หลายคนถามว่า " ไปทำอะไรที่เชียงใหม่ในสภาพอากาศแบบนี้ ทั้งร้อน แถมบางวันฝนก็ตก " คำตอบ คือ ไปเที่ยวในช่วงที่คนส่วนใหญ่ไม่เที่ยวไงคับ ซึ่งครั้งนี้เป็นการไปเชียงใหม่ครั้งที่สองในชีวิต ซึ่งครั้งแรกนั้นนานมาก จนจำไม่ได้แล้วว่าเมื่อไหร่ 555555555 ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่า การรีวิวครั้งนี้เป็นครั้งแรกของผม ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยด้วยนะครับ

ช่องทางอื่นในการติดตามผม คือ IG : tony_pruek นะครับ

สำหรับช่วงเวลาที่ไปคือ 22-25 ก.ค. โดยมีผู้ร่วมทริปกันทั้งหมด 3 คน ทริปนี้พวกเราเริ่มเดินทางจากสนามบินดอนเมือง และถึงสนามบินเชียงใหม่ราวๆ 10 โมง จากนั้นก็ไปรับรถที่เช่าไว้ในราคาที่ถูกมาก

สำหรับที่พัก พวกเราเลือกที่จะพักที่ BED Changkian Hotel ซึ่งพวกเราทุกคนประทับใจกับที่นี่มากๆ ความสะอาด บริการ ทำเล รวมถึงที่ BED Changkian Hotel ยังได้จัดเตรียมน้ำขวด ใส่ในตู้น้ำ ซึ่งแขกที่มาพักสามารถที่จะหยิบกี่ขวดก็ได้ นอกจากนั้นในตอนเช้า ยังได้มีการจัดเตรียมอาหารเช้าแบบง่ายๆ เช่น ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ข้าวเหนียวไก่ทอด ขนมปัง ปาท่องโก๋ และน้ำส้ม เป็นต้น

ภาพเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากทริป ที่อยากจะนำมาแบ่งปันให้ทุกๆคนได้ดู รวมถึงเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทย ว่ายังมีอีกหลากหลายที่ที่เรายังไม่เคยไปสัมผัส.......

ใช้เวลาบนเครื่องบิน ราวๆ 1 ชม.10 นาที

Day 1 : ที่แรกของทริปนี้ คือ Grand Canyon เชียงใหม่ครับ

ช่วงที่ไปมีแต่ชาวต่างชาติ ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ

มาต่อกันที่ร้านคาเฟ่ที่อยู่ใกล้ๆกับ Grand Canyon ที่มีชื่อว่า Worken Coffee Beach Bar

อีกหนึ่งมุมของ Grand Canyon จากคาเฟ่

มีเพื่อนมาร่วมแจมด้วย

บรรยากาศของร้าน Worken Coffee Beach Bar

เจ้าของร้าน Worken Coffee Beach Bar

เนื่องจากมื้อเที่ยง เราทานกันที่ร้านคั่วไก่นิมมาน ซึ่งอยู่ติดกับ ร้าน iberry เลยแวะมาทานไอติมกัน

สถานที่ต่อไปคือ วัดต้นเกว๋น

บรรยากาศบริเวณวัดสงบมากๆ

สถานที่สุดท้ายของวันแรก คือ บ้านข้างวัด ซึ่งมีร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านขายของ handmade หลากหลายอยู่เหมือนกัน

แนะนำให้ไปเช้าๆน่าจะดีกว่าช่วงเย็นนะ เพราะยุงเยอะมาก

นั่งพักทานขนมกันซักหน่อย

จบวันแรกด้วยภาพเป็ดน้อยตัวนี้

-------------------------------------------------------------------------

Day 2 : เริ่มกันที่ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ซึ่งใช้เวลาเดินทางปะมาณ 1 ชม. จากตัวเมือง

สถานที่ไปต่อจองวันที่ 2 คือ ม่อนแจ่ม ซึ่งขับรถขึ้นเขาไปประมาณ 30 นาทีจาก สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

