นั่งรถไฟฟ้าไปแก้ชงวัดมังกร

ไหว้ขอพรรอบเกาะรัตนโกสินทร์

ไหนๆใครเป็นสายมูยกมือขึ้น ปีใหม่ทั้งทีก็ต้องไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เสริมดวงกันหน่อยดีกว่า พอดีปีนี้เป็นปีชงของอดิพอดีเลย ทริปนี้อดิจะพาไปไหว้องค์ไท้ส่วยเอี้ย เพื่อฝากดวงให้ท่านคุ้มครองดวงชะตาให้เฮงๆปังตลอดปีที่วัดมังกรกมลาวาส มาแถวนี้ทั้งทีก็เลยขอแวะขอไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์รอบเกาะรัตนโกสินทร์เพื่อความเป็นสิริมงคลต้อนรับปีใหม่กันทีเดียวไปเลยส่วนใครที่อยากไปไหว้ ชวนเพื่อนแล้วชวนอีกแต่ละคนก็ busy ไม่ว่างกันสักทีเหมือนอดิ ก็ไปคนเดียวก็ได้จ้า วันนี้เราทำแพลนมาให้แล้ว ทริปนี้อดิวางแผนว่าจะไปหลายที่เลยเลือกเดินทางโดยรถไฟฟ้า MRT ที่สะดวกมากๆมีสถานีจอดไม่ไกลกับจุดที่เราจะไปไหว้ แถมไม่ต้องพะวงเรื่องรถติด ไหนจะที่จอดรถอีก ไปรถไฟใต้ดินนี่ละสะดวกสุดๆละครับ

มาดูแพลนคร่าวๆกันว่าทริปนี้มีที่ไหนบ้าง

วัดมังกรกมลาวาส

ฮะเก๋า เยาวราช

วัดสุทัศน์เทพวราราม

เทวสถานโบสถ์พรามหมณ์

The Tanao Cafe Bar

ศาลหลักเมือง

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม

วัดอรุณราชวราราม

Amorosa Bar @ The Deck by Arun Residence

ทริปนี้อดิเดินทางโดยรถไฟฟ้า MRT เราไปจอดที่อาคารจอดรถสถานีลาดพร้าว ตอนเข้าที่จอดรถพนักงานจะถามว่าเราจอดแล้วเดินทางด้วย ก็จะให้บัตร Park & Ride ซึ่งสามารถใช้แปะเดินทางได้ต่อเนื่อง ไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวซื้อบัตรที่สถานี เสร็จแล้วก็มาจ่ายทีเดียวตอนออกจากที่จอดรถได้เลย สะดวกมากๆเลยครับ

จุดหมายแรกของทริปนี้คือ วัดมังกรกมลาวาส ที่เราจะไปแก้ชงกันนั่นเอง ให้เรานั่งไปลงที่สถานีวัดมังกร ออกทางประตู 3 ขึ้นมาแล้วเดินเลี้ยวขวาไปนิดเดียวก็ถึงวัดแล้วครับ


01 วัดมังกรกมลาวาส

วัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ เป็นวัดในสังกัดคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ระหว่างซอยเจริญกรุง 19 และ 21 ในเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร เป็นที่คุ้นเคยในหมู่ชาวไทยเชื้อสายจีน และชาวจีนจากต่างประเทศ นักแสวงบุญมักมาขอพรเพื่อสิริมงคล สะเดาะเคราะห์สำหรับผู้ที่เกิดปีชงในแต่ละปี สำหรับ ปีชง 2566 ปีนักษัตรที่ถูกจัดว่าเป็นปีชงในปีนี้ได้แก่ ปีระกา เถาะ ชวด และมะเมีย

เดินทางด้วย MRT สถานีวัดมังกร ทางออก ที่ 3
เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 07:00-18:00 น.

