รีวิวเขาใหญ่ 2 วัน 1 คืน เที่ยวคาเฟ่เขาใหญ่ พักผ่อนชิว ๆ : ) 

เริ่มต้นทริปนี้แก๊งค์เพื่อน 5 คน ล้อหมุนจากกรุงเทพ 09.00 มาถึงเขาใหญ่ 11.30 ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า ที่แรกที่เรามา คือกินข้าวเที่ยงกัน ที่ร้านยุ้งข้าว เขาใหญ่ ร้านนี้เป็นร้านประจำเวลามาเขาใหญ่เลย อาหารอร่อย แต่คนจะเยอะหน่อยนะคะ ถ้ามาเสาร์อาทิตย์ เลี่ยงได้ก็อยากจะให้มาก่อนเที่ยง ถ้ามาเที่ยงเลยคนจะเยอะมาก ที่นี่จะรับจองโต๊ะ 10 นาทีก่อนถึงร้านนะคะ จองล่วงหน้านานไม่ได้ค่ะ

เมนูที่เราสั่งรอบนี้ก็จะเป็น ใบเหลียงผัดไข่ แกงเหลือง พล่าหมูยอ ปลาทอดขมิ้น เห็ดชุปแป้งทอด ก็คืออร่อยทุกอย่างเหมือนเดิม ซึ่งจริง ๆ แล้ว ร้านยุ้งข้าวเขาใหญ่ ก็จะมีหลายเมนูที่แนะนำนะคะ มาแต่ละครั้งก็จะกินวนไป แต่ที่ต้องสั่งทุกรอบคือ ใบเหลียงผัดไข่ ไม่สั่งไม่ได้ ราคาถือว่าสูงนะคะ แต่คุณภาพและความอร่อยโอเคกับราคา

เสร็จจากร้านยุ้งข้าวเขาใหญ่ เราก็ไปหาขนมกินที่คาเฟ่ ชื่อว่า Within เขาใหญ่ | Mixology Cafe x Stay ซึ่งร้านนี้เป็นร้านที่ยังไม่เคยมา เหมือนจะเป็นคาเฟ่เปิดให ร้านด้วยความเป็น Outdoor ก็จะมีความโปร่งโล่งสบาย ร้านนี้มีความเก๋ ๆ ตรงเอาหินก้อนใหญ่ มาตั้งเรียงกันเหมือนกับ Stonehenge ของอังกฤษ

เราสั่งนํ้ามาคนละแก้ว และก็ขนมเค้กสองชิ้น ร้านนี้เค้ก อร่อยดีค่ะ ไม่หวานเลี่ยนจนเกินไป แต่นํ้าสำหรับเราเฉย ๆ

นั่งไปสักพักฝนก็เริ่มมา เราก็เลยจะไปเข้าที่พักกันค่ะ รอบนี้มาแบบปุ๊บปั๊บ ไม่ได้จองแบบล่วงหน้านาน จองอาทิตย์ที่จะไป โรงแรมเต็มหมดทุกที่เลย แต่ใจก็คืออยากมากัน ไม่อยากไปกลับ ก็เลยหาใน agoda จนไปเจอคอนโดเขาใหญ่สำหรับเช่าได้ ชื่อว่า 23 degree condo เขาใหญ่


ราคาก็โอเคเลยคืนละ 6,000 บาท พักได้ 6 คน หารกันก็ไม่แพง ห้องใหญ่ขนาดห้องประมาณ 73 ตรม ก็ถือว่าคุ้ม และดูจากภาพก็สวยดี เลยจอง การเช็คอินก็คือเค้าจะให้รหัสเข้าห้องมาก็เข้าได้เลยไม่ยุ่งยาก ที่ 23 degree condo เขาใหญ่ ไม่มีอาหารเช้านะคะ เพราะมันไม่ใช่โรงแรม แต่ก็มีอุปกรณ์ครัวให้ ทรงเหมือนบ้านพักเขาใหญ่แหละแต่อันนี้เป็นคอนโด ภายในห้องพักก็โอเคนะคะ แต่ตอนเข้าไปมีกลื่นอับนิดหน่อย อาจจะเพราะช่วงที่ผ่านมายังไม่มีคนมาพัก แต่ภายในห้องก็ถือว่าสะอาดดีโอเคเลย คุ้มกับราคา 



