One Day Trip  หน้าฝน เดินขึ้นเขา ลุยที่สูง ไปไหว้พระ สัมผัสหมอก รับความเย็นและความร้อน
กับ 2 จุดเช็คอินยอดฮิต ของอำเภอแจ้ห่ม-เมืองปาน จังหวัดลำปาง  คือ วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ และอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน โดยทริปนี้ เดินทางวันที่ 15 กรกฎาคม 2565 ช่วงหยุดยาวที่ผ่านมา


จุดเช็คอินแรกคือ วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์  อำเภอแจ้ห่ม 

โดยชื่อเดิมของวัดคือ "วัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง"วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง จุดสำคัญไฮไลท์ของวัดแห่งนี้ก็คือเจดีย์ที่อยู่บนยอดเขาสูง ล้อมรอบไปด้วยทิวเขา บนเขานั้นจะมี 2 ฝั่ง คือฝั่งทางขวาจะได้ขึ้นไปนมัสการองค์พระธาตุ ซึ่งต้องเดินขึ้นบันไดเล็กๆ ขึ้นไปสามารถขึ้นไปได้ครั้ง 10 คน เท่านั้น แต่วิวด้านบนนั้นงดงามเป็นอย่างยิ่ง มองเห็นทิวทัศน์ของอำเภอแจ้ห่ม  ส่วนอีกฝั่งเป็นศาลาที่มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ สามารถมากราบไหว้กันที่จุดนี้ได้ แล้วยังเเห็นจุดที่วิวสวยเช่นกัน มองไปด้านหลังเป็นเจดีย์องค์เล็กองค์น้อยประดิษฐานอยู่บนยอดภูเขา

โดยช่วงหน้าฝนจะมีหมอกหลังฝนตกให้เราเห็นเต็มบริเวณวัด และได้สัมผัสความเย็นของหมอกและกลิ่นอายของหมอกได้แบบเต็มที่ ส่วนหน้าหนาวก็จะมีหมอกเช่นกันแต่จะสวยอีกแบบหนึ่ง

  • การขึ้นไปบนวัด
    ไม่สามารถขึ้นไปเองได้ ซึ่งจะมีที่จอดด้านล่างสำหรับนักท่องเที่ยว  แล้วใช้บริการรถรับส่งขึ้นไปเท่านั้นค่าบริการ คนละ 100 บาท (รวมไปกลับ) จากจุดบริการนักท่องเที่ยวด้านล่าง(จุดที่1) พาเราไปส่งถึงจุดบริการนั่งท่องเที่ยวด้านบน(จุดที่ 2) จากนั้นต้องเดินขึ้นไปสู่ยอดเขาอีกประมาณ 800 เมตร ช่วงนี้ก็ต้องออกแรงกันหน่อย (ควรพกน้ำดื่มให้พร้อม และเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยเพราะระหว่างทางไม่มีห้องน้ำให้บริการ) ถ้าระหว่างทางถ้าใครเหนื่อย ก็จะมีจุดพักต่างๆ สำหรับนักท่องเที่ยว เช่น จุดชมวิว หรือ ศาลา และทางวัดก็ติดป้ายเตือน ป้ายติดต่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ และป้ายบอกระยะทางให้กับนั่งท่องเที่ยวอีกด้วย

    ..ทางเดินขึ้นเป็นบันไดเหล็ก..

    ..จุดชมวิว อำเภอเมืองปาน..

    ..ป้ายต่างๆ ที่ทางวัดติดไว้..

    ..มุมนี้ถ่ายพระธาตุที่อยู่ฝั่งขวาจากศาลาที่อยู่ฝั่งซ้ายมือ..

