ความเดิมตอนที่แล้ว

[CR]อุตรดิตถ์ เมืองงาม หน้าฝน : จิบชาที่ไร่องุ่น ..ตกเหล็ก บ่อเหล็กน้ำพี้ ..ชมต้นสักใหญ่ที่สุดในโลก ..หม่ำปลาเผาที่สันเขื่อน

https://th.readme.me/p/40305

ตอนนี้เราเข้าสู่ อำเภอลับแล เป้าหมายคือวัดดอนสัก และพิพิธภัณฑ์เมืองลับแล

เที่ยวหน้าฝนก็ลุ้นฝนหยุด ฝนตก ตั้งขาตั้วกล้องไว้ฝนมาเก็บแทบไม่ทัน  พอหยุดก็มาตั้งกันใหม่

ดีที่วันที่ไปยังมีแสงของท้องฟ้ายามเย็นสวยๆ บ้าง ไปชมกันเลยครับ

ข้อมูลการท่องเที่ยว อุตรดิตถ์

http://123.242.186.88/uttaradit/travel_uttaradit/index.php

เพจของผมครับ รวมภาพถ่ายจากกล้องผมไว้

https://www.facebook.com/pages/WhiteCloud/1452517418344349

เมืองลับแล เป็นอำเภอเล็กๆ แห่งหนึ่งของจ.อุตรดิตถ์ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาอันเงียบสงบ

มีตำนานเกี่ยวกับเมืองลับแล เล่าสืบขานต่อกันมาว่า มีชายหนุ่มชาวทุ่งยั้งคนหนึ่ง เดินทางเข้าไปหาของป่า แล้วได้เกิดหลงเข้าไปในเมืองลับแล ที่ทั้งเมืองมีแต่ผู้หญิง และล้วนแต่มีศีลธรรม ถือวาจาสัตย์ ซึ่งชายหนุ่มได้เกิดหลงรักสาวเมืองลับแล จึงสัญญาว่าจะอยู่ในศีลธรรม ไม่พูดโกหก จึงได้อยู่กินกับหญิงคนหนึ่งจนมีลูกด้วยกัน

   

   กระทั่งวันหนึ่งภรรยาไม่อยู่บ้าน ลูกก็ร้องไห้ไม่ยอมหยุด พ่อจึงปลอบลูกว่า “แม่มาแล้วๆ” เพื่อให้ลูกหยุดร้อง แต่ที่จริงแล้วแม่ยังไม่ได้กลับมา ซึ่งแม่ของภรรยาได้ยินเข้าก็โกรธที่ลูกเขยพูดโกหก พอลูกสาวกลับมาจึงไปบอกว่าลูกเขยได้พูดโกหก ทำให้ฝ่ายภรรยาของชายหนุ่มเสียใจมากที่สามีไม่รักษาวาจาสัตย์ ทำให้ต้องไล่สามีออกจากหมู่บ้านไป

   

       โดยได้จัดย่ามใส่เสบียง รวมทั้งหัวขมิ้นไปให้หลายแง่ง แต่กำชับว่าอย่างเพิ่งเปิดย่ามจนกว่าจะถึงบ้าน แต่ระหว่างทางที่เดินรู้สึกหนัก จึงหยิบขมิ้นทิ้งไปตามทางเรื่อยๆ พอกลับถึงบ้านหยิบขมิ้นขึ้นมาดู ปรากฏว่ากลายเป็นทองคำ ชายหนุ่มเสียดายมาก จึงย้อนกลับไปหาขมิ้นที่ทิ้งไว้ แต่ขมิ้นเหล่านั้นงอกเป็นต้นไปหมดแล้ว และแม้ว่าชายหนุ่มจะพยายามหาทางกลับไปเมืองลับแลอีก แต่ก็ไม่สำเร็จ

http://www.manager.co.th/travel/viewnews.aspx?NewsID=9560000150054


เราดิ่งมาที่ วัดดอนสัก เพื่อชมบานประตูของวิหารนี้ทำด้วยไม้แกะสลัก

แล้วค่อยไปเก็บภาพยามเย็นที่ ซุ้มประตูเมืองลับแล  และ พิพิธภัณฑ์เมืองลับแล

วัดดอนสัก

สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย มีความ วิจิตรบรรจงในการก่อสร้าง ซึ่งเป็น สถาปัตยกรรมแบบเชียงแสนปนสุโขทัย

