สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านตอนก่อนหน้าสามารถไปตำกันที่ลิ้งก์นี้ได้เลยค่ะ https://th.readme.me/p/39977

ส่วนลิ้งก์ตอนที่เกี่ยวข้องอื่นๆ จะแปะไว้ท้ายบทความนะคะ

Malbork castle (UNESCO) ปราสาทยุคกลางที่ติดอันดับโลก 2 อย่างคือ 1.เป็นปราสาทที่มีพื้นที่มากที่สุดในโลก 2.เป็นปราสาทอิฐที่ใหญ่ที่สุดในโลก 

ในตอนแรก ที่นี่ถูกสร้างมาเป็นป้อมปราการ ก่อนจะถูกขายให้กษัตริย์โปแลนด์ และตกเป็นของสวีเดนกับเยอรมันตามลำดับ ปราสาทนี้เคยถูกทำลายและรีโนเวทใหม่มาแล้วถึงสองครั้ง

ปราสาทนี้อยู่ใกล้กับเมือง Gdansk ทางตอนเหนือของโปแลนด์ แต่สามารถเดินทางแบบเช้าไปเย็นกลับจากวอร์ซอได้

บัตรผ่านประตูที่เราซื้อ จะรวมออดิโอไกด์ด้วย ราคาผูู้ใหญ่ 60 zloty หรือประมาณ 500 บาท อยากแนะนำให้ทุกคนเช่าออดิโอไกด์ด้วยค่ะ เพราะข้างในปราสาทไม่มีคำบรรยายอะไรเลย นอกจากในโซนพิพิธภัณฑ์ด้านนอก หากไม่มีไกด์หรือออดิโอไกด์ติดตัวไปด้วย แทบจะไม่รู้เลยค่ะ ว่าแต่ละห้องมีประวัติยังไง ใช้ทำอะไรบ้าง

ออดิโอไกด์ของที่นี่จะไฮโซไฮซ้อมาก ออดิโอไกด์ทั่วไป เราจะต้องกดฟังเนื้อหาตามเลขห้อ หรือเลขป้ายที่ติดอยู่ในบริเวณนั้นใช่ไหมคะ แต่ออดิโอไกด์ตัวนี้คือ เราไม่ต้องกดอะไรเลยนอกจาก ฟังใหม่ หยุด หรือว่าเล่นต่อ มันจะเล่นเองเมื่อเราเดินไปตามห้องต่างๆ แถมบนหน้าจอยังมีภาพถ่ายอธิบายด้วยว่า ให้เราเดินไปทางไหน ควรมองตรงไหน อะไรที่เขากำลังพูดถึงอยู่ ล้ำมากเลยจ้า

ภาพรอบๆ ปราสาท

ภายในปราสาท

ห้องครัว+ห้องอาหาร

ให้ทายว่าทางเดินยาวๆ ข้างล่างคือทางไปห้องอะไรเอ่ย

คำตอบคือ...ห้องน้ำจ้า จริงๆ แอบสงสารคนที่ปวดท้องกระทันหันนะ เพราะห้องน้ำมันจะซุกซ่อนเร้นลับแบบนี้ทุกห้องเลย

ใบผักกาดด้านบนคือทิชชู่สมัยโบร่ำโบราณ

รูปข้างล่าง จะเป็นห้องเพียงห้องเดียวในปราสาท ที่หลงเหลืออยู่ตั้งแต่สมัยโบร่ำโบราณ ไม่ถูกทำลายจากเพลิงไหม้และสงคราม

ใช้เวลาเดินชมประมาณ 3 ชม. เดินในโซนปราสาทประมาณ 2 ชม. และเดินในโซนสวน (มีพิพิธภัพฑ์และห้องหับอื่นๆ ให้ดูเล็กน้อย) อีกประมาณ 1 ชม. ใครที่ไม่รู้ว่าในโซนสวยมีอะไรให้ดูด้วย อาจจะเดินออกไปเลย เพราะตัวออดิโอไกด์จะบอกว่าสิ้นสุดทัวร์แล้วที่ตรงนี้ แต่จริงๆ แล้วยังห้องหับอื่นๆ ซ่อนอยู่ รอให้เราเข้าไปค่ะ 

