มาเขื่อนเชี่ยวหลาน #สุราษฏร์ธานี ทำอะไรดี?

อ่ะ เราตอบให้ 10 กิจกรรม ไม่ควรพลาดเมื่อมาที่นี่


หน้าฝนเป็นช่วงที่ #เขื่อนเชี่ยวหลาน สวยที่สุด

น่ามาเที่ยวที่สุดดดด และมีกิจกรรมให้ทำเยอะกว่าที่คิด !

ตั้งแต่เดินป่าศึกษาธรรมชาติ เล่นน้ำตกเย็นๆ ที่น้ำตกแปดเซียน 

หรือไปดูหินงอกหินย้อยที่ถ้ำปะการัง และถ้ำประกายเพชร

ที่พูดมานี่ยังไม่หมดนะ ดูกิจกรรมทั้งหมดได้ในโพสต์นี้เลย 

เที่ยวต่างจังหวัด ต้องเช่ารถกับ Drive Hub ค่ะ

เขามีรถเช่าครอบคลุมกว่า 40 จังหวัดทั่วประเทศ

จองง่าย คอนเฟิร์มไว ปลอดภัย ได้รถชัวร์

ไม่มีบัตรเครดิตก็เช่าได้

ทางไปจอง :https://atth.me/004b0f001c4k

ทริปนี้เราพักที่ แพ 500 ไร่ ซึ่งวิวดีม๊ากกกกกก

ตื่นมาเจอวิวภูเขาที่มีหมอกปกคลุม แบบ 360 องศาเลย 

ที่แพเค้ามีกิจกรรมให้เลือกทำมากมาย เช่น นั่งเรือ

ไปดูหมอกยามเช้า ว่ายน้ำในสระลอยน้ำแห่งเดียวของเขื่อน

พายคายัค เล่น paddle board หน้าห้องพัก พอตกเย็นก็

ล่องเรือไปส่องสัตว์ อ่ะ… ไปอ่านรายละเอียดของแต่ละ

กิจกรรมในโพสต์นี้กัน !

ติดต่อแพ 500 ไร่

- Website : https://www.500rai.com/th

- FB : https://www.facebook.com/500rairesort

- Line : http://bit.ly/Line500rai

ถ้าได้มาพักที่แพ 500 ไร่ รับรองว่าไม่มีเบื่อ

อย่างที่บอกไปว่าเค้ามีกิจกรรมให้ทำเยอะค่ะ

และทุกกิจกรรม มีเรือบริการและมีไกด์ตามไปดูแล

ให้ข้อมูลตลอดทั้งกิจกรรมเลยด้วย สมกับที่เคยได้รางวัล

ชนะเลิศเรื่องการให้บริการ เมื่อปี 2016 และรางวัลส่งเสริม

และพัฒนาอุทยานแห่งชาติสู้ความยั่งยืน เมื่อปี 2018 อีกด้วย

รางวัลการันตีขนาดนี้ ใครมีโอกาสควรมาพักซักครั้งจริงๆค่ะ

1.นั่งเรือดูหมอกตอนเช้า 

กิจกรรมนั่งเรือดูหมอก เริ่มตั้งแต่ 7 โมงเช้า

ใช้เวลาประมาณ 45 นาที – 1 ชั่วโมง นั่งเรือจากแพไป

ประมาณ 10-15 นาที ไกด์จะจอดเรือเพื่อให้เราได้ถ่ายรูป

จนพอใจ ถ้าวันไหนอากาศดีๆ ก็จะได้ท้องฟ้าสวยๆ

หมอกลงมาตามช่องเขาแบบนี้เลยย การมาเที่ยวหน้าฝน

มันดีแบบนี้แหละน้า โชคดีมาก วันที่เราไปฟ้าเปิด 

เลยได้ภาพท้องฟ้าและหมอกสวยๆแบบนี้กลับมาด้วย

ปล. การนั่งเรือดูหมอกตอนเช้าจะไม่ได้มีทุกวันนะคะ

ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในตอนนั้นด้วย ^^

2. ถ่ายรูปกับ “เขาสามเกลอ”

