ว่าจะไม่เขียนรีวิวแล้ว เพราะขี้เกียจ เราเคยไปเที่ยวเชียงคานแล้ว 4 ครั้ง ก็เขียน blog เขียนรีวิวไว้ทุกครั้ง เอาว๊ะ ครั้งนี้ ครั้งที่ 5 เขียนซะหน่อย เดี๋ยวรอบนี้เค้าจะเสียใจ 

10 ปีผ่านไป มาดูว่าเชียงคาน จะเปลี่ยนไปขนาดไหน 

ครั้งที่ 1 ปี 2555  (31/12/54-2/1/55) เชียงคานครั้งที่ 1

ครั้งที่ 2 ปี 2557  (5-7/12/57) เชียงคานครั้งที่ 2

ครั้งที่ 3 ปี 2558 (4-5/10/58) เชียงคานครั้งที่ 3

ครั้งที่ 4 ปี 2560 (8-9/10/60) เชียงคานครั้งที่ 4

ครั้งนี้ เราไปเชียงคานกับครอบครัว ด้วยการเช่ารถตู้จากกรุงเทพฯ ไป ข้อดีของการไปรถคือได้พูดคุยกันไปตลอดทาง เพราะว่าแต่ละคนพอโตขึ้นก็แยกย้ายมีครอบครัว พอได้มีโอกาสไปเที่ยวด้วยกัน การได้คุย ได้ร้องเพลงระหว่างทางไป มันช่างมีความสุขเสียนี่กระไร 

แต่ข้อเสียของการนั่งรถไป คือเมื่อย และนานมาก ๆ แวะโน้น แวะนี่ กว่าจะถึงเชียงคาน ใช้เวลา ประมาณ 10 กว่าชั่วโมง 555

แต่ก็ได้แวะทานอาหารระหว่างทางได้นะ อิ ๆ 

และแวะถ่ายรูปนิดหน่อย เข้าจังหวัดเลยแล้วนิ

มา จ.เลยหลายครั้งก็ไม่ได้เข้ามาไหว้พระธาตุศรีสองรักเลย เพราะติดที่คนนั้น คนนี้ ใส่เสื้อสีแดง แต่ทริปนี้ ไม่พลาด เพราะไม่มีใครใส่สีแดง หรือมีอะไรเกี่ยวกับสีแดงเลย  ลุย

นักท่องเที่ยวไม่มี 

และเข้าที่พัก ครั้งนี้เราจองที่พักไว้ 2 คืน มาหลายครั้งยังไม่เคยนอนซ้ำเลย เปลี่ยนที่ไปเรื่อย ๆ 

ที่พักติดริมน้ำโขงมักราคาสูง แต่จริง ๆ แล้วก็ไม่จำเป็นหรอก เพราะชีวิตส่วนใหญ่เราก็เดิน กิน นั่งรถไปเที่ยวอยู่แล้ว เลือกที่พักใกล้ถนนคนเดินดีกว่า หิว เมื่อไหร่ ก็ออกมาได้เลย (แต่ถ้ามีงบมากพอ ก็นอนริมน้ำโขงก็จะสวยงาม และแนะนำให้นอนชั้นบน เพราะเรามีประสบการ์ณไม่ดี กับการจองที่พักติดริมน้ำโขง แต่อยู่ชั้นล่างเมื่อครั้งที่แล้ว เลยเข็ดมาก ๆ เสียเงินแต่ไ่ม่ได้นอน  แค้น ๆ  55)

อันนี้ห้องนอน 4 คน 

ห้อง 2 คน 

อีกห้องไม่ได้ถ่าย และทางเดินหน้าห้อง สามารถเปิดไประเบียงได้ 

ที่พักที่เชียงคาน ก็จะเป็นแนววินเทจ น่ารัก ๆ ถ่ายรูปสวยทุกมุม และมีให้เลือกเยอะมาก ๆ ถ้ามาวันธรรมดา ไม่ต้องจองก็ได้ เดินเลือกหาเอาที่ชอบได้ ถ้าที่ไหนว่าง เค้าจะติดป้าย "ว่าง" เข้าไปถามราคา ขอดูห้องก่อนได้เลยจ้า 

