ว่าด้วยเรื่องความโรแมนติกและสถานที่ "Sweet" กับหวานใจ เราว่าทุกคนคงอยากหาที่ดีๆ เพื่อให้ได้ moment ดีๆแบบว่า สถานที่และบรรยากาศจะพาไป... แบบที่กอดกัน นั่งมองวิวแล้วแบบเห้ยยย มันใช่อ่ะ!!! วันนี้เราขอแนะนำ "ศรีพันวา" บอกเลยว่าที่นี่เป็น 1 ใน dream destination ในประเทศไทยที่เราคิดว่าจะต้องพาแฟนมาสวีทสักครั้ง

การเดินทางครั้งนี้เราจองตั๋วโดยใช้ application ของ Jetradar ในการเปรียบเทียบราคาสายการบิน (โหลดฟรีได้จาก app store) เผื่อว่าใครอยากลองเปรียบเทียบราคาเพื่อความคุ้มค่าเงินในกระเป๋า

ตัวอย่างดูได้จากในรูปเลยจ้า เค้าจะเลือกสายการบินที่ราคาดีที่สุดมาก่อน

ตัดเข้าเรื่องเลยดีกว่า ... ทริปนี้เราไปทั้งหมดแค่ 3 ที่ เนื่องจากมีเวลาแค่ 2 วัน


พอถึงสนามบินภูเก็ต เราก็ขับมาที่ศรีพันวาก่อนเลย แล้วอีกวันหลัง check out ถึงจะไปเดินเที่ยว ถนนคนเดินและชมวิวที่แหลมพรมเทพต่อด้วยกัน

Sri Panwa

ถึงแล้วก็ขับรถมาเชคอินเลยที่ The Sala แล้วเดี๋ยวเราจะพาไปดู ว่าความคุ้มค่าที่ได้มาสักครั้งมันเป็นยังไง

Check in เสร็จปุ๊ปเค้าก็จะมีรถ คล้ายๆรถซุบารุ ขับมารับไปที่ห้องพัก (การเดินทางไปแต่ละจุดเค้าจะโทรเรียกรถมารับให้) ห้องพักของเราจะอยู่ในโซน The Habita ซึ่งเป็นโซนเปิดใหม่ของศรีพันวา เราพักที่ห้อง Penthouse (P2) แต่เนื่องจากเราจองโต๊ะที่ Baba nest ไว้จึงขอแนะนำที่นี่ก่อนละกัน

Baba Nest

อันนีี้ถือเป็นโซนขมพระอาทิตย์ตกในฝันของใครหลายๆคน โซนนี้เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกแบบพาโนรามา 360 องศา ที่บอกเลยว่าห้องห้ามพลาดในความโรแมนติก ที่นี่ได้รับรางวัลระดับโลกหลายรางวัลเลย แม้กระทั่งราลวัล World Top Best Bech Bars 2011 จาก CNN และอีกหลายรางวัลระดับโลก ว่าแล้วลองไปชมดูวิวด้วยกัน

*ใครจะมาที่นี่แนะนำว่าให้โทรจองก่อนนะ เห็นบอกว่าเต็มเกือบทุกวัน เพราะมีแค่สิบกว่าโต๊ะ ! Walk in ไม่มีทางได้นั่งชัวร์ๆ

สำหรับคนเข้าพักต้องสั่งเครื่องดื่มขั้นต่ำที่ 500 ส่วนคนไม่ได้เข้าพักสามารถขึ้นมาชมได้ แต่จะมีค่าใช้จ่ายขึ้นต่ำที่ท่านละ 1000 บาทในการสั่งอาหารค่ะ

สอบถามได้ที่ 076371000

จุดนี้จะหันไปทางทิศตะวันตกพอดี เลยทำให้เราได้เห็นบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดีๆ เคล้าเสียงเพลงเบาๆ + กับการนั่งจิบคอกเทลอร่อยๆ พอให้ได้บรรยากาศ มันใช่เลยอ่ะ!




และแล้วก็ถึงเวลา...เวลาที่ทุกคนรอคอย : ) แสงสุดท้ายของวัน ที่ให้คุณได้นอนซบไหล่แฟน มองดูธรรมชาติที่สวยงาม ก่อนตะวันละลับฟ้า

เรานั่งกันจนถึงมืดแหละ ก็อย่างว่า กินๆนอนๆ พักผ่อนสมอง ลมเย็นๆ ฟังเพลงเบาๆ เฮ้ยยย มันฟินส์อ่ะ!