ขั้นตอนแก้ชง

1 เดินตามลูกศรสีเหลืองเพื่อไปบูชาชุดสะเดาะเคราะห์แก้ปีชง ชุดละ 100 บาทจะได้รับชุดไหว้
2 เขียนชื่อ อายุ วัน เดือน ปี เกิด เวลาตกฝาก และปีนักกษัตริลงในใบฝากดวง(ใบสีแดง) ถ้าไม่รู้ช่องไหนให้เติมคำว่า “ดี”ลงไปแทน ซึ่งจะมีตารางนับปีนักษัตริแบบจีนให้ดูที่โต๊ะ
3 เดินตามลูกศรสีแดง นำชุดไหว้เจ้าไปไหว้เทพเจ้าแห่งดวงชะตา (ไท่ส่วยเอี๊ย) ทางวัดห้ามจุดธูป อฐิษฐานขออำนาจบารมีคุ้มครองจากพระองค์ช่วยคุ้มครองให้พ้นจากเคราะห์และเภทภัยต่างๆ ให้มีแต่ความสุขความเจริญตลอดทั้งปี
4 เมื่อไหว้เสร็จ ให้ใช้ชุดกระดาษฝากดวง ปัดไล่ความโชคร้ายตั้งแต่หัวจรดเท้า โดยใช้วิธีปัดออก ทั้งหมด 13 ครั้ง
5 นำกระดาษทั้งหมดไปใส่ไว้จุดวางที่ทางวัดเตรียมไว้ ซึ่งทางวัดจะเก็บไว้สวดคุ้มครองให้ตลอด เป็นอันเสร็จพิธีการ

องค์ที่อยู่ทางด้านขวามือสุด คือ เทพเจ้าไท่ส่วยเอี๊ย

เทพเจ้าไท่ส่วยเอี๊ย หรือ เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา เป็นเทพเจ้าอันเก่าแก่ของจีนได้รับความเคารพศรัทธามากว่า 3,000 ปี เป็นหนึ่งในเทพเจ้าองค์สำคัญไม่น้อยไปกว่าเทพเจ้าองค์อื่น เพราะเกี่ยวข้องกับดวงชะตาชีวิตตามหลักโหราศาสตร์จีน เทียบได้กับพระประจำวันเกิดหรือราหูของไทยเลยทีเดียว

เทพเจ้าไท่ส่วยเอี๊ย เป็นเทพผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่คอยดูแลชะตาชีวิตของผู้คนในแต่ละปี ซึ่งในรอบ 60 ปี จะมีองค์ไท้ส่วยประจำอยู่ในแต่ละปี รวมทั้งสิ้น 60 องค์ ซึ่งทำหน้าที่รักษาและคุ้มครองดวงปีหรือเฝ้าปี ซึ่งแต่ละองค์จะมีอำนาจให้คุณ ดลบันดาลความสุข โชคเคราะห์ ทุกข์ภัย หรือให้โทษแก่ผู้ใด ก็ขึ้นอยู่กับพระเมตตาของท่าน โดยเฉพาะท่านที่มีเคราะห์ หรือพื้นดวงชะตาตก ทำอะไรก็ติดขัดไม่ราบรื่น ท่านก็จะช่วยปัดเป่าเคราะห์ภัย บังเกิดแต่ความเป็นศิริมงคล มาสู่ตัวท่านและครอบครัว

หลังจากแก้ปีชงแล้ว ก็กลับมาไหว้ขอพรกับพระประธานของวัดมังกรกันต่อเลย

อุโบสถของวัดมังกรกมลาวาสประดิษฐานพระพุทธรูปประธาน 3 องค์ ประกอบด้วย ‘พระศรีศากยมุนี’ อยู่ตรงกลาง ฝั่งขวาเป็น ‘พระอมิตาภพุทธเจ้า’ พระธยานิพุทธเจ้าผู้สถิตอยู่ในดินแดนสุขาวดี (และเป็นที่มาของการพูด “อามิตาพุทธ” ที่พระถังซำจั๋งชอบพูดนั่นเองครับ) ส่วนฝั่งซ้ายเป็น ‘พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า’ พระพุทธเจ้าแห่งการแพทย์ โดยมี 18 อรหันต์ตั้งขนาบทั้งสองข้าง

พระประธานของวัดมังกร

หลังจากไหว้แก้ชงเสร็จเรียบร้อย กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เพราะเดี๋ยวเราต้องไปต่อกันอีกหลายที่ มาเยาวราชทั้งทีอดิเลยหาติ่มซำอร่อยๆทานซะหน่อย เราแวะมาที่ร้าน ฮะเก๋า อยู่บนถนนเยาวราช ร้านออกแบบตกแต่งได้สวยงามบรรยากาศแบบจีนๆเข้ากับอาหารมากๆ


