ลาวใต้ ใครเล่าจะรู้ว่า…!!!

สวัดดีครับทุกๆ คน ทั้งผู้ที่ตั้งใจเข้ามาอ่านก็ดีหรือไม่ได้ตั้งใจเข้ามาอ่านก็ดี ครั้งนี้เราจะมาพูดถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างสอปอปอลาว ว่าเขามีแหล่งท่องเที่ยวอะไรที่น่าสนใจบ้าง เรื่องมันมีอยู่ว่าวันหยุดที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ ๒๓-๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันหยุดทำงาน ผมก็ได้หยิบวันหยุดนี้เป็นโอกาสกลับไปที่สอปอปอลาวอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งครั้งที่แล้วไม่รู้ทำไมถึงติดใจกับโซนภาคเหนือของสอปอปอลาวเป็นอย่างมาก เลยถือโอกาสนี้ลงภาคใต้ของสอปอปอลาวบ้าง ส่วนสถานที่ต่างๆ ที่ผมจะไปนั้น มีที่ไหนบ้างนั้นคอยติดตามกันดูกันไปครับ ยังไงก็ช่วยดูหน่อยเหอะน่ะ ขอร้องล่ะ ฮ่าๆ ถ้ามีอะไรขัดตาหรือไม่สุภาพก็ขออภัยด้วยครับ อย่าเสียเวลาไปมากกว่านี้เลย ไปดูเรื่องราวที่ผมได้พบเจอกันดีกว่าครับ โดยผมจะแยกเป็นเรื่องๆ ไปนะครับ

Single

ระยะทางพันลี้

เรื่องของตาด

วิถีชีวิต

สิ่งที่ตามหา

สุดท้าย

VDO:: https://youtu.be/7LUD8VqoAxk


Single

จะว่าไปแล้วเนี้ย การท่องเที่ยวมันก็มีหลายรูปแบบน่ะ ซึ่งแต่ละคนก็ชอบแตกต่างกันออกไป บางคนชอบไปกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ บางคนจับกลุ่มไปกันน้อยๆ บางคนชอบไปกับครอบครัว ก็แล้วแต่จะปราถนาเลยเอาเถอะ เอาที่ชอบล่ะกัน^_^ โดยส่วนตัวผมแล้ว ผมเป็นคนที่ชอบเที่ยวคนเดียวน่ะ เพราะว่าผมค่อนข้างเปลี่ยนแผนการทางบ่อยมาก นึกอยากแวะก็แวะถ้าสถานที่มันสวยๆ หรือสถานที่นั้นมันมีอะไรดึงดูด ดูมีอะไร อีกอย่างผมเป็นคนที่นอนไหนก็ได้ง่ายๆ แต่ต้องปลอดภัยด้วยนะ เลยหาเพื่อนเที่ยวได้ค่อนข้างยากมั้ง ถ้าถามว่าไปกับคนอื่นได้มั้ยก็ไปได้แหละแต่… ผมไม่ชอบคนเยอะ ยิ่งมากคนยิ่งมากความ ซึ่งมันก็แล้วแต่คนจะคิดแหละ ฮ่าๆ ครั้งนี้ได้มีโอกาสมาที่ลาวใต้ และครั้งนี้ก็จะแวะแมร่งให้หมดทุกที่ ไม่หมดแมร่งไม่ต้องกลับไปทำงานมันล่ะ ฮ่าๆ ถ้าถามว่าลาวใต้มีอะไรดี ผมก็ยังไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่าอยากไปมากๆ มันอาจจะมีสิ่งที่เราตามหาก็เป็นไปได้แต่การเดินทางครั้งนี้ก็ได้แค่วางแผนคร่าวๆ ว่าจะไปที่ไหนบ้างเท่านั้นเอง

ขออีกสักรูปน่ะเธออออนานๆ จะเจอวิวสวยๆ บรรยากาศดีๆ ทุ่งข้าวสาลี

ส่วนการท่องเที่ยวในแบบของผมก็คงจะเป็นเจ้ามอเตอร์ไซค์คันนี้แหละครับ vespa125ie มันพาไปได้ทุกทีเลยไม่เคยงอแง มีแต่ผมนี้แหละงอแง ฮ่าๆๆ และแถมยังใข้งานมันอย่างหนักหน่วงมากไม่ว่าจะโคลน ลูกรัง แม่รัง แม่น้ำ ลูกน้ำ ยุงลาย โอ๊ยยยยจะเอาฮาไปไหนฮ่าๆ ^_^ คือแบบผ่านมาเยอะมากจริงๆ จนบางครั้งมันเหนื่อย ล่าสุดพาไปลาวเหนือมา โห๊วววพีคมากกกกคือแบบ ยางรั่วเป็นว่าเล่นเลย ตลอดทั้งทริปยางรั่วประมาณ 4-5 ครั้งได้ ถ้าใครยังไม่ได้อ่านก็ตามลิ้งนี้เลยครับ >>> http://pantip.com/topic/33571899 <<<

เหตุที่เอารถมอไซค์เข้ามาได้ก็เพราะว่าวันนั้นเป็นวันที่ ๒๗ ตุลาคม ซึ่งเป็นวันออกพรรษา และผมไปเช้ามากๆ เลยเอารถเข้ามาได้ครับ

ส่วนของที่แบกไปด้วยก็เอาไปเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ทั้งหมดจะยัดใส่กล่องใต้เบาะและกล่องหลังรถ ส่วนกล้องและขาตั้งกล้องก็มัดใส่ท้ายรถเอาเพราะมันพับไม่ได้ฮ่าๆ เอาละรีบเก็บของแล้วสตาร์ทรถออกเดินทางกันกว่า ถ้าพร้อมแล้ว..... Let's Goooooo!!!