และแล้วฟ้าก็เปลี่ยนสี ถึงเวลากลับห้องนอน ^_^

มาถึงสถานที่สวีทยามค่ำคืนนี้ เรานอนกันที่ The Habita ห้อง Penthouse (P2) เราไปดูภายในห้องกันดีกว่า แล้วค่อยไปต่อที่ pool villa หน้าห้องนอน

The Habita ห้อง Penthouse (P2)

เนื่องจากเป็นโรงแรม 6 ดาว ราคาจึงอยู่ที่ประมาณ 2หมื่น + - แล้วแต่ช่วงที่เข้าพักค่ะ ลองดูก่อนว่ามันดีต่อหัวใจมั้ย?

เปิดห้องมาเราจะเจอห้องนั่งเล่น ที่มีขนาดโครตใหญ่ มีโซฟาอยู่ตรงปลายห้อง เอาไว้ให้นั่งดูวิวเพลินๆในตอนเช้า


ด้านหลังโซฟาจะเป็น mini bar ที่กินได้ทุกอย่างในตู้เย็น (ลืมถ่ายมานะ แบบว่ามัวแต่ตื่นเต้นกับห้องนอนอยู๋)


ส่วนห้องนอนจะเป็นห้องแยกไปอีกที ประตูจะอยู่ตรงข้ามกับโซฟานั่งเล่น

ภายในห้องนอน



ปุ่มข้างเตียงนอนนี่เอาไว้ปรับแสงไฟ เช่น Romantic, Sexy และเอาไว้ปิด-เปิดม่านปลายเตียงนอน


ด้านหลังเตียงนอนจะเป็นประตูเข้าสู่ห้องอาบน้ำ ซึ่งความกว้างก็ประมาณห้องนอนเนี่ยแหละ


(ขอนอนพักดูซีรีย์นานะแป๊ป แบบว่ากำลังลุ้นโครต !!! 555+ สรุปเค้าตายจริงป่ะ ใครรู้ Inbox บอกทีดิ)

ภายห้องน้ำ





และมาต่อกันที่ทีเด็ด Pool villa หน้าห้อง

เราเปิดเพลงฟังแล้วนนั่งเล่นหน้าห้องกัน แบบว่าคนนึงเล่นน้ำ ส่วนเรานั่งฟังเพลงนั่งดูดาวไปเรื่อยๆ (เออลืมบอกว่าเครื่องเสียงเค้าดีมาก แล้วก็มีให้เลือกหลายอารมณ์ แบบจะเอา Romantic, Sunset ดนตรีเบาๆ อยากได้แบบไหนในห้องมีครบ!)


เห้ยยย ... แบบว่าอารมณ์มันพาไป นั่งเล่น แช่น้ำ ดูดาวหน้าห้องเพลินๆ ไม่ค่อยชัดมาก แต่ก็เห็นบ้างพอได้อารมณ์สวีทเบาๆ

รู้ตัวอีกทีก็ไปอยู่ในน้ำละ

ไม่ต้องตกใจ นี่เราเอง ไม่ใช่สัตว์ประหลาดที่ไหน ; p

ขึ้นจากน้ำมาก็ไปนอนแช่น้ำอุ่นๆ ตีฟอง ฟังเพลง สบายใจ : )


และแล้วค่ำคืนนี้ก็ผ่านพ้นไป ... ความสุขมันมักผ่านไปเร็วเสมอแหละ เห็นด้วยป่ะ?

ภาพตัดมาอีกทีก็ตอนเช้าละ เดี๋ยวให้ดูวิวหน้าห้องแบบเต็มๆ



ถ้าใครเบื่อสระว่ายน้ำในห้อง จะว่ายที่สระใหญ่ของที่พักโซน The habita นี้ก็ได้นะ

จะว่ายหรือจะไปแค่ถ่ายรูป บรรยากาศก็ใช่อ่ะ แต่อย่าลืมเวลา ไปทานข้าวให้ทัน 10.30 น, ละกัน : )

Baba PoolClub


จุดนี้จะเป็นจุดที่ไว้ทานอาหารเช้ากัน ส่วนข้างนอกที่ติดๆกันก็ถือว่าเป็นจุดเด่นของศรีพันวาเลยก็ว่าได้ วิวข้างนอกที่มองเห็นทะเลมันพีคมาก!

