สวัสดีค่ะ เด็กจิ๋วมาชวนเที่ยวทะเลอีกแล้วค่ะ

คราวนี้เป็นทริปภูเก็ต ซึ่งจุดประสงค์หลักในตอนแรกที่เราตั้งใจจะไปภูเก็ตเพราะอยากไปศาลาภูเก็ต (ก็ตามรอยรีวิวใน BP นี่แหละค่ะ) แต่เมื่อไปไกลถึงภูเก็ตแล้ว จะเที่ยวแต่ที่รีสอร์ทก็กระไรอยู่ เลยต้องไปเที่ยวตามหาน้ำทะเลใสๆ ทรายขาวๆ ที่เกาะสวยๆ ใกล้ๆ ภูเก็ตที่เราจะสามารถไปกลับได้ในวันเดียว และนั่งเรือไม่ไกลค่ะ

หลังจากหาข้อมูลแล้ว เราก็ต้องแปลกใจว่ามันมีเกาะใกล้ๆ ภูเก็ตที่เราไม่เคยไป ไม่ค่อยรู้จัก แต่ก็สวยงามไม่แพ้ใครอยู่หลายเกาะเลยทีเดียว ไม่รอช้า แม่จัดการจองทัวร์ไปเกาะต่างๆ เหล่านั้นทันที

ขออนุญาตแบ่งรีวิวชุดนี้ออกเป็นสองตอนนะคะตอนแรกนี้ไปเที่ยวเกาะกันก่อน

ตอนหน้าจะพาไปพักผ่อนสบายๆ ที่ Sala Phuket กันค่ะ



พร้อมแล้วไปลงทะเลกับเด็กจิ๋วเลยค่ะ

เด็กจิ๋วออกเดินทางท่องเที่ยวมาตั้งแต่อายุ 5 เดือนนะคะ ชมเรื่องราวการเดินทางของเด็กจิ๋วได้ที่นี่ค่ะ

https://www.facebook.com/DekJewChillOut

http://www.dekjewstory.blogspot.com/

https://www.youtube.com/user/DekJewChillOut


เราเดินทางกันด้วยสายการบิน Orient Thai ซึ่งเด็กจิ๋วชอบมาก เพราะมีแจกถั่ว

(ตอนหลังแม่พานั่ง TG เด็กจิ๋วไม่ชอบ เพราะพี่แอร์ไม่แจกถั่ว)

วันแรกเราไปถึงกันค่ำมืดแล้วก็เข้าโรงแรมนอนเลย เก็บแรงไว้ตะลุยเกาะพรุ่งนี้กัน

สองคืนแรกเรานอนที่ Blu Monkey โรงแรมน่ารักๆ ที่ราคาก็น่ารักๆด้วย (เป็นเหตุผลหลักที่เลือกที่นี่ หุหุ)

เข้าประตูมาก็จะเจอกับเคาท์เตอร์เช็คอิน ตกแต่งน่ารักๆ


มีของที่ระลึกเป็น series ลิงน้อยสีฟ้าจำหน่ายด้วย


ห้องที่เราพักอยู่ชั้นล่าง อันนี้แจ้งขอไว้ตั้งแต่ตอนจองเพราะคิดว่าน่าจะสะดวกกับการขนย้ายสัมภาระและเด็กจิ๋วมากกว่าชั้นบนเพราะเนื่องจากที่นี่ไม่มีลิฟท์

ห้องพักตกแต่งเก๋ๆด้วยโทนสีขาวดำ มีวาดลวดลายสวยๆบนกำแพง ทำให้ดูดีมากโดยไม่ต้องพึ่ง wallpaper

ห้องน้ำขนาดกำลังพอดี ถึงจะไม่กว้างขวางแต่ก็สะอาด และสะดวกสบายดี

เนื่องจากได้หลับเอาแรงบนเครื่องบินมาแล้ว มาถึงโรงแรมเด็กจิ๋วเลยไม่ยอมหลับยอมนอน คึกคักมากเป็นพิเศษ

พาออกมาดูนอกห้องกันบ้างนะคะ

อันนี้เป็นบันไดขึ้นชั้นสอง

ตรงทางเข้าห้องพักมีตู้แช่อาหารแช่แข็งด้วย เราไปรับแจกมา 2 set เนื่องจากมีรวมอยู่ใน voucher ที่ซื้อมาจากงานท่องเที่ยว

อาหารก็จะเป็นพวกเกี้ยวน้ำ บะหมี่โน่นนี่ รับแล้วก็มีไมโครเวฟให้อุ่นเอาไปทานที่ห้องได้ค่ะ