เขาสามเกลอเป็นภูเขาหินปูนขนาดเล็ก มี 3 ยอด

ที่โผล่พ้นน้ำสีเขียวมรกตขึ้นมา เขาสามเกลอตั้งอยู่

กลางเขื่อนรัชชประภาเลยค่ะ เรียกว่าเป็นแลนด์มาร์ค

ของที่นี่เลยก็ได้ เพราะเรือแวะถ่ายกันทุกลำ5555

ถ้านั่งเรือจากท่าเรือในอุทยานแห่งชาติเขาสกมาที่แพ 500 ไร่

เค้าจะจอดให้เราถ่ายรูปตั้งแต่แรกเลย แต่ถ้าใครอยากมาอีก

แบบคอสตูมพร้อม หน้าผมพร้อม ก็สามารถแจ้งที่พัก

ให้พนักงานขับพามาซ้ำได้เลยยยยยย เย้

เขายอดนี้พี่ไกด์บอกเราว่า รูปทรงคล้ายกับใบหน้า

ของชาวอินเดียแดงแบบหันข้างค่ะ เพื่อนๆมองออกกันมั้ยย

ชุดพร้อม โลเคชั่นปังแบบนี้ ถ่ายรูปวนไปค่า 

มีรูปอีกเพียบ และวิดีโอสวยๆ ไปตามกันได้ใน

ig : blissoutthere จ้ะ https://www.instagram.com/blissoutthere/

3. ไปเดิน “น้ำตกแปดเซียน”

จากแพ 500 ไร่ นั่งเรือไปน้ำตกแปดเซียน ใช้เวลา

ประมาณ 15 นาที จากนั้นเราต้องเดินลุยเข้าไปค่ะ

เป็นการเดินขึ้นไปบนน้ำตก ระยะทางคร่าวๆ 100 เมตร

ใช้เวลาเดิน 20-30 นาทีก็จะถึงจุดสูงสุดแล้ว จะนั่งพัก

เล่นน้ำตก ถ่ายรูปวิวก็ได้ น้ำเย็นชื่นใจม๊ากก ใครมาเดิน

ต้องระวังกันด้วยค่ะ เพราะโขดหินก็ลื่นเอาเรื่อง แต่ก็มีเชือก

มีต้นไม้ให้เราได้เกาะขึ้นมาอยู่เรื่อยๆ และมีไกด์คอยดู

และและนำทางให้เราตลอดกิจกรรม

มาถึงจุดสูงสุดแล้ววว แนะนำให้ใส่ชุดพร้อมเล่นน้ำมานะคะ

น้ำเย็นน่าเล่นมากจริงง

เดินขึ้นมาเหนื่อยนิดหน่อย แต่ได้เจอบรรยากาศแบบนี้ คุ้มมาก

4. Picnic on panorama

กิจกรรมใหม่ล่าสุดจากแพ 500 ไร่! มีแค่ที่เดียวเท่านั้น

ในเขื่อนเชี่ยวหลาน สายชิลล์ต้องชอบแน่ กับการพักผ่อน

ช่วงบ่าย ทานอาหารว่าง 3 เมนูและเครื่องดื่ม ที่ทางแพ

จัดมาให้ตรงระเบียงห้องพักเลย พร้อมกับดื่มด่ำและ

ถ่ายรูปวิวทะเลสาบสุดปัง Panorama ของจริงค่า

กิจกรรมนี้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะคะ ใครที่สนใจ

สามารถแจ้งพนักงานตอนเช็คอินได้เลยค่า

เซ็ตปิ่นโตสานคิ้วท์มากก

ในปิ่นโตที่เราได้จะมีอาหาร 3 อย่าง

คือ ยำผลไม้ แซนวิชแฮมชีส ปีกไก่ทอด

และเครื่องดื่มอีก 1 อย่าง เป็นน้ำอัญชันมะนาวค่ะ

ยำผลไม้คือเผ็ดกำลังดีเลยค่ะ

เค้าเลือกผลไม้มาได้เข้ากันมาก

มีทั้งมะม่วง แก้วมังกร สัปปะรด

ส่วนแซนวิชก็ชิ้นพอดีคำเลย

Cheers จ้า

5. เรียนทำขนมไทยกับเชฟของแพ 500 ไร่

งานสเน่ห์ปลายจวักต้องมา เค้ามีสอนทำขนมไทยด้วยจ้า

สอนโดยเชฟของแพ 500 ไร่เลย พอเรียนเสร็จก็ลงมือ

ทำเองและชิมฝีมือตัวเองได้เลยค่ะ เมนูที่สอนก็จะมี

กล้วยบวชชี สาคูข้าวโพด สาคูมันหวาน กล้วยหอมทอด

บัวลอย ซึ่งจะขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่มีในช่วงนั้นๆค่า

6. สำรวจ “ถ้ำประกายเพชร” และ “ถ้ำปะการัง”

“เดินสำรวจถ้ำประกายเพชร” เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมแนะนำ

ทำได้ทั้งกับเพื่อน ครอบครัว และ คู่รัก นั่งเรือจากแพไป

ที่ถ้ำใช้เวลาแค่ 30 นาที พอไปถึงก็เดินขึ้นบันได

เข้าถ้ำได้เลยค่ะ

“ถ้ำปะการัง” กิจกรรมนี้จะมีความลุยขึ้นมาอีกเลเวลค่ะ

เพราะเราต้องนั่งเรือออกจากแพ ประมาณ 45 นาที

แล้วเดินเท้าต่ออีก 1.2 กิโลเมตร ยังไม่จบค่ะ…

มีการนั่งแพไม้ไผ่ไปอีก 10 นาที ถึงจะเจอปากถ้ำ

ทั้งสองกิจกรรมนี้จะมีพี่ไกด์คอยดูแลตอลดเวลา

ทั้งเตรียมอุปกรณ์ เช่น ไฟฉายใช้ในถ้ำ เสื้อกันฝน น้ำดื่ม ให้ด้วย

ซัก 1 แชะก่อนเข้าถ้ำ

ในถ้ำประกายเพชรมีหินงอกหินย้อยเต็มไปหมดด ตอนเดินต้อง

ระวังชนหินนิดนึงค่ะ ความยาวถ้ำประมาณ 100 เมตร ในถ้ำมี

ค้างคาวอยู่เป็นฝูงใหญ่มากกก ที่พีคคือเราเจองูถ้ำถึง 2 ตัว!

แต่ไม่ต้องห่วงค่าเพราะเป็นงูไม่มีพิษ

ส่วนถ้ำปะการังนั้น มีหินงอกหินย้อยเยอะมากเหมือนกัน

แต่รูปทรงหลากหลายและแปลกตากว่ามาก ที่เราเจอและ

จินตนาการได้ มีทั้งหินรูปผ้าม่าน รูปหอย ช้าง หรือกระทั่ง

เป็นรูปคนเลยก็มี แต่ที่เยอะสุดก็คือรูปทรงปะการังนั่นเองค่ะ

เป็นที่มาของชื่อถ้ำเลย

ทั้ง 2 ถ้ำนี้สวยจริง ใครมาเที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลานต้องแวะมานะ 