ระยะทางพันลี้

จากบ้านมา เจ้าลืมสัญญา สองเราเมื่อสายัณห์ ถรุ้ยยยยย!!! นั้นมันเพลง นอกเรื่องล่ะ ฮ่าๆ ถ้าถามว่าระยะทางทั้งหมดที่ผมเดินทางในครั้งนี้กี่กิโลเมตรผมบอกได้เลยครับว่าไกลเชี้ยๆ ฮ่าๆ ลองดูดิ

เส้นทางนี้แค่ขาไปอย่างเดียวน่ะขากลับอีกเรื่อง แค่ไปอย่างเดียวก็ 1392 กิโลแล้วนี้ยังไม่รวมเส้นทางที่ต้องข้ามเรือข้ามไรอีกนะ เอาเป็นว่าช่างแมร่งเถอะครับจะไกลแค่ไหนก็ช่างรู้แต่ว่าจะไปไหน มีจุดหมายปลายทางก็พอแล้ว ส่วนระยะทางเอาไว้เป็นตัวพิสูจน์ม้าเถอะครับ พอดีผมไม่ใช่ม้าเลยไม่ต้องพิสูจน์ ฮ่าๆ มาเข้าเรื่องๆ อย่างที่ใครหลายๆ คนบอกปลายทางไม่สำคัญเท่ากับวิวข้างทางหรอก เดี๋ยวผมจะพาเพื่อนๆ มาดูวิว เยาวภา กัน เอ้ยยยนั้นเขาเป็นนักกีฬาเทควันโดนะโว๊ยยย.... (กูว่าแป๊ก ฮ่าๆ) เข้าเรื่องกันดีกว่าเนอะ มาดูวิวข้างทางกันดีกว่าครับ ไปดูกันเถอะครับท่าน ^_^ โดยที่แรกเนี้ยจะเป็นวิวที่เขื่อนสิริธร เห้ยเป็นเขื่อนแบบไม่ธรรมดาจริง เขาว่ากันว่า เป็นพัทยาของเมืองอุบลเลย เขานี้ใครก็ไม่รู้นะ

วันที่ออกเดินทางผมขี่รถไปเช้าที่นั้นพอดีครับ

พระอาทิตย์มอบของขวัญชิ้นแรกสำหรับการเดินทางครั้งนี้มาให้แต่เช้าเลย ^_^ ไม่ทันไรก็ถึงชายแดนแล้ว ^_^

เราเห็นวิวทางบ้านเราไปแล้ว เรามาขี่รถดูวิวข้างทางของเพื่อนบ้านเราอย่างสอปอปอลาวกันบ้างครับ โดยเส้นทางมันมีหลายรูปแบบมากเลยครับ รูปแรกนี้ครับผมขอนำเสนอเลย...

ทักทายกันหน่อยยยยย วู๊ววววววววววว!!! เส้นทางนี้เป็นเส้นทางระหว่าง เข้าตาดจำปีครับ เส้นทางไม่ถึงกับแย่มากแต่ทางสวยดีครับมีไร่กาแฟตลอด 2 ข้างทางเลย ส่วนเส้นทางต่อมาก็เป็นเส้นทางนี้แหละครับ โห๊ว ได้ใจมากเลย

เราจะเจอสะพานแบบนี้ได้ที่ จำปาสักครับ เพิ่มเติมอีกเรื่องคือ ที่สอปอปอลาว เราต้องขี่รถอย่างระวังมากๆ เพราะเขาจะไม่สนใจเลยว่าใครจะขี่ยังไงแต่ก็ไม่ชนกันน่ะ ฮ่าๆ เซียนกันจริงๆ ส่วนมากที่ต้องระวังก็ทั้งรถยนต์และมอไซค์เนี้ยแหละครับพี่แกอยากเลี้ยวก็เลียว อยากแซงก็แซงเลย!!! วิวต่อไปผมว่าเป็นวิวที่แบบสวยอีกแบบน่ะ ถ้าถามว่าในไทยมีมั้ยบอกเลยว่าไม่

การเดินทาง ทางน้ำครับ เรือแบบเนี้ยผมมั่นใจได้เลยว่าที่ไทยไม่มี ฮ่าๆ จะว่าไปแล้วเนี้ย..... ผมก็กลัวน่ะ

เส้นทางนี้ต้องเอามอไซค์คู่ใจคันนี้ขึ้นเรือไปด้วย ดูดิแมร่งแบบบอกเลยว่าเสียวสุดๆ แล้ว

เรือพี่ก็ช่างเล็กเหลือเกิน ใหญ่กว่านี้ได้มั้ย แล้วแบบมันก็เอนไปเอนมา รถมันก็เอียงน่ะ ถ้าไม่จับก็ตกแม่น้ำโขงเลยละครับ ฮ่าๆ เอาคะแนนความเสียวไปเต็ม 9 เลยครับสำหรับการเดินทางแบบนี้ คราวนี้เรามาดูระยะทางจริงๆ กันดีกว่าว่าจะสักเท่าไร การเดินทางครั้งนี้ย้ำอีกครั้งน่ะครับขี่มอไซค์จาก กทม-ด่านชายแดน สอปอปอลาว-กัมพูชากันเลยทีเดียวเชียว ที่ไปไกลขนาดนั้นไม่ใช่ไร ขี่เลยยฮ่าๆ ซึ่งระยะทางก็นี้แหละครับท่าน >>>>

ซึ่งรูปทางด้านซ้ายเป็นรูปก่อนการเดินทาง ส่วนรูปทางด้านขวาเป็นรูปหลังจากที่กลับมาถึงที่พักแล้วครับ รวมก็ ๒๒๓๓ กิโลเมตรกันเลยทีเดียว ถือว่ายังโอเคอยู่น่ะ แหม่มันมากกว่าที่คิดๆ ไว้เสียอีกเท่านั้นยังไม่พอ เจ้าสองล้อคู่ใจของผมมันยังทำให้ผมไม่ผิดหวังอีกด้วย ดูสิ

พอถึงช่วงที่เข้าไทยแล้ว ทำให้เจ้าท่อตัวการแตก ที่มันแตกก็พอเพราะว่านอตที่ยึดอยู่ขาดทั้ง 2 ตัวเลย มันขาดได้ไงว๊าาาา สงสัยมากก เพราะฉะนั้นแล้วเนี้ย เวลาผมไปเที่ยวกับเพื่อนๆ หรือครอบครัว ผมมักจะนอนไม่หลับ เพราะว่าข้างทางบางทีมันก็สวยกว่าจุดหมายปลายทางที่เราไปเสียอีก ดังนั้นสิ่งที่สวยงามมันเกิดขึ้นจากสายตาที่เรามอง และจิตใจของเราว่า เรามองมันสวยมากแค่ไหนเท่านั้นเองแต่ขอให้ใช้ใจมอง ^_^ และนี้ก็เป็นสภาพรถหลังจากจบทริปครับ