02 ฮะเก๋า เยาวราช

มาร้านฮะเก๋า เลยไม่พลาดลองสั่งฮะเก๋ามาลอง ของเค้าใช้กุ้งเป็นตัวๆเลย ส่วนเมนูขนมจีบหมูไข่เค็มก็ใส่ไข่เค็มมาแน่นๆเลย ราคาก็โอเคครับไม่แพงเกินไป

ฮะเก๋า เยาวราช

โทร : 092-665-6664

Facebook : ฮะเก๋า เยาวราช

เปิด-ปิด : ทุกวัน 10:30-22:00 น.

เดินทางกันต่อดีกว่าครับ เรากลับมาที่ MRT โดยลงไปที่ชานชาลา 1 เพื่อนั่งรถไฟไปลงที่สถานีสามยอด เพื่อไปต่อกันที่วัดสุทัศน์ พอถึงสถานีสามยอด ก็ใช้ทางออกที่ 3 ขึ้นมาแล้วก็เดินเลี้ยวมาทางขวา เดินมาไม่ไกลก็จะถึงวัดสุทัศน์ แล้วครับ



03 วัดสุทัศนเทพวรารามวรมหาวิหาร

วัดสุทัศนเทพวรารามวรมหาวิหา เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร เป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ของรัชกาลที่ 8 อีกทั้งยังมีพระอุโบสถที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และมีสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นคือ เสาชิงช้าอยู่บริเวณหน้าวัดอีกด้วย
เดินทางด้วย MRT สถานีสามยอด ทางออกที่ 3
เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 08:00- 21.00 น

บริเวณพระอุโบสถ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อดิมาไหว้ก็คือ พระกลั่กฝิ่นจำลอง อยู่ทางซ้ายประตู ก่อนขึ้นพระอุโบสถ เรื่องจากศาลาเดิมกำลังบูรณะ พระพุทธตรีโลกเชษฐ์ ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และท้าวเวสสุววรณ ประดิษฐานอยู่ด้านหลังพระอุโบส

พระอุโบสถของวัดสุทัศน์ จัดว่าเป็นพระอุโบสถที่ยาวที่สุดในประเทศไทย พระประธานภายในพระอุโบสถ คือ พระพุทธตรีโลกเชษฐ์ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ทั้งพระอุโบสถและพระประธานนี้สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 ผนังด้านในของพระอุโบสถมีภาพจิตกรรมฝาผนังฝีมือช่างสมัยรัชกาลที่ 3 ซุ้มประตูและหน้าต่างเป็นซุ้มยอดเจดีย์ มีลักษณะแปลกตาและงดงามมาก

พระพุทธตรีโลกเชษฐ์

พระกลักฝิ่น หรือ พระพุทธเสรฏฐมุนี พระพุทธรูปปางมารวิชัยสร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เป็นพระพุทธรูปที่หล่อจากกลักฝิ่น ประดิษฐานเป็นพระประธาน ตั้งอยู่ ณ ศาลาการเปรียญ วัดสุทัศน เมื่อแรกผู้คนเรียกว่า “พระกลักฝิ่น” ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานนามว่า “พระพุทธเสรฏฐมุณี” แปลว่า พระผู้ประเสริฐสุด มีความหมายว่า ผู้ติดสิ่งเสพติดทั้งหลาย สามารถกลับใจเป็นคนดีได้เสมอ ย่อมสว่างรุ่งเรืองเหมือนพระพุทธรูปที่ทรงสร้าง อันจะเป็นพลังแข็งแกร่งชนะจิตใจให้เหินห่างสิ่งเสพติดได้ ดังนั้นใครที่เคยทำผิด อยากจะสารภาพบาป ขออโหสิกรรม ขอขมากรรม หรือถอนคำสาบาน เพื่อกลับตัวกลับใจคิดที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีก็ขอเชิญไปตั้งจิต ขอขมากรรมต่อองค์พระกลักฝิ่นนี้ได้

