กราบสวัสดียกมือเหนือหัวทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ คืนนี้มีอะไรดีๆ มาเล่าให้ฟัง ตั้งแต่ไปที่เมืองลาวมาก็ทำงานอย่างเดียว เลยไม่ค่อยได้ไปไหนช่วง 8-12 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมาก็ได้มีโอกาสไปเที่ยวเชียงใหม่ (แต่จริงๆ แล้วคืออยากขี่รถไปปากเซแต่รถดันซ่อมไม่เสร็จ) เลยได้ไปเชียงใหม่แทน แต่มันมีอะไรดีๆ อยู่ลองตามมาดูล่ะกัน


VDO:


> https://www.youtube.com/watch?v=Zzv7gwNHyCw&feature=youtu.be


อย่างแรกเลยน่ะ นั่งรถไปหมอชิตแล้วก็ซื้อตั๋วไปเชียงใหม่ ราคาแล้วแต่ชอบเลยอยากนั่งสบายๆ ก็แพงหน่อย ก็นั่งคืนวันที่ 7 ไปถึงก็เช้าวันที่ 8 พอปถึงก็ไปเช่ามอไซค์หรือไรก็ได้ที่เป็นยาพาหนะ เพื่อที่จะได้ไปจุดต่างๆ ได้ แต่ผมเช่ามอไซค์เอาวันละ 200 บาท 4 วัน หมดไปละ 800 บาท ส่วนเส้นทางการไปเที่ยวก็ตามนี้เลย

แค่ดูแผนที่สองข้างทางก็สวยแล้ว ที่นี้ประเทศไทยน่ะโว๊ย ฝรั่งยังอยากมาเที่ยวเลย ส่วนระยะทางจริงๆ แล้วที่ขี่ก็มากกว่านี้แหละมีหลงบ้างไรบ้างตามภาษาเด็กต่างถิ่น เอาล่ะมาเข้าเรื่องกันดีกว่า ที่ผ่านมาก็เข้าเรื่องแล้วน่ะ ฮ่าๆ มาๆๆ เริ่มๆๆ ถ้าพร้อมแล้วก็ปรบมือ 3 ครั้ง ปรบให้ดังกว่านี้ ปรบใหม่อีกที ปรบให้ดีกว่าเดิม มาเข้าเรื่องกันดีกว่า ^_^

ที่ๆ แรกที่จะไปเลยน่ะคือ ดอยผ้าห่มปกเพราะอะไรรู้มั้ย มันเป็นจุดกลางเต็นท์ที่สูงที่สุดไง แค่นึกหัวใจผมก็เต้นแรงแล้วอ่ะ อยากจะไปกลางเต็นท์นอนแมร่งสักคืนให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย โดยระหว่างทางก็แวะเขื่อนแม่งัดไรงี้ แต่ข้างทางมันสวยจริงๆ ดูดิ

นี้แค่ชาวนาปลูกข้าวก็ยังสวยเลย ดูหลังคนทำนาดิ หลังแบบสู้ฟ้าหน้าก็สู้ดินมาก เวลากินข้าวก็ท่องข้าวทุกจานอาหารทุกอย่างด้วยน่ะ ไม่นานก็ถึงเขื่อนแม่งัดละ

ณ จุดๆ นั้นแมร่งโครตร้อนเลย แต่ยังดีมีร้านเครื่องดื่มขายตรงนั้น และก็ยังมีศาลาไว้พักผ่อนด้วยช่วยดับร้อนไปได้เยอะเลยแหละ

เอาง่ายๆ เลยน่ะ เขื่อนก็คือเขื่อนอ่ะแหละแต่ว่ามันสวยนี้สิต้องไม่พลาดที่จะไป พอพักเหนื่อยเสร็จก็ขี่ออกมาไปยังเป้าหมายต่อไปดีกว่า ขี่ไปตามทางอะแหละไม่นานก็ถึงอุทยานแห่งนี้เข้า