บ๊ายบายครับ แล้วเราจะกลับมาพบกันใหม่



เรื่องของตาด

ว่ากันด้วยเรื่องของตาด ก็จบเพียงเท่านี้น่ะครับ ผมไม่ได้อยากรู้สักเท่าไร เพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องของเรา ฮี่ๆๆ^_^ เข้าเรื่องกันดีกว่าครับ คำว่า "ตาด" จริงๆ แล้วคำว่าตาดแปลว่า น. ผ้าที่ทอด้วยไหมควบกับเงินแล่ง (คือเงินที่รีดแผ่ให้บาง แล้วผ่าให้เป็นเส้นๆ) หรือทองแล่งจำนวนเท่ากัน, เรียกชื่อตามลักษณะของลายที่ทอ เช่น ตาดลายคดกริช, ถ้ามีไหมปักทับ ลงไปอีกเป็นดอก ๆ เรียกว่า ตาดระกำไหม เห้ยยยยมันคนละตาดกันแล้วววว โธ๊ววววว!!! คำว่าตาด ก็แปลว่า น้ำตกเนี้ย แหละครับ ทีนี้จะพาไปดูตาดต่างๆ ที่ภาคใต้ของสอปอปอลาวกันดีกว่าว่าจะมีตาดอะไรบ้าง เดี่ยวช่วงท้ายๆ ผมจะแนะนำเกี่ยวกับการเที่ยวตาดที่สอปอปอลาวด้วยละกัน เรามาเริ่มกันที่แรกดีกว่า


ตาดฟาน

เรื่องของตาดฟานมันเป็นน้ำตกที่แบบ จะว่าสวยก็สวยน่ะ แต่... เอาเข้าจริงๆ แล้วเนี้ย…

อยากจะบอกว่า... มันคืออะไรวะเนี้ยยยอยากจะร้องให้ ที่แท้ก็เป็นแค่จุดชมวิว ของตาดฟาน ส่วนพื้นที่ๆ เราเข้าไปดูก็เป็นของรีสอทอีก ตอนแรกคิดว่าจะได้เล่นน้ำตก แต่ดันไม่ได้เล่นซะงั้นไม่เป็นไรได้เห็นแค่นี้ก็โอเคแล้ววว เนี้ยแหละตาดฟาน ^_^ ถ้าอยากมาเพื่ออยากเห็นก็โอเคครับ แต่ถ้าไม่เชื่อในสิ่งที่ผมบอกก็ลองดู ฮ่าๆ แล้วจะรับรู้ได้ด้วยตนเองฮ่าๆ

ตาดผาส้วม


จากจุดขายบัตร เราก็เดินเข้ามาเรื่อยๆ ก็จะเป็นสะพานข้ามมาดูน้ำตก พอเรากำลังเดินอยู่นั้นปรากฏว่าได้เจอกับ…

น้ำตกครับ ผมไม่รู้จะเรียกว่ามันตกดีมั้ยฮ่าๆ ทุกคนว่าไงอะ ก็เนี้ยแหละครับท่านผู้ชมตาดผาส้วมมม ถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรต้องมาดูให้ได้เลยละครับ มันมีอะไรมากกว่านี้แน่นอนฮ่าๆ เจ็บสึส จริงๆ น่ะ

ตาดจำปี

ตาดจำปีจะอยู่ใกล้กับตาดฟานคืออยู่ตรงข้ามกันเลย พอเราขี่มอไซเข้ามาตามทางเรื่อยๆ ก็จะเจอทางตัน.... แต่จะเจอกับร้านขายของนั้นแหละครับถึงแล้วเจ้าก็จอดรถไว้ม่องนั้นละ แล้วเราต้องเดินเท้าต่อเอา พอเราเดินไปตามทางก็เจอสิ่งที่เรียกว่า...

เจอสะพาน ^_^ แต่โมเม้นตอนนั้นแบบสวยสวยสัสรู้สึกดีกว่าอีตาดด้านบนมาก เดินอีกหน่อยก็ใกล้ถึงละ….อีกนิดเดียว อีกนิดดด อีกสองก้าว

ตาดนี้ยังไม่ค่อยมีคนไปเท่าไร แต่ถามว่าเป็นอย่างไง มันโอเคกว่าสองตาดที่ผ่านมาเสียอีก เล่นน้ำได้ด้วย ถ้าถามว่าผมเล่นมั้ยบอกเลยว่าไม่ ฮ่าๆๆ เพราะน้ำมันเย็นมาก สูดอากาศเข้าปอดให้มากที่สุดแล้วพักผ่อนให้หายเหนื่อย แล้วเราก็ต้องไปต่อกันครับ



ตาดเยือง

เขาว่ากันว่า (เขาว่ากันว่าอีกล่ะ) ตาดเนี้ยเด็ดสุดเด็ด แต่ว่าเด็ดยังไงหรออ หึหึหึ คนเยอะไงเด็ดมั้ยละ พอเดินเข้าไปถึงน้ำตกจริงๆแล้วเนี้ย ก็เป็นแบบนี้แหละครับ


ตอนแรกฟ้าไม่มีแดดเลย แต่พอแดดค่อยๆ ออกเท่านั้นแหละ เห้ยยมีรุ้งด้วยอะ รุ้งรัศมีประมาณ 5 เมตรได้ คือแบบสวยอ่ะ จนไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้เลย เสียดายมาก ตอนนั้นแดดออกแปปเดียวแล้วแดดก็โดนบัง พอมาดูกล้อง VDO ที่ถ่ายไว้ก็ดันลืมเช็ดน้ำออกจากหน้ากล้องอีก ฮ่าๆ ภาพที่ได้เลยเป็นแบบเนี้ย


แต่ว่าตาดเยืองเนี้ยมีพื้นที่ให้เล่นน้ำเยอะมากเลยน่ะ แต่ผมไม่ได้ไปเพราะว่า ตอนนั้นมันก็จะเย็นแล้วต้องเดินทางต่ออีก ไม่อยากขี่รถตอนกลางคืนครับอันตราย



คอนพะเพ็ง

เขาว่ากันว่า คอนพะเพ็งเนี้ยเก็บค่าเข้าแพงแสสสสส ฮ่าๆๆ ไม่เป็นไรผมยอมจ่ายถ้าไม่ใช่คอนพะเพ็งผมไม่ยอมนะเนี้ยเพราะว่า คอนพะเพ็งได้ชื่อว่าแองการ่าแห่งเอเชียกันเลยทีเดียว พอเราเดินจากด้านหน้าประตูแล้วเนี้ยข้างในเขาก็มีรถไฟฟ้าบริการ รับ-ส่งน่ะครับ ก็คือคิดรวมตรงค่าเข้านั้นแหละครับ รถไฟฟ้าจะส่งเราที่จุดชมวิวเลยครับ เดินต่ออีกไม่เท่าไร


