สวัสดีค่ะ วันนี้แวะมาส่ง mini-review ของร้านอาหารที่อยู่บนที่สูงงงงง วิวกรุงเทพแบบพาโนรามา ที่
RED SKY , Centara Grand at Central World

เนื่องจากเป็นวันเกิดของคนรู้ใจ... เลยตัดสินใจอยากจะพาไป dinner บนยอดตึกซักครั้ง

จากที่ได้หาข้อมูลอยู่หลายที่ สุดท้ายก็ตัดสินใจมาจบที่นี่ ที่ Red Sky เพราะด้วยความที่อยู่ในบริเวณที่คุ้นเคยใจกลางกรุงเทพ

ก่อนอื่นเพื่อไม่ให้พลาดบรรยากาศที่รอคอย แนะนำให้โทรไปจองโต๊ะล่วงหน้าประมาณ 2-3 วันนะคะ จะไดัชัวร์ว่าได้โต๊ะแน่นอน และแถมด้วยมุมที่ดีค่ะ

อ่อ...ถ้าเป็นโอกาสพิเศษ เช่น วันเกิด อย่าลืมบอกพนักงานตอนที่เราโทรไปจองโต๊ะนะคะ ทางร้านจะมี chocolate cake ให้เป็นของขวัญวันเกิด with complimentary ด้วยค่ะ (เขียนชื่อบนเค้กได้ด้วยนะ) ดีจัง แต่ว่าทางร้านจะห้ามนำลูกโป่งขึ้นไปเด็ดขาดนะคะ

Red Sky ตั้งอยู่บนชั้น 55 ของโรงแรม Centara Grand at Central World ค่ะ โดยวิธีการขึ้นไปนั่งคือ เราสามารถขึ้นลิฟท์ของทางโรงแรมจากที่จอดรถ ขึ้นไปที่ lobby ชั้น 23 ก่อนค่ะ แล้วหลังจากนั้นค่อยต่อลิฟท์ที่เป็น high zone ขึ้นไปที่ชั้น 55 อีกทีนึง...

ข้อกำหนดของที่นี่คือ ต้องแต่งตัว smart casual นะคะ จะมีป้ายบอกก่อนขึ้นลิฟท์เลยค่ะว่า ห้ามใส่เสื้อกล้าม ห้ามขาสั้น ห้ามรองเท้าแตะ

(แต่พอเอาเข้าจริงๆก็ยังเห็นนักท่องเที่ยวจีนฉีกทุกข้อกำหนดขึ้นไปนั่งดริ๊งค์ที่บาร์อยู่ดี)

เราจองโต๊ะไว้สำหรับดินเนอร์มื้อเย็นวันเสาร์ เวลา 18.00 น. แนะนำเลยค่ะเวลานี้ดีงามมาก เพราะ เป็นเวลาที่คนยังไม่พลุกพล่าน เราสามารถเดินชมวิวได้แบบสบายๆ แดดอ่อนๆตอนเย็นส่องกำลังดี โต๊ะที่ได้เป็นโซน non-smoking ฝั่งริมถนนราชประสงค์ค่ะ วิวก็เว่อวังอลังการมาก

พอขึ้นไปถึงบริกรพาไปนั่งที่โต๊ะที่จองไว้ มีเมนูเครื่องดื่มมาให้เลือกก่อน ก็เลยจัด mocktail กับ เบียร์ไปก่อนคนละแก้ว...

จากนั้นมาถึงในส่วนของเมนูอาหารกันบ้าง ที่นี่มีเมนูให้เลือกไม่มากนักค่ะ หลักๆจะเป็นอาหารสไตล์ฝรั่งเศส

โดยบริกรจะมี iPad มาคอยเปิดภาพหน้าตาอาหารให้ดูด้วย ดีงามจริงๆ

เดี๋ยวเอาภาพบรรยากาศ และ อาหาร มาให้ชมกันต่อนะคะก่อนที่จะไปชมเมนูอาหารกัน เอาภาพบรรยากาศรวมๆของ Red Sky มาฝากกันก่อนค่ะ

เป็นภาพที่ถ่ายจาก iPhone 6S Plus ล้วนๆเลย ถ่ายก่อนพระอาทิตย์ตกดิน แสงเลยสวยงามตามท้องเรื่องค่ะ

ลืมบอกไปว่าโซนที่เป็นร้านอาหารนั้นอยู่ที่ชั้น 55 ก็จริง แต่จะมีโซนที่เป็น Bar นั่งดื่มบนระเบียงอีกค่ะ สามารถเดินขึ้นบันไดไปได้เลย ข้างบน Bar เราสามารถเดิมวิวได้รอบเป็นวงกลมเลยค่ะ ในส่วนนี้จะเสริฟเป็น snack อาหารทานเล่นนะคะ ไม่มีอาหารจานหลักค่ะ