พระกลักฝิ่น หรือ พระพุทธเสรฏฐมุนี

ท้าวเวสสุวรรณ ประดิษฐานอยู่บริเวณด้านหลังพระอุโบสถ มีความเชื่อกันว่าผู้ใดที่ได้มากราบไหว้ท้าวเวสสุวรรณ วัดสุทัศน์ จะบังเกิดโชคลาภมากมาย ร่ำรวยเงินทอง กิจการเจริญรุ่งเรือง มีกินมีใช้ไม่ขาดมือ อีกทั้ง ภูตผีวิญญาณต่างๆ ไม่กล้ามาทำอันตรายใดๆ เพราะเชื่อว่าท้าวเวสสุวรรณคืออธิบดีแห่งอสูรหรือเจ้าแห่งภูตผีปีศาจทั้งหลาย

ท้าวเวสสุวรรณ

พระศรีศากยมุนี ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารด้านหน้าวัดเงียบและลมเย็น สันนิษฐานว่าเป็นพระพุทธรูปที่พบในสมัยพ่อขุนรามคำแหง แต่พระนามของพระพุทธรูปนั้น รัชกาลที่ 5 เป็นผู้ถวายพระนามให้ โดยคนที่มากราบไหว้พระศรีศากยมุนีส่วนใหญ่เชื่อว่าช่วยเสริมดวงชะตา ชีวิตร่มเย็นเป็นสุข ไร้อุปสรรคทั้งปวง

พระศรีศากยมุนี

เดินออกมาทางด้านหน้าวัดก็จะเจอกับเสาชิงช้าให้ถ่ายรูปสวยๆกัน

เสาชิงช้า ถือเป็นสถาปัตยกรรมที่ตั้งอยู่ในเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ เสาชิงช้าเป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นเพื่อประกอบพระราชพิธีตรียัมปวาย หรือพิธีโล้ชิงช้า ตามคติความเชื่อของพราหมณ์ เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจชาวพระนคร และเป็นการแสดงความกตัญญูต่อเทพ 3 องค์ ได้แก่ พระอิศวร พระพิฆเณศวร และพระนารายณ์

เดินข้ามถนนมาทางด้านซ้ายมือ ก็จะพบกับจุดหมายต่อไปของเรานั่นก็คือ โบสถ์พราหมณ์


04 โบสถ์พราหมณ์

โบสถ์พราหมณ์ สถานที่สำคัญที่บ่งบอกการมีอยู่อย่างยาวนานของศาสนาพราหมณ์ในประเทศไทย สร้างขึ้นก่อนเสาชิงช้า 2 ปี เมื่อเดินผ่านประตูใหญ่จะพบกับเทวรูปพระพรหม ภายในประกอบไปด้วยโบสถ์สำคัญ 3 หลัง ด้านขวาสุดทางเดินคือสถานพระนารายณ์ หลังถัดมาคือสถานพระมหาวิฆเนศวร หลังสุดท้ายคือสถานพระอิศวร
- ข้อแนะนำคือเริ่มจากการนมัสการพระพิฆเนศวรก่อนเทพองค์อื่น ๆ และควรอ่านข้อปฏิบัติก่อนเข้าสักการะอย่างเข้มงวด

เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 09:00-16:30 น.

หลังจากที่แวะไปมาหลายที่แล้วเลยต้องหาที่นั่งพักดื่มกาแฟ เติมพลังกันซะหน่อย อดิเลยแวะมาที่คาเฟ่ลับท่ามกลางสวนร่มรื่น ที่ The Tanao Cafe Bar


05  The Tanao Cafe Bar

เดอะตะนาวคาเฟ่บาร์ ร้านลับแถวถนนตะนาว ใกล้สี่แยกคอกวัว คาเฟ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของสำนักงานบริพัตร ที่ทำการผลประโยชน์ของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ตัวคาเฟ่ตกแต่งด้วยสีขาวละมุน แบ่งเป็น indoor และ outdoor ร่มรื่นด้วยต้นไม้ในสวนสีเขียว อาคารบ้านเก่าที่ล้อมรอบ ให้ย้อนเหมือนได้นั่งจิบเครื่องดื่มย่ามบ่ายในบ้านข้าหลวงสมัยเก่า บรรยากาศเงียบสงบและเป็นส่วนตัวดี ที่นี่ไม่ได้มีแต่เสิร์ฟเฉพาะเครื่องดื่มและขนม แต่ยังมีรายการทั้งอาหารไทยตำรับชาววังและอาหารเทศในแบบฟิวส์ชั่นหลากหลายเมนูให้ได้ลองริมรสกันครับ