แต่ถ้าใครไม่ชอบเดินหา ก็จองล่วงหน้าเลยสะดวกดี  (แต่พอเวลาเดินเที่ยวถนนคนเดิน จะโดนบ่น อ้าว ทำไมไม่จองที่นี่หล่ะติดแม่น้ำด้วย ... เฮ้ย ! ที่นี่ทำเลดี แถมถูกกว่าอีก 555) 

กิจกรรมเชียงคานวันแรก ก็ไม่มีอะไร เย็น ๆ เดินเล่นริมโขง รอดูพระอาทิตย์ตก 

พอดูเสร็จ ก็เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข คือการกิน 

ตำหลวงพระบาง ไม่เคยทาน ต้องลองซะหน่อย  (นอกนั้นก็จะเป็นพวกปลาแม่น้ำ ที่ขึ้นชื่อของที่นี่ อื่มม ลืมถ่ายซะงั้น)

มื้อเย็นขอเตือนว่าอย่าจัดเต็ม (ไม่ทันแระ)  เพราะทานเสร็จมาเดินถนนคนเดิน หูย ของกินเยอะแยะ แต่ไม่มีท้องจะกิน 55 (ไว้พรุ่งนี้แก้ตัวอีกคืน)

พระเอกของที่นี่ก็คือ กุ้งเสียบไม้ 

เทคนิคเวลาซื้อทาน ให้ซื้อก่อน 1 ไม้ ลองชิม ก่อน บางร้านเค็ม (อร่อย บ้านเราชอบ)  บางร้านหวาน (เหม็นคาว)  ถ้าไม่โดนก็ไปข้างหน้า เพราะมีขายหลายร้านมาก ๆ 

สรุปทริปนี้ ทุกคนชอบกุ้ง 2 คืนจัดไปหลายสิบไม้ อร่อยมาก ๆ หาทานไม่ได้นอกจากที่นี่ที่เดียว 

และที่เราชอบมาก ๆ อีกอย่างคือเมี่ยงคำ 

 ไม้ละ 10 บาท ให้ซื้อก่อน 1 ไม้ ชิมดู บางเจ้าหวานมาก เดินกินหลายร้าน ชอบร้านนี้ที่สุด จัดไป 2 คืนกินจนเมื่อยฟัน 55

ถนนคนเดิน จะคึกคัก และร้านค้าจะเปิดเยอะ คืนวัน ศ ส อ  (คืนแรกเราเดินวันอาทิตย์ คนน้อยมาก ๆ แต่อีกคืนวันจันทร์คนกับคึกคักมากกว่า สงสัย นักท่องเที่ยว เริ่มเลี่ยงวันหยุดมาเที่ยววันธรรมดากันเยอะขึ้น)

ขอรวบ 2 คืน มารวมกันเลยแล้วกัน จะได้ดูไปยาว ๆ 

มีร้านค้าเปิดใหม่ เยอะเลย 

นึกว่าอยู่ฮอยอัน 

เจ้าถิ่น น้องดำ

น้องขาว

ช่วยการศึกษาน้อง ๆ 

ผัดไทย เจ้านี้อร่อย

แถมมันน่ารักตรงนี้ 

นี่ก็ต้องโดน...  สมัยนี้โชว์ภาพก็ไม่ได้ เดี๋ยวผิดกฏหมาย 

รุ่งเช้า ตื่นมาใส่บาตรพระกัน ถ้าตามซอย พระจะบิณฑบาตรเร็ว 6 โมงพระก็มาแล้ว แต่ถ้าถนนใหญ่ ก็มาประมาณ 7 โมง

ชุดใส่บาตรถามที่พักได้เลย แต่ถ้าไม่มี ก็เดินออกมาที่ถนน จะมีวางขายตลอด ไม่ต้องกลัว ชุดละ 100 บาท

โปรแกรมสำหรับคนนอน 2 คืน เช้าที่ 1 ใส่ บาตร อีกวันไปดูพระอาทิตย์ขึ้นบนภูทอก 

ทริปนี้เราไม่ได้ไป เพราะไปบ่อยแล้ว เลยให้พี่สาว กับพี่เขยไปแทน ได้รูปมา 2 ภาพ 

กิจกรรมวันนี้ก็ไม่มีอะไร ใส่บาตรเสร็จ ก็หาอาหารเช้าทาน  ข้าวเปียกเส้น ร้านลุกโภชนา ซ.9 ต้องโดนนะ  น้ำซุปดี เส้นเหนียวหนึบ หมูยออร่อยมาก 

ไข่กะทะ ขนมจีบ ก็อร่อย

ถัดไปอีกซอย ก็จุ่มนัวยายพัด ซ.10 ก็เด็ดนะเออ จัดจ้าน ไม่ต้องปรุง

หรือจะข้าวจี่ร้อน ๆ กับอากาศเย็น ๆ เข้ากัน ๆ  

ใครใคร่ปั่นจักรยานเล่น ก็ปั่น

ใครไม่ปั่นก็คิดสิ ๆ ว่าร่างกายต้องการอะไร ?