ไหนว่ะดอยไม่เห็นมันจะสูงเลย พอได้ถามเจ้าหน้าที่ว่า

ผม: พี่ครับไอ่ดอยผ้าห่มปกมันไปทางไหนหรอพี่

เจ้าหน้าที่: โอ๊ยยมันคนละทางกันแล้วไอ่หนุ่ม (จังหวะนั้นแหละ ร้องเห้ดังมากกกก ฮ่าๆ มาผิดที่)ไหนๆ ก็มาแล้วก็แวะหน่อยเป็นไรไป ข้างในมันก็มีน้ำพุร้อน กับน้ำตก

เดินเข้าไปใกล้อีกนิสสสส ดูดิว่ามันมีอะไร

ขี้เกียจเดินต่อแล้ว อยากไปบนดอยก็เลยวนกลับไปที่จุดบริการนักท่องเที่ยว ไปถามเจ้าหน้าที่ว่าไปทางไหนอะไรอย่างไรบ้างก็แกล้งๆ ถามเขาไป แต่เขาไม่ให้เราขึ้นหรอก แต่อะไรจะห้ามเราได้ล่ะ อยากไปให้ถึงจุดหมายจะกลัวอะไรกลับอุปสรรค จากนั้นก็ขี่รถไปตามที่เจ้าหน้าที่บอก แต่มันก็มีป้ายบอกข้างทางเหมือนกันน่ะ เราต้องดูให้ดีๆ พอขี่เข้ามาจะเป็นหมู่บ้านเล็ก ก็ถามชาวบ้านเอาว่า มันไปทางไหน แล้วก็ขี่มาตามทางเลย พอดีตรงจุดที่กูถามเขากำลังไถนากันอยู่เลย

พอตรงเข้ามาได้สักพักก็จะเจอกับด่านของเจ่าหน้าที่ อย่าไปสนใจน่ะ อย่าแวะด้วย ถ้าเขาถามเราไปไหนก็บอกว่าไปแถวนี้แหละ ใม่ได้ไปบนดอย แต่ที่ไหนได้เราจะขึ้นดอย ฮ่าๆ เพราะที่เขาไม่ให้เราขึ้นเนี้ยเพราะทางมันอันตรายแหละมั้ง พอเข้ามาไม่ทันไรยังไม่ถึงครึ่งทางเลย อู๊วววหูวววววววดูทางดิพระเจ้า


พอพ้นทางโคลนๆ เลนๆ ได้ไม่นาน แล้วมันก็เจอเหตุการณ์แบบนี้

ต้นไม้ล้มขวางทางอีก ชีวิตไบค์เกอร์ ทำไมอุปสรรคมันจะเยอะขนาดนี้ว่ะเนี้ย แต่ยังดียังมีพวกกิ่งไม้มาวางๆ พอให้รถข้ามได้ก็ยังช่วยเบาแรงในการยกได้เยอะเลย พอตรงมาตามทางเรื่อยๆ ก็จะเจอกับป้ายนี้แหละ เราก็ตรงไปตามป้ายเลยน่ะ หรือใครจะไปโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ก็ได้น่ะ อีกไม่ไกลเท่าไรแต่หมู่บ้านนั้นน่ารักดี ^_^


แล้วก็ขี่ตามทางมาเรื่อยๆ น่ะ พอยิ่งสูงฟ้าก็ยิ่งลืมมืดเข้าไปทุกทีเหมือนวิ่งเข้าหาหมอกเลย พอไปถึง... ได้ยินแต่เสียงจิ้งหรีดร้อง ไม่มีใครอยู่เลย แต่ๆๆๆๆ เดี๋ยวๆๆๆ เห็นหมาอยู่สองตัวตอนแรกมันจ้องแบบน่ากลัวมาก กลัวมันกัด เลยลองเรียกมันมาหาดู

แหม่พี่หมาครับ ช่วยวิ่งมาช้าๆ ก็ได้นี้วิ่งควบมาแต่ไกลเลยผมกลัวครับพี่ แต่พอมามันมาใกล้ ก็ตามสเต็ปเลยครับให้หมาดมมือก่อนเลย แล้วค่อยเอาขนมให้มันกิน ให้อะไรก็กินหมดเลย สงสัยมันคงจะหิวมากเพราะ ไม่มีใครคอยให้ข้าวกับน้ำมันกิน ถ้าขึ้นไปอีกก็ฝากซื้อขนมให้น้องหมากันด้วยน๊า สงสารมันจริงๆ

