...เมื่อสายฝนเริ่มโปรยปรายลงมาตามวันเวลาที่ผ่านพ้นไปของแต่ละเดือน จากลมหนาวสู่ลมร้อนจนมาถึงช่วงแห่งลมฝนที่พัดผ่านเข้ามาอย่างในช่วงนี้ .. หลายคนเลือกให้วันพักผ่อนอยู่กับบ้าน นั่งเล่น นอนเล่น เปิดหนังแผ่น นอนฟังเพลง หรือเลือกไปดูหนัง เดินเล่นช๊อปปิ้งตามห้างสรรรพสินค้า แตกต่างกันไป ..



...แต่การอยู่บ้านเฉย ๆ ไม่ได้ออกไปไหนกับใครบางคนอาจดูแห้งแล้งไปสักหน่อย เช่นเดียวกับผมในวันนี้ที่หาโอกาสเดินทางพักผ่อนไปสู่สภาพแวดล้อมสีเขียว ๆ ชุ่มฉ่ำสบายตา .. อยู่ไม่ใกล้ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมรสักเท่าไหร่ ...



...อริสโต ชิค รีสอร์ท แอนด์ ฟาร์ม .. คือที่พักที่ผมเลือกให้เป็นปลายทางแห่งการพักผ่อนในครั้งนี้ ..

ป.ล. ผลงานเก่า ๆ ภาพท่องเที่ยว และภาพต่าง ๆ เผื่อใครอยากชมภาพเพิ่มเติมได้ตามนี้เลยครับ



https://www.facebook.com/ForzanuFoto

http://pantip.com/profile/172795



...จากกรุงเทพฯ ขับรถมาเรื่อย ๆ จากเส้นพระราม 2 ตามแผนที่ประกอบ .. ใช้เวลาไม่นานนักแวะทานข้าวระหว่างทาง จนพอเริ่มเข้าช่วง อ.สวนผึ้ง เริ่มเห็นป่าเขาสีเขียว ๆ ผมก็ไม่รอช้าที่จะลดกระจกรถลง เปิดรับกลิ่นไอความชุ่มฉ่ำจากสองข้างทาง เปิดเพลงคลอ .. เป็นความสุขเริ่มต้นของวันพักผ่อนที่เริ่มต้นได้ไม่เลวเลย



...จากแผนที่เมื่อขับผ่านจากจุดสำคัญต่าง ๆ มาในที่สุดก็ถึงจุดหมายแห่งวันพักผ่อนอริสโตจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ .. สังเกตเห็นได้ง่ายแต่ไกลกับโดมสูงสีขาวที่อยู่บนช่วงเชิงเขาเล็ก ๆ ... จอดรถกันที่ด้านซ้ายมือ หรือจะจอดที่ด้านล่างก็ได้เช่นกัน



...เป็นที่แน่นอนว่าเดินทางมาในหน้าฝน การจะเห็นท้องฟ้าสีฟ้าสวย ๆ นั้นเป็นไปได้ยาก .. แต่ก็ยังดีใจได้ว่าจนถึงนาทีนี้ยังไม่มีฝนตกลงมาให้เป็นอุปสรรคในการเก็บภาพแต่อย่างใด



...ระหว่างที่รอเช็คอินเมื่อนั่งเล่นได้สักพัก พอได้กุญแจห้องเป็นที่เรียบร้อยก็ขอเดินเล่นที่ด้านบนนี้สักหน่อย .. ซึ่งนอกจากจะเป็นพื้นที่พักผ่อน มุมสบาย ๆ นั่งเล่น เดินเล่นแล้วด้านบนนี้ก็เป็นส่วนของห้องพักแบบ Villa Jacuzzi ด้วยเช่นกัน ...



...จากนั้นเปลี่ยนมุมมองมามองในมุมสูง ๆ จากโดมด้านบนสักนิด จะเห็นถึงภาพกว้าง ๆ ของพื้นที่ได้อย่างชัดเจนกับมุมต่าง ๆ รวมไปถึงการวางผังตำแหน่งของทางเดิน มุมนั่งเล่นรับลมชมบรรยากาศ...