แอบเดินขึ้นบันไดมาดูชั้นบนนิดนึง


ถ้าจำไม่ผิดน่าจะมีสามชั้นนะคะ โรงแรมตกแต่งเรียบๆ สีขาว ดำ เทา ดูทันสมัยดีค่ะ


เช้าวันต่อมา รถจากบริษัททัวร์ก็มารับแต่เช้าตรู่ เพื่อไปเที่ยวทริปเกาะเฮ เกาะราชา (รายา) แบบเต็มวัน


นั่งรถไม่น่าจะไกล แต่นาน เพราะรถตู้ต้องวนรับแขกหลายโรงแรม (มารับเราเป็นเจ้าแรกซะด้วย)

รถตู้มาส่งเราที่สำนักงานของบริษัททัวร์ แถวอ่าวฉลอง ซึ่งเราตกใจเล็กน้อย เพราะคนเยอะมากๆ คนจีนเยอะมาก เกาหลีเยอะ ฝรั่งก็มี ไทยน้อยสุด

จากนั้นก็แจกสติ๊กเกอร์สีๆ แปะที่เสื้อเป็นการแบ่งว่าใครไปเรือลำไหนกับไกด์คนไหน

(ซึ่งอันนี้ไม่ดีเลย เพราะพบว่าพอตัวเปียก มันก็หลุดเป็นขยะลงทะเล เราไปเจอเศษขยะสติ๊กเกอร์สีๆที่เกาะเยอะเลยค่ะ ความจริงมันมีวิธีแบ่งสีแบบอื่นอีกตั้งเยอะนะ เช่นสายรัดข้อมือ ถ้ากลัวเปลือง เอาเป็นเชือกก็ได้ - -' )

เกาะเฮ (Coral Island) เป็นเกาะเล็กๆที่คึกคักมาก คนเยอะมากเมื่อเทียบกับขนาดของเกาะ เราว่ามันเยอะเกินไปด้วยซ้ำ


คือแทบจะไม่มีที่นั่งเล่นชิลๆ เลย เราปูเสื่อนั่งเล่นใต้ต้นไม้กับลูก จะมีคนเดินผ่านไปมา เหยียบทราย เตะทรายเข้ามาในเสื่อตลอดเวลา (ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน)

มันเลยทำให้ที่นี่สวยน้อยลงไปหน่อย ทั้งๆที่ถ้าพิจารณาเฉพาะสีน้ำทะเล หาดทราย (ขาวละเอียดมาก) ที่นี่ก็สวยมากๆ ไม่แพ้เกาะไกลๆในอันดามันเลย

นักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาเรือเดียวกับเราเล่นเรือลากล่ม (พาราเซลล์) ด้วย ทั้งๆที่ไกด์ให้เวลาที่นี่แว้บเดียวมากๆ สามารถจริงๆ


งานนี้เด็กจิ๋วเตรียมมาลงทะเลเต็มที่ ดำก็ไม่หวั่น


มีเรื่องบ่นไกด์อีกคือตอนจะกลับจากเกาะเฮ เรารอกันตรงจุดนัดหมาย แต่คนยังมาไม่ครบ ปะป๊าเลยขอวิ่งไปถ่ายรูปอีกนิด


พอคนมาครบ ปะป๊าดันยังไม่มา ตะโกนเรียกก็ไม่ได้ยิน ไกด์บอกให้เราไปตาม คือเราอุ้มลูก สะพายกระเป๋ากล้องใหญ่มาก ถือเสื่อ ถืออุปกรณ์เล่นทรายของลูก ยืนละล้าละลังอยู่ตรงข้างๆเรือ เราบอกไกด์ว่าฝากของไว้ก่อน เดี๋ยววิ่งไปตามปะป๊า แต่ไกด์เฉยๆ อ่ะ เอ่อ... ไม่ช่วยเหรอ งงเลย (ในใจคิดว่ามันไม่ไกล เพียงแต่เค้าไม่ได้ยินเราเรียก เค้าหันหลังอยู่ด้วย มองไม่เห็นเราว่าจะขึ้นเรือแล้ว ถ้าไกด์วิ่งไปซักสิบก้าว เรียกให้ ก็ไม่น่าจะเดือดร้อน เพราะสภาพเราวิ่งไปไม่ไหวจริงๆ ถ้าจะให้เราวิ่งไป ฝากของหน่อยได้มั้ย?) ระหว่างที่กำลังงงว่าจะเอาไงดี เรือจะทิ้งเราสามคนมั้ย ปะป๊าก็หันมาเห็น แล้ววิ่งมาขึ้นรือทันพอดี อันนี้เราก็รู้ว่าเราผิดเอง ที่ปะป๊าดันวิ่งไปถ่ายรูปตอนเค้าจะขึ้นเรือ แต่ไกด์น่าจะมีน้ำใจให้ซักนิด ช่วยถือของก็ยังดี อันนี้ทำให้ลดระดับความงามของเกาะไปอีกจิ๊ดนึง

