สวัสดีค่ะ นาน ๆ มารีวิวซะที คราวนี้บันทึกการเดินทางยังไม่ออก ขอเอาบันทึกการกินมาให้อ่านกันก่อน กับการเดินทางท่องเที่ยว "แพร่-น่าน" รอบนี้ เข้าร้านเพื่อกินจริงจังไม่กี่ร้าน เหมือนว่าจะแก่เลยไม่เน้นกิน เน้นนอน กระทู้นี้จัดมาให้ 8 ร้าน เป็นร้านอาหารซะ 6 ร้านขนมอีก 2 

1. เล็กข้าวต้ม (ร้านในตัวเมืองจ.พิษณุโลก)

2. ร้านเจ๊ศรีโจ๊กประตูชัย จ.แพร่

3. Nan Native กิ่วม่วง

4. ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ

5. ไร่ต้นรัก

6. เฮือนฮอม

7. CoCoa Valley

8. ร้านขนมหวานป้านิ่ม

ติดตามรับชม รับชิมได้เลยจ้า....

1. เล็กข้าวต้ม (ร้านในตัวเมืองจ.พิษณุโลก)

ผิดแผนไปหน่อยจากเดิมว่าจะถึงแพร่ไม่ดึกแล้วหาอะไรกินที่นั่น ปรากฎว่าหนึ่งทุ่มยังอยู่พิษณุโลก ต้องแวะกินแล้วหละ เข้าตัวเมืองหามื้อเย็นกิน ปรึกษากูเกิ้ลได้ร้านข้าวต้ม แล้วพิษณุโลก คือ ร้านข้าวต้มเยอะมาก ขึ้นทุกแยก ตัดสินใจเอาร้านนี้ ติดถนนใหญ่ ติดแยกไฟแดง

เรียงลำดับตามความชอบส่วนตัว

ยำกุนเชียง - อร่อยมากสั่ง 2 จาน

ผักผักบุ้ง – ผักบุ้งไม่เหนียว ผัดมารสชาติไม่เค็มโดด  

ไข่เจียว – เอามากินคู่กับผัดผักบุ้งจานข้างบน เข้ากันพอดี

ยำปลาสลิด – สลิดออกเค็มไปเยอะเลย ปริมาณน้อยนิดหน่อย

ผัดคะน้าปลาเค็ม – เมนูนี้ไม่ได้กิน แต่คนกินบอกอร่อย ยังเค็มน้อยกว่าปลาสลิดจานข้างบนก็แล้วกัน

ผัดกุ๊ยช่ายขาวหมูกรอบ – จานนี้ก็ไม่ได้กินอีก เลยขอไว้สุดท้าย คนกินบอกงั้น ๆ  

จบมื้อเย็นไปอย่างงดงาม

2. ร้านเจ๊ศรีโจ๊กประตูชัย จ.แพร่

ตั้งใจไปกินมากกับร้านนี้ ปกติมื้อเช้าจะรวมไปกับที่พักอยู่แล้วเลยไม่มีโอกาสมาแวะตลาดเช้าในเมือง รอบนี้จองโรงแรมเอาแบบไม่รวมอาหารเช้า แล้วมาแวะตลาดตัวเมืองแพร่ เป็นเพราะวันหยุดหรือปกติบรรยากาศเป็นแบบนี้ จขกท.ไม่แน่ใจ แต่เป็นเมืองที่เงียบ สงบ รถ และคนเบาบาง แวะทานมื้อเช้ากันที่ร้าน “เจ๊ศรีโจ๊กประตูชัย” ตัวร้านขนาด 1 คูหา ตอนแรกกะนั่งโต๊ะข้างนอกดูบรรยากาศรอบข้าง แต่โต๊ะเต็มเลยต้องมานั่งด้านใน ชื่อร้านโจ๊ก แต่ไม่มีใครสั่งโจ๊กซักคน

ที่สั่งมามีต้มเลือดหมู ข้าวต้ม และเกาเหลาปลา ถ้าให้แนะนำนะสำหรับคนทานเครื่องในได้ก็ต้มเลือดหมูแหละ เครื่องในไม่เหม็น สะอาดสะอ้าน ปรุงรสเพิ่มความเผ็ดกับเปรี้ยวอีกนิดให้ตัดกับความเค็มของน้ำซุป ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ

ทั้ง 3 เมนูที่สั่งมา มาในชามใหญ่มาก ไม่ใหญ่แต่ชาม ปริมาณก็เยอะด้วย

3. Nan Native กิ่วม่วง

เพราะดูรายการแข่งทำอาหารในทีวีนี่หละเลยเป็นเหตุให้ต้องตามมากินตามเชฟ ร้านนี้เป็นร้านของเชฟเฟิร์ส แชมป์มาสเตอร์เชฟ ซีซั่น 2 แล้วมีร้านอยู่น่าน ทางผ่านพอดีกับไปที่พัก ตั้งใจแวะเลย มาถึงช่วงบ่ายละ ระหว่างทางมีร้านคล้าย ๆ กันอยู่ ดังเหมือนกันถ้าใครลองหารีวิวร้านอาหาร แต่ไม่ได้ถ่ายมานะเพราะมัวแต่เล็งว่าถึงร้านนี้หรือยัง จอดรถได้ริมถนนเลย ตัวร้านอาหารทำพื้นต่ำกว่าระดับถนนนิดหน่อย ต้องเดินลงไป ที่นั่งมีทั้งแบบด้านล่างติดวิวเขา นั่งได้ 2 คนพอดี 3 คนแน่น ไม่เหมาะกับมาเป็นกลุ่มก้อนแบบ จขกท. งานนี้เลยขอโต๊ะโซนด้านบนหน่อย นั่งสบาย ๆ ลมแรงมาก ถึงม๊าก มาก

น้ำดื่มมาเป็นขันน้อยด้วยความลมแรงม๊าก มากนั่นหละ หลอดเหลิดปลิวหมดกัน

อาหารที่ร้านมีให้เลือกไม่ค่อยหลากหลายค่ะ เน้นไปทางเอาน้ำพริกอ่องที่เป็นอาหารทางเหนือมา mix and match กับอาหารฝรั่ง ดูเฉพาะทางดีเหมือนกัน เดี๋ยวรีวิวให้ดูอีกที ตอนนี้เอาเมนูไปอ่านก่อนเพลิน ๆ

ระหว่างรออาหารหิวก่อนลองสั่งไอติมเสาวรสมาลอง รสชาติดีเปรี้ยวสดชื่นแก้อาการเมารถได้

รีวิวอาหารตามความชอบส่วนตัว สั่งแบบเอาน้ำพริกอ่องทุกเมนูเลย ไปค่ะ

นาโช่น้ำพริกอ่อง – เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยได้ดี แป้งนาโช่รสชาติเบา ๆ จิ้มกับน้ำพริกอ่องรสชาติเข้มข้น ไม่ถึงกับจัดจ้านแต่กินคู่กับแป้งแล้วเข้ากันกำลังดี ไม่ดีอย่างเดียว น้อย 555+

พิซซ่าฮาวาอ่อง – คือพิซซ่าฮาวาเอี้ยน ที่ใช้น้ำพริกอ่องเป็นซอสแทน ตอนแรกไม่คิดว่าจะไปด้วยกันได้ดี แต่ก็ผิดคาด ชอบจานนี้ที่สุดนะ แล้วก็เหมือนเดิม น่าจะเป็นคนกินเก่งแหละ เพราะน้อยอีกละ กินอะไรก็ไม่อิ่ม

เฟตตูชินีน้ำพริกอ่อง – น่าจะเป็นน้ำพริกอ่องกะละมังเดียวกับเมนูอื่น ๆ แต่ตักแบ่งมาผัดกับเส้นเฟตตูชินี จานนี้ออกเค็มนำแฮะ  

สปาเกตตี้ไข่กุ้ง – เดี๋ยวจะหาว่ามีแต่อ่องๆ เปลี่ยนมาเป็นอาหารปกติดูบ้างกับสปาเกตตี้ไข่กุ้ง ซึ่ง.....ปกติสปาเกตตี้ทั่วไป ไม่ได้ว้าว หรือไม่ได้ไม่ดี สั่งก็ได้ ไม่สั่งแนะนำให้ไปสั่งเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านจะดีกว่าเพื่อความแปลกใหม่