บานประตูของวิหารนี้ทำด้วยไม้แกะสลัก เป็นลายกนกก้านขด มีรูปสัตว์หิมพานต์ แทรกอยู่ในที่ต่างๆ ลักษณะอ่อนช้อย งดงามมากบานซ้ายและขวาลวดลาย ไม่เหมือนกัน แต่เมื่อปิดแล้วลวดลาย เข้าหากันได้สนิทแสดงว่าช่างสมัยนั้น มีความสามารถทางศิลปสูงมาก เสา ประตูเป็นลายกนกใบเทศสลับกนก ก้ามปู หน้าบันสลักด้วยไม้ปรุเป็นภาพ ประดับด้วยกระจกสีขาวแบบกรุงศรี- อยุธยา

ก่อนกลับออกจากวัด

ขับย้อนมาที่ ซุ้มประตูเมืองลับแล

ที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองลับแล ดูยิ่งใหญ่ด้วยลักษณะสถาปัตยกรรมแบบผสมผสาน

ด้านข้างมีประติมากรรมแม่ม่ายเมืองลับแล เป็นรูปหญิงสาวอุ้มลูกน้อย ข้างๆ มีสามีนั่งคอตก ในมือถือย่ามใส่ขมิ้น บริเวณฐานจารึกข้อความ “ขอเพียงสัจจะวาจา”

บริเวณใกล้กับซุ้มประตูเมืองลับแล เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์เมืองลับแล

มีการจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมและเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมท้องถิ่น และประวัติศาสตร์ผ่านประสาทสัมผัสทางกายภาพได้

เอกลักษณ์ที่ดูแตกต่างของบ้านเรือนไทยของชาวลับแล นอกจากที่นอนยกพื้นสูงแล้ว ความเหลื่อมล้ำกันของพื้นที่ใช้สอยแต่ละส่วน ล้วนแต่มีหลักการและเหตุผลไม่แพ้กัน ช่วงพื้นที่ยกสูงห่างจากกันนั้นนอกจากจะทำหน้าที่เป็นช่องลมเพื่อระบายความร้อนให้กับบ้านแล้ว เวลาทำความสะอาดช่องว่างเหล่านั้นยังอำนวยความสะดวกให้กับแม่บ้านที่สามารถกวาดเศษผงลงไปที่พื้นดินด้านล่างได้ทันทีแบบไม่ต้องพึ่งที่โกยผง

http://www.dailynews.co.th/Content/Article/251748/%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%81%E0%B8%A5+-+%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87

ส่วนของครัวที่อยู่บนเรือนเชื่อมต่อกันพื้นจะดูต่ำกว่าส่วนอื่น ๆ ขณะที่ยุ้งเก็บข้าวจะแยกออกจากเรือนแต่อยู่ไม่ห่างกันโดยสร้างปิดทึบเพื่อกันนกหนูเข้ามากัดกินข้าวที่เก็บไว้ภายใน รอบ ๆ บริเวณบ้านมีการจำลองคอกช้าง คอกม้า คอกหมู สวนมะพร้าว สวนหมาก น้ำตก ลำธารธรรมชาติ รวมทั้งการทอผ้าตีนจกของลับแลที่มีให้แวะชมได้ทุกวัน ซึ่งทั้งหมดคือวิถีชีวิตของคนลับแล

เรือนอีกหลังข้าง ๆ กันเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์บ้านพระศรีพนมมาศ ซึ่งนอกจากจะจัดแสดงชีวประวัติและผลงานต่าง ๆ ของพระศรีพนมมาศแล้ว ยังมีการจัดแสดงประวัติ ศาสตร์สำคัญของเมืองลับแล ของดีเมืองลับแลและอุตรดิตถ์ พร้อมแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของอุตรดิตถ์

อาคารก่ออิฐถือปูนอีกหลังที่อยู่ห่างออกไปเป็นอาคารจำหน่ายสินค้า ซึ่งจัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่สำหรับจำหน่ายผลิต ภัณฑ์โอทอปและของดีเมืองลับแลใกล้ ๆ กันเป็นอาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งนอกจากจะจัดแสดงภูมิปัญญาท้องถิ่นเมืองลับแล ทั้งการทอผ้า จักสาน และไม้กวาดตองกง เอกลักษณ์ของลับแลที่ใครได้เห็นริบบิ้นแดงที่ติดอยู่จะรู้ได้ทันทีว่าเป็นไม้กวาดตองกงแท้ของเมืองลับแล พร้อมมีจักรยานและแผนที่เส้นทางบริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการสัมผัสวิถีชุมชนด้วยสองล้อด้วย

http://www.dailynews.co.th/Content/Article/251748/%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%81%E0%B8%A5+-+%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87

ลับแล ยามสนธยา

มืดแล้ว ลากันด้วยภาพนี้

ขอบคุณและสวัสดีครับ

 

White_Cloud

 วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2565 เวลา 13.24 น.

ความคิดเห็น