ก็นี้แหละครับคอนพะเพ็งมันมีอยู่เท่านี้จริงๆ ถ้ามากกว่านี้ก็ไม่ใช่คอนพะเพ็งแล้วละฮะ ^_^ อยู่ชมวิวเดินเล่นกันสักพัก พักผ่อนให้หายเหนื่อย แล้วเราก็ออกเดินทางต่อครับ มาไกลมากเพื่อมาดูแองการ่าออฟเอเชีย มันไม่เสียดายเลยจริงๆ ที่ได้มาดูสาวที่นี้ เอ้ยย ดูตาด โธ๊วววจะดูสาวอย่างเดียวเลย



ตาดหลี่ผี

แค่ชื่อก็น่าขนลุกแล้วละครับ ก็ดูสิครับแหม่ แค่ค่าเข้าก็ขนลุกแล้วครับฮ่าๆๆ ผมว่าเป็นปกติน่ะที่ชาวต่างชาติย่อมแพงเป็นปกติ บ้านเราก็เก็บแพงเหมือนกัน ^_^ ตาดหลี่ผี ผมต้องข้ามน้ำ ขึ้นเรือ เพื่อมาดูมันให้ได้เลย ต้องเอารถขึ้นเรือมาที่บ้านดอนเดดแห่งนี้


พอเราเดินเข้าไปเรื่อยๆ ก็จะเจอทางที่เป็นซุ้มแบบนี้ ผมว่ามันสวยดีน่ะ มีรูปแต่ไม่ให้ดูหรอกไปดูกันเอง แต่มันมีจริงๆ น่ะไม่ได้โกหก ^_^ พอเราเดินมาเรื่อยก็จะเจอตาดแล้วละ


ถ้าเดินไปอีกก็จะเป็นชายหาด มั้งงง ไม่รู้จะเรียกว่าชายหาดดีมั้ยแต่ เขาเรียกกันว่าชายหาดอะ


แต่ผมไม่ได้เดินไปน่ะ ฮ่าๆ มีอีกเรื่องหนึ่งที่อยากเสริม สำหรับบ้านดอนเดดถือว่าเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวสาย Dark เลยน่ะเขาว่ากันว่ามีครบอะ ฮ่าๆ ถึงว่าฝรั่งอยู่ที่นี้กันเยอะมากเลย แต่ละคนตาเยิ้มเลยก็มี


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ผมถามคนแถวนั้นเขาบอกว่ามีพวกเนื้อไรครบเลยน่ะ แต่ก็...นั้นแหละ เราก็ลองไปสักหน่อยเอ้ยยยไม่ใช่ล่ะ เราก็อย่าไปยุ่งล่ะกันเรื่องแบบอันนี้ อย่าเพิ่งเชื่อผม ถ้าคุณยังไม่เห็นด้วยตัวเอง (. กันด้วยน่ะครับ ค.คิด ว.วิเคราะห์ ย.แยกแยะ ในสิ่งที่ผมพิมพ์ในนี้ด้วยครับ)



ความสวยงามของแต่ละตาดมันก็สวยต่างกันออกไปอะนะ แต่ตาดที่เราชอบมากที่สุดน่ะจะเป็นตาดเยืองเพราะไร รู้ป่ะ น้ำตกห่าไรว่ะแมร่งมีรุ้งด้วยรุ้งนี้แบบไม่ใช่เล็กๆ เลยน่ะรัศมีมันประมาณ 5 เมตรได้แล้วเห้นเป็นวงกลมเลยเว้ยย ฮ่าๆ สวยมากอะเมิงงงเชี่ยยยยย ขออุทานหน่อยเหอะ นานๆ จะได้เจอ น้ำตกเชี่ยไรสวยๆ แบบนี้ OMG สมกับที่เขาบอกกันปากต่อปากว่าที่ตาดนี้เด็ดจริงๆ ส่วนตาดอื่นๆ ความคิดเห็นส่วนตัวของผมบางที่ก็ไม่น่าใช้คำว่าตาดอะไม่รู้ดิ ผมว่าแล้วแต่คนจะคิดน่ะ

วิถีชีวิต



การดำเนินชีวิตของคนลาวก็ไม่ได้แตกต่างจากคนไทยมากเท่าไรครับ จากขับรถชิดซ้ายก็มาขับรถชิดขวา จากใช้เงินบาทก็มาใช้เงินกีบ จากพูดภาษาไทยก็มาพูดภาษาลาว เริ่มเยอะล่ะ ฮี่ๆ ^_^เอาเป็นว่าไม่แตกต่างกันมากครับ วันนั้นผมตื่นเช้ามาได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านที่กำลังเดินทางไปสถานที่ต่างๆ อย่างเช่นน้องๆ ขี่จักรยานไปโรงเรียน

น่ารักมากเลย แบบปั่นจักรยานไปโรงเรียนตอนเช้าๆ ปั่นไปอากาศเย็นๆ สบายๆ โห๊ยยยอิจฉาาาาา


โรงเรียนที่นี้น่ารักดีน่ะเราว่า แบบเป็นโรงเรียนเล็กๆ มีครู 1-2 คน มันดูอบอุ่มยิ่งกว่าโรงเรียนใหญ่ๆ เสียอีก


ส่วนการ คมนาคมของคนสอปอปอลาวก็เป็นแบบนี้ละครับ


งๆ อัดกันเป็นปลาป๋องเลย แล้วเวลารถมาจอดจุดพักรถเนี้ยโห๊ววว แม่ค้าที่ขายของกินก็จะมาขายกันแบบนี้ละครับ เหมือนกับว่าเราโยนอาหารให้ปลากินเลย ฮ่าๆ แซวเล่นน่ะครับ ^_^ ซึ่งภาพนี้ผมถ่ายตอนที่ผมไป 4000Island (มันก็คือ Sri pan don แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาเรียกแบบนั้น) เดี๋ยวผมพาไปตลุย ตลาด กันแบบตลกๆ ดีกว่า ^_^ ถ้ามันไม่ตลกก็ขออภัยตอนนี้เลยน่ะ ฮ่าๆ


รู้มั้ยว่าทำไมฝนถึงไม่ตก เพราะกบมันไม่เหลือแล้วให้ร้องแล้ว ฮ่าๆ เมิงจะบ้าปะเนี้ยโดนมัดแบบนี้ไม่ร้องแล้วละ รอความตายอย่างเดียว = =


ตอนนั้นผมเดินเข้าไปถามทางคุณลุงว่า ตาดไรต่อไรไปทางไหน แต่ๆๆๆ ลุงงงงแกดันมาแรพใช่ผมอีก ฟังไม่ทันเลยฮ่าๆ


