จักรยานนับร้อยคันจอดเรียงรายพร้อมหมวกใบสวย รอท่าให้คนมาเช่าเพื่อปั่นเล่นชมเมือง ในขณะที่เด็กวัยรุ่นจับกลุ่มคุยกันใต้เงาไม้ใหญ่ ที่ขึ้นกระจายบนลานกว้าง นี่คือ จัตุรัสฟาทาฮิลลาห์ (Fatahillah Square) จุดศูนย์กลางของบาตาเวียในอดีต

รอบจัตุรัสแห่งนี้จึงมากไปด้วยเหล่าอาณาเก่าแก่ โดยหลายอาคารถูกแปรเปลี่ยนให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวในอดีต อย่าง Stadhuisplein หรือ Town Hall ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.1710 มาวันนี้อาคารอายุเก่าแก่ถึง 300 ปีแห่งนี้ได้เปลี่ยนบทบาทหน้าที่เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์จาการ์ต้า หรือ เสจาราห์ จาการ์ต้า (Museum Sejarah Jakarta)

ผมเดินผ่านปืนใหญ่หลายกระบอกที่วางเรียงรายหน้าพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ฯ ชวนให้นึกถึงบรรยากาศหน้ากระทรวงกลาโหมแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ยิ่งนัก แม้ด้านหน้าจะมีปืนใหญ่หลายกระบอก แต่ปืนใหญ่แต่ละกระบอกก็งั้นๆไม่ได้มีอะไรสำคัญ เพราะของดีนั้นซ่อนอยู่ด้านใน ผมจึงเดินตรงดิ่งทะลุผ่านอาคารสีขาวสะอาดตาไปยังลานด้านหลัง ซึ่งเป็นที่ตั้งของปืนใหญ่กระบอกสำคัญ นามว่า ซีจากูร์ (Si Jaguar)

ที่บอกว่าสำคัญเพราะปืนใหญ่ซีจากูร์นี้หล่อจากการปืนใหญ่ถึง 16 กระบอก อีกทั้งยังมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ เพราะแม้จะตั้งอยู่ที่เมืองบาตาเวีย อันเป็นศูนย์กลางการปกครองสมัยดัตช์ แต่ผู้สร้างปืนใหญ่กระบอกนี้กลับเป็นชาวโปรตุเกสที่ปกครองมะละกาในอดีต จนเมื่อมะละกาถูกชาวดัตช์แห่งฮอลันดาตีแตก ปืนใหญ่กระบอกนี้จึงถูกย้ายมาอยู่ที่ป้อมบาตาเวีย ตั้งแต่ปีค.ศ.1641 จนกระทั้งป้อมดังกล่าวถูกทำลายลงในปีค.ศ.1809 ซีจากูร์จึงถูกย้ายอีกครั้งมาอยู่ในตำแหน่งปัจจุบัน

นอกจากประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจแล้ว ซีจากูร์ยังมีความแปลกกว่าปืนใหญ่ทั่วไป เพราะมีรูปปั้นมือขวาโผล่ออกมาท้ายปืน ในลักษณะเอานิ้วโป้งสอดเข้าไปอยู่ตรงกลางระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วกลาง ซึ่งตำราว่าไว้ว่า สัญลักษณ์แบบนี้ไม่ต่างจากสัญลักษณ์ภาษามือที่รู้จักกันดีในปัจจุบันที่เอานิ้วกลางชี้โด่เด่อยู่นิ้วเดียว อันหมายถึงสัญลักษณ์ของเพศชาย

ซีจากูร์ จึงได้ชื่อว่าเป็นปืนใหญ่เพศชาย มีปืนใหญ่เพศชายแล้ว ต้องมีปืนใหญ่เพศหญิง นั่นคือ ปืนใหญ่นามว่าเซโทมี (Setomi) ที่เก็บไว้ใน พระราชวังสุราการ์ต้า หรือปัจจุบันคือเมืองโซโล ใน จ.ชวากลาง (Surakarta/Solo Palace) เหตุที่ปืนใหญ่สองกระบอกนี้เก็บไว้ไกลกัน เนื่องจากชาวอินโดเชื่อว่าหากนำปืนใหญ่สองกระบอกนี้มาอยู่ใกล้กันจะเป็นวันโลกาวินาศ ซึ่งความเชื่อนี้ดูเหมือนจะอยู่ไกลตัวไปสักหน่อย แต่ความเชื่อใกล้ๆตัวคือ สาวน้อยสาวใหญ่ชาวอินโด ต่างเชื่อว่าหากอยากมีลูกไวๆ ให้มาลูบที่ซีจากูร์ รูปปั้นมือขวาที่โผล่ออกมาจากท้ายกระบอกปืนจึงถูกลูบเสียมันแผล็บ

พอดีกว่า ขืนเขียนมากกว่านี้อาจเข้าข่ายหนังสือเรทอาร์ กลับเข้าไปชมโบราณวัตถุในพิพิธภัณฑ์ต่อดีกว่า ชั้นล่างของอาคารจัดแสดงรูปปั้นหินของเทพเจ้าและศิลาจารึกที่ขุดพบในเกาะชวา ส่วนชั้นบนจัดแสดงรูปวาดและข้าวของเครื่องใช้ของข้าหลวงที่ปกครองเมืองบาตาเวียในคริสต์ศตวรรษที่ 18 ซึ่งข้าวของเครื่องใช้ล้วนมีขนาดใหญ่โต แสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งของการเป็นเมืองท่าในอดีต

กระทิงเปลี่ยวเที่ยวโลกกว้าง

 วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2565 เวลา 09.48 น.

ความคิดเห็น