ภาพล่างคือทางออกแล้ว เราจะวางออดิโอไกด์ลงในกล่องแล้วเดินออกไปได้เลยค่ะ


การเดินทาง

หากเดินทางจาก Gdansk จะมีรถไฟจากสถานีกลาง Gdansk มายัง Malbork หลายเที่ยวในแต่ละวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที

หากเดินทางจาก Warsaw เมืองหลวงของโปแลนด์ จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-5 ชม. แล้วแต่ขบวน สามารถจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าหรือมาซื้อที่เคาเตอร์ได้เลย ราคาในออนไลน์เท่ากับในหน้าเว็ปไซต์

ข้อเสียของการเดินทางเดย์ทริปจากวอร์ซอคือ รอบรถไฟให้เลือกมีไม่เยอะ และรอบที่เวลาสวยๆ ราคาจะพุ่งขึ้นแรงมาก คนที่พักอยู่ไกลจากสถานีรถไฟกลางจะต้องตื่นเช้าหน่อย (ไม่หน่อยมั้ง...)

สถานีรถไฟ Malbork อยู่ห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1.5 กม. จะนั่งรถเมล์ไปที่ตัวปราสาทหรือเดินไปก้ได้ค่ะ เราใช้วิธีเดินไป ถือเป็นการเดินชมเมืองไปในตัว

สามารถดูรายละเอียดการเดินทางในโปแลนด์เพิ่มเติมได้จากตอนที่ 1 ท้ายบทความนี้ค่ะ

ด้านล่างนี้คือรูปทางเข้าสถานีรถไฟ Malbork สร้างได้คลุมธีมมากก

ประสบการณ์การนั่งรถไฟโปแลนด์ที่เราเจอคือ....

เรานั่งรถบัสจากคราคุฟถึงสถานีบัสวอร์ซอร์ตะวันออกตอนประมาณ 3 ทุ่ม ถึงที่พักสี่ทุ่มกว่าๆ แล้วเช็กแผนการเดินทางวันถัดไป ซึ่งก็คือวันที่เราจะเดินทางไป Malbork นั่นเอง แล้วคำตอบที่ได้ก็ยังคงเดิมว่า รอบรถไฟที่เราควรนั่งคือรอบ 04.45! คุณพระะะะ เพราะค่าตั๋วจะถูกสุดคือประมาณ 550 บาท และใช้เวลาเดินทางสั้นสุด แมถไม่เปลี่ยนขบวนด้วย

รอบถัดไปคือรอบ 05.25 ราคาเท่ากัน แต่เปลี่ยนขบวน ใช้เวลาเดินทางรวม 4 ชม.กว่าๆ...เราค่อนข้างกลัวตรงเปลี่ยนขบวนนี่แหละ เพราะรถไฟโปแลนด์ไม่ค่อยตรงเวลา ส่วนรอบอื่นๆ ราคาจะแพงขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงค่ารถไฟหลักพันบาทต่อคน

ที่พักอยู่ถัดจากใจกลางเมืองออกไป ใช้เวลาเดินทางปสถานีรถไฟกลางประมาณ 21 นาที(ตามที่ระบุในแมป) แต่ประเด็นคือ รถไฟใต้ดินเปิดตี5 อ่ะค่า 555 ถ้าจะไปต้องขึ้นรถเมล์สายกลางคืน มีวิ่งแค่ชมละเที่ยว ( มีตารางเวลาแน่นอน)

เลยตัดสินใจเตรียมตัว เตรียมกระเป๋าให้พร้อม กว่าจะเสร็จก็เที่ยงคืน ตื่นอีกทีตีสามครึ่ง แปรงฟัน ล้างหน้า ใส่ชุดกันหนาวแล้วออกมารอรอที่ป้ายรถเมล์ รถเมล์รอบเร็วสุดคือ 04.09 น.