ปิดท้ายด้วยสโคน มาพร้อมแยมลูกหม่อน เนื้อสโคนไม่ถึงกับหนึบมาก แต่ไม่ร่วนกรอบ มีความกรุบกริบของเม็ดอะไรซักอย่าง อร่อยก็ตรงเม็ด ๆ นี่หละ

แนะนำสำหรับใครที่ผ่านเส้นกิ่วม่วงนะคะ ตรงนี้มีหลายร้านเลย ถ้าอยากลองอาหารฟิวชั่น mix หน่อย ไม่เน้นอิ่มมากเกินไป ลองแวะกันได้ค่ะ

4. ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ

ร้านนี้ก็ตามมาจากที่เค้ารีวิวกัน ทางเข้าลึกลับพอประมาณ แต่ไม่หลง มีเลยทางเข้านิดนึง เป็นซอยเล็กๆ แยกออกจากถนนใหญ่ แล้วก็ค่อยๆ เล็กลงนิดหน่อย แนะนำให้ไปก่อนเที่ยง ประมาณ 11 โมงนิดๆ กำลังดี คือ กำลังหาที่จอดรถง่าย เดินไม่ไกล กับกำลังพอมีโต๊ะว่างไม่ต้องรอคิวนาน ที่จอดรถจริงๆ มีเยอะนะคะ แต่กระจายๆ กันอยู่ ทำให้อาจจะได้เดินทางไกลบ้าง  

ที่นี่เน้นปรุงอาหารแบบธรรมชาติๆ ไม่พยายามปรุงรสด้วยวัตถุดิบสังเคราะห์ต่างๆ รสชาตต้องบอกว่าอาจจะอ่อนไปซักหน่อยสำหรับคนทานรสจัดจ้าน แต่ถ้าใครไม่เน้นทานอาหารแต่อยากได้บรรยากาศ outdoor ลมเย็นๆ เสียงกระดิ่งแกว่งไกวเบาๆ ดูน้ำ ดูปลา ดูเขา ดูเรา ไรงี้ มาได้ แนะนำค่ะ ข้อเสียนิดนึงสำหรับโต๊ะอาหารโซน outdoor ชั้นล่างทางร้านเรียนโซนป่าไผ่ เพราะมีต้นไผ่ต้นใหญ่อยู่ ใครได้โต๊ะโซนนี้จะครื้นเครงนิดหน่อย เพราะปะปนไปกับคนที่เดินชมนกชมไม้ แต่ถ้าได้โต๊ะโซนบนบ้านดีหน่อย คนเบาบาง

มีห้องสำหรับใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัว สามารถขอใช้ห้องได้ มีค่าบริการนิดหน่อย 250 บาท

ถ้ามาช้านะ จอดรถแล้วให้ส่งคนไปเอาบัตรคิวก่อน แล้วระหว่างรอก็ถ่ายรูป ดูเมนูไปเพลินๆ

เก็บบรรยากาศรอบๆ มาพอประมาณค่ะ รีวิวอาหารเรียงตามความชอบส่วนตัว จากชื่อร้านแน่นอนว่าวัตถุดิบหลักเลย คือ เห็ด

น้ำพริกหนุ่ม – ถ้าขึ้นเหนือแล้วเข้าร้านอาหาร จขกท.จะเปิดเมนูดูอย่างแรกเลย มีน้ำพริกหนุ่มป่าว โอเค มี ไม่คิดมาก สั่งเลย อร่อยมั๊ยเดี๋ยวรู้กัน ตั้งใจสั่งเป็นเซตแหละแต่เขียนผิดเลยได้มาแต่น้ำพริกหนุ่มกับแคปหมู ร้านนี้เผ็ดนำชัดเจนเลย เผ็ดแต่อร่อย

ต้มแซ่บไก่บ้าน - สายแซ่บอาจจะยังไม่ถูกใจกับรสชาติความเปรี้ยวซ่าเท่าไหร่ แต่ส่วนตัวว่าโอเคแล้วกับความจัดจ้านประมาณนี้