เห็นหน้าน้องแล้วเศร้าอ่ะ น้องเขาอยากกลับบ้านแต่ต้องรอคุณแม่จ่ายตลาดเสร็จก่อน


เป็ด


วอ 1 เรียกวอ 2 คาก คาก อย่าเพิ่งน่ะเสียดายครับ ฮ่าๆ


พอเดินตลาดเสร็จก็ไปต่อกันดีกว่าครับ อย่าอยู่นานเลยขอละ อากาศร้อน มีอีกเรื่องนึงจะพูดถึงเกือบลืมเลย คนที่สอปอปอลาวเนี้ยเขาเข้าวัดกันเยอะมากเลย เหมือนกับว่า มีงานอะไรก็ต้องจัดที่วัดทำนองนั้นหรือว่าวันนั้นที่ผมไปเป็นวันพระก็ไม่รู้น่ะ ฮ่าๆ

ภาพด้านบนจะเป็นการทำวัดเย็นครับ ชาวบ้านเข้าวัดกันเยอะมากเลย และวันไหนมีงานบุญ หรือวันพระใหญ่ๆ เขาก็จะพาลูกหลานออกมาที่วัดนุ่งผ้าซิ่นสวยๆ ออกมาทำบุญกัน


ผมมองว่ามันเป็นวัฒธรรมที่สวยงามน่ะ ลองคิดดิถ้าคนไทยใช่ชุดไทยมาทำบุญตักบาตรกันมันจะสวยแค่ไหน พอสายๆ คนที่เขาออกมาทำบุญเสร็จแล้วเขาก็มาร้านอาหารร้านนึงชื่อร้าน “ด้วยรักจำปาสัก"


แดดเข้ามาละแดดมันแยงตา ฮ่าๆ ซึ่งร้านนี้ทั้งคนจำปาสักเองหรือคนที่ปากเซก็นิยมมากันน่ะ ซึ่งผมก็นอนพักที่เนี้ยแหละสองคืนก่อนกลับไทย สภาพร้านโดยทั่วไปแล้วถือว่าดีเลยแหละเจ้าของร้านใจดีด้วยเป็นกันเองเกิ๊น 5555


สองภาพทั้งด้านบนและด้านล่างเป็นตอนเช้านะครับ ผมตื่นมาดูพระอาทิตย์ ซึ่งพระอาทิตย์ที่นี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ ครับ ^_^


ทีนี้ผมจะพาไปดูวัดกันบ้างดีกว่า เรามาเริ่มกันที่ปากเซก่อนละกันครับ วัดที่ผมไปนั้นผมว่าเป็นวัดที่มีจุดชมวิวที่สวยมากเลยทีเดียว และวัดนั้นก็คือวัด


วัดพูสะเหลา เห้ยสวยมากจริงๆ ลองไปกันดูน่ะครับ เราจะเห็นเมืองทั้งหมดของปากเซกันเลยละ เอาเป็นว่าไปดูภาพกันดีกว่าครับ


วัดที่นี้จะมีองค์พระวางเป็นเรียงกันสวยมาก และเยอะมากด้วย


ต่อไปเราไปดูวัดที่เมืองจำปาสักกันบ้างดีกว่าครับ วัดที่นี้เนี้ยเยอะมากเลยน่ะ แต่ผมจะพาไปดูวัดที่เป็นสุดยอดของเมืองจำปาสักกันเลยดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลามากนั้นก็คือ…


วัดภู


เช้าวันนั้นอากาศดีมากเลยครับ มีลมเบาๆ อากาศเย็นหน่อยๆ พอจอดรถเท่านั้นแหละ ร้อนเลย (อ้าวนี้กูขี่รถแล้วลมมันพัดผ่านใช่มั้ยย ฮ่าๆๆ)

เดี๋ยวค่อยๆ เดินขึ้นไปดูข้างบนกันดีกว่าครับว่า มีอะไรน่าสนใจบ้าง เน้นน่ะค่อยๆ แก่แล้วหัวเข่าเสื่อม ฮ่าๆ


เจอหน้าเขากำลังจัดเตรียมงานแต่ช้าเลยเพราะวันนั้นเป็นวันออกพรรษา


เห้ยสวยดีว่ะ พอหันหลังกลับจะเดินขึ้นต่อเท่านั้นแหละ เห้ยยยยยยยยยยยยยย


ขึ้นไปแล้วแบบค่อยๆ เห็นองค์พระเรื่อยๆ ๆ ๆ โห๊วววมันบอกความรู้สึกตอนนั้นไม่ถูกจริงๆ วัดภูเป็นวันที่เป็นมรดกโลกเลยนะเนี้ย ถ้าพูดถึงเรื่องความสวยงาม ก็สวยมากเลยทีเดียว ซึ่งวันนั้นที่ผมไปเขาก็เตรียมจัดงานกันแล้ว เพราะคืนนั้นเองช่วงค่ำๆ ที่วัดก็จะจัดงานวันออกพรรษาด้วย ซึ่งผมไม่ได้อยู่ดูต่อ T T ถ้าถามว่าผมเสียใจมั้ยบอกเลยว่า มากกกก อย่างมากที่สุด


เรื่องวิถีชีวิตคนที่นี้ผมว่าไม่แตกต่างกับคนไทยมากน่ะครับ แต่ผมว่าที่นี้ดีอยู่อย่างนึงคือความไม่วุ่นวายของสังคม สาวๆ น่ารักมาก ฮ่าๆ มองแต่สาวอีกแล๊วววว ฮ่าาๆ ล้อเล่นน่ะครับ ช่วงที่ผมไปเขาก็เริ่มๆ เกี่ยวข้าวกันแล้วละครับ ผมอยากจะแวะถ่ายรูปน่ะแต่แบบมันค่ำๆ แล้วอะไม่อยากเดินทางตอนกลางคืนที่นั้นเพราะมันมืดมากกกกก ครับเดี๋ยวมีเรื่องต่อไปจะเล่าวันนี้พอเท่านี้ก่อนน่ะครับ บ๊ายบายเดี๋ยววันนี้ ผมจะพยายามอัพต่อให้จบๆ นะครับ แล้วเดี๋ยวจะชี้แจงรายละเอียด เงินที่ใช้ไปคร่าวๆ ให้ทราบกัน ส่วนเรื่องที่ถามมาเยอะสุดคือไปคนเดียวจริงๆ หรอ บอกได้เลยครับว่าผมไปคนเดียวจริงๆ ผมไม่ได้บอกให้เชื่อน่ะ แต่ผมไปคนเดียวจริงๆ ฮ่าๆ ^_^ นอนรอไปก่อนน่ะครับ

