รีวิวนี้จะพูดถึงการเดินทาง ที่พัก และอาหารธรรมดาๆ ที่หาได้ในชุมชน และต้องทำความเข้าใจก่อนว่าช่วงนี้ที่สปป.ลาวค่าเงินจะอยู่ที่ 1 บาท = 450 กีบ แต่หลายอย่างปรับขึ้นมาจนแพงกว่าเดิม 1-2 เท่าตัว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติยังน้อยมาก การที่เราจะเสียค่ารถแพงขึ้น หรือการนั่งเรือในราคาที่แพงกว่าปกติก็ต้องเข้าใจด้วย 

ทริปสปป.ลาวด้วยความตั้งใจจะกลับไปเมืองที่เราเคยไปแล้วทั้งหมด การเดินทางเราได้รีวิวไปแล้วที่รีวิวนี้ รถไฟ EMU ขบวนล้านช้าง ที่พักที่หลวงพระบางช่วงนี้ว่างเยอะมาก และราคาหลายแห่งก็ลดลงมาเยอะมาก หลายแห่งที่คนไทยชอบไปราคาลงมาจนน่าตกใจ แต่ครั้งนี้เราเลือกพักที่ Soutikone 1 Guesthouse  ห้องพักราคา 10 USD ที่เลือกที่นี่เพราะยังไม่เคยพัก (อยากลองที่อื่นบ้าง ที่พักประจำปิดตั้งแต่โควิดยังไม่เปิด) เราเลือกจ่ายเป็นเงินกีบ 150,000 กีบ ห้องที่ได้เป็นห้องเตียงใหญ่ 2 เตียง ตอนมาเช็คอินเจ้าหน้าที่แจ้งแล้วว่าอัพเกรดให้เป็นห้องใหญ่จะได้นอนสบาย 

พิกัด: https://goo.gl/maps/daSHQJfovA...

หลายคนที่เคยมาหลวงพระบางแล้วพักแบบเรือนพักแบบนี้ต้องเข้าใจว่าเจ้าของบ้านจะพักอยู่ด้านล่าง การเดินอาจต้องเบาเท้านิดนึง ห้องพักที่ได้แอร์เย็นสบาย น้ำแรง เตียงกำลังสบาย โดยรวมที่นี่เกินคุ้มกับราคาที่จ่ายไป เข้าที่พัก เก็บของ แล้วออกมาสำรวจเมืองหลวงพระบางสักนิด รอบนี้เวลาน้อยมาก จุดแรกมาดูเรือนพักที่เราพักประจำเวลามาหลวงพระบาง 

ที่เราชอบเรือนพักกินนารี เพราะ ห้องพักสบาย เจ้าของน่ารักมาก จะจ้างน้องๆ ที่ยังเรียนหนังสือให้มาเฝ้ากะกลางคืน อนุญาตให้ทำการบ้าน รายงาน และนอนได้ตอน 4 ทุ่ม - 6 โมงเช้า 

เดินต่อมาอีกนิดจะเป็นวัดป่าไผ่ อยากเข้าไปถ่ายรูปตอนพระทำวัตรเย็น แต่น้องหมาเห่าพร้อมกระดิกหาง ไม่อยากรบกวนพระที่ทำวัตรอยู่ เลยถ่ายจากหน้าประตูวัด วัดนี้เราชอบภาพเขียนหน้าโบสถ์มาก 

พิกัด: https://goo.gl/maps/ux53kHYCpP...

สำรวจโซนด้านนอก ริมโขงก่อน 

เดินมาโซนก่อนเข้าตลาดมืด หลวงพระบางที่ไม่ตรงวันหยุด หรือหยุดยาวของฝั่งไทยเงียบเหงามาก

เดินมาตลาดมืด รอบนี้เป็นครั้งที่เงียบที่สุดใน 13 ครั้งที่มาหลวงพระบาง คนบางตา ร้านค้าก็น้อยลง 

พิกัด: https://goo.gl/maps/3tKBMUtiDA...