หลังจากเข้าห้องพัก ฝนก็ตกอย่างหนักหน่วง ใจก็คือคิดว่าไปคาเฟ่ไปเที่ยวต่อไม่ได้แล้วแน่ ๆ เพราะหนักมากแบบไม่มีท่าทีจะหยุด นั่งเล่นพักใหญ่ก็เลยตัดสินใจกันไปหาข้าวกินกัน ซึ่งบรรยากาศแบบนี้เราก็เลือกที่จะไปกินหมูกระทะ พากันค้นหาว่าที่เขาใหญ่มีหมูกระทะร้านไหนอร่อย ร้านไหนดีบ้าง ก็จะไปเจอร้านที่ชื่อว่า ช้อนทองหมูกะทะ88 เขาใหญ่

ร้านนี้ก็จะขายเป็นชุด ชุดละ 300 บาท มีหมูและก็ซีฟู้ด ถ้าขนาดใหญ่จัมโบ้จะชุดละ 500 บาท และก็สามารถสั่งแยกอย่างละ 100 บาท เราสั่งชุดรวม ชุดละ 300 บาท มา และก็สั่งชุดซีฟู้ดจั้มโบอย่างเดียวมาอีกชุด แต่ส่วนใหญ่มีแต่หมึกกรอบเยอะมาก ก็แนะนำว่าควรสั่งรวมดีกว่า โอเคกว่า

โดยรวมร้านนี้ก็โอเคนะคะใช้ได้ แต่ติดที่หมูชิ้นใหญ่ย่างยาก ให้เบคอนน้อยไปหน่อย และก็นํ้าจิ้มสำหรับเราเผ็ดไปหน่อยก็เลยไม่ค่อยได้จิ้มมาก และก็ร้านข้าง ๆ มีขายยำ ส้มตำ ของทอดของกินเล่น ก็สามารถสั่งมากินด้วยได้ เราก็เลยสั่งมาด้วย อร่อยนะคะ ยำเค้าแซ่บมาก ของทอดก็คือดี ใครมาเขาใหญ่หนาว ๆ อยากกินหมูกระทะก็แนะนำนะคะ โดยรวมโอเคเลย

จบวันแรกไปกับหมูกระทะท่ามกลางสายฝน เสร็จแล้วเราก็กลับมายังห้องพักพูดคุยเมาท์กันไป และก็แยกย้ายนอน พร้อมตื่นมาเที่ยวพรุ่งนี้ต่อ



เช้าวันนี้ 2 ลุ้นว่าฝนจะตกมั้ย โชคดีที่ยังไม่ตก เราออกที่พักกันแต่เช้า โดยเวลามีน้อยก็เลยเช็คเอาท์ละออกไปเที่ยวเลย ไม่กลับเข้ามาแล้ว เราเริ่มต้นกันวันนี้ที่ร้านคาเฟ่ Bucolic เขาใหญ่ จะบอกว่ามาเขาใหญ่ทุกครั้งคือแวะทุกครั้ง Bucolic เป็นร้านคาเฟ่ร้านเดียวที่แวะซํ้าแล้วซํ้าอีก มาบ่อยมาก ทุกรีวิวของเราต้องมีร้านนี้

ที่ชอบเลยคือบรรยากาศ มากี่ครั้งก็คือประทับใจ แม้จะวิวเดิมแต่มันก็สวยตลอด ความเป็นธรรมชาติทำให้เราไม่เบื่อ และที่สำคัญคือ นํ้าขนม ที่นี่อร่อยมาก อร่อยทุกอย่างชอบมาก มารอบนี้ก็สั่งจัดหนักจัดเต็มไปอีก ใครว่าคาเฟ่ส่วนใหญ่ไม่อร่อยคือไม่ใช่ร้านนี้แน่นอน


คือถ้าใครมาเขาใหญ่แล้วยังไม่เคยมา และเป็นสายเที่ยวคาเฟ่เหมือนเรา ก็อยากให้ลิซที่นี่ไว้เป็นที่แรกในการมาคาเฟ่เขาใหญ่เลยนะคะ บอกเลยว่าไม่ผิดหวัง นี้ก็คิดว่าถ้าได้ไปเขาใหญ่อีก ก็คงแวะอีกแน่ ๆ 