    ช่วงหน้าฝนระหว่างเดินขึ้นบันไดก็เดินระมัดระวังกันหน่อยนะครับ อาจจะทำให้ลื่นได้ และควรเก็บสิ่งของให้ดีๆ เพราะถ้าตกอาจจะล่วงลงจากบันไดทำให้ยากต่อการค้นหาเนื่องจากเป็นภูเขาและเป็นหน้าผาสูง

    การเดินทางไปวัดเฉลิมพระเกียรติฯ

    • จากตัวเมืองลำปาง ใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 1035 จากตัวเมืองแจ้ห่มเลยไปประมาณ 1 กิโลเมตร มีทางแยกซ้ายมือ ตรงโค้งพอดีให้เลี้ยวเข้าไป จะมีซุ้มป้ายหมู่บ้านเขียนว่าบ้านใหม่เหล่ายาว  ขับไปอีกประมาณ 200 เมตร จะมีป้ายบอกทางไปวัดให้เลี้ยวซ้าย ขับไปประมาณ 4-5 กิโลเมตร เป็นทางลาดยางมะตอย
    • รายละเอียดเพิ่มเติม..............
      • เวลาเปิดปิด เสาร์-อาทิตย์ วันหยุดยาว 6.30-16.00 น.
      • เวลาเปิดปิด จันทร์-ศุกร์  7.30-16.00 น.
      • ค่ารถขึ้นมาคนละ 100 บาท (รวมไป-กลับ) ไม่อนุญาตให้เอารถส่วนตัวขึ้นไป
      • มีร้านอาหารบริเวณที่ลานจอดรถสำหรับนักท่องเที่ยวด้านล่าง
      • เดินทางมายังวัด จากอำเภอเมืองลำปาง ประมาณ 60-70 กิโลเมตร
      • พิกัด : Google Maps

    จุดเช็คที่สองคือ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน

    อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ อำเภอเมืองปาน อำเภอแจ้ห่ม อำเภอวังเหนือ และอำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง มีสภาพป่าอันอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร มีสัตว์ป่านานาชนิด และมีทรัพยากรทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง เช่นบ่อน้ำร้อน และน้ำตก 

    ซึ่งอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนห่างจาก วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ ประมาณ 20-25 กิโลเมตร ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะแวะมาเที่ยวหลังจากเที่ยววัดเสร็จ 

    เข้าเที่ยวในอุทยานจะมีค่าบริการคนละ 40 บาทและรถยนต์อีก 30 บาท (อัพเดทราคาเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2565)

    จุดแรกของอุทยานคือ  น้ำพุร้อน เป็นที่ที่นักท่องเที่ยวจะนิยมชอบนำไข่ไก่หรือไข่นกกระทา มาต้มที่บ่อน้ำพุร้อนกัน มีบ่อให้ต้มไข่ทั้งหมด 9 บ่อด้วยกัน แต่ละบ่ออุณหภูมิก็จะแตกต่างกันไป บางคนก็ซื้อจากร้านค้าข้างนอกอุทยานเข้ามาหรือบางคนก็ซื้อร้านค้าในอุทยาน มีหลากหลายราคาตั้งแต่ 20,  50, 100 บาท หรือขายยกแพงก็มีครับ

    อาจจะรอนานนิดหน่อยประมาณ 15 นาที ระหว่างรอไข่สุกก็ไปเดินเล่นรอบๆน้ำพุร้อนหรือไปถ่ายรูปรอก่อนก็ได้ ไข่ของท่านไม่หายแน่นอนครับ แต่อาจจะโดนย้ายที่จำตะกร้าไข่ของตัวเองให้ดีๆนะครับ

    ..นักท่องเที่ยวมาต้มไข่กัน..