ตอนแรกตั้งใจจะเกินเฝอกับข้าวซอยร้านประจำ แต่ไม่ขาย ร้านส้มตำประจำในซอยบุฟเฟ่ต์ที่กินประจำคนเยอะมาก ไม่มีที่นั่ง เลยได้มาลองกินเฝอเนื้อร้านใกล้ทางเข้าซอยบุฟเฟ่ต์ ร้านนี้ราคายังชามละ 15,000 กีบอยู่ ชอบเฝอที่นี่ที่มีสาระแหน่ให้ด้วย ชอบสาระแหน่มาก มีน้ำปั่นด้วย ราคาน้ำปั่นที่นี่ 20,000 กีบ

ยังไม่มืดมาก และยังมีแรงเหลือ เดินต่อไปที่วัดแสนสุขาราม ถ่ายกลางคืนก็สวยดี วัดนี้ก็ถือว่าเป็นวัดที่คนไทยชอบมา ช่วงเช้าจะเป็นจุดใส่บาตรสำหรับนักท่องเที่ยว แถวนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านข้าวเปียกเส้นอร่อยๆ อยู่ด้วย 

พิกัด: https://goo.gl/maps/GdxuQMvua6...

ไม่เหลืออะไรให้เดินแล้ว กลับที่พักอาบน้ำนอนได้ เช้าวันที่ 2 ที่หลวงพระบางเราก็ออกมาถ่ายรูปการใส่บาตร ไปโซนนักท่องเที่ยวที่หน้าวัดแสนสุขาราม

หลังจากถ่ายรูปเสร็จก็เดินเก็บภาพที่จุดตัดแม่น้ำโขงและแม่น้ำคาน จะเห็นสีของแม่น้ำแตกต่างกันชัดเจน บริเวณ Riverview Park จุดนี้จะมีป้ายเมืองมรดกโลกจาก UNESCO ด้วย

พิกัด: https://goo.gl/maps/q9nQEhuwUT...

ออกจากสวนริมน้ำแล้วก็เก็บภาพตึกรามบ้านช่องที่เราชอบต่อ

หลายจุดในหลวงพระบางจะมีจุดจอดรถตู้ที่จะไปสถานีรถไฟหลวงพระบาง เวลาตามป้ายเลย

เดินต่อมาหามื้อเช้าที่ตลาดเช้า ร้านปากหม้อนี้กินกันมาหลายปีแล้ว ราคาขึ้นมานิดหน่อย 10,000 กีบ รอบนี้สั่งใส่ไข่ก็จะมาชิ้นเดียว แต่ถ้าสั่งแบบธรรมดาก็จะได้ 4 ชิ้น ส่วนอีกร้านที่กินตั้งแต่คนขายตั้งท้องจนหลังๆ ลูกสาวมาช่วยแม่ขายแล้ว

พิกัด: https://goo.gl/maps/eFynn6sX64...

โซนตลาดเช้าจะเป็นบริเวณที่คนหลวงพระบางใส่บาตรกัน จริงๆ ถ้าเราใส่เราจะมาใส่ที่นี่ ซื้อของจากตลาดเช้าแล้วนั่งต่อจากคุณยายแถวนั้นเลย

กลับที่พักไปหารถสกายแลปไปสถานีขนส่งสายเหนือ (สายเหนือคือขึ้นเหนือไปกว่าหลวงพระบาง) ปกติราคาจะอยู่ประมาณคนละ 20,000 กีบ จะเป็นสายเหนืออันเก่า ตอนนี้ย้ายออกไปไกลมากขึ้น ถ้าแชร์กันจะตกคนละ 50,000 กีบ แต่เราเลือกไปคนเดียว คนขับเรียกมา 100,000 กีบ ระหว่างทางคนขับแวะเติมน้ำมัน 100,000 กีบได้แค่ 4.68 ลิตรเท่านั้น คนขับบอกปกติจะได้ 10 ลิตรกว่าๆ 