มุมนี้แหละที่ปะป๊าวิ่งมาถ่ายรูปก่อนขึ้นเรือ


ออกจากเกาะเฮ นั่งเรือมาไม่นานก็มาถึงเกาะราชา ซึ่งไกด์จะเรียกว่ารายา


มีฝรั่งถามว่าทำไมมันมีสองชื่ออันไหนคือชื่อที่ถูกต้อง เดี๋ยวรายา เดี๋ยวราชา งง (เออ..เราก็อยากรู้เลยรอฟังคำตอบด้วย)

ไกด์ก็เฉไฉเรื่องอื่น ไม่ตอบซะงั้น ตอบไม่ได้หรือไม่อยากตอบ หรืออะไร ฝรั่งก็งงไป ไทยก็งงตาม

พอขึ้นฝั่งไกด์ก็นำพวกที่ไม่ไปดำน้ำไปกินข้าวกลางวันกัน ส่วนใครดำน้ำ ก็จะตามไปกินทีหลัง


ร้านที่กินเรียกได้ว่าอยู่กลางๆเกาะ ต้องเดินลึกเข้าไปพอสมควร แดดก็ร้อนมาก เราเลยว่ามันทรมานไปนิดนึง

อาหารจะจัดแบบบุฟเฟต์ คุณภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และไม่อร่อยสำหรับเราเลย

(555 ตั้งแต่เริ่มทริปมา มีบ่นโน่นนี่เยอะแยะเลย ทำไงได้คะ มันไม่ถูกใจจริงๆ สถานที่สวย วิวสวย แต่การบริการไม่ดีจริงๆ ไม่รู้ว่าทัวร์บริษัทอื่นเป็นแบบนี้รึเปล่า)

หลังทานข้าวเสร็จเรามานั่งเล่นกันที่หาดเป็นเวลานานมากๆ คงเป็นเพราะเราไม่ไปดำน้ำ ทำให้มีเวลาที่หาดนานขนาดนี้


ที่นี่แดดร้อนมาก เช่าร่ม เช่าเตียงผ้าใบก็เอาแทบไม่อยู่


ถึงแม้อากาศจะร้อนมากมาย แต่เด็กจิ๋วชอบมาก ทรายที่นี่เนียนละเอียดเหมือนแป้ง นุ่มมากๆ เล่นสนุกสุดๆ


ระหว่างที่แม่กับเด็กจิ๋วเล่นทรายบ้าง เล่นน้ำทะเลบ้าง ปะป๊าก็เดินทะลุเกาะไปถ่ายรูปอีกด้าน


ตรงนี้คนจะน้อยกว่าตรงหน้าเกาะที่เรามาลงเรือมากๆ

เกาะรายามีรีสอร์ทสวยๆหลายที่เลย ลองดูราคาใน web โอว..แพงมากเหมือนกันนะเนี่ย


เล่นน้ำ เล่นทรายเสร็จ ก็มาอาบน้ำ นั่งกินโรตี รอเวลาขึ้นเรือ


คราวนี้ปะป๊าไม่แว้บไปไหนแล้ว จ้องรอเวลาขึ้นเรือเลย เดี๋ยวแม่ลำบากอีก

ได้เวลากลับกันแล้ว


สรุปทริปเกาะเฮ เกาะรายานี้ ทะเลสวย ทรายขาว เล่นน้ำสนุก แต่ไม่ค่อยประทับใจในบริการเท่าไหร่ค่ะ

พอกลับถึงโรงแรม อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็เรียกแท็กซี่ไปร้านระย้า


(ค่าแท็กซี่ที่ภูเก็ตนี่โหดจริงค่ะ ใกล้จิ๊ดเดียว โดนไปสองร้อย)

เราสั่งแกงปู ปลาหมึกผัดไข่ ผัดใบเหลียง และผัดซีอิ๊วกุ้งให้เด็กจิ๋ว

ก็อร่อยนะคะ แต่เราคงคาดหวังไว้สูงไปมากๆ เลยไม่ฟินเท่าที่ควรค่ะ

ทานข้าวเสร็จก็ไปเดินเล่นซอยรมณีย์


ขากลับโรงแรมนี่สิ ไม่สามารถหารถได้เลย มีกะป๊อผ่านมากี่คันๆก็ไม่รับ ไม่รู้ทำไม

ในที่สุดสามคนพ่อแม่ลูกเลยต้องนั่งเมล์เครื่องกลับโรงแรม

555 เป็นครั้งแรกของเด็กจิ๋วเลยที่ต้องซ้อนมอเตอร์ไซค์ แต่คนขับก็ดีมากๆค่ะ ขับให้ช้าๆเลย กลัวไม่ปลอดภัย

