เปิดคลังรูปที่ไปเที่ยวมาตั้งแต่ช่วง ก.พ.64 ตั้งแต่ตอนที่ยังพอไปเที่ยวกันได้ นั่งดูรูปแล้วก็คิดถึงบรรยากาศ คิดถึงความรู้สึกอะไรแบบนั้น เลยเอามาเขียนลงเก็บไว้อ่านเป็นไดอารี่อีกหน้าละกัน 

มาย้อนกลับไปแบบFlashbackในหนังกันค่ะ ^^


26 ก.พ.64

เช้ารุ่งอรุณอันสดใส (หรือเปล่านะ)

วันที่เราไปเป็นวันหยุดยาวไรสักอย่างแหละ คนเยอะกว่าที่คิดเยอะมากๆเลยค่ะ เราขึ้นของสายการบินส้มของไทย 

ตัดภาพลงมาที่สนามบินเชียงใหม่กันค่ะ ลากกระเป๋าเดินจ้ำออกมารอเพื่อนมารับที่หน้าประตู สิ่งแรกที่จะทำ.. กินจ้า หิวมากๆ เพราะตอนนี้ 9 โมงกว่าๆ แล้ว

ซึ่งตอนแรกตั้งใจไว้ว่าจะไปกินก๋วยจั๊บเราจำชื่อถนนไม่ได้นะว่าอยู่ตรงไหน แต่ชื่อร้านเค้าคือ ก๋วยจั๊บสามกษัตริย์ เป็นร้านชื่อดังที่น่าจะขายมานานมากๆแล้ว เคยไปกินตอนรอบที่แล้ว คืออร่อยมากเลยอยากซ้ำแต่พอไปถึง ร้านปิดจ้าสุดจะเซ็ง TT เลยมูฟไปกินข้าวซอยกันที่ร้าน ข้าวซอยฟ้าฮ่าม

หลังกินอิ่มเรามีธุระต่อนิดหน่อยย เพื่อนก็ไปหย่อนเราไว้ เพราะนางไปทำงานต่อ แล้วเย็นๆ ก็กลับมารับไปหย่อนไว้โรงแรมอีก

โรงแรมที่เราพักรอบนี้ จริงๆ เราเคยมาพักแล้วครั้งนึง คือชอบแหละ เค้าเป็นโรงแรมสไตล์ญี่ปุ่น ราคาไม่แพงแต่ก็จะอยู่โซนนอกเมืองนิดๆ แต่ไม่ไกลมาก ชื่อโรงแรมฮิโนกิ เราพักคืนละประมาณ 800 นิดๆ เองมั้ง แต่ราคานี้ไม่รวมอาหารเช้านะ มีบริการแช่ออนเซ็นด้วยนะทุกคนนนน แต่ยังไม่เคยลอง ฮี่ๆ


27 ก.พ.64

ถ้าหากเวลาไม่ไหลย้อนกลับ...

    ตื่นมาในเช้าอันเย็นฉ่ำ... ฉ่ำแอร์ในห้องนี่แหละ  หลังจากเช็คเอาท์แล้วก็ไปหามื้อเช้าที่ตลาดมะพร้าว แต่คนเหนือเขาเรียก กาดบะป้าว ที่จอดรถกว้างมาก แต่เป็นฝุ่นๆ หน่อยนะทุกคน แต่ในตลาดบรรยากาศดีมากๆ ชอบมากๆ ชิลสุดไรสุด อาจจะเล็กไปหน่อยเพราะเป็นแบบเดินซอยเดียวยาวๆ แต่โดยรวมคือดีนะ มีดนตรีสดเล่นกลางสวนมะพร้าว มีกองฟางเป็นก้อนๆวางไว้ให้นั่งทานอาหารได้ (แต่เก็บไปทิ้งกันด้วยน๊า)

อิ่มพอประมาณนึง.. ก็จะไปเที่ยวแหละ แต่ไม่รู้ไปไหน ไม่ได้แพลนไรเลยทุกคน 555555555 ไปแบบโนแพลนมาก เลยกดเสิร์ชถามอากู๋กันเดี๋ยวนั้น สรุป ไปที่แดนเนรมิตกัน 

               ที่นี่เสียค่าเข้านะ แต่จำไม่ได้แล้ว และคือ.. คน เยอะ มากกกกกกกกกกก  ร้อนมากด้วยเช่นกัน เดินเล่นถ่ายรูปจนท้องเริ่มโวยวายเลยแวะกินขนมจีนน้ำเงี้ยวตรงร้านชาวบ้านแถวๆ นั้นแหละ

               ไปที่พักกันดีกว่า เพราะทางที่เรามากับที่พักคืนนี้มันคนละทางเลยแม่ 5555 และคืนนี้เรามาพักกันที่ Bee Forest เป็นที่พักติดลำธาร เงียบ สงบ ชิลดีมากๆ คืนละเท่าไหร่ก็จำไม่ได้แล้ว แต่มีหมูกระทะด้วยย แต่ต้องจองไว้ล่วงหน้าด้วยนะทุกคนนน