โดยวันนี้ผมจะมาพูดถึงน้ำตกที่อยู่ด้านหลังเจ้าแมวตัวนี้ด้วยนะครับ ใครเคยไปกันแล้วบ้าง มันสวยมากเลยใช่มั้ยละครับ ^_^



สิ่งที่ตามหา



การออกเดินทางทุกครั้งสิ่งแรกที่เราจะพูดกับตัวเองเลยก็คือ เห้ยยยกุต้องไป....ให้ได้ และสิ่งๆ นั้นมันเป็นสิ่งที่เรารอคอยมาตลอดช่วงการเดินทางเหมือนกับว่าเราต้องพยายามอย่างมาก เพื่อที่ว่าเราต้องไปให้ถึงจุดหมายปลายทางที่เราตามหาให้จนได้ ถ้าไปไม่ถึงเหมือนกับคนขี้แพ้ และผมเราก็จะไม่ยอมหันหลังกลับถ้าไม่ได้เจอ และสิ่งที่ผมตามหาในทริปนี้คืออะไรรู้ไหม.... มันคือตาดตาดนึง ที่ผมอยากไปดูด้วยตาตนเอง ผมเก็บเงินไว้เพื่อการนี้โดยเฉพาะเลย มันเป็นตาดที่แบบเห้ยต้องมาดูให้ได้น่ะเว้ยเชรี่ยย แต่ก่อนที่จะไปถึงสถานที่ตรงนั้นได้เนี้ย เราต้องผ่านอะไรหลายอย่างมาก กว่าจะเข้าไปถึง มาดูกันดีกว่าว่าเราจะไปหามันได้อย่างไร อย่างแรกเลยน่ะ ไปจองทัวร์กับ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Green discovery http://www.greendiscoverylaos.com/ โดยตรงเลยจะได้ไม่ต้องโดนเสียค่าหัวคิวอีก ราคาก็ไม่แพงมั้งถึงแพงผมยอมจ่ายเพราะ ผมคิดว่าสิ่งที่ผมตามหามันคุ้มค่ากับการจ่ายเงินผมแน่ จากนั้นเราก็เตรียมตัวและร่างกายให้พร้อมสำหรับการเดินทาง ซึ่งวันที่นั้นผมก็โดนตำรวจจับด้วยแต่ก็ได้พี่บุญแกมาช่วยคุยให้ก็รอดออกมาได้ ทริปนี้ผมต้องไปแจมกันคนอื่นครับเพราะมาคนเดียว ระหว่างรอพี่บุญแกใจดีมากพาผมไปกินกาแฟรอเก๋ๆ รอ คุ้มตั้งแต่ผมยังไม่เดินทางเลยยย

พอไปถึงจุดพักที่เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเดินเท้าครับ


อย่างแรกต้องเดินเท้าเข้าไปครับ แต่ผมโชคดีเพราะฝนตก พี่บุญแกเลยขับรถไปถึงหน้าทางเข้ากันเลยทีเดียวฮ่าๆ สบายไป ^_^ เส้นทางนี้โห๊วววออฟโรดเรียกพ่อ ฮ่าๆๆๆ แล้วก็เดินๆๆๆ ฝนตกด้วย ด้านแรกที่เราเจอก็ก็ต้องเดินข้ามสะพานผ่านน้ำตกตาดเสือ ท้าทายระดับหนึ่งแต่ไม่มากเท่าไรสภาพก็เป็นแบบนี้และครับท่านผู้ชม


ยัง ยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ ยังมีโหนซิปไลน์แล้วต่อด้วยโรยตัวลงมาจากที่สูงอีก งานนี้มันส์แน่นอน


เห้ยมันสูงมากจริงๆ แต่ไม่ต้องห่วงครับเซฟๆ แน่นอน เตรียมใจมาให้พร้อมก็พอครับงานนี้


เวลาเราเล่นซิปไลน์มันมีผ่านวิวหลายวิวมากเลยน่ะ สวยๆ ทั้งนั้นมันเริ่มมาพีคที่จุดนี้ โห๊ววว เชรี่ยยยสวยอะไรขนาดนี้วะ ไม่เคยเห็นน้ำตกในมุมแบบนี้เลย จริงงงงง


ไม่รู้จะอธิบายยังไงน้ำตกไรวะโครตสวยเลยยกให้เป็นที่สุดของน้ำตกเลยก็ว่าได้ ถือว่าเป็นสวรรค์บนดินเลยก็ว่าได้ สำหรับใครที่ชอบธรรมชาติแนะนำครับ อย่าพลาดเลยทีเดียวมีกิจกรรมให้ทำเยอะพอสมควรแต่ก็ไม่เหนื่อยจนเกินไป แต่ก็เหนื่อยเลยแหละ มีทั้งเดินป่า เล่นซิปไลน์ โรยตัว โอ๊ยย เยอะมากจริงๆ จนพวกคุณต้องมาสัมผัสเองที่นี้ สอปอปอลาว จากนั้นไม่นานเราก็มาถึงที่แคมป์ พี่เขาก็จัดข้าวเย็นมาให้เราเลย พออาหารมาเท่านั้นแหละซัดกันแหลก โครตหิวเลยไม่ถงไม่ถ่ายรูปมันแล้ววว


พอทานข้าวเสร็จก็ต้องซิปไลน์เข้าบ้านต้นไม้อีกโห๊วไรขนาดน๊านนนน ฮ่าๆ


รูปนี้ถ่ายตอนเช้าน่ะครับ เพราะตอนนั้นอยากนอนมากๆ เลย ^_^ในช่วงเช้าตื่นมาอากาศดีมาก แล้วแบบเห็นวิวเป็นแบบนี้


ผมทนอยู่ในบ้านต้นไม้ไม่ไหวเลยซิปไลน์ออกมาจากบ้านเอง เพราะจะมาดูสิ่งนี้ (ที่ออกมาเพราะอยากดูน้ำตก เพราะว่าเมื่อวานมาก็เย็นมากแล้วตอนสัมผัสแรกที่เห็นแบบเชรี่ยสวยจริงๆ เลยต้องรีบออกมาดู พอเดินผ่านแคมป์พี่เจ้าหน้าที่ก็งงว่าออกมาได้ไงว่ะ ฮ่าๆ)