ถัดมาเราก็ไปกันต่อที่คาเฟ่เขาใหญ่เปิดใหม่ที่ชื่อว่า Olna เขาใหญ่ ก่อนมาเห็นคนรีวิวเยอะก็เลยมาบ้าง เป็นร้านเล็ก ๆ ฟิลจิบชายามบ่าย น่ารักมาก ถ่ายรูปออกมาน่ารักทุกมุมเลย เป็นคาเฟ่เขาใหญ่ที่น่ารักอีกที่


ชาที่นี่เค้าหอมมากนะคะ ชาเขียวก็ดี หอม แนะนำว่าต้องสั่งเลย แต่ไปถึงก็ครึ้มมาอีกแล้ว แถมอบอ้าวมากเพราะฝนจะตก ถ้ามาช่วงเย็นฟิลคงจะดีกว่านี้มาก ๆ เลย เป็นอีกหนึ่งคาเฟ่ในเขาใหญ่ที่แนะนำ 



ออกจากคาเฟ่ เราก็มาแวะที่โบสถ์หรือ วัดคาทอลิก มีชื่อเต็มว่า วัดบุญราศี นิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง เขาใหญ่ เป็นโบสถ์สีขาวสวยมาก เราไม่ได้เข้าข้างในนะคะ ถ่ายรูปแปป ๆ อยู่ข้างหน้าเฉย ๆ แต่สวยมากจริง

จากนั้นก็ได้เวลากลับกรุงเทพ ซึ่งก่อนกลับทางผ่าน เราแวะกินข้าวกับซื้อนมที่ Dairy Home เขาใหญ่ ก็เป็นอีกที่ที่มาเขาใหญ่ก็จะแวะตลอดก่อนกลับกรุงเทพ เพราะชอบนมเค้ามากอร่อย แต่รอบนี้หิวข้าวด้วยก็เลยแวะกินข้าวที่นี่ด้วยเลย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยกินข้าวที่ Dairy Home เขาใหญ่เหมือนกัน แต่เคยอ่านรีวิวว่าขึ้นชื่อเรื่องสเต็ก เราสั่ง สเต็กนกกระจอกเทศ สเต็กริบอาย ซี่โครงหมู สปาเก็ตตี้เบคอน และก็ข้าวผัดพริกแกง ราคาถือว่าค่อนข้างสูงนะคะ แต่ถ้าเทียบคุณภาพและปริมาณเราว่าคุ้มมาก สเต็กตกราว ๆ สามสี่ร้อยบาท ไม่ผิดหวัง


ที่ติดใจคือ สเต็กริบอาย เนื้อแบบดีมาก อร่อยมาก นุ่ม ไม่เหนียว medium กำลังพอดีเลย กลายเป็นว่าต่อไปถ้ามาเขาใหญ่ต้องมากินสเต็กที่นี่อีกแน่ ๆ ชอบมากประทับใจ กินเสร็จก็ซื้อนม ซื้อโยเกิร์ต กินไอติมก่อนกลับค่ะ


ก็จบทริป 2 วัน 1 คืนเขาใหญ่ ส่วนใหญ่ก็เน้นพักผ่อนชิว ๆ เที่ยวคาเฟ่ กินอาหารอร่อย ๆ กับบรรยากาศดี ๆ ที่เขาใหญ่ ซึ่งช่วงปลายปีแบบนี้ยิ่งฟินขับรถมาไม่ไกล เหมือนมาเปลี่ยนบรรยากาศเสาร์อาทิตย์พักผ่อนที่เขาใหญ่ ยังไงก็หวังว่าทุกคนที่อ่านจะชอบทริปนี้นะคะ ใครเที่ยวเหมือนเราก็ตามแพลนได้เลยนะคะ หรือมีที่ไหนแนะนำอยากให้ไปก็แนะนำมาได้เลยนะคะ ยินดีค่ะ : )


Puifaikamon

 วันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เวลา 18.09 น.

ความคิดเห็น