มัวแต่สนใจหมาลืมไปว่าเห้ยยยนี้มันจุดกลางเต็นท์ที่สูงที่สุดเลยน่ะโว๊ยยแมร่งเจ๋งว่ะ

แล้วก็ลองสำรวจรอบๆ ดูก็จะมีสำนักงานกับบ้านพักข้างๆ แต่ก็ไม่ได้เข้าไปข้างในน่ะ เพราะมันต้องเดินขึ้นไปข้างบนอีกไกลอยู่ พอไม่ทันไรฝนก็ตกลงมา เลยตัดสินใจขี่ลงเลยดีกว่ากลัวติดฝนยาวแล้วจะลงไม่ได้ แต่พอขี่ลงมาไม่ทันไรเอ๊าฟ้าดันเปิด

พอลงมาถึงที่ทำการข้างล่าง แดดอย่างแรงเลยมักกี้เพิ่งเจอสภาพอากาศหนาวๆ จามไปหนึ่งดอก

เป้าหมายต่อไปที่คิดไว้ตอนแรกก็คืออยากขึ้นไปเชียงราย แต่ขี้เกียจไป เลยหาที่ใกล้ๆ แถวนั้นเอา ลองเปิดดูแมพดูก็เห็นว่าดอยอ่างขางมันใกล้ๆ ก็เลยเอองั้นคืนนี้เราจะไปนอนที่นั้นกัน (เนี้ยถ้าใครคิดไม่ออกว่าจะไปเที่ยวไหนดีลองเปิด map เล่นดิเดี๋ยวมันก็ได้ที่เที่ยวขึ้นมาเองแหละจริงๆ น่ะ) งั้นเราก็ขี่รถไปดอยอ่างขางกัน ก่อนถึงก็แวะกินข้าวข้างทางบนภูเขาสักลูก บนเส้นทาง 1249 กินข้าวไป ชมวิวไป ถ่ายรูปไป โอ๊ยยยยโครตจะมีความสุขเลย บางทีชีวิตเราก็ต้องการอะไรช้าๆ แบบนี้แหละเป็นสิ่งที่หนุ่มโรงงานอย่างเราต้องการมาก

ในไม่ช้าก็ถึง หมู่บ้านในหุบเขา ดูดิพระอาทิตย์ตกดินพอดีเลยเวลาทำไมมันเหมาะแหม๋งเหมาะแหม๋งแบบนี้ว่ะเนี้ย

แล้วก็หาที่พักที่ไรให้เรียบร้อยได้ที่พักราคา 300 บาทห้องถือว่าโอเคเลย ได้ตรงร้านข้าวหน้าโครงการเลย แล้วเอาของเข้าไปเก็บก็เข้าไปขี่รถเล่นในตัวโครงการได้สบายๆ

ดูชีวิตเขาเรียบง่ายดีน่ะ ไม่ต้องเยอะเหมือนมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา พอออกมาขี่รถเล่นเสร็จแล้วก็กินข้าวตรงที่พักนั้นแหละคิดไรไม่ออกสั่งไข่เจียวมา พรุ่งนี้ตื่นเข้าๆ มาดูทะเลหมอกกัน ^_^ หมดวันแรกไปแบบงงงง


บิด 2 ล้อไปเปิด Sing ณ เมืองลาว...!!!


> http://pantip.com/topic/33571899


ด้ามขวานไทย กับมอไซต์คันเดิม...!!