มาถึงสถานีรถไฟตอนตีสี่ครึ่ง ก็ไปซื้อตั๋ว จนทบอกอะไรสักอย่าง 45 You can try เราก็นึกว่า ราคา 45 Zloty อะเค ราคาถูกกว่าในเว็ป ในเว็ปบอก 66 Zloty แต่รถไฟออกรอบไหนคือช่างมันล่ะ ขี้เกียจคิด ตามดวงไปละกัน 55

พอได้ตั๋วเท่านั้นแหละ เป็นรอบ 04.45 จ้าา อีกสิบนาทีรถไฟออก ก็เลยถามชานชาลาที่ต้องขึ้นและทางไป แล้วก็วิ่งงงง

ชานชาลาอยู่ใกล้มากแบบผิดคาด

รถไฟขบวนที่เรานั่งมาเลทไป 10 นาที 

ส่วนขากลับน่ะเหรอ ดีเลย์ไป 75 นาทีเจ้าข้าเอ๊ยยย

นางดีเลย์แบบ ค่อยๆ เพิ่มตัวเลขดีเลย์อ่ะ ตอนแรกไปถึง ดีเลย์ 15 นาที

ไปดูอีกทีเป็น 28

ดูอีกเป็น 30

แล้วก็++++++ จนมานิ่งที่ 74-76 เป็นคำตอบสุดท้าย

กว่าจะนิ่งก็คือ รอมาจะชมนึงแล้ว

จริงๆ ใจหนึ่งก็แอบคิดว่า ไปคุยกับเจ้าหน้าที่ขายตั๋วดีไหม ว่ารถไฟดีเลย์ ขอนั่งรถไฟขบวนอื่นแทนแบบตอนทำที่เช็ก แต่คือ...เจ้าหน้าที่ขายตั๋วพูดอังกฤษไม่ได้เลย ตอนซื้อตั๋วบอกว่าซื้อตั๋วไป Warsaw (วอร์ซอ) นางก้ไม่เข้าใจ จนนางถามว่า Warszawa (วอร์ซาวา - ชื่อภาษาโปแลนด์ของวอร์ซอ) อ่ะ ถึงเข้าใจกันได้ เราเลยไม่อยากไปทำอะไรมากนัก จริงๆ ก็คือเดินกลับไปกลับมาหลายรอลแล้วล่ะ สองจิตสองใจจนรถไฟหยุดดีเลย์มากกว่าเดิมแล้ว เลยเลยตามเลย

รีวิวทั้งหมดในซีรีส์นี้มีทั้งหมด 10 ตอนค่า

1 การเดินทางในออสเตรีย และโปแลนด์ https://th.readme.me/p/39977
2 เมือง UNESCO ฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) เช้าไปเย็นกลับก็ทำได้ https://th.readme.me/p/39994
3 เดย์ทริป Wachau Valley และ Melk Abbey UNESCO 2 แห่งระหว่างเมือง Melk Dürnstein และ Krems https://th.readme.me/p/39997
4 เดย์ทริปไป Budapest เยี่ยมชม Buda castle และโรงพยาบาลใต้ดิน Hospital in the Rock Nuclear Bunker Museum https://th.readme.me/p/39998
5 เดย์ทริปไป Kutna Hora แวะชม Sedlec Ossuary โบสถ์โครงกระดูกอันโด่งดัง กับประสบการณ์ตกรถไฟคนเดียวที่เช็ก! https://th.readme.me/p/40003
6 สองวันในเวียนนา ลัลล้าใน Museum of natural history และ ทำความรู้จักกับ Sisi ใน Hofburg palace และ Schonbrunn palace https://th.readme.me/p/40004
7 ยินดีต้อนรับสู่เมืองคราคุฟ เมืองที่ถูกย้อมด้วยเลือดของชาวยิว เยี่ยมชม Oskar Schindler's Enamel Factory Rynek Underground ใน Kraków โปแลนด์ https://th.readme.me/p/40102
8 ค่ายกักกันเอาช์วิทซ์แห่งความตาย Auschwitz and Birkenau concentration camps และเหมืองเกลือ Wieliczka Salt Mine https://th.readme.me/p/40103
9 เดย์ทริปไป ปราสาทมาลบอร์ก UNESCO ปราสาทยุคกลางที่มีพื้นที่มากที่สุดในโลก Malbork castle Poland https://th.readme.me/p/40104
10 2 วันในวอร์ซอ เรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับชาวยิวที Polin Museum และเดินเล่นที่ Łazienki Park https://th.readme.me/p/40105

Duck's journey

 วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 15.52 น.

ความคิดเห็น