มุมนี้หาถ่ายยากน่ะ ฮ่าๆ


พอทานข้าวเสร็จก็เดินทางกลับเข้าเมือง แต่ช่วงเช้าจะออกมาเล่นซิปไลน์ก่อนน่ะครับ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ผมไม่ค่อยได้ถ่ายไว้เท่าไรแรกก็ตื่นเต้นหลังก็ เมื่อไรจะหมดว่ะ ฮ่าๆ ไม่โกหกจริงๆ แต่วิวของซิปไลน์แต่ละเส้นก็จะแตกต่างกันออกไป(มันจะมีเส้นที่ยาวที่สุดของงานนี้อยู่ เราสามารถมาเล่นรอบ 2 ได้น่ะแต่ว่าต้องรีบเดินเลยแหละ ฝรั่งที่อยู่กรุ๊ปผมแมร่งเล่นไป 3 รอบฮ่าๆ แต่ต้องเดินไวๆ น่ะ) แต่หารู้ไม่ดูทางเดินกลับเราสิ ^_^ เห้ยมันเจ๋งอะแกรรรรรร


มันมีหลายด่านมากเลยขากลับ มันตื่นเต้นดีน่ะ


มันมีหลากหลายรูปแบบมากเลย มันทำให้เราไม่เบื่อับการเดินทางเลยแหละ เพราะหลังจากหมดซิปไลน์เยอะๆ มาเจอแบบนี้โห๊ววว ฟิน


ถึงคราวที่ต้องปีนหน้าผาแล้วครับ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของผมเลยละครับ ครั้งแรกทีไร เสียวทุกทีไม่รู้ว่าจะเจ็บป่าววว ฮ่าๆ พอถึงจุดนี้มันต้องปีนหน้าผากลับทางเดียวนะถ้าไม่กลับทางนี้ก็กลับฮอ ถ้ามันจะ Adventure ขนาดนี้ละก็น่ะ ฮ่าๆๆๆ แต่สนุกดีครับตื่นเต้นดี ทำให้เราต้องมีสติอย่างมากเลย


เห้ยแต่แรกแบบใจตุ๊ด ไม่กล้าจริงๆ ฮ่าๆ แต่พอขึ้นไปข้างบนน่ะจะวิวทั้งหมดของ Donghue sao national park เลย


จากนั้นก็เดินๆๆๆๆ เดินอย่างเดียวฮ่าๆ เดินกลับไปที่บ้านพักตรงที่เรามาครั้งแรก ระหว่างทางก็เจอเด็กๆ แถวนั้นด้วยครับ น่ารักดี


หัวเราะกันแบบอย่างอร่อย หัวเราะอะไรขนาดนั้น แค่เต้นดึงดาวให้ดูเองฮ่าๆๆๆ


จากนั้นก็เดินทางกลับเข้าปากเซครับ หลับสนิทยันถึงปากเซเลยครับ ทั้งหมดนี้มันก็เป็นสิ่งที่ผมตามหามาตลอดของการเดินทาง สำหรับผมแล้วเนี้ยแมร่งโครตคุ้มกับการที่ขี่มอไซค์มาแล้วละ ช่วงเวลา 5 วันที่สอปอปอลาวผม มันทำให้เกิดมุมมองใหม่ สิ่งใหม่ๆ ความคิดใหม่ เพื่อนใหม่ๆ ที่เจอระหว่างการเดินทาง ห้าวันนี้มันโครตจะมีความสุขเลยแหละ แค่นี้ผมก็มีเรื่องราวดีๆ ในชีวิตเพิ่มมาอีกเรื่องหนึ่งแล้ว ผมอยากให้เพื่อนลองค้นหาความสุขของตัวเองดูครับ ว่าจริงๆ แล้วเราต้องการอะไรในชีวิตของเรากันแน่ สิ่งที่จะทำให้มีความสุขได้ สิ่งๆ นั้นมันคืออะไรกัน.....!!!


การเดินทางครั้งนี้ ก็มีน้ำตกขมึดนี้แหละครับ เป็นสิ่งที่ผมตามหา... ขอส่งท้ายด้วยรูปใบนี้ครับ #ตาดขมึด #Donghue sao national park #สอปอปอลาว

สุดท้าย



งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลาครับ ไม่ว่าเราเริ่มทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มันย่อมมีจุดจบหรือจุดที่สิ้นสุดของการกระทำของสิ่งๆ นั้นเสมออย่างเช่น เราทอดไข่ เราคงไม่ทอดไข่ไปตลอดชีวิตหรอกครับ เพราะว่าถ้าเราทอดไปเรื่อยๆ โดยที่เราไม่ยกขึ้นเลยเนี้ยไข่ก็จะไหม้ก่อนฮ่าๆ ไม่ใช่ล๊าวววว ฮ่าๆๆๆ


มาถึงตรงนี้แล้ว เวลานี้แล้ว มันก็ได้เวลากลับสิ่งที่เรียกว่า "บ้าน" อย่างประเทศไทยเราแล้วละครับ ถึงแม้ว่ามันยังไม่อยากกลับก็ช่างเถอะ ทำไงได้เราต้องมีหน้าที่ ที่เราต้องทำในเช้าวันรุ่งขึ้นอยู่ หลายคนเรียกมันว่า "วันทำงาน" ได้ยินแล้วยังขนลุกเลย ฮ่าๆ


ผมว่าทุกคนไม่สามารถหนีพ้นกับคำว่า "งาน" ได้เลยน่ะ ไม่ว่ารวยจะจนแค่ไหน ยังไงก็ต้องทำมันอยู่ดี เอาเป็นว่าช่างแมร่งเถอะ เรื่องของงาน ผมก็ได้แต่หาเวลาหยุดช่วง เสาร์-อาทิตย์ ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ผมเลยอยากให้ทุกๆ คนลองเขียนเรื่องราวในชีวิตตัวเองว่ามีอะไรที่เราน่าจดจำในชาตินี้บ้าง เผื่อลูกถามเราว่า พ่อๆ เคยไปที่โน้นที่นี้มั้ย เราจะตอบลูกว่ายังไงดี หรือเราอาจจะรอเที่ยวไปพร้อมๆ กับลูกเราก็ได้น่ะ ฮ่าๆ สุดท้ายแล้ว


