ลาวช่วงนี้น่าเที่ยวมาก เพราะค่าเงินอ่อน 1 บาท เท่ากับ 460 กีบ ทริปนี้เราพาไปเที่ยวกัน 3 เมือง เวียงจันทน์ หลวงพระบาง และกลับมาวังเวียง ทั้งหมด 9 คืน 10 วัน ฝากติดตามคลิป ติดตามรีวิว เที่ยวลาวทริปนี้ด้วยน้าทุกคน

คลิปวีดีโอรายละเอียดการเดินทาง

นั่งรถไฟตู้นอนชั้น 1 สายอีสานมรรคา กรุงเทพ - หนองคาย

คลิปวีดีโอรายละเอียดการเดินทาง

เที่ยวเวียงจันทน์ ต่อรถไฟความเร็วสูงไปหลวงพระบาง

Day 0 - นั่งรถไฟตู้นอนชั้น 1 สายอีสานมรรคา กรุงเทพ - หนองคาย

เริ่มต้นการเดินทางของเราทริปนี้เราเริ่มต้นจากหัวลำโพง เดินทางด้วยรถไฟแหละทุกคน วันนี้เราจะมารีวิวการนั่งรถไฟปรับอากาศชั้น 1ที่แพงที่สุด กรุงเทพ – หนองคาย สายอีสานมรรคา เป็นรถด่วนพิเศษ ราคาเฟริสคลาสเนี่ยแพงสุด เตียงบน 1,357 บาท เตียงล่าง 1,557 บาท แค่ขาไปอย่างเดียวน้าทุกคน เป็นการเดินทางที่สบายสุดๆ เลยแหละ

เวลาจองก็จองผ่านระบบออนไลน์เข้าเว็บการรถไฟเลย ง่ายและสะดวกสุดๆ ที่สำคัญเราได้ห้องชัวร์ๆ ไม่ต้องมาลุ้นหน้างาน รถไฟจะออกจากสถานีตอน 20.00 และถึงหนองคาย 06.25 ใช้เวลา 10 ชั่วโมงกว่าๆ

การเดินทางบนรถไฟของเราจะเป็นยังไง จะสนุกแค่ไหน เดี๋ยวเราจะเล่าให้ฟัง ถ้าพร้อมแล้วไปขึ้นรถไฟกัน

มาดูกันดีกว่า ว่าในห้องเฟริสคลาสของเรา มีอะไรบ้าง มีหน้าต่างไว้ดูวิว

มีโต๊ะ แล้วก็มีช่องว่างขวดน้ำ มีอ่างล้างหน้า ใช้งานได้นะ มีถังขยะ กระจก มีตู้ใส่ของให้เราด้วย มีหมอน แล้วก็มีสวิตซ์ควบคุม มี USB ชาร์จได้ มีช่องเสียบหูฟัง มีเพลงให้ฟังในนี้ มีจอบอกข้อมูล ว่าตอนนี้อยู่ไหน ห้องน้ำมีคนใช้อยู่ไหม มีบอกอุณหภูมิภายนอกด้วย ข้อมูลสำคัญมีบอกหมด ประตูห้องของเราสามารถล๊อกได้ มีแผนผังให้ มีสวิตซ์ปิดไฟด้วย 5555

ตอนนี้รถก็ออกแล้ว เสียงเงียบมากๆ รถไม่โยกแบบที่คิด เดี๋ยวเราไปดูห้องน้ำกันดีกว่า ว่าเป็นยังไง ในห้องเราไม่มีห้องน้ำนะค้าฟ มีแค่อ่างล้างหน้า ห้องน้ำสะอาด โอเคเลยอ่ะ อ่างล้างมือน้ำแรงปกติ มีสบู่ให้ มีห้องอาบน้ำให้ด้วย มีเครื่องทำน้ำอุ่นด้วย ดีมากอ่ะ

ถ้าจะปูที่นอน ก็กดปุ่มเรียกพี่เจ้าหน้าที่มาปูให้ เสร็จแล้ว ที่นอนของเรา เตียงบน เตียงล่าง มีผ้าปู มีหมอน มีผ้าห่มให้ ห่อมาอย่างดีเลย มีบันไดขึ้นเตียงบนให้เห็นแล้ว ป่ะเราขึ้นเตียงเลยดีกว่า ไม่คิดว่าจะนอนสบายนะเนี่ย แข็งแรงเลยแหละ เราว่าคนทั่วไป ลุกขึ้นนั่งหัวไม่ติดด้วยอ่ะ มีสวิตซ์สำหรับอ่านหนังสือหรือเล่นโทรศัพท์ก็ได้อ่ะ