พิซซ่าเห็ด – เป็น signature ของทางร้าน ถาดไม่ใหญ่ค่ะ สั่งมาลองทานดูได้ไม่ทำให้อิ่มมาก ส่วนรสชาตอย่างที่ทางร้านได้บอกไว้ว่าอาหารทุกเมนูเน้นปรุงด้วยวัตถุดิบตามธรรมชาติไม่ปรุงแต่งมาก รสชาตก็จะไปทางจืด ๆ หน่อย แต่ถ้าใครชอบเข้มข้นก็สาดบรรดาซอสเข้าไปค่ะ ส่วนตัว จขกท.เอง ชอบนะ รสเบา ๆ กินได้เพลิน ๆ แป้งไม่หนาเกิน กินหมดถาดยังกินเมนูอื่น ๆ ที่สั่งมาได้หมด (หรือจริง ๆ แล้ว เป็นคนกินเก่ง)

ยำเห็ดสามสหาย – น้ำยำรสชาตดี รวมเห็ดอะไรบ้างก็ดูกันเอาเอง มีเห็ดหูหนูหละอย่างนึง

ซุปครีมเห็ด – หอมครีม หอมเห็ด สั่งมาซดกันเพลินๆ

ยำผัดกูด - ไม่ได้ว่าอร่อยหรือไม่อร่อยเพราะไม่ได้ชิม เลยไว้จานสุดท้ายแล้วกัน

ไปยันกลับ สรุปจำชื่อร้านเป็น บ้านหัวเห็ด

5. ไร่ต้นรัก

เป็นทั้งร้านอาหารและที่พัก อยู่ถนนเส้นเดียวกับ cocoa valley แต่คนละฝั่ง เข้าคนละซอย มีป้ายชื่อไร่ตัวน้อย ๆ อยู่ ถ้าเลย ซึ่งก็เลยจริง ๆ นั่นหละ ก็แค่กลับรถ เดานะว่าหลายคนน่าจะเลยเหมือนเรา พอเข้าซอยมาได้ถนนด้านในเป็นดิน ทางเล็กหน่อย พอให้รถใหญ่ 2 คันสวนแบบหลบ ๆ เข้าไปไกลมั๊ยไม่แน่ใจ แต่แค่หวั่นใจว่ามาผิดไร่หรือเปล่าด้วยทางเข้าดูบ้าน ๆ แต่ก็ถูกแหละ ใครมาครั้งแรก ๆ อย่าตกใจทางเข้า มีของอร่อย และที่พักสวย ๆ อยู่จริง

เรื่องบ้านพักไว้ไปเขียนเล่าอีกกระทู้แล้วกัน มาว่าเรื่องอาหารการกินก่อน เลือกทานมื้อเย็นเพราะขี้เกียจออกไปข้างนอก

อาหารเมนูไม่มาก แต่สั่งมามากเกิ๊น แต่ก็กินหมดทุกจานนะ เอาเมนูไปอ่านก่อน

เรียงตามความชอบส่วนตัว

หมูกรอบจิ้มแจ่ว – สายไม่ห่วงสวยอย่าง จขกท. เมนูนี้แหละ the must หมูกรอบกำลังดี น้ำจิ้มกำลังโดน แนะนำให้สั่งติดโต๊ะมาก่อนเลย จานแรก

ปีกไก่ทอด – สายเมาสมควรสั่งนะ ทอดมาเหลืองกรอบกำลังดี สั่งมาคู่กับหมูกรอบจานข้างบน

ยำหมูยอ – เรียกว่าเป็นเมนูหากินของ จขกท.เลยก็ว่าได้ ไปร้านไหนสั่งร้านนั้น หมูยอหั่นมาชิ้นหนากำลังดี ผักสดรสอร่อย กินได้นิดหน่อย เน้นหมูยอมากกว่า

สปาเกตตี้พริกแห้งไส้อั่ว – หอมพริกแห้งคืออย่างแรกที่ชอบเลย ผัดเส้นไม่เค็มเพราะให้ไปกินกับไส้อั่ว พอรวม ๆ แล้ว ดีนะ สั่งมา 1 จาน ยังน้อยไป

ยำมาม่าแซลมอน – เหมือนว่าจะเป็นยำมาม่าธรรมดา แต่ให้ทำกินเองเอ้อก็ไม่อร่อยแบบเค้าทำนะ สายกินเส้น นอกจากสปาเกตตี้ก็มาม่านี่หละที่ควรโดน