...จากภาพมุมนี้มองไปตรงกลางภาพจะเป็นที่จอดรถอีกจุดหนึ่งเพิ่มเติมในกรณีที่ลูกค้าเข้าเยอะ นอกเหนือจากด้านบนริมถนนที่จอดรถได้ประมาณ 4-5 คัน .. และถัดไปด้วยลานกว้างสีเขียวที่เป็นจุดโชว์ตัวของเจ้าม้าน้อย และบรรดาแกะทั้งหลาย ... ส่วนที่พักด้านล่างก็จะอยู่ไปตามถนนปูนสีขาวที่เห็นในภาพด้านขวา



...เดินเล่นด้านบนได้สักพักจากนั้นก็เดินมายังแนวรั้วด้านหน้าสีขาว ซึ่งบางช่วงเวลาทางรีสอร์ทก็จะให้เหล่าม้ามาเดินเล่น กินหญ้า อยู่ในบริเวณนี้ รวมไปถึงเจ้าแกะด้วย ...



...ใช้เวลาเดินเล่นอยู่ตรงนี้ไม่นานเท่าไหร่ก็ขับรถเข้าสู่ตัวที่พักด้านล่างซึ่งเป็นโซน House Suite Jacuzzi และ Hut .. .ให้ลูกค้าเลือกตามความต้องการ...



...เมื่อจอดรถเรียบร้อยก็จะเห็นที่พักด้านล่างซึ่งเป็นห้องในแบบ Hut มีด้วยกันทั้งหมด 7 ห้อง ติดกันโดยแบ่งเว้นพื้นที่แต่ละหลังไว้แบบไม่แน่น ไม่ชิดจนเกินไป .. มองแล้วสวยงามด้วยการวางตัวห้องพักในทรงโค้งนิด ๆ ตามไปกับสภาพพื้นที่...



...เข้าสู่ภายในห้องประเภท Hut ซึ่งเป็นห้องที่เข้าพักในวันนี้.. ขนาดพอดิบพอดีเหมาะแก่การพักประมาณ 2-3 คน ... ภายในห้องใช้โทนสีการตกแต่งเหมือนกันกับด้านนอกไม่มีผิดเพี้ยน ทั้งสีที่ใช้ ลายวาดผนังศิลปะที่เห็นได้ตามผนังกำแผงด้านนอกตามจุดต่าง ๆ โดยลวดลายแต่ละห้องก็จะแตกต่างกันไป



...จากในภาพด้านขวามือจะเป็นด้านหลังของห้องมีเปลไว้นอนรับลมเปลี่ยนบรรยากาศ มีต้นหญ้า และบ่อน้ำอยู่ติด ๆ กันสร้างความใกล้ชิดกับธรรมชาติเพิ่มขึ้นไปอีก...



...ภายในห้องน้ำก็มีทั้งห้องอาบน้ำ และที่เป็นอ่างแช่ .. ตกแต่งภายในด้วยลายเส้นภาพวาดเหมือนด้านนอก .. ซึ่งตรงตัวอ่างแช่น้ำเป็นบานกระจกมีมู่ลี่ไว้พร้อมเพื่อเปิดรับแสง หรือปิดเพื่อความเป็นส่วนตัว



...สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องก็มีตามปกติทั่วไป เครื่องทำน้ำอุ่นชงกาแฟ ไม้แขวน ไดร์เป่าผม ตู้เย็น .. แต่ที่ชอบมากคือปลั๊กไฟที่นี่ไม่งกดีครับ .. บางที่พักจะมีแค่หัวเตียงด้านใดด้านหนึ่ง แต่ที่นี่มีทั้งสองด้านซ้ายขวา ยังไม่รวมในห้องน้ำ และตรงโทรทัศน์อีก...



...จากนั้นก็ออกมาเดินเล่นชมโซนห้องพักประเภทต่อไปในแบบ House Suite Jacuzzi ซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกับ Hut แต่อยู่ตรงข้ามกันโดยอยู่เป็นเนินเล็ก ๆ ถัดขึ้นไปด้านบน มีด้วยกันทั้งหมด 7 หลัง เป็นหลังใหญ่ .. หนึ่งหลังมี 2 ห้องนอน .. เชิญชมภาพกันต่อได้เลยครับ



...เนื่องจากวันที่ผมมาเข้าพักตรงกับวันธรรมดาทางรีสอร์ทไม่มีลูกค้ามาพักห้องนี้ จึงขอเข้ามาสำรวจพื้นที่กันสักเล็กน้อย ...



...เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบกับความสวยงามในการวางตำแหน่งเตียงนั่งเล่น โต๊ะรับประทานอาหาร ไปจนถึงการตกแต่งภายในห้องที่ดูมีสีสันมากขึ้น อาจเพราะเป็นบริเวณห้องนั่งเล่น และมีพื้นที่มากพอให้ใส่รายละเอียดต่าง ๆ ลงไปได้เยอะกว่าห้องประเภทอื่น



...มาที่ภายในตัวห้องนอนทั้งสองปีกซ้ายและขวา ก็จะกลับมาสู่โทนเดิมสีขาวโล่งไม่เน้นการตกแต่งอะไรที่มากมาย...



...และมาถึงด้านนอกที่ติดลานกว้างสนามหญ้าสีเขียวซึ่งทางรีสอร์ทได้วางตำแหน่งของอ่างแช่น้ำไว้ด้านนอกตรงนี้ .. ให้ลองนึกเล่นดูลูกค้าบางรายอาจมีอาการเขินไปบ้าง แต่ถ้ามองว่ามากันแบบครอบครัวที่มีเด็ก ๆ น่าจะเป็นที่ถูกใจเด็ก ๆ มากกว่า ..



...เล่นน้ำ แช่น้ำหนาว ๆ เย็น ๆ ก็ออกไปวิ่งเล่นสนามหญ้าด้านหน้า เหนื่อย ๆ ร้อน ๆ ก็กลับมาแช่น้ำต่อ ...



...หลังจากสำรวจพื้นที่ห้องพัก House Suite Jacuzzi เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ใช้เวลาเดินเล่นไปรอบ ๆ รีสอร์ท ...



...เดินเล่นได้สักพักฝนก็ตกปรอย ๆ สักพักก็หยุด สลับไปมาเดาอากาศแทบไม่ออก .. มองในแง่ดียังดีตรงที่วันที่มาฝนไม่ตกหนักถึงขนาดถ่ายรูปไม่ได้ ... ระหว่างที่นั่งรอฝนก็หามุมหลบเก็บภาพไปเรื่อยก็จะเห็นความเขียวชุ่มชอุ่มเต็มทั่วรีสอร์ทไปหมด



...ภายในบริเวณรีสอร์ทก็จะมีพนักงานคอยดูแลเจ้าแกะ และม้าที่เลี้ยงไว้ .. เท่าที่สังเกตก็คือปล่อยให้สัตว์ได้เดินไปตรงนั้นตรงนี้โดยมีพนักงานคอยยืนคุมอยู่ใกล้ ๆ เพื่อความปลอดภัย...



...บรรยากาศสบายมากครับวันที่เดินทางมา ได้หลบหนีจากบรรยากาศตึกสูงในเมืองใหญ่มาอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์ไปด้วยป่าด้วยเขาแบบนี้ จากพื้นที่ภายในรีสอร์ทที่กว้าง ๆ เดินไปเดินมาก็เพลินลืมเหนื่อยไปเหมือนกัน



...เดินเก็บภาพไปเรื่อยในที่สุดก็วนออกมาสู่ที่ด้านหน้าริมถนนของรีสอร์ทอีกครั้ง



...จากมุมนี้มองไปจะเห็นแนวรั้วสีขาวที่เป็นที่พักผ่อน และโชว์ตัวด้านหน้าของเจ้าม้า และเหล่าแกะ .. ก็เป็นตัวอาคารสีขาวเห็นโดมแหลมสูงอยู่แต่ไกล ๆ ซึ่งพื้นที่ตรงนั้นก็เป็นทั้งล๊อบบี้ จุดต้อนรับ และห้องอาหารในพื้นที่เดียวกัน