ระยะทางไกลมากขึ้นจริงๆ คนขับบอกออกจากตัวเมืองหลวงพระบางเกือบ 10 หลัก ( 10 กม.) ในแมพยังเป็นอันเก่าอยู่ ถ้าใครเคยนั่งรถ sleeping bus จากเวียงจันทน์จุดจอดนั้นจะเป็นสายเหนือจุดเดิม แต่จุดใหม่ต้องวิ่งผ่านทางรถไฟออกไปอีก ใช้เวลา 40 นาที ถนนค่อนข้าง adventure มาก มาถึงก็เข้ามาซื้อตั๋วได้เลย เช้าๆ คนขายยังขายคนเดียวทุกเส้นทาง ตอนนี้ค่าตั๋วไปหนองเขียวอยู่ที่ 70,000 กีบ 

จองที่นั่งเสร็จก็เดินออกหาของกิน ก็ได้เฝออีกแล้ว ถามรสชาติของแต่ละร้านต่างกันไหม จะต่างกันนิดหน่อยที่ซุป เส้น ร้านนี้เส้นจะใหญ่กว่าร้านอื่นๆ ส่วนซุปเราชอบร้านประจำที่ทุกครั้งมาจะกินมากกว่า ร้านนั้นในซุปมีกระดูกหมูด้วย ถ้วยเล็กๆ ที่มาพร้อมกันคล้ายน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ แต่อันนี้มีความเข้มข้น อร่อยดี จิ้มผักกินเพิ่มรสชาติดี 

รถออกตรงเวลา และเต็มทุกที่นั่ง มีของต้องส่งหลายจุดมาก จากปกตินั่งแค่ 3 ชั่วโมง แต่รอบนี้เกือบ 4 ชั่วโมง ถนนหลายช่วงยังคงสนุกสนานอยู่ ถึงเขื่อนน้ำอูรอบนี้จะเสร็จแล้วก็ตาม

ระหว่างทางเด็กน้อยก็ไม่รอด เมารถ ตัวช่วยเวลาเมารถจะแขวนไว้ตรงประตูรถ แล้วเรานั่งจุดนี้พอดี ก็เลยกลายเป็นพนักงานแจกถุงอ้วกด้วย

พอมาถึงสถานีขนส่งหนองเขียว เราถามคนขับรถสามล้อว่ายังมีเรือไปเมืองงอยเก่าไหม คนขับบอกยังมีเรืออยู่ แต่เป็นเรือที่ไม่ได้วิ่งตามเวลาที่เราเคยใช้บริการ เป็นเรือเสริมที่รับ-ส่งคนตกเรือ จากปกติค่าเรือ 50,000 กีบ (เมื่อครั้งที่เราเคยไปรอบก่อน) รอบนี้มีเราคนเดียว คนขับเรือแจ้งมา 100,000 กีบ เราโอเคนะ เรือนั่งคนเดียวสบายอารมณ์มาก ค่ารถจากสถานีขนส่งหนองเขียวมาท่าเรือ 10,000 กีบ (รอบก่อนมา 5,000 กีบ)

พิกัดสถานีขนส่งหนองเขียว: https://goo.gl/maps/dfVeEt34DG...

พิกัดท่าเรือหนองเขียว: https://goo.gl/maps/5aZMNMsPyD...

พอมีเราและครอบครัวของคนขับเรือ เรือก็วิ่งได้เร็วขึ้นปกติ 3 ชั่วโมง รอบนี้ใช้เวลาชั่วโมงนิดๆ จุดท่าเรือตรงนี้จะมีออฟฟิศขายตั๋วเรือตามตารางเวลาด้วย หันหน้าลงแม่น้ำอูจะอยู่ด้านขวามือ

พิกัดท่าเรือเมืองงอยเก่า: https://goo.gl/maps/81cafDHE8E...