               ก่อนจะถึงเวลาหมูกระทะ ไปถ่ายรูปเล่นสักเหนื่อย เอ้ย สักหน่อยดีกว่า

เราจองที่นี่เพราะชอบมุมนี้แหละทุกโค๊นนนนนนนนนนนน เห็นมุมนี้แล้วอยากเอาตัวเองไปนั่งตรงนั้น มันดูคูล มันเท่ เราอยากเป็นคนคูลๆ บ้าง

ตรงนี้คือชิลสุดดดด นั่งเกือบหลับได้เลย

เราเดินเล่นถ่ายรูป รอบๆ ที่พัก พี่เจ้าของที่พักเค้าก็บอกว่าให้เดินเลาะลำธารขึ้นไป จะมีบ้านหลังนึง แถวๆนั้นจะมีชิงช้า เรามองในรูปก็ไม่ค่อยเห็น แต่มันอยู่ใต้ต้นไม้ทางซ้ายนั่นน่ะ เค้าบอกว่า ไปนั่งเล่นตรงนั้นได้นะ จริงๆ บ้านนั้นไม่ได้ร้างนะแค่ไม่มีคนอยู่เฉยๆ...

นั่งเล่นสักพักก็ไม่ได้คิดอะไรมากหรอกค่ะ แต่พอเริ่มมืด ลมเริ่มพัดเย็นๆ เลื่อนๆ ดูรูปที่ถ่ายมา..ไม่ได้กลัวแต่มันคิดไปเอง.. TT

เบื้องหลังรูปสวยๆค่าาา เกือบกลิ้งตกน้ำหลายรอบแล้ว 5555

               ได้เวลาตั้งเตาาาา  6 โมงเย็น อากาศเริ่มเย็นตาม เตาหมูกระทะเริ่มดังซู่ซ่า ฟังเสียงลำธารน้ำไหล สลัดความเหนื่อย ความเครียด ความเบื่อ ไว้ก่อน เสพบรรยากาศตรงนี้ให้เต็มพุง แล้วก็รีบกิน.. เพราะยุงกัด T_T

มีเจ้านายมานั่งสังเกตการณ์ด้วยอะค้าบบบบ แง่มๆ


28 ก.พ. 64  

ใดใดในโลกล้วน...

สวัสดีเช้าวันใหม่กับบรรยากาศเย็นๆ ที่ไม่อยากจะลุกจากที่นอน หมอน และผ้าห่ม หลังจากล้างหน้าล้างตาก็ไปกินมื้อเช้ากัน วันนี้เป็นข้าวต้มหมู

มีมุมปิ้งหนมปังด้วย บริการตัวเองได้เลยยย

เสร็จแล้วก็อาบน้ำ เก็บของไปกันต่อ.. เราแวะมานั่งแช่ขาที่ น้ำพุร้อนสันกำแพง แวะมาแบบชะโงกทัวร์อีกแล้ว เพราะคนเยอะมากกกกกกกกกกกกก อาจจะเพราะวันหยุดด้วยแหละ 

นั่งแช่ขาพอได้ผ่อนคลาย ก็ไปต่อที่คาเฟ่ชื่อดัง Nekoemon café เป็นคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นๆ มีพื้นที่กว้างมาก 

เดินมาก็เจอเจ้าบ้านออกมาต้อนรับด้วยแหละ เหมียววว

เราสั่งของกินกันนิดหน่อย... นิดหน่อยแหละ เป็นมื้อเที่ยงพอดี ตบด้วย “ไดฟูกุ” เป็นของหวานส่งท้าย

กินเสร็จแล้วไปเดินย่อยพลาง ถ่ายรูปเล่นไปพลางก่อนจะกลับ..

มูฟจากคาเฟ่เข้าเมืองมาหาซื้อของนิดหน่อย แอบมองเวลาก็พอมีเวลาแวะไปวัดอุโมงค์(สวนพุทธธรรม) อีกหนึ่งวัดเก่าแก่คู่เมืองเชียงใหม่ เป็นที่ที่เงียบสงบ ร่มรื่น ชวนให้รู้สึกผ่อนคลายดี

หมดเวลาสนุกแล้วสิ.... กลับคืนสู่รังอีกครั้ง และหวังว่าโควิด-19 มันจะหายไปจากพวกเราทุกคน ดูแลรักษาตัวเองดีๆ น้าาาา ไว้อะไรๆ ดีขึ้น เราไปตะลุยเที่ยวกันอีกหลายๆ ที่เลย

เราบันทึกไดอารี่ในรูปแบบของภาพถ่ายและเอามาให้ทุกคนดูด้วยกันได้ก็จริง  แต่ภาพถ่ายนั้นก็มีแค่เราคนเดียวที่รู้ว่าความรู้สึกตอนกดถ่ายเป็นเช่นไร

ด้วยรักและอยากเดินทาง

Arii-Sherry4869

SHERRY

 วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 22.23 น.

ความคิดเห็น