ข้าวผัดไส้อั่ว - ผัดมาข้าวแฉะไปหน่อย ความอร่อยเลยลดลดนิดนึง แอบเผ็ดพอสมควรเลยหละ

ข้าวซอสต้มยำกุ้ง – ถ้าข้าวผัดไส้อั่วว่าเผ็ดแล้ว อันนี้เผ็ดกว่าจ้า ใครไม่กินเผ็ด แนะนำยำหมูยอดีกว่า (เชียร์เต็มที่)

ข้าวผัดกะเพราหมู – จานนี้ธรรมดาค่ะ สั่งก็ได้ ไม่สั่งก็ได้

แนะนำค่ะมาพักแล้วอย่าลืมลองทานอาหารที่ไร่ ที่พักดี อาหารอร่อย

6. เฮือนฮอม

จะเรียกว่าเป็นร้านคู่บ้านคู่เมืองน่านก็ไม่ผิดนัก เพราะเท่าที่อ่านๆ มา ใครมาน่านก็ต้องเข้าร้านนี้ เหมือนไปต่างจังหวัดต้องแวะซื้อกาแฟที่อเมซอนฉันใด มาน่านก็ต้องแวะเฮือนฮอมฉันนั้น (สำนวนลิเกโนะ)

ร้านอยู่ตรงข้ามกับศูนย์โอท้อปน่าน เยื้องร้านข้าวซอยต้นน้ำ ถ้าชอบข้าวซอยแวะฝั่งตรงข้ามได้เลย แต่ถ้าอยากลองอาหารท้องถิ่นอย่างอื่นด้วยก็มาร้านนี้

ถ่ายเมนูยังไงให้ไม่เห็นอาหาร ใช่ค่ะ ถ่ายแต่หน้าปก เอาเป็นว่ารีวิวอาหารที่สั่งเลย เรียงตามลำดับความชอบส่วนตัว

ออเดิร์ฟเฮือนฮอม – ยกให้เป็นจาน no.1 ของทุกจานที่สั่งมา ส่วนตัวเป็นคนชอบกินน้ำพริกหนุ่มอยู่แล้ว บอกไม่ได้ว่ารสชาติต้นตำรับจริงๆ ควรรสแบบไหน เอาเป็นว่าร้านไหนปรุงถูกปาก นั่นหละ รสอร่อย ร้านนี้ถูกใจ อยากให้สั่ง ผักเยอะด้วยใครชอบผักก็เข้าทาง

ขนมจีนน้ำเงี้ยว – จัดมาน่ารักๆ ถามว่าพอกินมั๊ย ก็ไม่พอหรอก เอามาลองเพราะอยากกินหลายๆ อย่าง ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แต่อร่อยนะ แนะนำ สั่งมาเสริมกับอย่างอื่นๆ เพลินๆ  

คั่วโฮะ – เผ็ดร้อนทั้งจากพริกแกงและความร้อนจากผัดใหม่ๆ ชามนี้ จขกท.กินได้ เคยเจอบางที่ผัดมาแบบเละเทะ ผักรวมกันมั่วตั้วไปหมด แยกไม่ออกว่าดั้งเดิมเคยเป็นผักอะไร แบบนั้นดูไม่น่ากินอ่ะ แต่ชามนี้คือดี

ยำผักบุ้งกรอบกุ้ง – ต้องกินตอนร้อนๆ ผักบุ้งชุบแป้งจะกรอบกำลังดี น้ำยำเผ็ดเปรี้ยวพอดี แต่ส่วนตัวไม่ชอบกินของทอด เลยเฉยๆ จริง ๆ อยากสั่งยำหมูยอแหละ แต่แบบว่า เอ้อ...ไปทุกร้าน สั่งทุกร้าน ไอ้ยำหมูยอเนี๊ยะ เห็นใจเพื่อนร่วมโต๊ะบ้าง ไรบ้าง

ข้าวซอยไก่ – ธรรมดา สั่งมาลองได้

ตำไทย – ธรรมดา แนะนำสั่งอย่างอื่น

ผัดผักกูด – ผักเขียวสด แต่พอดีไมได้กินแฮะ เลยบอกไม่ได้ว่าอร่อยป่าว (เมนูผักล้วนๆ ขออนุญาตผ่าน)

