุ่ม offroad คลองมะเดื่อจะมีลำธารอยู่หลายช่วงเลยเรียกกันตามช่วงที่รถต้องขับรถข้ามลำธารเป็น คลอง 1 คลอง 2 คลอง 2 ครึ่ง คลอง 3 เมื่อก่อนจะมีลึกเข้าไปถึงคลอง 7 คลอง 8 แต่ปัจจุบันอยู่ในการดูแลของกรมอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไม่อนุญาติให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไป สามารถเที่ยวได้จนถึงคลอง 3 


-ขอขอบคุณเพื่อนๆที่ได้เข้ามาชม และ กด like กด share เป็นกำลังใจน่ะครับ

-แลกเปลี่ยนข้อมูล หรือพูดคุย สอบถามข้อมูลการเดินทาง Fanpage : สตั๊ดดอยร้อยเรื่องราว

-ติดตามบทความเก่าๆ ได้ที่นี่ครับ ทริปเดินทางทั้งหมด


สตั๊ดดอย ร้อยเรื่องราว

 วันอาทิตย์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 11.08 น.

ความคิดเห็น