    เมื่อถึง15 นาที ก็ไปเอาไข่ของเราได้ แต่ไข่จะไม่สุก 100 % นะครับ ถ้าเป็นไข่นกกระทาค่อนข้างจะสุก แต่ถ้าเป็นไข่ไก่จะเป็นไข่ยางมะตูม(จากที่ผมเคยมาต้ม เมื่อมาเที่ยวครั้งก่อน)


    ส่วนใครที่ชื่นชอบการแช่น้ำแร่ ก็มีห้องแช่น้ำแร่ให้บริการ มีทั้งแช่แบบส่วนตัว, แบบรวม หรือแบบสระกลางแจ้ง ค่าบริการก็มีหลากหลายราคาตามที่เราเลือก หรือสูดกลิ่นธรรมชาติของป่าไม้ สายน้ำ และลำธาร ที่ไหลจากน้ำตกผ่านมายังน้ำพุร้อน นอกจากนี้ยังมีนวดแผนโบราณไว้บริการสำหรับนักท่องเที่ยว ที่สนใจอีกด้วย

          เมื่อเที่ยวตรงบริเวณน้ำพุเสร็จแล้ว สถานที่ต่อไปก็เป็นน้ำตกแจ้ซ้อนครับ

          น้ำตกแจ้ซ้อนเป็นน้ำตกที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ที่แสนจะสงบ เป็นต้นกำเนิดลำน้ำแม่มอญ มีทั้งหมด 6 ชั้น แต่ละชั้นก็จะมีความสวยงามแตกต่างกันไป สามารถเล่นน้ำได้บางช่วงฤดูกาลเท่านั้น เพราะบางช่วงเจ้าหน้าที่ก็ไม่อนุญาตให้เล่นน้ำ เช่นช่วงหน้าฝน

          ขับรถเข้ามาข้างในอีกประมาณ 300 เมตร จะถึงลานจอดรถของน้ำตก และเดินต่อไปอีกนิดประมาณ 200 เมตรก็ถึงชั้นแรกของน้ำตกระหว่างทางก็จะเดินตามเส้นทางน้ำตก ทำให้เราได้สัมผัสความเย็นและเสียงของน้ำตกตลอดเวลา  ถือว่าทำให้เราเย็นสบาย ไม่เหนื่อย ไม่ร้อน และผ่อนคลายระหว่างการเดินไปยังน้ำตก 

          เที่ยวที่อุทยานแจ้ซ้อนคุ้มมากได้เที่ยวทั้งน้ำพุร้อน และน้ำตก

          แถมที่อุทยานยังมีเส้นทางธรรมชาติสำหรับผู้ที่สนใจเดินสำรวจด้วยนะครับ แต่ก็อย่าออกนอกเส้นทางหรือทำผิดกฏข้อบังคับที่ทางอุทยานได้กำหนดไว้ นะครับ

          รายละเอียดเพิ่มเติม..............

          • อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง 52240
          • เวลาเปิด เสาร์-อาทิตย์  7.00-18.00 น.
          • เวลาเปิด จันทร์-ศุกร์ 8.00-18.00 น.
          • ค่าเข้าอุทยาน คนละ 40 บาท ค่ารถ 30 บาท 
          • อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ห่างจากอำเภอเมืองลำปาง ประมาณ 72 กิโลเมตร
          • Facebook อุทยาน : อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน - Chae Son National Park
          • พิกัด : Google Maps

          จบทริปเรียบร้อยครับกับ One Day Trip แจ้ห่ม-เมืองปาน จ.ลำปาง | ขอบพระคุณครับ


          ฝากติดตามการเดินทางของผมได้ที่...............
          Facebook : ถ่ายเอาม่วน&แอ่วเอามันส์
          Instagram : taiaomuan_aewaomun
          Tiktok : nice_wittawat

          ครั้งต่อไปถ้าผมได้มีโอกาสจะเก็บความทรงจำ บรรยากาศ ภาพสวยๆ กับเรื่องราวการท่องเที่ยวมาเล่าให้ทุกคนได้รับชมกันใหม่นะครับ

          สุดท้าย..ถ้ามีส่วนไหนที่ผิดพลาดหรือควรแก้ไข ก็สามารถติชมหรือแนะนำผมได้เลยนะครับ ผมพร้อมน้อมรับและพร้อมจะแก้ไข

          ถ่ายเอาม่วน&แอ่วเอามันส์

           วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2565 เวลา 12.07 น.

          ความคิดเห็น