มาถึงเราก็พักกับน้องสาวของคนขับเรือเลย ห้องพักมาตรฐาน โครงสร้างแข็งแรง มีความเป็นส่วนตัว (แยกเป็นหลัง) ที่นี่เป็นที่เดียวที่เมืองงอยเก่าที่มีแอร์ เรือนพักที่เราพักเป็นของคุณ Malavanh Pennysweet (เอาชื่อไปค้นหาใน fb ได้เลย) เราเลือกห้องพักราคา 400 บาท (ที่นี่เราจ่ายเงินบาท เพราะคุณมาลาวันจะมาไทยบ่อย) แต่เราได้อัพเกรดมาเป็นห้องที่แพงขึ้น

หลังนี้ 400 บาท เป็นไม้ 

หลังที่เราได้รับการอัพเกรดให้ ราคา 500 บาท 

พูดคุยกันหลายเรื่อง และให้กำลังใจกันยาวจนหมดเวลาขึ้นจุดชมวิว เลยได้แค่ออกมาเดินสำรวจหมู่บ้านที่เราเคยเดิน ถนนเส้นนี้ปกติจะคนเยอะ ร้านอาหารเยอะ เรือนพักเยอะ

เริ่มเดินเข้าไปด้านในมากขึ้น เส้นทางเดินรอบหมู่บ้านปลอดภัย ไม่มีรถยนต์ มีแต่จักรยาน มอเตอร์ไซต์ และรถอีแต๋น

เราเดินไปถึงทางเข้าถ้ำ แต่เขาแนะนำว่ามืดเกินไปแล้ว อย่าเข้าเลย เราก็เลยเดินกลับ ไม่ได้เดินต่อ จริงๆ เราชอบเมืองงอยมาก สงบ แต่ทั้ง 2 รอบจะได้มาแค่คืนเดียว ขออนุญาตเอาลิงค์จากรอบก่อนมาแป๊ะให้อ่านกัน 

หนองเขียว-เมืองงอย เราเดินย้อนกลับมาที่ท่าเรือ มาถ่ายรูปก่อนแสงหมด

เดินมาร้านอาหารเดิมที่เรากินเมื่อรอบก่อน รอบนั้นน้องกำลังจบ ม.7 น้องปรึกษาเราว่าจะไปเรียนต่อดีไหม ต้องทิ้งแม่กับน้องสาวตั้ง 4-5 ปี น้องเก่งมากทำอาหารคาว ขนมอร่อย มารอบนี้ได้รู้ว่าน้องเลือกไม่เรียนต่อ อยู่ช่วยแม่ทำร้านอาหาร ใครมาเที่ยวเมืองงอยมาอุดหนุนน้องกัน รอบนี้กินแค่เฝออย่างเดียว ซุปร้านนี้อร่อย ชามนี้ 15,000 กีบ 

พิกัด: https://goo.gl/maps/r3RRhvcKz7...

เรากลับห้องพักคุณมาลาวันจะชวนเรากินมื้อเย็นด้วย แต่เราปฏิเสธ เพราะ มื้อเย็นควรเป็นมื้อที่ทุกคนในครอบครัวกินพร้อมกัน ไม่ควรมีคนนอกให้อึดอัด คืนนั้นเราออกมาถ่ายดาวที่ระเบียงหน้าห้องพักด้วย แต่มือถือรุ่นเก่าถ่ายได้แค่นี้ก็ดีใจแล้ว

ตื่นเช้ามา ต้องรีบเก็บกระเป๋าแล้วไปท่าเรือเลย เก็บภาพที่ระเบียงห้องพักสักนิด

เรากลับเรือคุณขาว (ลำเดิมที่เรามา) ตอนแรกจะมีคนกลับด้วย แต่สรุปเขาเทเรือคุณขาว ไปลำอื่น โอเคเราตกลงจะกลับกับเขาแล้ว ไม่เปลี่ยนใจแน่นอน ขากลับก็เลยกลับคนเดียวเหมือนขามา ระหว่างรอเรือออกก็เก็บภาพที่ท่าเรือไปด้วย

ขากลับเรือแล่นตามน้ำจะใช้เวลาน้อยกว่าขามา วิ่งแค่ 40 นาที ค่าเรือคุณขาวคิดเราเท่าขามา 100,000 กีบ วิวยามเช้านี่สวยมาก

จบในส่วนรีวิวในส่วนหลวงพระบาง - เมืองงอย ทั้งเรื่องการเดินทาง ที่พัก อาหารการกิน ส่วนต่อไปจะรีวิวหนองเขียว-เวียงจันทน์ 

ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว

 วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 02.37 น.

ความคิดเห็น