Day 1 - หนองคาย - เวียงจันทน์ - หลวงพระบาง

ตอนนี้เราก็อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟันเสร็จเรียบร้อยแล้ว นั่งโง่ๆ มองดูวิวอยู่แบบชิลๆ มันดีมากเลย ได้เห็นเส้นทางธรรมชาติ ตู้นอนของเรามันไม่ได้ใหม่มาก แต่สะอาด แล้วก็นอนสบายมากๆ หลับมาเต็มอิ่มเลย แอร์เย็นมาก แนะนำให้ใส่กางเกงขายาวน้า เราว่าการนั่งรถไฟแบบชิวๆ 10 กว่าชั่วโมงมันดีมากๆ เลยนะ

เรามาถึงสถานีรถไฟหนองคายเวลา 06.20 น. มาเร็วกว่าเวลาจริง 5 นาที เก็บของลงจากรถไฟ เราว่าข้อดีของการนั่งรถไฟมันดีตรงที่ได้นอนยาวๆ ไป มันทำให้เราไม่เหนื่อย ไปถึงก็พร้อมเที่ยวต่อได้เลย

หลังจากถึงสถานีรถไฟหนองคาย เราก็นั่งรถจัมโบ้ (สามล้อ) ไปที่ด่าน คนละ 40 บาท แต่กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เราให้พี่คนขับไปส่งเราที่ร้านข้าวก่อน แวะร้านครัวคุนพิน กินโจ๊ก กับต้มเลือดหมูรองท้อง ที่นี่เค้ามีกล้วยเทพพนมเป็นออเดิฟให้เราด้วย อาหารอร่อย รสชาติดี ใครมาหนองคายเราแนะนำเลย

กินเสร็จเราก็เดินเท้าไปที่ด่าน

ประทับตราเสร็จก็เดินไปซื้อตั๋วรถข้ามด่าน คนละ 35 บาท ใช้เวลาประมาณ 5 นาที เราก็ข้ามมาฝั่งลาวแล้ว

ข้ามด่านมาจะมาเที่ยวลาว สิ่งที่ต้องมีคือ Passport กับหลักฐานฉีดวัคซีน แนะนำปริ้นไปด้วย

ก็แค่นั้นเลย ไปถึงด่านลาว กรอกใบ ตม. เตรียมเงินให้เค้าด้วย 20 บาท ยื่นแล้วก็ผ่านได้เลย ง่ายมากกกพอเดินออกมารู้สึกเหมือนเป็นเซเลปท่านหนึ่งเพราะมีแฟนคลับเข้ามารุมล้อม แย่งชิงตัวเรา 5555 ต้องการให้เราเหมารถนั่นเอง ราคาสูงเอาการอยู่นะ

ซิมเราซื้อแบบ 7 วัน และ 3 วัน 12 Gb ต่อรองราคาได้ที่ 96000 กีบ เป็นเงินไทย คนละ 200 บาท

ถ้าใครจะแลกเงิน แนะนำร้านป้ายขาวนะ หรือไม่ก็ดูเรทค่าเงินตอนนั้นก่อน เราแลกมาในอัตรา 1 บาท = 480 กีบ แลกเงินเสร็จเราก็จะดูเป็นคนรวยขึ้นมาทันที เพราะเราจะเที่ยวทริปนี้ 10 วัน 9 คืน ด้วยเงินล้านกันเลย

พอแลกเงินเปลี่ยนซิมเรียบร้อย เราก็เดินออกมารถที่เราจองผ่านเอเจนซี่ ให้มารับที่ด่าน พาเที่ยวในเมืองเวียงจันทน์ และไปส่งที่สถานีรถไฟ ในราคาคนละ 400 บาท เราว่ามันคุ้มนะ เพราะเราไม่ต้องเสียเวลาในการนั่งรถ และราคาต่างกันไม่มาก


เวียงจันทน์ เป็นเมืองหลวงของ สปป.ลาว บ้านเมืองเขาสวย สงบ แปลกนะที่ใครๆ ชอบบอกว่าเวียงจันทน์ไม่มีอะไร แต่วันนี้เราจะพาทุกคนเที่ยวเวียงจันทน์กันก่อนที่จะขึ้นรถไฟความเร็วสูงไปหลวงพระบางช่วงบ่าย

เริ่มต้นที่แรก น้าเพ็งบอกให้กินอะไรรองท้องก่อน พามาแวะร้านแหนมเนืองสีหอมก่อน เราไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ลงรถเดินเข้าร้านเลยจ้า ร้านแหนมเนืองขึ้นชื่อของเวียงจันทน์เลยแหละ เราสังเกตจากการที่นั่งอยู่ในร้าน มีทั้ง food panda และผู้คนวนเวียนเข้ามาสั่งคนละกล่องสองกล่อง