เช้าวันต่อมา เรามีโปรแกรมไปเกาะไข่ แบบทัวร์ครึ่งวันกัน


ซึ่งวันนี้เรามีเพื่อนเด็กจิ๋วมาสบทบด้วย

รถตู้มารับเราแต่เช้าตรู่เหมือนเดิม


เรานั่งเรือแค่เพียง 20 นาทีก็มาถึงเกาะไข่ในแล้ว

ดูเหมือนว่าเรือเราจะเป็นลำแรกๆที่มาถึง เพราะที่เกาะยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเท่าไหร่ (ผิดกับเกาะเฮเมื่อวานนี้)

ที่เกาะไข่ใน น้ำใส สีสวย ทรายขาวละเอียดมาก

มีนักท่องเที่ยวเอาขนมปังไปเลี้ยงปลา (อีกแล้ว) เมื่อไหร่ทางทัวร์จะประชาสัมพันธ์รณรงค์ไม่ให้ทำอย่างนี้ก็ไม่รู้


เราเช่าเก้าอี้ นั่งเล่นกันอยู่แถวๆที่ลงจากเรือนั่นแหละค่ะ


ส่วนปะป๊าเดินไปสุดเกาะตรงที่มีแหลมยื่นออกไป เดินกลับมาเลือดโชกขาเลย

เนื่องจากว่าลื่นก้อนหิน แล้วมันมีเพรียง บาดซะลึกเลย

เดินทะลุมาอีกด้านนึงของเกาะ ก็พบว่ามีเตียงผ้าใบวางเรียงเอาไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกจำนวนมากเลย


แล้วก็มีนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมากกำลังทยอยมาขึ้นเกาะ

ตรงกลางๆของเกาะ จะมีเพิงที่ปลูกไว้คล้ายว่าเป็นร้านอาหาร


อีกมุมนึงของเกาะ


ถ่ายรูปกันเพลินๆ แป๊บๆ ไกด์ก็ตามขึ้นเรือไปจุดต่อไปแล้วค่ะ


จุดสุดท้ายที่มาแวะคือ เกาะไข่นอก


พวกเราประทับใจวิวที่เกาะไข่นอกกันมากๆเลยทีเดียว ไม่น่าเชื่อว่าจะสวยขนาดนี้

น้ำใสมาก ทรายขาวมาก (แล้วก็ร่มกับเก้าอี้ผ้าใบเยอะมากๆ)

ปลาที่นี่เยอะมาก แค่เดินลงไปในน้ำสองก้าวก็เจอเพียบเลยค่ะ


ปลาคงคุ้นกับการที่นักท่องเที่ยวให้อาหาร ก็เลยมารอกันเต็มไปหมด

แต่เสียใจด้วยนะจ๊ะ เราไม่ให้ เธอไม่ใช่คนนะจ๊ะ ไม่ควรกินขนมปัง

บาร์ข้างๆ ดูดิบๆ เซอร์ๆ สวยไปอีกแบบ


เกาะอัดแน่นไปด้วยร่มสีๆ อยากเห็นที่นี่ตอนไม่มีร่มกับเก้าอี้ผ้าใบจัง คงสวยมากๆเลย


ที่เกาะไข่นอกไกด์มีเสิร์ฟผลไม้เย็นชื่นใจและขนมปัง แซนด์วิชด้วย


นั่งหม่ำชิลๆ เล่นน้ำ เล่นทรายกันแป๊บนึง ก็ได้เวลากลับแล้ว

หมดแล้วค่ะ สำหรับตอนเที่ยวหมู่เกาะรอบๆ เกาะภูเก็ต แค่สองวันนี้เด็กจิ๋วก็ดำไปมากเลยค่ะ


เราโชคดีมากที่ถึงแม้จะมาเที่ยวเดือนตุลาคม แต่ฟ้าก็ใส ไม่มีฝนเลยซักเม็ดค่ะ

ตอนหน้าเด็กจิ๋วจะพาไปพักผ่อนนอนเล่นกันสบายๆ ที่ ศาลาภูเก็ตนะคะ

อย่าลืมตามมาเที่ยวต่อนะคะ

Dek Jew Chill Out

 วันอังคารที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 13.58 น.

ความคิดเห็น