> http://pantip.com/topic/33454489


เรื่องเล่า 1,887 กม. ของ เด็กชายหนึ่งคนกับรถหนึ่งคัน


> http://pantip.com/topic/33132239

ขอเล่าต่อเลยละกันเช้าวันที่ 9 ตื่นมาหกโมงเช้า ฟ้ายังมืดอยู่ เลยตัดสินใจนอนต่อ พอตื่นมาอีกทีโอ๊วโห๊วววข้างนอกขาวโพลนเลยเอาว่ะวัดดวงดูอยากเห็นทะเลหมอกสวยๆ เลยตัดสินใจออกไปดูตามสถานที่ต่างๆ อากาศแมร่งแบบหนาวมาก แต่แบบไม่ได้เตรียมเครื่องกันหนาวมาเลยไง จุดแรกที่ไปเลยน่ะคือจุดชมวิวม่อนสน

อากาศขาวโพลนเลยยย ฮ่าๆ จบกันอุตส่าตื่นเช้า เลยวนกลับไปในหมู่บ้านแต่เดี๋ยวก่อนนน เห็นอะไรแว๊บๆ ข้างทางมักกี้มั้ย ดูข้างทางสิมันสวยๆ พอมองออกไปก็เห็นหมู่บ้านเป็นแบบนี้......

เนี้ยเห็นมีช่องอยู่นิดหนึ่งถ้าขี่ไวๆ ก็คงมองไม่ทันแน่ๆ

ดูดิแม่เมิงสวยมากกกก หมู่บ้านในม่านหมอกคือแบบมันสวยมากจริงๆ นี่หน้าฝนนะโว๊ยยังไม่ถึงหน้าหนาวก็สวยแล้ว ผมดูได้สักพักหมอกก็ได้กลืนหมู่บ้านไปหมดเลย....

จากนั้นก็ขี่ไปหมู่บ้านนอแลต่อ

จากนั้นก็ขี่ไปไร่ชาสองพันระหว่างทางก็แวะๆ หน่อยล่ะกัน คือจะบอกว่าทางแมร่งโครตฟินเลยยย รถไม่เยอะเหมือนช่วงหน้าหนาวด้วย สถานที่แต่ล่ะแห่งคนก็ไม่มี โครตจะมีความสุข ไม่ต้องแย่งกันเที่ยวให้วุ่นวาย เนี้ยแหละ พักผ่อนแบบของจริง ชีวิตได้พักอย่างเต็มที่ไม่มีนักท่องเที่ยวให้วุ่นวาย

พอขี่มาไม่นานก็ถึงไร่ชา แต่ฝนอย่าเพิ่งมาน่ะ สภาพอากาศตอนนั้นแบบน่ากลัวเหมือนกัน ลองดูดิ

พอถ่ายรูปเสร็จก็นั่งพัก นั่งกินข้าวไปดูไร่ชาไป โอ๊วววโห๊ววววววว ชีวิตจะสโลไปไหน ^_^ จากนั้นก็ขี่รถเล่นในโครงการหลวงหน่อย ไม่เสียงินน่ะ เพราะเข้าทางออก ฮ่า ที่เข้าทางออกเพราะเห็นคนพื้นที่เขาขี่เข้ามาก่อน เราก็เลยตามน้ำเลย ฮ่าๆ ดูรูปกันยาวๆ เลยละกัน

ในโครงการมีหลายส่วนมาก หลายคนคงเคยไปมาละ ผมว่าไม่ต้องพูดมากดูรูปกันดีกว่า

ปีนี้ท่าทางจะสวยกว่าทุกปี ยังไงช่วยๆ กันรักษาความสะอาดและต้นไม้ด้วย เวลาถ่ายรูปไม่ต้องถึงกับเข้าไปในแปลงต้นไม้ ถ่ายข้างนอกก็ได้แบ่งๆ ให้คนอื่นเข้าได้ภาพสวยๆ กลับไปดูเวลาคิดถึง

พอเที่ยวทั่วอ่างขางแล้วก็เก็บของไปที่อื่นต่อ เส้นทางนี้อีกยาวไกลมาก ^_^ พอเก็บของเสร็จก็ลองมองเป้าหมายต่อไป