ผมไม่รู้จะขอบคุณทริปนี้ให้กับใครอะไรยังไงดี ผมรู้แค่ว่าผมอยากมา เพราะลาวเหนือมันทำให้ผมติดใจ ก่อนอื่นเลยผมว่าต้องขอบคุณขอบครัวของผม ที่เข้าใจว่าผมเป็นคนอย่างไง และผมก็เป็นแบบนี้มันตั้งแต่เด็ก สันดารมันเปลี่ยนกันยากจริงๆ ฮ่าๆ ที่สำคัญเลยขอบคุณความโดเดี่ยว เดียวดายที่ทำให้ผมได้ผจญภัยอะไรแบบนี้ ฮ่าๆ กุต้องขอบคุณเมิงใช่มั้ยเนี้ย ฮ่าๆ และก็ขอบคุณทุกคนมากที่ให้ความสนใจกระทู้นี้ ^_^ ถึงมันจะเป็นกระทู้กากๆ ก็เถอะ!!! ยังไงก็ขอโทษสำหรับเรื่องภาษาด้วยครับถ้ามันไม่เข้าตาหรือถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ช่างๆ มันเหอะน่ะ ฮ่าๆ ^_^


จริงๆ อยากจะบอกว่า ชีวิตของเราไม่ได้เกิดมาแค่ เรียน ทำงาน เก็บเงิน แต่งงาน แล้วก็จบ เพียงแค่นี้ มันมีอะไรหลายอย่างมากที่เราไม่รู้ โลกใบนี้ยังมีอะไรให้เราค้นหาอีกเยอะเลย ถึงแม้ว่าความสุขของแต่ละคนมันจะไม่เหมือนกันก็เถอะ แต่สำหรับผมแล้ว “การให้ คือ ความสุขที่ไม่สิ้นสุด"


ค่าเสียหายที่ได้รับ



ทริปนี้ผมตั้งใจที่จะไปอย่างมากตอนแรกกดเครื่องคิดเลขเล่นๆ ว่าต้องเอาเงินไปเท่าไร ปรากฏว่าต้องใช้เงิน 18000 บาทเลยทีเดียว มันเท่ากับเดือนผมทั้งเดือนเลย มันทำให้ผมคิดอยู่นาน เกือบจะล้มเลิกทริปนี้ไปแล้วแต่ยอมครับงัดกระปุกออกมาเพื่อทำตามใจที่อยากทำ เพราะคิดว่ามันคือการลงทุนที่จะติดตัวเราไปตลอดกาล ^_^ จากนั้นผมก็เอาเงินไปแค่ 15000 พอครับอีก 3000 เก็บไว้ใช้ที่ไทย มาเข้าเรื่อง จะชี้แจงเป็นเรื่องๆ ไปขาดบ้างเกินบ้าง ก็ช่างมันน่ะครับอย่าไปจริงจังกับมันมาก เราไปเที่ยว...



เรื่องของกล้อง โฆษณาให้เขาอีก ถามว่าได้ไรมั้ยบอกเลยว่าไม่ คือถามกันเยอะไง

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้1. Nikon: D7100

2. Gopro: Hero 4



เรื่องของเอกสารที่จะนำรถออกไปนอกประเทศ

1.บัตรประชาชาชน

2.ใบขับขี่

3.พาสปอร์ตตัวเราเอง+รถมอเตอร์ไซค์ (ใบแปลเล่ม)

4.เล่มเขียว

5.ทุกอย่างถ่ายเอกสารไว้อย่างละ 2 ใบ

พอไปถึงก็ถามเจ้าหน้าที่ว่า ต้องไปช่องไหน ช่องไหนบ้าง ตามลำดับ 1 2 3 ไป



ค่าใช้จ่ายสำหรับประสบการณืที่หาไม่ได้

1. ค่าน้ำมันทั้งหมด 2500 บาทโดยประมาณครับ เฉลี่ยแล้ว 25-30 กม/ลิตร ประมาณเอานะครับเพราะแต่ละครั้งแมร่งไม่เท่ากันเลยจ่ายบ้างรูดบ้างปนๆกัน

2. เรื่องของค่าเข้าหน้าด่านอันนี้จำไม่ได้จริง และไม่ได้จดไว้ด้วย รวมทั้งฝั่งไทยและลาว ใช้เงินไม่เกิน 300 บาท รวมทั้งหมดเลยน่ะ คนด้วยรถด้วย แต่จำได้ว่าจ่ายฝั่งลาว 150 เท่ารถยนต์เลย

3. ค่าเข้าน้ำตก+ค่าจอดรถมอเตอร์ไซค์ด้วย 710 บาท แพงจริงค่าเข้าตาดแต่ละที่อ่ะ

4. ค่าที่พัก 2 คืนรวมอาหารเย็น 1200 บาท ที่บอกว่ารวมอาหารเย็นคือผมสั่งข้าวกินที่ร้านเขาเลยน่ะ

5. ค่าอาหารระหว่างการเดินทาง 1200 บาท ผมกินไม่ได้อดยากนะ ผมก็กินให้อิ่มและอร่อยมีเบียบ้าง

6. ค่าตำรวจ 200 บาท

ค่าเสียหายสุดท้าย ที่มันทำให้ผมได้เห็นอะไรใหม่ๆ ได้ลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ และได้ประสบการณ์จากมันมามากมาย นั้คือค่าทริป Tree Top Explorer (2 days /1 night) ในราคา 218 เหรียญ ประมาณ 7850 บาทไทย

เรื่องความลำบาก


ถ้าไปแบบผมก็ต้องพร้อมระดับหนึ่งละครับเพราะผมขาลุยง่ายๆ สบายๆ อย่าเยอะ ถ้าไปเที่ยวแบบสบายๆไม่ลำบาก ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องใช้เงินเท่าไร ฮ่าๆ เป็นคนไม่มีกะตัง ฮ่าๆ ^_^ เลยต้องไปแบบนี้ละครับ



เงินทั้งหมดที่เหลือในกระเป๋าสตางค์ผมก็เหลือ แบงค์พัน 1 ใบกับเงินอีก 12500 กีบ เท่ากับว่าผมใช้เงินไป 14000 บาท เลยละกันเนอะ

ผมคิดว่าเงิน 14000 เนี้ยบางคนอาจจะมองว่าเอาไปทำอย่างอื่นมั้ย นั้นมันก็เรื่องของคุณแล้วละครับ ผมเชื่อว่าท้ายสุดแล้วทุกคนก็ย่อมเอาเงินไปทำให้ตัวเองเกิดความสุขแน่นอน มีใครมีอะไรสงสัยเพิ่มเติมมั้ยครับ งั้นผมขอจบการนำเสนอเพียงแต่เท่านี้ครับ ขอบคุณพื้นที่เล็กตรงนี้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

7NOVEMBER

 วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 19.08 น.

ความคิดเห็น