พวกเราเดินไปตามทาง ซึ่งจริงๆเป็นโซนที่พักแขก 5555555

และก็ได้เจอกับ เจ้าเหมียวตัวนี้นอนมอง

ปิ่นโตของแขกที่มาพัก

หลังจากเดินลงมาถ่ายรูปบริเวณที่พัก พวกเราก็เดินกลับขึ้นไปยังบริเวณด้านบน

หมอกเยอะจิงๆ

แต่ก็สวยดีนะ

ระหว่างทางกลับเข้าตัวเมือง เราก็ต้องลงเขากัน มุมนี้มีความเป็นญี่ปุ่นเล็กน้อย

ปิดท้ายของวันที่2 ที่วัดอุโมงค์ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเชิงดอยสุเทพ

ทางเข้าของอุโมงค์

ทางเดินขึ้นไปยังด้านบนของวัด

ขอปิดท้ายวันที่ 2 ด้วยภาพนี้นะครับ

-------------------------------------------------------------------------

Day 3 : เป็นวันสบายๆที่ไม่สบายเลยจริงๆ พวกเราไปกันที่ผาช่อ ซึ่งจากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เวลาเดินทางราวๆ ชม.ครึ่ง

พอถึง เราก็ต้องจอดรถและเดินเท้าไปต่ออีก 500 เมตร แต่เป็น 500 เมตรที่เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน แต่ก็คุ้มค่านะ

มุมจากด้านบนผ่าช่อ

ระหว่างทางที่เดินไปผ่าช่อ

และในที่สุดเราก็ถึงที่หมาย

สถานที่จริงสวยมากๆ

ขากลับเราก็ต้องกลับทางเดิม พร้อมเหงื่อชุ่มทั้งตัว

ใช้เวลาที่ผาช่อนานพอสมควร เราเลยไปหาอะไรทานกัน และกลับไปพักที่โรงแรม แล้วออกมาตลาดคนเดินกันในตอนเย็น จากนั้นก็กลับไปที่พักเพื่อเตรียมตัวเที่ยวในวันสุดท้าย

-------------------------------------------------------------------------

ก่อนที่จะออกจากที่พักในวันสุดท้าย ขอเก็บภาพบรรยากาศซะหน่อย

Day 4 : เราเริ่มการเดินทางกันที่ร้านข้าวซอย ที่ตั้งอยู่ที่ซอยนิมมาน 13

มีขายขนม Taiyaki ด้วยนะ

ที่ต่อไปคือ เก๊าไม้ล้านนารีสอร์ท ซึ่งร่มรื่นมากๆ

บรรยากาศของรีสอร์ท

ที่ต่อไปคือ น้ำตกห้วยแก้ว ซึ่งเป็นน้ำตกที่สูงประมาณ 10 เมตรและมีน้ำไหลตลอดปี ตั้งอยู่ในเขตอุทยานสุเทพ

เป็นอีกสถานที่ ที่ไม่ค่อยมีคนไทยในหน้าร้อน

เดินเข้ามาเรื่อยๆจากทางเข้าประมาณซัก 100 เมตรก็ถึง

ชีวิตต้องสู้ เพื่อให้ได้รูปที่งาม

ปิดท้ายทริปกันที่ MAIIAM Contemporary Art Museum ซึ่งใหม่สมชื่อจริงๆ เปิดได้ยังไม่ถึง 1 เดือน

พอเดินเสพงานศิลป์กันจนอิ่มแล้ว ก็มุ่งหน้าไปสนามบินเพื่อรอนั่งเครื่องบินกลับ

พวกเราเลือกไฟล์ทที่ออกจากเชียงใหม่ตอน 4 ทุ่ม เพื่อที่จะได้เที่ยวกันจนนาทีสุดท้าย
สุดท้ายนี้ก็ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้นะคับ

--------- ขอบคุณครับ ---------