The Tanao Cafe Bar

โทร : 065-541-9178
Facebook : The Tanao Cafe Bar
เปิด-ปิด : 08.00-22.00 น.

หลังจากทานนั่งพักจนหายเหนื่อยแล้ว เราก็เดินมุ่งหน้าไปยังจุดหมายต่อไปนั่นก็คือ ศาลหลักเมือง ระหว่างทางเดินก็จะเจอกับตึกแถวที่ยังบูรณะให้คงรูปแบบใกล้เคียงกับของเดิมได้อย่างสวยงาม


06 ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร

ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร เป็นศาลที่สร้างขึ้นมาพร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี ตามธรรมเนียมพิธีพราหมณ์ว่า ก่อนที่จะสร้างเมืองจะต้องทำพิธียกเสาหลักเมืองในที่อันเป็นชัยภูมิสำคัญ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านเมืองที่จะสร้างขึ้น

เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 06:30-18:00 น.

การไหว้ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร

จะมีอยู่ 5 จุด โดยเริ่มต้นแนะนำให้ซื้อเครื่องบูชาที่บริเวณด้านในของ ศาลหลักเมือง ซึ่งเครื่องบูชานั้นจะประกอบไปด้วย ดอกบัว, พวงมาลัยดาวเรือง, ธูปเทียน, ทองคำเปลว, ผ้าแพรสามสี และน้ำมันสำหรับเติมตะเกียง 1 ขวด เมื่อได้เครื่องบูชาครบแล้ว หลังจากนั้นก็ไปไหว้ตามจุดทั้ง 5 จุด โดยเรียงตามลำดับ ดังนี้
จุดที่ 1 หอพระพุทธรูป
จุดที่ 2 องค์พระหลักเมืองจำลอง
จุดที่ 3 องค์พระหลักเมืององค์จริง
จุดที่ 4 หอเทพารักษ์ทั้ง 5
จุดที่ 5 เติมน้ำมันพระประจำวันเกิด และสะเดาะเคราะห์

หลังจากไหว้ศาลหลักเมืองเสร็จ อดิเดินข้ามถนนเพื่อไปต่อกันที่วัดพระแก้ว ระหว่างทางก็เดินเก็บภาพสวยๆไปแบบเพลิน อดิเดินไปหยุดถ่ายรูปไป ก็ไม่เหนื่อยเท่าไหร่

เดินเจออากาศร้อนจนเหนื่อยเดินผ่านอุโมงค์หน้าพระลาน เลยขอเดินลงไปตากแอร์เย็นๆซะหน่อย ที่สำคัญห้องน้ำที่นี่ใหญ่โต สะอาด ใครปวดหนักปวดเบา แวะเข้าก่อนไปต่อกันให้เรียบร้อยได้เลย


07 วัดพระศรีรัตนศาสดาราม


วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และ พระบรมมหาราชวัง 

เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นพร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ใน พ.ศ.2325 เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต และเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่

เดินทางด้วย MRT สถานีสนามไชย ทางออก ที่ 1
เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 08:30- 15:30 น.

การเข้าชมวัดพระศรีรัตนศาสดารามนั้น จะต้องปฎิบัติตามกฏอย่างเคร่งครัด นักท่องเที่ยวจะต้องสวมหน้ากากอนามัย และใส่ชุดสุภาพเข้าชมอย่างเคร่งครัด คนไทยเข้าชมฟรีแต่ต้องแสดงบัตรประชาชนด้วยนะครับ

หลังจากออกจากวัดพระแก้วแล้วเดินเลี้ยวซ้ายเดินเลาะกำแพงวังมาเรื่อยๆก็จะเจอจุดหมายต่อไปนั่นก็คือวัดโพธิ์ นั่นเอง


08 วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 1 จัดเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในวัดที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร อีกทั้ง ยังมีพระนอนที่ใหญ่ที่สุด ด้วยความยาว 150 ฟุต และเป็นวัดที่มีเจดีย์มากที่สุดในประเทศไทย โดยมีจำนวนประมาณ 99 องค์

เดินทางด้วย MRT สถานีสนามไชย ทางออกที่ 1
เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 08:00-18:30 น.