สรุปใครมาน่าน ต้องแวะ เป็นร้านห้ามพลาด

6. CoCoa Valley

มาต่อกันที่ร้านขนมกันบ้าง ร้านนี้อยู่ถนนสายเดียวกับไร่ต้นรักที่บอกว่าอยู่คนละฝั่งถนน คนละซอยเท่านั้น ถ้าใครมาไร่ ให้แวะมาจิบโกโก้ที่ร้านนี้ได้ นอกจากจะทำเป็นร้านขนมแล้ว ยังมีส่วนของที่พักอีกด้วย แอบถ่ายมาเล็กน้อยเพราะน่าจะให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวสำหรับผู้จองห้องพักมา

เมนู signature ของร้านไม่พ้นโกโก้ค่ะ ตามชื่อร้านเลย ผลิตภัณฑ์ทั้งของกิน ของใช้ที่เอาโกโก้เป็นส่วนผสม

ขนมมีให้เลือกค่อนข้างเยอะจนตาลาย และลายตา เลือกอะไรมาบ้างต้องบอกว่า จำชื่อไม่ได้แล้วค่ะ เอาเป็นว่าดูรูปกันไปเพลิน ๆ ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยสายโกโก้เท่าไหร่แต่เพื่อน ๆ บอกว่า เข้มข้น หอมโกโก้สมกับที่ร่ำลือไว้

7. ร้านขนมหวานป้านิ่ม

ร้านสุดท้ายที่แนะนำ เป็นร้านที่ทำเอาเราเกือบไม่ได้กลับกทม.ละ

ทะเลาะกับแม่ค้า ??

.

.

.

ไม่ช่ายยยย

.

.

แต่ไปลืมกระเป๋าทั้งใบที่ร้านตอนแวะเข้าห้องน้ำก่อนกลับ แล้วมานึกได้ก็ตอนที่เดินทางถึงแพร่แล้ว ขับรถมาร้อยกว่าโลถึงนึกได้ เลยต้องวุ่นวายให้ทางร้านเป็นธุระแพคกระเป๋าส่งกล่องพัสดุตามลงมา ขอบคุณป้านิ่ม ลูกสาวป้านิ่ม และเด็กในร้านที่ให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ค่ะ

ปิดจบเรื่องเอ๋อๆ ไป มาต่อกันกับเรื่องขนม หลังจากอิ่มแน่นกับร้านเฮือนฮอมแล้วรู้สึกยังไม่สุด ต้องมีขนมตบท้ายก่อนกลับ search หามีคนแนะนำขนมหวานแบบไทยๆ กับร้าน ขนมหวานป้านิ่ม ส่วนตัวไม่นิยมขนมเท่าไหร่ ยิ่งขนมหวานไทยๆ นี่ยากเลย ยากที่จะแวะกิน แต่เพื่อนๆ ดูสนใจ เอ้า แวะก็แวะ เพราะปักหมุดแล้ว ไม่ไกลเท่าไหร่ (เอาจริงๆ นะ ทั้งร้านทั้งที่เที่ยวถ้าบอกว่าพิกัดอยู่ตัวเมืองน่าน ไม่มีที่ไหนไกลกันอ่ะ จังหวัดเล็กๆ วนไปมาเดี๋ยวก็วนมาเจอกัน)

ร้านอยู่ลึกลับซับซ้อนพอสมควร ซอกซอยจนคิดว่า แน่ใจนะว่ามีร้านอยู่จริงๆ ตอนแรกเห็นป้ายใหญ่ๆ อยู่หน้าทางเข้าก็อุ่นใจ แต่ด้วยความที่เข้ามาไกลพอสมควรจากที่อุ่นก็เริ่มร้อนละ สุดซอยเลย ถ้าเลยกว่านั้นก็ทุ่งนา ถึงร้านป้ายชัดเจน โอเควันนี้ได้กินแน่นอน ถึงจะดูเงียบก็เถอะ ลานจอดรถกว้างขวางไม่แน่ใจว่าลานบ้านใคร แต่ไม่มีรั้วกั้น แปลว่าเข้าไปจอดได้