ขี่จนมาถึงผาแดงแล้ว

ณ เพลานั้นแมร่งร้อนสัส คิดไรไม่ค่อยออกเลย แต่ไม่รู้อะไรถึงทำให้อยากไปที่ๆ ที่แห่งนี้ก็คือ ดอยอินทนนท์ ก็เลยขี่จากอ่างขางเนี้ยลงไป ดอยอินทนนท์เลย เพิ่งจะรู้ว่าแมร่งไกลแสส เหมือนแบบขี่ยังไงก็ไม่ถึงสักทีเป็นเพราะเรารีบเกินไปลึป่าว พอไปถึงหน้าด่านตรวจที่อินทนนท์ป๊าบบ เจ้าหน้าที่บอกเดี่ยวไปจ่ายจุดตรวจ 2 ก็ได้ งั้นเราขี่เข้าไปเลยละกันเนอะ ^_^ ก็เหมือนเดิม ดอยอินทนนท์หลายคนคงเคยไปหลายพันครั้งแล้ว แล้วก็ยืนเล่นๆ ให้ไอ่มันกระเด็นใส่หน้าเบาๆ หลังจากนั้นก็ขึ้นไปบนยอดดอย เส้นทางขาวโพลนไปหมด มองเกือบไม่เห็นทางเลย

พอถ่ายรูปเล่นเสร็จก็ลงไปพาที่พักตรงที่ทำการอุทยานไปคนเดียวเลยได้ราคาถูกมาก บ้านแมร่งแบบน่ารักด้วย ให้เดาว่าเท่าไร

แล้วก็ได้เวลาพักผ่อนอีกตมเคย เวลาหนึ่งวันในการเที่ยวหมดโครตไวเลย ไม่เหมือนตอนทำงานเลยสักนิดที่เราต้องมองนาฬิกาว่าเมื่อไรจะเที่ยงหรือเมื่อไรจะเลิกงานสักทีว่ะ งั้นเอางี้ใครที่ทำงานประจำอยู่ ลองหาสิ่งที่เราชอบทำมากที่สุดมาทำในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ดู แล้วถึงเวลาที่เราต้องไปทำงานมันจะทำให้เรารู้สึกสบายใจขึ้น.... และเราจะไม่เครียดกับงาน จริงลึป่าวต้องลองดูแต่สำหรับผมมันช่วยได้เยอะจริงๆ ....

คืนฝันดีครับทุกคนผมขอตัวไปนอนก่อน

เช้าวันต่อมา แล้วก็ต่อไป.... อะไรของมัน???


เช้านี้...ขอขึ้นไปยอดดอยอีกสักรอบ อารมณ์แบบไม่มีนักท่องเที่ยวแล้วแบบเหมือนเห้ย นี้มันบ้านกุเลยปะเนี้ยส่วนตัวเกิ๊นนนน!!!

ดูสิขาวไปหมดเลย ฮ่าๆ อากาศเย็นมากจริงๆ แล้วคนไม่เยอะด้วย ไปเที่ยวน้ำตกแม่ปานต่อเลย จะบอกว่าค่าเข้าอุทยานไม่เสียเงินสักบาทเลย ^_^ น้ำตกแม่ปานต้องเดินเข้าไปนิดนึงน่ะ แต่ไม่ไกลมากเท่าไร ประเด็นคือเดินคนเดียว น่ากลัวมากแนะนำอย่าเดินไปคนเดียวเลยหาเพื่อนไปด้วยสักหนึ่งคน ส่วนทางเข้าน้ำตกจะมีป้ายบอกข้างทางเราต้องมองดีๆ หน่อย ถ้าตาถั่วก็บายจ้าาาาา ฮ่าๆ

ผมอยากเก็บน้ำตกไว้ดูนานก็เลย.....

ถ้าใครไปแล้วไม่มีน้ำอย่าด่าผมน่ะ ฮ่าๆๆ ไหนๆ ก็มาทางนี้แล้วผมก็เลยอยากแวะหมู่บ้านป่าปงเปียงด้วยแต่ทางเข้านี้แบบโอ๊วววโห๊วววอีกแล้ววววว ฮ่าๆ ดูสิ