จุดนี้จะอยู่บริเวณพระอุโบสถ เดินเข้ามาด้านหน้าพระอุโบสถก็จะเจอกับประตูเฮง

ประตูเฮง หรือ ประตูฮก ลก ซิ่ว เป็นศิลปะแบบจีนตั้งอยู่ที่หน้าพระอุโบสถ มีความเชื่อกันว่า เป็นประตูแห่งความมงคล ช่วยล้างอาถรรพ์ สะเดาะเคราะห์ แก้ปีชง หรือใช้ล้างซวย ดวงตกได้ ผู้มาวัดโพธิ์จึงมักจะมาเดินลอดประตูเฮงแห่งนี้เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล
วิธีการคือ ให้ยืนกึ่งกลางหน้าซุ้ม ตั้งอธิษฐานจิตขอพรต่อหน้าพระโลกนาถฯและกลั้นหายใจเดินลอดซุ้ม

สางแปลง เป็นรูปปั้นสำริดที่มีหน้าตาเหมือนสิงห์ผสมกับมังกร หรือพญานาค ถือเป็นสัตว์มงคลที่ทำหน้าที่ยืนเฝ้าซุ้มประตูกำแพงแก้ว มีความเชื่อกันว่า ถ้าใครอยากโชคดี เสริมสิริมงคลในชีวิต ให้มาสัมผัสกับรูปปั้นสางแปลงตัวนี้

สายแปลง

พระพุทธไสยาสน์ (พระนอน) พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองขนาดใหญ่ที่สวยงามมาก ตามความเชื่อแล้ว ผู้ใดที่ได้มากราบไหว้จะมีชีวิตร่มเย็นเป็นสุข นอกจากนี้ยังมีการขอพรในเรื่องของความรัก การถอดถอนคำสาปแช่ง และการตัดกรรมจากคู่รักเก่าอีกด้วย

พระมหาเจดีย์ 4 รัชกาล ซึ่งสร้างโดยรัชกาลที่ 1-รัชกาลที่ 4
เป็นเจดีย์ประดับกระเบื้องเคลือบสีเขียว (สีประจำวันเกิดรัชกาลที่ 1 :พุธกลางวัน) สีขาว (สีมงคลประจำวันเกิดรัชกาลที่ 2 :พุธกลางคืน) สีเหลือง (สีประจำวันเกิดรัชกาลที่ 3 :จันทร์) และสีขาบ หรือน้ำเงินเข้ม (สีมงคลประจำวันเกิดรัชกาลที่ 4 :พฤหัสบดี) ตามลำดับ


ยักษ์วัดโพธิ์ 
ซึ่งอยู่บริเวณซุ้มประตูทางเข้าพระมณฑป อยู่ใกล้ๆต้นโพธิ์ข้างๆวิหารพระนอน โดยมี 4 ตน คือ
-ยักษ์กายสีหงเสน (สีอิฐ-ชมพู) มีนามว่า พญาสัทธาสูร
-ยักษ์กายสีเขียว นามว่า พญาขร
-ยักษ์กายสีม่วงอ่อน นามว่า พญาไมยราพณ์
-ยักษ์กายสีแดง นามว่า พญาแสงอาทิตย์

ตำนานเรื่องเล่า หลายคนคงเคยได้ยินตำนานกำเนิดท่าเตียน ที่เล่าปากต่อปากกันมาว่า บริเวณท่าเตียนอันเป็นพื้นที่โล่งเตียนนั้น เป็นผลจากการต่อสู้ของ “ยักษ์วัดแจ้ง” กับ “ยักษ์วัดโพธิ์” โดยมี “ยักษ์วัดพระแก้ว” เป็นผู้ห้ามทัพ