จากที่อ่านรีวิวส่วนใหญ่ ย้ำนะว่าส่วนใหญ่เท่าที่ลากอ่านผ่านๆ เล่าไปในทางเดียวกันว่า ป้านิ่มเป็นคนดุ ดุมาก ดุม๊ากมาก จขกท.ก็คิดว่า เอ้อ...เร้ออออ พอไปเจอ เอ้อ...ค่อนข้างเห็นด้วยกับรีวิวที่ผ่านๆ มา เอาเป็นว่าสำหรับคนที่ไม่เคยมา แล้วคิดจะมา

ขั้นแรก ถึงหน้าร้านจะงงนิดหน่อยเพราะมีขนมที่อยู่บนรถเข็น กับขนมส่วนที่อยู่บนโต๊ะ ให้ถอยออกมา ถอยออกมาอ่านป้ายต่างๆ ให้เข้าใจก่อน อย่าได้เผลอดุ่มเดินไปสั่งเรื่อยเปื่อย สั่งผิดเคาน์เตอร์เจอสวนนะบอกเลย (อันนี้ก็โอเวอร์ไปหน่อย ป้าแกแค่บ่นๆ แหละ)

ขั้นสอง มาเป็นหมู่คณะไม่ต้องสนใจ ให้ตัวใครตัวมัน ใครกิน คนนั้นสั่ง คนนั้นจ่าย จ่ายกันไปทีละถ้วย อย่ามาบอกไปเก็บกับคนสุดท้าย เก็บรวม คิดรวม อย่า ย้ำ อย่า..... ป้าแกจะบ่น

ขั้นสาม สั่งเสร็จ จ่ายเสร็จ ได้ขนมคนละถ้วย ให้ถอยออกมา ลูกค้าคนอื่นได้เข้าถึง อย่าไปเดินวนเวียนวุ่นวายอยู่หน้าหม้อ (โดนบ่นนะ เอ้า)

ขั้นสี่ หาที่นั่งในร้านค่ะ กินเสร็จเก็บด้วย มาว่าด้วยรสชาติ ให้ตัด 3 ขั้นตอน น่ากลัวข้างบนไปซะ จะบอกว่า กะทิร้านนี้ดี คือดีเลย บอกยังไงดี เคยเจอกะทิเหนียวๆ ข้นๆ แป้งมันเยอะๆ มั๊ย แล้วเคยเจอแบบกะทิหลอมเหลว ใสแจ๋วมั๊ย นั่นละ อันนี้ คือไม่ใช่เลย คือ กะทิเค็มๆ มันๆ นัวๆ (ป้าอาจจะเป็นเจ้าของสวนมะพร้าว เลยได้วัตถุดิบดีดี) ที่แนะนำอยากให้ลองกินแล้วมันเข้ากับกะทิมากๆ และแปลกดีสำหรับเรานะ คือ “ข้าวฟ่าง” ไม่รู้คืออะไร ไม่รู้ว่าทำยังไง ถนัดกิน ไม่ถนัดรู้ที่มา เนื้อสัมผัสไม่ใช่สาคูซะทีเดียว จะแบบมีเนื้อกุ๊บกั๊บอยู่ข้างในเวลาเคี้ยว รสชาติไม่มี แต่กินกับกะทิเค็มๆ มันๆ คือ เข้ากัน

บัวลอย เป็นอีกอย่างที่อยากให้สั่งมากิน ได้ความหอมมันจะกะทิยังไม่พอ ได้ไอติมกะทิโปะเข้าไปอีก 1 ลูก หอมสุด แป้งบัวลอยนุ่ม หนึบ ไม่เหนียวเหยาะแหยะ

เมนูที่สั่งก็ได้ ไม่สั่งก็ได้ คือ ลอดช่อง กับสลิ่มทับทิมกรอบ

จบเรื่องกิน เดี๋ยวไปฟินต่อเรื่องเที่ยว จะได้คลอดกระทู้รีวิวอีกเมื่อไหร่ก็ยังไม่รู้ ไม่ใช่อารมณ์ศิลปินนะ ขี้เกียจล้วนๆ เลย

ไปละจ้า...เจอกัน กระทู้หน้าๆๆๆ

บ๊ายบายค่ะ

ไปกินไปเที่ยว - หญิงเฮเทกระจาด

 วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 14.28 น.

ความคิดเห็น