นี้แค่ทางเข้าแบบต้นๆ ทางเองน่ะแล้วมันก็เป็นแบบนี้ตลอดทั้งทางเลย ยิ่งเข้าไปยิ่งเลอะ แต่ว่าพอไปถึงแล้วอะ มันสวยมากจริงๆ แดดออกดีมากผมเลยถือโอกาสอาศัยบ้านพักตรงนี้ยาวๆ ทั้งซักรองเท้า ถุงเท้า รู้มั้ยเอาน้ำที่ไหน (ไม่ได้เอาน้ำท่าวัดแน่นอน??? เกี่ยวอะไรว่ะ) เอาน้ำตรงนาขั้นบันได้นั้นแหละที่มันไหลๆอยู่ตลอดเวลา ฮ่าๆ น้ำมันสะอาดมากเพราะเป็นน้ำจากน้ำตกแม่ปานเลย

สภาพอากาศโดยรวมน่ะถือว่า เงียบ เงียบมาก เงียบเกินไปปป เงียบที่สุดดด นี้กุมาคนเดียวน่ะอย่าเงียบสิเก๊าเหงาาาา

ได้แต่รอ.... ในระหว่างการรอรองเท้าแห้งก็เล่นเนต แล้วเห็นพวกไปแม่กำปองกันเยอะมาก ไอ่เราก็อยากไปแต่แมร่งคือ ไปทางไหนว่ะ ??? แนะนำใครชอบแบบบ้านๆ ก็มาพักตรงนี้ได้น่ะส่วนเบอร์ขอเราได้เราเก็บไว้ ตอนหน้าหนาวถ้ามาพักที่นี้คงจะดีไม่ใช่น้อย แต่บอกก่อนว่า ไม่มีไฟ = = แต่ 4G ถึงอยู่นะ อย่างน้อยก็อยู่ได้แหละเพราะมีเนต เห้ยๆ ถุงเท้ากับรองเท้าแห้งแล้ววววว ไปแม่กำปองกัน เรากลับเส้นทางเดินน่ะทางมาจากดอยอินทนนท์ แล้วก็แวะที่ต่างๆ ในตอนขามาเราไม่ได้แวะ

หลงทางด้วย แต่ช่างมันเหอะขี้เกียจเล่าแค่หลงทางเองแต่กว่าจะกลับเข้าเส้นทางหลักได้นี้แบบอยากจะร้องให้น้ำมันรถก็จะหมด แล้วในไม่ช้า...

ก็มาบ๊ายบายพระอาทิตย์ที่แม่กำปอง มองด้วยตาสวยกว่าในรูปเยอะเลย วันนั้นบ้านพักของหมู่บ้านมันเต็มหมดเลย เพราะว่าเป็นวันหยุดด้วย แต่โชคดีมีคุณลุงพาไปพักที่ สำราญชน คือจะบอกว่าคุณป้าเจ้าของแกโครตใจดีเลยคืนแค่ 350 บาทเอง นอนคนเดียวด้วยส่วนบ้านพัก บริเวณตรงกลางเป็นลานกว้างๆ ไว้นั่งเล่น-เบียร์ได้ แล้วคืนนั้นเองฟ้าก็มอบสิ่งนี้มาให้มานั่งเป็นเพื่อนมันไม่ใช่สิ่งที่มีชีวิตแต่มันคือ.....

ไม่เคยถ่ายทางช้างเผือกได้เลย นี้คือใบแรกในชีวิตต้องขอบคุณพี่คนหนึ่งบนเฟสบุคมากที่สอนถ่ายกันหน้าวอ ณ ตอนนั้น เลยได้แค่มาสองใบเองเพราะไม่ได้าเอาขาตั้งกล้องไปด้วยโครตเสียดายเลยหลังจากนั้น ก็เข้านอนคืนนั้นฝันดีเลย



เช้าวันถัดมาหรือวันต่อไปหรือวันอะไร?? ฮ่าๆ Morning ครับทุกคนนนนน

ลงทุนตื่นเช้า เผื่อว่าจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นแล้วเป็นไง ฮึฮึฮึ ไม่เห็นไรเลยยยย