เราสั่งแหนมเนือง 6 ไม้ และพันหอม 8 คำ มาเสริฟ์ทีเราตกใจเลย ให้ชุดผักและแป้งมาคนละชุดเลย ผักเยอะมากๆ ถามว่ากินหมดมั้ย หมดทุกอย่างยกเว้นผัก 5555 แหนมเนืองกับน้ำจิ้มและเครื่องเคียงอร่อย พันหอม กับน้ำจิ้มที่ออกเปรี้ยวๆ นิด ตัดกันดี๊ดี เราชอบอ่ะ ค่าเสียหายอยู่ที่ 104,000 กีบ ถูกกว่าเมืองไทยอ่ะ

ออกจากร้านแหนมเนืองสีหอม ครั้งนี้เราได้ไปร้าน Joma Bakery Cafe ใช้เวลาเดินทางแป๊บเดียว นัดเวลากันไว้ ให้มารับเราตอน 11.00 โมง ใช้เวลาในคาเฟ่ 1 ชั่วโมง

ร้าน joma ขึ้นชื่อเรื่องกาแฟ และขนมปัง อร่อย ราคาไม่แรง ค่าเสียหาย 76,000 กีบ

เมนูที่เราสั่ง
- ice latte
- lemon ice tea
- Butter Croissant

ร้านไม่ได้ตกแต่งสวย แต่มันต๊าซมาก มุมถ่ายรูปชิคๆ มีหลายมุมเลย โดยเฉพาะชั้นสอง มุมโค้งคุมโทนสุดๆ ถ่ายออกมายังไงก็สวยอ่ะ ถ้ามาเวียงจันทน์ต้องไม่พลาดร้านนี้น้า แล้วเราก็ไปต่อกันที่ประตูชัย หรีอ ประตูไซ

จุดแลนด์มาร์คของนครหลวงเวียงจันทน์ มาช่วงกลางวันร้อนจนต้องร้องขอชีวิตเลยแกรร๊ เราว่าถ้ามาช่วงเย็น พระอาทิตย์ใกล้ตก น่าจะอากาศดี ที่นี่เค้ามีเปิดไฟน้ำพุด้วยน้า อ้อ !! ที่นี่สร้างขึ้นเพื่อเป็นการสดุดีวีรชนผู้ร่วมรบเพื่อประกาศเอกราชจากประเทศฝรั่งเศส รายละเอียดอื่นๆ ไปหาอ่านกันเอาน้า

บริเวณรอบๆ ประตูชัย หรีอ ประตูไซ มีของที่ระลึกขายด้วยน้า ใครจะหาซื้อของฝากก็หาได้น้า ราคาไม่แรง

และที่สุดท้ายที่เราจะแวะกันก่อนไปขึ้นรถไฟ ก็พระธาตุหลวงเวียงจันทน์

อีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญ เพราะเป็นปูชีนยสถานสำคัญแห่งเวียงจันทน์ เป็นสถานที่ซึ่งสำคัญมากๆ และเป็นอีกที่ที่ห้ามพลาดเลยน้า ถ้ามาเวียงจันทน์ มีค่าเข้า 30,000 กีบ คิดเป็นเงินไทย 63 บาท

เข้ามาด้านในก็จะเป็นองค์เจดีย์สีทองอร่าม สวยมากๆ และเป็นจุดถ่ายรูปที่สวยมากๆ เลย

มีซุ้มอยู่ทั้งสี่ด้าน ไว้ให้สักการะ หรือใครจะเดินวนรอบเจดีย์ก็ได้นะ เราเข้าทางออกอีกทาง เพราะจะไปไหว้พระนอนองค์ใหญ่ สวยมากๆ เช่นกัน

ออกจากพระธาตุหลวงเวียงจันทน์ ตอนแรกแพลนว่าเราจะไปหอพระแก้ว แต่ดูเวลา และสภาพร่างกายแล้ว เราตัดสินใจไม่ไป ให้น้าคนขับรถไปส่งเราที่สถานีรถไฟเลย จากตัวเมืองเวียงจันทน์ไปสถานีรถไฟใช้เวลานาน แนะนำให้เผื่อเวลาการเดินทางไว้สัก 1 ชั่วโมงกันพลาด

เรามาถึงสถานีรถไฟความเร็วสูงประมาณ 14.10 น. จ่ายเงินให้น้าคนขับรถไป 1,000 บาทไทย ทอนมาให้เรา 100,000 กีบ ไม่รู้ทอนกันถูกป่าว เพราะเรางงๆ 555

ทริปวันเดียวนั่งสามล้อ หาของกิน แวะคาเฟ่ เช็คอินแลนด์มาร์คถ่ายรูปกันจุใจ จนตัวเราเองก็ไม่คิดว่า เวียงจันทน์ จะน่าอยู่ขนาดนี้ ลองมาเที่ยวกันดูนะ