7. ส่องสัตว์ตอนเย็น + ดูพระอาทิตย์ตก

นี่เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ทำให้หัวใจเราฟูมากๆ

เพราะเราได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้นอีกเลเวล

กิจกรรมนี้จะทำได้ในช่วงเย็นของวันที่อากาศดี ฝนไม่ตก

จะมีพี่ไกด์พาเรานั่งเรือหางยาวออกไปจอดตามเกาะต่างๆ

เพื่อดูสัตว์ที่ออกมาหาอาหารกิน สัตว์ที่เราจะเจอได้

บ่อยเลย คือ กระทิง กวาง นกเงือก เหยี่ยว ลิง

ทางไกด์เค้ามีกล้องส่องทางไกลให้ด้วย รับรองถ้า

สัตว์ออกมา เห็นชัดแน่นอน หรือถ้าอยากถ่ายรูปสัตว์ด้วย

แนะนำพกเลนส์ซูมมาเลยค่า

เจอกวางแล้ววว จริงๆเจอ 2 ตัวนะ

อีกตัวเดินเข้าป่าไปพอดีค่ะ

กระทิงเป็นฝูงเลยทุกคนนนน

ทริปนี้ต้องมีรูปหัวเรือนะบอกเลยยยย >//<

ส่องสัตว์เสร็จ ก็ถึงเวลาพระอาทิตย์ตกพอดี

ของจริงสวยกว่านี้อีกนะ

8. เรียนพับผ้าให้เป็นรูปสัตว์

ไปดูสัตว์ของจริงกันมาแล้ว ใครอยากมีสัตว์เวอร์ชั่นคิ้วท์ๆอยู่ในห้อง

ที่แพ 500 ไร่เขาก็มีบริการสอนพับผ้าให้เป็นรูปสัตว์ต่างๆด้วย

เช่น หนอน นกยูง ช้าง หมู กอลิล่า หมี

9. ลิ้มรสอาหารพื้นบ้าน ปักษ์ใต้

ทุกมื้อในแพ 500 ไร่ จะได้กินข้าวที่ห้องอาหารลอยน้ำ

แห่งเดียวในเขื่อนเชี่ยวหลาน  อาหารมีให้เลือกเยอะมากกก

ต้ม ผัด แกง ทอด ครบ ทีเด็ดคืออาหารพื้นบ้านปักษ์ใต้

ที่ใช้วัตถุดิบที่หาได้ในพื้นที่! อย่างเมนูปลาทั้งหลาย

เขาก็เอาปลามาจากชาวประมงในเขื่อน

เพื่อเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนด้วยล่ะ

ท้าดา นี่คือตัวอย่างเมนูที่เราได้กินกันน

เริ่มที่ ขนมจีนน้ำยาปลา , ผัดเผ็ดกระดูกหมู ,

ปลาแรดราดพริก , ไก่ต้มขมิ้น รสชาติคือถึงเครื่องมาก

ทุกอย่างเลย เผ็ดๆ แซ่บๆ  และยังมีที่

ไม่อยู่ในรูปอีกเพียบ! ยกตัวอย่างนะ หมูหวาน ,

แกงส้มปลากดหน่อไม้ดอง , ผักกูดผัดน้ำมันหอย ,

ใบเหลียงผัดไข่ , ยำถั่วพลู แค่นึกถึงก็หิวแล้วค้าบบ

10. พักผ่อนชิลล์ๆ ถ่ายรูปภายในแพ

แพ 500 ไร่ เป็นแพพักกลางน้ำ อยู่ลึกสุดใน

เขื่อนเชี่ยวหลาน ในทุกห้องพักมีสิ่งอานวยความสะดวกครบ

ทั้งแอร์ พัดลม ห้องน้ำในตัว และระเบียงส่วนตัวทุกห้อง

ทำให้มองวิวทะเลสาบได้ทั้งวันนนน ^^

ห้องพักของแพ จะแบ่งเป็น Connecting Zone

และ Private Zone ส่วนของ Connecting Zone มีแพ

ทั้งหมด 11 หลัง แบ่งเป็น Deluxe 6 ห้อง

Family Villa 2 หลัง และ Villa อีก 6 หลัง

ทุกหลังเชื่อมกันด้วยสะพานด้านหลังห้อง

ต่อไปยังห้องอาหารและสระว่ายน้ำ

ส่วน Private Zone จะแยกออกไปต้องใช้

shuttle boat ของแพในการเดินทางไป-กลับ

ห้องของ Private Zone มีทั้งหมด 3 ประเภท

Deluxe Suite 2 ห้อง , Family Suite 1 ห้อง

และ Honeymoon Suite 1 หลัง

เช็คราคาได้จากที่เว็บของ 500 ไร่เลย https://www.500rai.com/th

ห้องที่เราว่าสวยที่สุด และแนะนำให้มาพักสักครั้งถ้ามีโอกาส 

คือห้อง Honeymoon suite เป็นห้องที่เหมาะกับคู่รักมากๆ 

หรือจะมาเป็นครอบครัวก็ได้ เพราะห้องจุได้ 2 – 5 คน 

หน้าห้องมีสระว่ายน้ำและอ่างจากุชชี่ส่วนตัว ปังม๊ากกกกกก

ในห้อง Honeymoon suite จะมีห้องนอนชั้นล่าง 1 ห้อง 

ห้องนอนใต้หลังคา 1 ห้อง และห้องน้ำในตัวอีก 2 ห้อง

ความพิเศษนอกจากสระส่วนตัวและจากุชชี่ 

ก็คือมีเครื่องทำกาแฟ และลำโพงบลูทูธให้ด้วยจ้า มันดีไม่ไหวว

ได้แช่น้ำในวิวธรรมชาติแบบนี้จะฟิน

ขนาดไหนนนน

เปลหน้าห้อง ไม่ถ่ายไม่ได้

แล้วชิลล์จริงนะเทอออ

มองเห็นวิวสระว่ายน้ำและทะเลสาบ

จริงๆแล้วที่แพ 500 ไร่ ยังมีอะไรให้ทำมากกว่า 10 กิจกรรม

ในโพสต์นี้อีกนะคะ ตอบโจทย์ทั้งคนที่อยากมาพักผ่อน

และคนที่อยากมาหาประสบการณ์ใหม่ๆ รับรองว่าคุ้มค่า

ในทุกประสบการณ์ที่จะได้จริงๆ แถมได้ใช้ชีวิตตามสโลแกน

ของแพ คือ disconnect to reconnect เพราะที่แพเค้าไม่มี

ทั้งสัญญาณมือถือ และอินเตอร์เน็ตจ้ะ หยุดก้มมองจอมือถือ

แล้วมามองธรรมชาติตรงหน้ากันให้เต็มที่เลยย 

รอติดตามรีวิวตัวต่อๆไปของเพจด้วยน้า คอนเฟิร์มความปังแน่นอนนน

แล้วก็ฝากทุกคนติดตามช่องทางอื่นๆ ของเราด้วยนะ

𝐅𝐨𝐥𝐥𝐨𝐰 𝐌𝐞

FB : https://www.facebook.com/BlissOutThere/

IG : https://www.instagram.com/blissoutthere/

YouTube : https://www.youtube.com/c/BlissOutThere

Website : https://blissoutthere.com/

ตอนนี้มี LINE OA แล้วนะ อย่าลืมมาติดตามกันนะ

Line : https://lin.ee/3R4lVCCv 

เข้า LINE แล้วกดปุ่ม 3 บน Timeline เลย 

เจอกันทริปหน้าจ้า

Bliss Out There

 วันพฤหัสที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 23.38 น.

ความคิดเห็น