ขอฝากไว้อีกเรื่องก็คือ ทางขึ้นมากิ่วฝิ่นแมร่งชันมากอะ ยังไงถ้าขับรถขึ้นมาเองก็ระวังกันด้วยครับ อันตรายมากจริงๆ ขึ้นมาได้สักพักก็กลับลงไปข้างล่าง ไปกินกาแฟร้านชมนกชมไม้ เป็นร้านที่ทุกคนต้องมาที่นี้ เพราะอะไรรู้มั้ย เพราะเป็นจุดชมวิวหมู่บ้านที่สวยที่สุดแล้ว ถ้าตอนเย็นอยู่ยันพระอาทิตย์ตกน่ะโครตสวยเลยแต่ว่าร้านแมร่งปิดก่อน

พอสายๆ หน่อยก็เดินทัวร์หมู่บ้าน ความจริงก็มีหลายอย่างแหละ แต่แบบขี้เกียจเดินอ่ะ หมู่บ้านแม่กำปองมีทั้งหมด 3 ช่วงน่ะ ใครไปกลัวไม่ถึงก็ถามชาวบ้านข้างทางได้เลย เขาใจดีกันมากๆ

มีวัดกลางน้ำด้วย อย่างเจ๋ง น่าจะเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านในสมัยก่อนที่ป้องกันไม่ให้พวกหมดหรือปลวกมาขึ้น

แล้วก็ไปร้านกาแฟอีกร้านหนึ่ง เหมือนถ้ามาแม่กำปองแล้วไม่มาที่นี้เหมือนมาไม่ถึงลึป่าวไม่รู้น่ะ

แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่เราชอบมาเลยคือไรรู้ป่ะ หมาเว้ยหมาที่นี้แมร่งมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองทุกตัวดูอย่างตัวนี้ดิ อย่างหล่อเลย ใครใส่หน้ากากให้ว่ะ ฮ่าๆๆๆ ชอบอ่ะ พอตกเย็นๆ ฝนก็ดันตกลงมาอีกกะว่าจะไปอีกที แต่ก็ไม่รู้ว่าจะพาตัวเองไปไหนรู้แต่ว่าในเมือง แต่ก็ไม่ได้ไป ผมก็เลยกลับมาที่พัก แล้วก็นอนข้างอีก 1 คืนพอเช้าอีกวันก็กลับเชียงใหม่อย่างระรื่นนนนน.....

แล้วชีวิตก็ค่อยๆ เข้าวงจรอุบาทอีกครั้ง ตื่น-อาบน้ำ-ทำงาน-อาบน้ำ-นอน ใครเป็นแบบผมบ้าง และสุดท้ายนี้ขอให้ชีวิตมนุษย์เงินเดือนทุกท่านใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เหมือนกับว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของเราเชื่อผมสิ "ถ้าคุณรู้ว่าวันนี้คือวันสุดท้ายที่คนจะอยู่บนโลกใบนี้จริงๆ สิ่งๆ แรกที่คิดจะทำคือ ไม่ใช่งานประจำที่เราทำอยู่แน่นอนถึงแม้ว่ามันเป็นงานที่คุณต้องรับผิดชอบอย่างสูงส่งก็ตาม เพราะฉะนั้นแล้วช่างมันเถอะเรื่องของงานแต่เราก็ต้องรับผิดชอบเหมือนเดิมแต่แค่ในเวลางานก็พอ เราเอาเวลาที่เหลือมาเริ่มทำในสิ่งที่เราอยากจะทำกันดีกว่า เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลยมันยังไม่สายเกินไป แล้วเราจะได้ไม่ต้องมาพูดว่า "รู้งี้ตอนนั้นทำแบบโน้นแบบนี้ดีกว่า" ในอีก 10 ปีข้างหน้า" มีใครมีอะไรสงสัยมั้ย ถ้างั้นผมขอจบการพรีเซนต์เพียงเท่านี้ขอบคุณครับ ขอบคุณมากจริงๆ ที่ตามอ่าน ภาษาผมอาจจะไม่ถูกใจหลายคนเพราะ แค่อยากเล่าเหมือนที่เล่าให้เพื่อนสนิทฟังเพราะผมคิดว่าทุกคนคือเพื่อนเพียงแต่เรายังไม่ได้ทำความรู้จักกันเท่านั้นเอง


ลาก่อยยยย ^_^

7NOVEMBER

 วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 23.19 น.

ความคิดเห็น