หลังจากผ่านด่านตรวจตั๋วรถไฟ ตรวจกระเป๋าเสร็จเรียบร้อย เราก็เข้ามานั่งรอด้านในสถานี (ถ้าใครมีแอลกฮอล์ล้างมือต้องทิ้งน้า แนะนำให้พกเจลแทน)

ห้องน้ำภายในสถานีรถไฟเวียงจันทน์ กว้างขวางมากๆ มีไว้สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะเลยแหละ สะอาด มีพนักงานคอยทำความสะอาดตลอดเวลาเลย มีทั้งแบบชักโครก และนั่งยองให้เลือก

เราได้นั่งรถไฟความเร็วสูงไปหลวงพระบาง คิดว่าชีวิตคอมพลีท แต่เจอธรรมชาติสู้กลับ แพลนถึงหลวงพระบาง 17.05 จะไปเดินเล่นใช้ชีวิตสโลวไลฟ์

แต่ฝนตกกระหน่ำทำให้การเดินทางจากวังเวียงไปหลวงพระบางล่าช้า เพราะรถไฟต้องจอดรอ แต่วิวระหว่างทางคือสวยมากจริงๆ ขนาดฝนตกหนักนะเนี่ย

เราไปถึงหลวงพระบาง 19.25 น. ทุกอย่างผิดแผนไปหมดเลย หลังจากที่เจอพายุ 5555

ออกจากสถานีรถไฟมา หยิบกล้องขึ้นมากดชัตเตอร์ถ่ายรูปสถานีเสร็จ ก็รีบวิ่งมายังคิวรถตู้สาธารณะ เพื่อเข้าเมือง คนละ 35,000 กีบ นั่งรถประมาณ 15 นาที

เราลงตรงตลาดมืด แล้วก็เดินไปยังที่พัก เราพักกันที่ Luang Prabang Resident The Boutique เช็คอินห้องพักเรากว้างมาก ห้องน้ำสะอาด

มาถึงเหนื่อยๆ ได้พักแบบนี้หายเหนื่อยเลย เอาของเก็บเสร็จ นอนเล่นสักพักเราก็ไปหาอะไรกินที่ตลาดมืด อยู่ตรงที่พักเลย เดินไม่กี่ก้าวเองแกรร๊

ตลาดมืดมีของขายเยอะมากๆ เราเลือกไปหาของกินโซนข้างทาง
- หมูสามชั่น กับซี่โครงหมู 40,000 กีบ
- หมูหวาน 30,000
- ข้าวซอยหมู ชามละ 18,000 กีบ
- แป๊บซี่ แก้วละ 6,000 กีบ

เสร็จแล้วเราก็เดินเล่นในตลาดมืด ก่อนที่จะไปถามเส้นทางที่จะไปสถานีรถสายเหนือกับคุณลุงสามล้อ พร้อมนัดเวลาที่จะมารับกันเรียบร้อย เรารีบกลับเข้าที่พักก่อนที่ฝนจะตกลงมาทั้งคืน


เพราะการเที่ยวเยอะๆ มันช่วยทำให้เราลืมเรื่องไม่สบายใจได้ระยะหนึ่ง ถ้าไม่เชื่อลองไปเที่ยวดู

ค่าใช้จ่ายวันแรก
- ค่ารถไฟ  1,357 + 1,557  = 2,914 บาท 
- รถจัมโบ้ (สามล้อ) ไปที่ด่าน 120 บาท **
- ค่าโจ๊ก + ต้มเลือดหมู 120 บาท **
- ตั๋วรถข้ามด่าน คนละ 35 บาท
- ค่าข้ามด่าน คนละ 20 บาท
- ค่าซิมโทรศัพท์ 200 บาท
- แหนมเนืองสีหอม 104,000 กีบ เงินไทย 217 บาท **
- Joma Bakery Cafe 76,000 กีบ 159 บาท **
- ค่าเข้าพระธาตุเวียงจันทน์ 30,000 กีบ เงินไทย 63 บาท
- Day Trip เที่ยวเวียงจันทน์ 800 บาท **
- ค่ารถไฟเวียงจันทน์ - หลวงพระบาง  คนละ 700 บาท (เอเจนซี่จอง)
- รถตู้สาธารณะ เข้าเมืองหลวงพระบาง คนละ 35,000 กีบ 73 บาท
- ที่พัก Luang Prabang Resident The Boutique 200,000 กีบ 417 บาท **

ค่าใช้จ่าย คนละ 3,465 บาท

#สถานีรถไฟหัวลำโพง #อีสานมรรคา #นั่งรถไฟเฟิร์สคลาส #หนองคาย #กรุงเทพ #รีวิวรถไฟ
#lao #เที่ยวลาว #vientiane #เวียงจันทน์ #หลวงพระบาง #เที่ยวให้คนอิจฉา

เ ที่ ย ว ใ ห้ ค น อิ จ ฉ า

 วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2565 เวลา 14.40 น.

ความคิดเห็น