ร้านนี้กาแฟดี วิวสวย 

วันนี้เราจะไปเที่ยวสถานที่เปิดใหม่ ได้ไม่นาน คือ สกายวอล์ค เชียงคาน หรือ สกายวอล์ค ภูคกงิ้ว

ค่ารถรับ-ส่ง + รองเท้าเดินบนกระจก รวม 60 บาท บอกเลยไปเถอะ โครตถูก 

วิวสวยมาก 

เคยไปเดินที่เวียดนาม ค่าบัตรแพงมาก ๆ  คหตส. ที่นี่สวยและถูกกว่าอีก 

รูปหมู่บ้าง รองเท้าคู่ละ 30 บาท ที่พักใจดีให้มา 4 คู่ (นักท่องเที่ยวที่มาพักให้ไว้) เราเลยซื้อเพิ่มอีก 3 คู่ ใช้เสร็จก็ส่งต่อฝากที่พักให้นักท่องเที่ยวกรุ๊ปถัดไปใช้ เพราะเสียดายถ้าจะใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งเลย 

เที่ยวเสร็จก็เที่ยงพอดี หาอาหารเที่ยงทาน แถวริมโขง นั่นแหละ เพราะปลาที่นี่เค้าสดสู้ฟันดีจริง ๆ

ตำด้องแด้ง ต้องเข้า เดี๋ยวมาไม่ถึง

ทานเสร็จ ก็แวะไปแก่งคุดคู้เลย เพื่อซื้อของฝาก มะพร้าวแก้ว ร้านค้าไม่ค่อยมี เพราะเราไปวันจันทร์ 

กลับถึงที่พัก อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วไปโดนตีน ซะหน่อย  อยากโดนตั้งแต่เมื่อวานแล้ว 55 

นวดยองเส้น แม่คำก้อย ซ.19 ให้บริการเพียงหนึ่งเดียวในเชียงคาน และอาจจะเป็นหนึ่งเดียวในประเทศก็ว่าได้ หมอนวดจะขึ้นไปเหยียบบนตัวเราทั้งตัว  แต่ไม่ต้องกลัวนะ เพราะแกจะจับผ้าขาวม้าไว้ ไม่ให้น้ำหนักลงมาหมด ไม่งั้นหลังคงหักตายพอดี  

คนอื่น นอนเงียบ ๆ แต่เราร้องตลอด 2 ชม. 555  ให้แม่ก้อย แก้อาการ ปวดเมื่อย โอ้ย อยากบอกว่า ติดใจ และมีโอกาส จะมาโดนตีนใหม่นะคะ ชอบ ๆ 

ตกเย็นก็เดินหาของกิน กิน กิน เพราะไม่รู้ว่าจะมาเชียงคาน อีกทีปีไหน   ZZZzzz

สาย ๆ ก็กลับบ้าน แวะวัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง 

สวยดี 

แวะซื้อส้มภูเรือกลับบ้าน (ติดใจ รสชาติดี ขามาอร่อย แต่พอซื้อขากลับทำไมมันเปรี้ยวจัง 55)

จบทริปเชียงคาน ครั้ง ที่ 5 ถามว่าเชียงคานเปลี่ยนไปไหม ตอบว่าเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ที่พักใหม่ ๆ เกิดขึ้นเยอะมาก (แต่ยังคงไว้เป็นบ้านไม้ ก็ถือว่ารับได้) ร้านค้ากาแฟ ร้านเหล้า  อาหารแปลก ๆ เยอะขึ้น และที่เยอะมาก ๆ คือคนขายล็อตตารี่ เยอะมาก ๆ บ๊ายบาย มีโอกาสจะมาเยี่ยมใหม่นะ .... เชียงคาน ♥

แตงโมเนื้อทราย

 วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 เวลา 22.37 น.

ความคิดเห็น