...สิ่งที่ผมชอบที่สุดอีกหนึ่งอย่างในอริสโตคือการตกแต่งบรรยากาศรีสอร์ทด้วยต้นหญ้าธรรมดา ๆ ที่พบเห็นบ่อย ๆ แต่เมื่อนำมาจัดวาง เลือกมุมวางแนวต้นหญ้าให้ลงตัวกลืมกลืนกับพื้นที่แล้วบอกได้เลยว่าดูซอฟท์ ดูสบายตามาก



...เดินเล่นไปมาเรื่อย ๆ ก็กลับมาสู่ด้านบนบริเวณโดมอีกครั้ง จึงขอทางรีสอร์ทเข้าไปถ่ายภาพห้องพักอีกประเภทที่อยู่บริเวณด้านบนนี้ซึ่งเป็นห้องแบบ Villa Jacuzzi มีด้วยกันทั้งหมด 10 หลัง .. จะเป็นลักษณะ 2 ชั้น โดยทุกห้องก็จะมีอ่างแช่น้ำ Jacuzzi ไว้เหมือนกับแบบ Hut และ House Suite ด้านล่าง



...ห้องตรงนี้จะเล็กไปสักนิดนึง พอเปิดประตูเข้ามาก็จะเจอกับเตียงนอนเลยทันที แต่จุดเด่นไปอยู่ที่ระเบียงด้านที่เปิดไปแล้วสามารถเห็นวิวภูเขาได้เต็ม ๆ บรรยากาศสบาย ๆ มากับคนรู้ใจนั่งเล่น นั่งอ่านหนังสือ ลมพัดเบา ๆ คิดแล้วมีความสุข



...จากนั้นก็เดินลงสู่ชั้นล่างเป็นทั้งห้องนั่งเล่นอีกมุมหนึ่ง และมีห้องน้ำ เหมือนกันกับชั้นบน ... ซึ่งอ่าง Jacuzzi ก็จะอยู่ที่ชั้นล่างนี่ด้วย



...จากห้องพักก็กลับมาบริเวณจุดต้อนรับอย่างที่บอกว่าเป็นทั้งล๊อบบี้ ต้อนรับลูกค้า ที่นั่งรับประทานอาหาร ซึ่งอาหารเช้าเราก็จะมาทานที่ตรงนี้เช่นกัน



...ในกรณีที่ลูกค้าเยอะทางรีสอร์ทก็จะเปิดพื้นที่เพิ่มในชั้นบนให้บริการเพิ่มเติมด้วย



...มุมเล็ก ๆ น้อย ๆ ถ้าเลือกดีดีก็เป็นที่ถูกอกถูกใจของคนชอบถ่ายรูปได้เสมอ



...ภาพล่างที่เห็นขวดเล็ก ๆ ในภาพก็คือน้ำหอมที่ใช้ภายในห้องพักของที่นี่ ซึ่งสำหรับใครที่ชอบความหอมก็สามารถซื้อกลับบ้านได้ ...



...ภาพของบริเวณที่นั่งด้านบนที่ลูกค้าสามารถขึ้นมารับประทานอาหารได้



...สภาพอากาศไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่นักสำหรับการเก็บภาพ เพราะไม่มีแดดเลย ... แต่ถ้ามองในแง่การพักผ่อน ได้รับอากาศสบาย ๆ เย็น ๆ มีลมพัดมาบาง ๆ แสงแดดไม่แรง .. ก็ต้องบอกเลยว่าดีเยี่ยมจริง ๆ ...



...เดินไปเรื่อยจนถึงมุมจิบเครื่องดื่มทั้งกาแฟ ชาร้อน ไอศครีม ... ซึ่งยังคงเป็นบริเวณเดียวกับพื้นที่โดมด้านบน เลือกนั่งเล่นกันสักพักชิมบรรยากาศสบาย ๆ กับกาแฟอุ่น ๆ สักแก้วนั้นเป็นตัวเลือกที่เลือกแล้วไม่ผิดหวังจริง ๆ



...มุมล๊อบบี้ที่ติดกับตัวร้านอาหารมุมนี้ส่วนตัวแล้วมองว่าจัด และออกแบบตกแต่งวางตำแหน่งของแต่ละอย่างได้ลงตัวดี ..