เห้ยยยย... สวยป่ะ? ถามถึงวิว ตอบได้ดังๆ ไม่ได้ถามถึงคน ไม่ต้องอ้ำๆอึ้งๆ 555+

จริงๆเห็นวิวแล้วอยากถ่ายรูปแนว Titanic อ่ะ แบบแจ็คกะโรสที่หัวเรือ แต่กลัวคนด่าว่าบ้า เลยจับมือถ่ายรูปเดียวพอ หึหึหึ


Caption : รูปนี้คือ "เบื่อมือถือ ขอมือเธอได้ป่ะ?" ฮี้ววววว +++ (ไม่ได้คิดเอง ไม่ต้องตกใจ เคยได้ยินมาเฉยๆ ชอบอ่ะ แบบว่าเข้ากับบรรยากาศ)

มาต่อกันด้วยเรื่องของกิน อาหารเช้าของที่นี่



อาหารเช้าที่นี่ก็มีให้เลือกหลายแบบ จะอเมริกัน ไทย จีน ที่นี่มีครบ ซาลาเปา แกงเขียวหวาน โรตี แกงจืด ก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ ที่สำคัญคือรสชาติเด็ด แบบรสชาติไทยเนี่ยแหละ ไม่จืดนะจ๊ะ !!!


เรากินไม่เยอะหรอก คนเดียวแค่3จาน เบาๆ ; p

กินเสร็จก็เรียกรถไปต่อได้ที่ Beach pool จุดนี้จะอยู่ไม่ไกลจากที่เราทานข้าวสักเท่าไร สามารถเดินลงไปที่หาดได้

Beach Pool

จุดนี้เราจะเห็นกันบ่อยๆในรูปของโรงแรม จะนอนตรงไหนก็สามารถมาใช้บริการได้นะ จะมีสะพานไม้สามารถเดินลงไปสู่หาดได้ แต่อาจใช้เวลาเดินสักนิด


เราถ่ายรูปตรงนี้ได้แค่ 2 รูป แล้วฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก แต่ถ้าใครมาแนะนำให้ลงไปนะ ข้างล่างจะมีสะพานยาวๆ ที่ทอดลงไปทะเล เห็นดาราชอบไปถ่ายรูปกัน เสียดายที่ฝนตก เลยไม่มีโอกาสได้ลงไป ไว้ครั้งหน้ามาใหม่ : )))

และแล้วก็ถึงเวลา Check Out แต่เวลาของความสุขก็ยังไม่หมดหรอก เพราะเราไปเที่ยวกันต่อ ^_^ ไหนๆมาทั้งที ก็เที่ยวสักนิดละกัน

สำหรับผู้ที่ต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ www.sripanwa.com หรือโทร 076371000

เราออกจากที่นี่ก็ขับรถวนเที่ยวเรื่อยๆ แล้วก็มากันที่ถนนคนเดินตอนประมาณ 4 โมง กะว่าจะไปหาของกินเล่นนิดๆ เดินถ่ายรูปหน่อยก่อนไปแหลมพรมเทพฯ ถ้าใครมีเวลาเหลือแนะนะให้ไปที่แหลมพรมเทพก่อนนะ แล้วค่อยมาที่ถนนคนเดิน เพราะร้านคงเปิดเยอะพอดี แต่เนื่องจากเวลาเรามีจำกัด จึงทำได้แค่มาถ่ายรูปชมบรรยากาศเมืองเก่า

ถนนคนเดินภูเก็ต

ขับจากศรีพันวามา 13 กม. มาถึงฝนยังคงตกอยู่ แต่ไหนๆก็มาแล้ว บรรยากาศก็ประมาณนี้ แต่กลางคืนจะคึกคักมาก!!! แสง สี เสียง เค้าจัดเต็ม คนภูเก็ตคอนเฟิร์มมา ตรงนี้แหละที่เป็น Street Art ด้วย


ถัดจากนี่ เรากะว่าจะขับรถไปดูพระอาทิตย์ตกกันที่แหลมพรมเทพ แต่พายุดันเข้าตอน 6 โมง เลยได้ดูพายุแทน 555+ ถ้ามองให้มีความสุขก็โอเคนะ เพราะวันมาได้ดูพระอาทิตย์ตกไปละ

แหลมพรมเทพ

บรรยากาศดี๊ดี ก่อนพายุมา อากาศเย็นๆ นั่งซิลล์ๆ สบายๆ



และแล้วก็จบทริปลงเพียงแต่เท่านี้ ไม่มีรูปพระอาทิตย์ตก เพราะรีบวิ่งก่อนฝนสาด 555+ จากนี่ก็ขับรถกลับสนามบินละ 49 กม. สบายๆ เป็นอันจบทริปไปด้วยความสุข สนุก แบบหลายรสชาติ

ติดตามรีวิวอื่นๆได้ที่ https://th.readme.me/id/ReviewPapai

ฝากเพจด้วยนะคะให้กำลังใจคนเขียนนิดนึง ; p https://www.facebook.com/ReviewPapai/ แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้า : )


ReviewPapai

 วันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 02.45 น.

ความคิดเห็น