โซน Bar ค่ะ มีที่นั่งแบบนอนแผ่ชมวิวได้เลย อะไรจะสบายขนาดนี้ อิอิ

มา Red Sky ทั้งทีไม่ถ่ายกับโค้งนี้คงไม่ได้ค่ะ เอาซะหน่อยละกัน

อันนี้เป็นภาพบรรยากาศจากที่นั่งที่ได้จองไว้สำหรับมื้อเย็นค่ะ

มาต่อกันที่เมนูของ Red Sky กันบ้างค่ะ

อย่างที่บอกไปที่นี่เมนูมีให้เลือกไม่มากนัก

มื้อนี้เลือกที่จะสั่ง Warm Appetizer มาแชร์กัน 1 ที่ และสั่ง main course อีกคนละอย่างค่ะ (เหมือนจะน้อยนะ แต่พอเอาเข้าจริงๆ อิ่มพุงจะแตก)

อ่อ...แต่ก่อนที่อาหารจะลง ทางร้านจะมีชุดขนมปัง-เนย-มะกอกดอง มาเสริฟให้ทานเป็นออเดิฟก่อนค่ะ

นี่แหละคะเมนูของร้าน มี 1 แผ่นเท่านั้น

หน้าตาของชุดขนมปัง-เนย-มะกอกดอง หน้าตาดีงาม ขนมปังอร่อยมากค่ะ


มาแล้วค่ะ Warm Appetizer เป็น Scottish Smoked Salmon served on a warm poteto salad seasoned with juniper berries

จะเป็น Smoke Salmon วางบนสลัดมันฝรั่งหั่นเป็นแว่นๆหนานิดนึงค่ะ ตัวมันฝรั่งจะกรอบค่ะไม่ cook จนนิ่งเกินไป ราดด้วยซอสจูนิเพอร์ เบอร์รี่ รสออกครีมๆหน่อยค่ะ

จากนั้นมาต่อกันด้วย Main Course ค่ะ ภาพจะเริ่มมืดๆหน่อยนะคะ เพราะว่า main course จะมาเสริฟพระอาทิตย์ก็ตกดินแล้ว

จานแรกเป็น Recommended ของทางร้านนั่นคือเนื้อๆๆๆๆๆนั่นเอง

Wagyu Beef Tenderloin "Rossini" with foie gras, truffle, wide mushrooms and Medeira sauce

เป็นเนื้อวากิวชิ้นกลม วางลงบน mashed potatoes ราดซอสมาเดร่าเข้มข้นผสมเห็ด แถมยังมีตับห่านเสริมมาบนเนื้อวากิวด้วย

สำหรับจานนี้เป็นปลาแซลมอลอีกแล้วค่ะ

Charred Fillet of Atlantic Salmon sauteed forest mushrooms, caramelized onion jus

จานนี้เป็นปลาแซลมอนชิ้นโต ในซอสกึ่งซุป ตีเป็นฟองๆนุ่มค่ะ (แต่ซักพักฟองก็จะหายไป 555)

ทานกันจนอิ่มแล้ว ถึงเวลาของหวานกันบ้าง

อย่างที่บอกไปว่าถ้าเป็นโอกาสพิเศษเช่น วันเกิด ทางร้านจะมี surprise เค้กวันเกิดด้วยค่ะ ดีจัง

พอบริกรเก็บจาน main course ออกไปหมดแล้ว ก็มีโอกาสสบตาส่งสัญญาณให้น้องเค้าทีนึงว่า... เอาเค้กออกมาได้เลยนะคะ 555

ซักพัก Surprise Cake ก็มาค๊า น้องบริกรร้องเพลง Happy Birthday ให้ด้วย น่ารักมากๆเลย เจ้าของวันเกิดถึงกับอึ้งเขิลกันไป

ขอบคุณสำหรับ dark chocolate cake ที่แสนอร่อยด้วยนะคะ



ถึงเวลาคิดค่าเสียหายสำหรับมื้อนี้กันแล้วค่ะ ก็ตามที่คาดไว้เลยไปกัน 2 คน อยู่ที่ราคา 5,961.51 บาทค่ะ

อาหาร :

- Scottish Smoked Salmon 755 บาท

- Wagyu Beef Tenderloin "Rossini" 2,155 บาท

- Charred Fillet of Atlantic Salmon 1,055 บาท

รวมค่าอาหาร เป็น 3,965 บาท


เครื่องดิ่ม :

- เบียร์ HOEGAARDEN 1 แก้ว 260 บาท

- Mocktail 55's Silk 260 บาท

- Mocktail Two River 260 บาท

- น้ำแร่ Acqua Panna 1 ขวด 320 บาท

รวมค่าเครื่องดิ่ม 1,100 บาท


Service Charge 10% 506.50 บาท

Vat 7% 390.01 บาท


ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ ฝากติดตามเพจน้องใหม่ "เที่ยวรัวรัว" ด้วยนะคะ
https://www.facebook.com/travelruarua

ส่งท้ายด้วยภาพบรรยากาศตอนค่ำคืนก่อนกลับบ้านค่ะ

เที่ยวรัวรัว

 วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 19.36 น.

ความคิดเห็น