หลังจากไหว้พระที่วัดโพธิ์เสร็จ แล้วออกทางประตูข้างวิหารพระนอน เดินมาทางด้านซ้ายก็จะเจอกับทางไปขึ้นท่าเรือโพธิ์อรุณ เพื่อข้ามฝากไปยังวัดอรุณ ค่าโดยสารคนละ 5 บาท


09 วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร

วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 2 โดดเด่นตระการตาด้วยพระปรางค์เจดีย์ขนาดใหญ่ ความสูงกว่า 81.85 เมตร เป็นพระปรางค์ที่สูงที่สุดในประเทศไทยและในโลก อันสื่อถึงเขาพระสุเมรุ เขาสัตตบริภัณฑ์ และรายล้อมไปด้วยทวีปทั้งสี่ในที่นี้คือ พระปรางค์ทั้งสี่มุม

เดินทางด้วย MRT สถานีอิสรภาพ ทางออกที่ 2
เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 08:00-18:00 น.

หลังจากเจอกับยักษ์วัดโพธิ์แล้ว เราก็มาชมความงามของ ยักษ์วัดแจ้งกันบ้าง
ยักษ์วัดแจ้ง มี 2 ตน คือ ยักษ์ด้านเหนือกายสีขาว มีชื่อว่า “สหัสเดชะ” ส่วนยักษ์ด้านใต้กายสีเขียว มีชื่อว่า “ทศกัณฐ์” ยืนเฝ้าที่ประตูซุ้มยอดมงกุฎทางเข้าพระอุโบสถ วัดอรุณราชวราราม


10  Amorosa Bar

ปิดท้ายทริปด้วยการมานั่งชมวิวสวยๆของพระปรางค์วัดอรุณ ที่ Amorosa Bar บาร์ตั้งอยู่ชั้น 5 ของโรงแรม Arun Residance ใครที่อยากได้โต๊ะแถวหน้าต้องโทรจองล่วงหน้าเท่านั้น ส่วนใครที่มาคนเดียวแบบอดิก็สามารถ Walk-in มานั่งตรงบาร์ด้านข้างได้ แต่ต้องรีบมาหน่อยนะครับ ไม่งั้นโต๊ะเต็มแน่ๆ

สำรองที่นั่งสำหรับร้านอาหาร เพื่อไม่พลาดวิว

The Deck / Amorosa Bar

โทร 083-988-8736

Facebook : The Deck by Arun Residence

LINE official: @thedeck (มีเครื่องหมาย @)

ทริปนี้ถูกใจสายมูอย่างแน่นอน ส่วนใครที่เวลาไม่เยอะก็สามารถย่อเส้น จากสถานีวัดมังกรก็นั่งต่อเลยไปลงที่สถานีสนามไชย สามารถไปศาลหลักเมือง-วัดพระแก้ว-วัดโพธิ์-วัดอรุณ ก็ได้นะครับ ทริปนี้อดิเดินเล่นถ่ายรูปไปเรื่อยๆจบทริปแล้วเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ใครที่กลัวเมื่อยก็โบกรถตุ๊กๆไปส่งตามแต่ละจุดบ้างก็ได้นะครับทริปนี้บอกเลยว่าอิ่มบุญ แถมปิดท้ายยังอิ่มใจด้วยวิวสวยๆของพระปรางค์วัดอรุณในยามค่ำคืนฟินสุดๆเลย ใครกำลังวางแผนไปไหว้แก้ชง ลองตามแพลนของอดิได้นะครับสุดท้ายอดิก็ขอให้บุญกุศลจากการทำบุญจากทริปนี้ให้เพื่อนๆในเพจทุกคนจงพบแต่ความสุข คิดสิ่งใดขอให้สมหวังตั้งใจ สุขภาพแข็งแรงตลอดกระต่ายทอง 2566 นะครับ

#chillwithadi #อดิพาชิล#แก้ชงวัดมังกร 

#วัดมังกรกมลาวาส#วัดเล่งเน่ยยี่ 

#ไหว้พระรอบเกาะรัตนโกสินทร์

อดิพาชิล

 วันเสาร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2566 เวลา 21.00 น.

ความคิดเห็น