ชนวัว หรือ กีฬาชนโคเป็นกีฬาพื้นเมืองของภาคใต้ สำหรับในประเทศไทยอาจเป็นความนิยมที่เริ่มมาจากการเลี้ยงวัวไว้บริโภคของชาวมุสลิมแต่พื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็ปรากฏความนิยมอยู่บ้างเช่นกัน ซึ่งการแข่งเพื่อความสนุกสนานนี้อาจมีให้พบเห็นได้จนถึงประเทศลาว การแข่งขันกระทำโดยการปล่อยวัวหนุ่มที่แข็งแรงให้พ้นจากคอก ให้วัวผู้ทั้งสองฝ่ายตรงรี่เข้าปะทะกัน ใช้พละกำลังและอาวุธคือเขาเข้า ต่อสู้ สัตว์ทั้งสองต้องใช้กำลังยืนหยัดต่อสู้ไม่ยอมถอยเพื่อชัยชนะ ส่วนใหญ่ของผู้ชมที่รายรอบรอชมการชนวัวนั้น ล้อมรอบกันแน่นขนัดก็เพื่อต้องการเห็นชัยชนะและกำลังความแข็งแกร่งของวัวผู้ ตัวที่ชนะ บางคนก็เลือกที่จะชมร่างกายที่สวยงามของวัวซึ่งเป็นสัตว์ที่ผูกพันกับวิถี ชีวิตประจำวันของพวกเขา แต่ส่วนใหญ่มักเพิ่มการพนันขันต่อ เพื่อเพิ่มการลุ้นและการเชียร์วัวตัวที่ชอบได้มากยิ่งขึ้น วัวที่นิยมใช้แข่งขันเป็นวัวที่มีรูปร่างบึกบึนกำยำ เขา ส่วนหัว ลำตัว และขาหน้า ต้องแข็งแรง เมื่อวิ่งเข้าปะทะหัวชนกัน เสียงดังสนั่น เมื่อตัวใดตัวหนึ่งไม่ยอมถอยหรือวิ่งหนี ก็ต้องชนกันจนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหมดแรงหรือได้รับบาดเจ็บจนพ่ายแพ้ไป ลานชนโคนิยมใช้ลานดินที่กว้างและทำคอกล้อมหรือทำให้มีคันดินล้อมรอบไว้เป็นสนาม

อ้างอิงจาก https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8A%E0%B8%99%E...

ผมได้มีโอกาสได้เดินทางไปไปถ่ายภาพกีฬาชนวัวที่พัทลุงสักเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี่เป็นครั้งแรกของผมที่ได้ชมการแข่งขันชนวัวของทางภาคใต้ของประเทศไทย ผมได้เคยไปชมสนามชนวัวกระทิงที่เมืองแมดริด และ บาร์เซโลน่า ของประเทศสเปน แต่ของเขามีลักษณะการโชว์ลีลาการหลบหลีกการชนจากวัว ของมาธาดอร์ซะมากกว่า แล้วอาศัยจังหวะที่วัวอ่อนแรง จึงปักดาบปลิดชีพวัวกระทิง แต่ของบ้านเราคือการนำวัวชนที่ฝึกฝนอย่างแข็งแกร่งมาชนกัน ในการชนวัวหากแม้เจ้าของวัวเห็นว่าวัวตัวเองสู้ไม่ได้ก็จะยอมแพ้ ดีกว่าปล่อยให้วัวตัวเองบอบช้ำหนักมากเกินไป จนอาจต้องใช้เวลา รักษานานเกินไปจนไม่สามารถกลับมาชนอีกในเร็ววัน แต่ก็มีบางกรณีที่วัวบางตัวที่ใจไม่สู้ และชนแพ้ เจ้าของก็อาจขายไปให้พ่อค้านำไปชำแระขายเนื้อต่อไป

การเปิดสนามวัวชนแต่ละครั้ง ไม่เพียงแต่เจ้าของวัวชนและผู้ชมจะดีใจ แต่พ่อค้าแม่ค้าในระแวกท้องถิ่นนั้นก็จะพลอยคึกคักตามไปด้วย เพราะจะมีคนในถิ่น ต่างถิ่น มากมายแห่กันมาชมวัวชนอย่างล้นหลาม จนรถยนต์ มอเตอร์ไซค์จอดแน่นขนัดไปหมด จึงมีพ่อค้าแม่ค้า นำสินค้า ข้าวปลาอาหาร เสื้อผ้า แม้กระทั่งหญ้าที่เกี่ยวใส่กระสอบสำหรับวัว ก็นำมาขาย จึงทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ดังนั้นกีฬาวัวชนจึงมีความผูกพันกับคนในท้องถิ่นและได้รับความนิยมอย่างเลี่ยงไม่ได้

อย่างไรก็ตามยังมีมุมมองที่แตกต่างจากสังคมบางส่วนที่เห็นว่าการชนวัวเป็นการทารุนสัตว์ หรือแม้กระทั่งมองว่าเป็นแหล่งอบายมุข ซึงเป็นที่น่าเป็นห่วงว่ากีฬาวัวชนที่เป็นวัฒธรรมเก่าแก่พื้นบ้านอาจสูญหายไปในอนาคต หากภาครัฐ หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่เข้ามาฟื้นฟูสนับสนุนอย่างจริงจังยกตัวอย่างเช่นสนับสนุนสนามกีฬาวัวชนให้ถูกต้องตามกฏหมายอย่างแพร่หลายมากขึ้น และโดยเฉพาะสนับสนุนเพื่อการท่องเที่ยวถ้าหากวางแผนการตลาดดีๆ เราอาจได้เม็ดเงินจำนวนมากจากนักท่องเที่ยวไม่แพ้การชนวัวของประเทศสเปนก็อาจเป็นได้


Bittersweet

 วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 14.05 น.

ความคิดเห็น