update Promotion & Review สดใหม่ได้ตลอดที่ https://www.facebook.com/reviewnowz

Chikyu no Maruku Mieru Oka

สวัสดีครับ

หอชมวิว จิคิวโนะมารุกุ เอรุโอกะ เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวสำคัญของเมืองโจชิ (Choshi : 銚子) ตั้งอยู่ริมตะวันออกเฉียงเหนือสุดริมมหาสมุทรแปซิฟิก (Pacific Ocean) ของจังหวัดชิบะ (Chiba : 千葉市) สามารถเดินทางมาเที่ยวด้วยรถไฟ JR East สาย JR Sobu Main Line (Tokyo-Choshi : 東京-銚子)ลงที่สถานี JR Choshi station จำง่ายๆว่าลงสถานีสุดท้าย จากสถานีโตเกียวใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

เมืองนี้คือเมืองที่ส่งออกปลาขายมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และโชยุก็เป็นสินค้าขึ้นชื่อของเมืองนี้จนได้รับให้เป็น เมืองแห่งโชยุ อีกด้วย ห่างจากสถานีโจชิไปทางทิศตะวันตกประมาณ 800 เมตรจะพบกับโรงงานโชยุ ฮิเกตะ (Higata Shoyu) ที่เปิดมานานถึง 405 ปีตั้งแต่ปีค.ศ. 1616 (พ.ศ. 2159) และประมาณ 500 เมตรทางทิศตะวันออกของสถานีกับโรงงานโชยุ ยามาสะ (Yamasa Shoyu) ที่เปิดมาถึง 376 ปีตั้งแต่ปีค.ศ. 1645 (พ.ศ. 2188) เป็นสองโรงงานโชยุยักษ์ใหญ่ระดับตำนานที่สามารถเข้าชมท่องเที่ยวได้

กลับมาต่อเรื่องหอชมวิวจากสถานีโจชิให้ต่อรถไฟท้องถิ่น Choshi-dentetsu (銚子電鉄) Choshi Electric Railway (Choshi-Tokawa : 銚子駅 – 外川駅) เป็นเส้นทางรถไฟสายสั้นๆประมาณ 6.4 กิโลเมตร โดยใช้ขนวนตู้โบราณอารมณ์ย้อนยุค ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีให้ลงที่สถานีอิโนบุ (Inubo : 犬吠駅) มาถึงสถานีแล้วอย่าลืมลองชิม Nure Senbei ขนมเซ็มเบ้ที่นำไปชุบโชยุของขึ้นชื่อของเมืองที่ร้าน Choden no Nuresenbei (銚電のぬれ煎餅) จากนั้นเดินมาที่หอชมวิวอีกประมาณ 15 นาที หรือจะเดินทางแบบเช่ารถในญี่ปุ่นราคาพิเศษผ่าน ToCoo! [คลิ๊ก] ก็สะดวกสบายครับ

ทางเข้าหอชมวิวมีลานจอดรถบริการฟรีอยู่ข้างๆ

หอชมวิวเป็นอาคารตั้งอยู่บนยอดภูเขาอาตาโกะ (Atago-yama : 愛宕山) ที่ความสูงประมาณ 73.6 เมตร (241.5 ฟุต)

ต้องซื้อบัตรเข้าชมราคา 420 เยนที่บริเวณชั้นแรกซึ่งเป็นชั้นขายของที่ระลึก



ชั้นสองจะเป็นห้องนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์ใช้เวลาประมาณ 10-30 นาทีขึ้นอยู่กับความสนใจ ส่วนตัวมีมุมที่น่าสนใจเป็นพิเศษที่ไม่เหมือนใครคือรายงานของวัตถุบินไม่สามารถระบุเอกลักษณ์ (Unidentified Flying Object : UFO) แต่จะมีอะไรบ้างต้องไปชมกันเอาเอง


ชั้นสามจะเป็น Observation lounge สามารถนั่งพักรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่ Café 330° รวมไปถึงนั่งชมพระอาทิตย์ตกจากตรงนี้ได้อีกด้วยโดยจะเห็นวิวได้กว้างถึง 330 องศานั่นเอง

จุดชมวิวจะอยู่ชั้นดาดฟ้าจะต้องเดินออกข้างนอกและขึ้นบันได

บริเวณดาดฟ้าออกแบบได้ดีเพราะโดยรอบนั้นไม่มีอะไรมาบังสายตาและตรงกลางจะเป็นขั้นบันไดมีรูปแผนที่ประเทศญี่ปุ่นอยู่ตรงกลางให้เราทราบว่ากำลังหันไปทางไหนอยู่

สามารถชมวิวของเมืองได้แบบ 360 องศาที่คนญี่ปุ่นบอกว่า“เป็นหอชมวิวที่สามารถเห็นความกลมของโลกได้” (Chikyū no Marukumieru Oka Tenbō-kan : 地球の丸く見える丘展望館) ในวันอากาศดียังสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ (Mount
Fuji : 富士山) ได้ด้วย

และแน่นอนว่าเวลาที่สวยที่สุดในการมาขึ้นมาชมของที่นี่ก็คือเวลาพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า


อากาศที่เมืองโจชิถือว่าดีเลยเพราะในวันที่ไปนั้นใกล้วันสิ้นปีอากาศไม่หนาวเย็นจนเกินสนุก น่าจะถูกใจคนไม่ชอบเย็นจัดๆอย่างแน่นอน การเดินทางมาที่หอชมวิว จิคิวโนะมารุกุ เอรุโอกะก็ไม่ยาก ไม่ว่าจะเป็นทางรถไฟหรือจะลองขับรถมาเองผ่านการให้บริการเช่ารถของ ToCoo! เป็นกิจกรรมที่เหมาะสำหรับทุกคนแต่อาจยกเว้นผู้ที่มีปัญหาในการขึ้นบันไดไปดาดฟ้าและหลังจากชมพระอาทิตย์ตกสวยๆแล้วแนะนำให้ไปต่อด้วยมื้อค่ำกับอาหารทะเลราคามิตรภาพที่ร้านอาหารท้องถิ่นในย่านท่าเรือแถวแม่น้ำโทเนะ (Tone-gawa : 利根川) ที่ห่างกันไม่ถึง 5 กิโลเมตรเท่านั้นครับ.

ขอบคุณมากครับ
โด้

รายละเอียดสถานที่
หอชมวิว จิคิวโนะมารุกุ เอรุโอกะ / 地球の丸く見える丘展望館 / Chikyu no Maruku Mieru Oka
1421-1 Tennodai, Choshi, Chiba 288-0024, Japan [Japan] [ญี่ปุ่น]
〒288-0024 千葉県銚子市天王台1421-1
09:00-18:30 (เมษายน-กันยายน) / 09:00-17:30 (ตุลาคม-มีนาคม) *เข้าก่อนเวลาปิด 30 นาที
ค่าเข้าชม 420 เยน
โทร. 0479-25-0930
website : www.choshikanko.com

update Promotion & Review สดใหม่ได้ตลอดที่ https://www.facebook.com/reviewnowz

Do is On The WAY

 วันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 11.14 น.

ความคิดเห็น