...โทนสีขาวของผนัง ตัดกับสีน้ำตาลของเก้าอี้ และโต๊ะ ... ประดับด้วยพันธุ์ไม้ ด้วยต้นหญ้ารอบ ๆ ดูแล้วให้รู้สึกผ่อนคลายมาก ๆ ...



...จากนั้นไม่นานก็สั่งอาหารเย็นมารับประทานสักหน่อย มากันน้อยสองคนก็สั่งแค่พอดีกินแบบไม่ต้องอิ่มท้องแน่นมากด้วยเมนูปีกไก่ทอดเกลือ กับลาบทอด และข้าวผัด ..



...ตัวปีกไก่นั้นหอมใช้ได้เลย ทอดไม่กรอบมากเท่าไหร่พอเคี้ยวแล้วยังให้รู้สึกถึงเนื้อไก่ ... ส่วนลาบทอดรสชาติอาจจะเบาไปสักนิดหากเทียบกับใครที่ชอบรสจัดจ้าน แต่สำหรับผมรสชาติเบา ๆ กินสบายลิ้นไม่ทรมานมากนี่แหละถือว่าโอเคเลย



...อิ่มท้องนั่งเล่นได้สักพัก ฟ้าก็ค่อย ๆ มืดลง .. จึงรีบกลับสู่บริเวณตัวห้องพักด้านล่างเพื่อเก็บภาพยามเย็นต่อไป



...ตัวหน้าบ้านเมื่อเปิดไฟสีส้ม ๆ แล้วยิ่งเพิ่มความสวยงามขึ้นไปอีกหลายเท่า เมื่อสีส้มนั้นตัดกับสีขาวของบ้าน และสีเขียวของหญ้า.. ยิ่งเดินถอยออกมาให้เห็นแนวโค้งของบ้านทั้ง 7 หลังด้วยแล้วยิ่งมองแล้วสวยงาม



...น้ำพุสีขาวตระหง่านโดดเด่นอยู่บริเวณลานหญ้าระหว่างส่วน Hut และช่วงเนินเตี้ย ๆ ของ House Suite ด้านบน



...จากภาพล่างสุดจะเห็นถึงตำแหน่งของบริเวณนี้ได้อย่างชัดเจน ซึ่งภาพนี้ถ่ายจากด้านบนของ House Suite Jacuzzi โดยด้านบนนี้ของแต่ละหลังจะมีพื้นที่สำหรับนั่งเล่นนั่งกินด้วยเช่นกัน...



...กลับมาที่มุมน้ำพุอีกสักครั้ง... ก่อนในภาพถัดไปจะเป็นตัว House Suite Jacuzzi ยามค่ำคืนเห็นดวงไฟเป็นแนวหน้าบ้านสีส้มตัดกับตัวบ้าน และท้องฟ้า บอกได้คำเดียวว่าสวยงามมาก...



...จากภาพนี้บริเวณโซนห้องพักด้านล่างก็จะย้ายไปด้านบนบริเวณล๊อบบี้เพื่อเก็บภาพยามพลบค่ำกันต่อไป



...บรรยากาศด้านบนบริเวณล๊อบบี้ยามที่เปิดไฟแล้วสวยงามเลยทีเดียว ... แสงจากไฟส่องหญ้าสีเขียวให้เห็นสว่าง



...จะติดสักหน่อยตรงที่แมลงเยอะเพราะเป็นช่วงฝนตก บวกกับสภาพพื้นที่ใกล้ป่าต้นไม้เยอะ ทำให้ยุงเยอะไปสักนิด ใครที่มาพักอาจติดที่กันยุง กันแมลงมาด้วยก็จะดีครับ



...ใช้เวลาช่วงพลบค่ำไปกับการถ่ายภาพบรรยากาศยามค่ำคืน แสงไฟจากจุดต่าง ๆ ที่วางไว้ทำให้ภาพของรีสอร์ทสวยงามเปลี่ยนฟิวล์จากตอนกลางวันไปได้เยอะเหมือนกัน



...ก่อนปิดท้ายค่ำคืนด้วยการนอนดูทีวีในห้องพัก ฟังเสียงหรีดหริ่งเรไรที่พอให้ได้ยินเล็ดลอดเข้ามาเบา ๆ เป็นจังหวะ ๆ ... ก่อนจะหลับไปแบบไม่รู้ตัว...



...เช้าวันใหม่เริ่มต้นด้วยความสดใสชุ่มฉ่ำของวัน...



...พนักงานก็พาเจ้าแกะออกมากินหญ้าเล็มหญ้าเป็นอาหารเช้ากันไป ส่วนเราระหว่างเดินไปล๊อบบี้เพื่อรับประทานอาหารเช้าก็ยังคงเก็บภาพไปเรื่อย



...อาหารเช้าที่อริสโตมี 2 แบบ ให้ลูกค้าเลือก คือ เมนูไข่กะทะ (สูตรเชฟกะทะเหล็ก) และข้าวต้มเห็ดโคนญี่ปุ่น .. โดยทั้ง 2 เมนูทางรีสอร์ทให้บริการแบบเป็นเซ็ตลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าต้องการเมนูไหน .. รวมถึงบริการเครื่องดื่มกาแฟ น้ำผลไม้ ผลไม้ ที่เตรียมไว้ให้ลูกค้า ...



...โดยช่วงเวลาของอาหารเช้าอยู่ที่เวลา 8 โมงเช้า – 10 โมง ...



...เมื่ออิ่มจากมื้ออาหารแล้วก็เดินย่อยอีกสักพัก ก่อนจะกลับเข้าห้องพักเพื่อทำการเก็บสัมภาระเตรียมตัวเช็คเอาท์



...นับตั้งแต่ช่วงนาทีแรกที่ได้มาถึงที่นี่จนถึงตอนนี้ความรู้สึก และภาพที่มีต่ออริสโตคือ รีสอร์ทสีขาวสบายตา แซมด้วยต้นหญ้าพริ้ว ๆ ตกแต่งตามจุดต่าง ๆ มีสนามหญ้าลานหญ้าสีเขียว ๆ ชุ่มฉ่ำอยู่ทุกทั่วบริเวณ ...



...น่าจะเหมาะกับแขกผู้มาพักหลากหลายประเภท.. ไม่ว่าจะเป็นคู่รัก หรือกลุ่มเพื่อนฝูง ครอบครัวที่มีลูก ๆ ตัวเล็ก มีพื้นที่ให้วิ่งเล่น มีอ่างน้ำให้แช่ แม้จะไม่มีสระว่ายน้ำ.. สถานที่โดยรวมดูแล้วสะอาดตาสบายตาดี.. มีพื้นที่กว้างขวางให้เดินถ่ายรูปเล่น แม้จะไม่ได้เป็นเซ็ทเป็นมุมเป็นฉากถ่ายภาพเหมือนสถานที่ยอดนิยมทั่วไป แต่ได้มุมธรรมชาติ ๆ น่าจะถูกใจสำหรับใครที่ชอบถ่ายรูปแนวนี้...



...ที่สวนผึ้งนั้นเป็นสถานที่ยอดนิยมที่ผู้คนให้ความสนใจเดินทางมาพักผ่อนกันมากขึ้น ยิ่งในทุกวันนี้รีสอร์ทที่พัก ร้านอาหาร ร้านกาแฟต่าง ๆ เปิดขึ้นอย่างมากมาย ... แต่ละรีสอร์ทก็จะมีสไตล์ที่คล้ายกัน หรือแตกต่างกันไป .. แต่สำหรับอริสโต ชิค รีสอร์ท แอนด์ ฟาร์ม .. เอกลักษณ์คงอยู่ที่ความเรียบง่ายสบายตาทั้งในด้านของการตกแต่ง และบรรยากาศภายในรีสอร์ท ซึ่งอาจจะถูกใจสำหรับใครที่ชอบแนวนี้...



...ส่วนสำหรับใครที่ตั้งใจจะมาสวนผึ้งแต่ยังไม่มีตัวเลือก หรือยังไม่รู้ว่าจะเลือกที่พักที่ไหนให้กับวันพักผ่อนวันพิเศษ ก็ลองเก็บที่ Aristo Chic Resort & Farm ไว้เป็นตัวเลือกอีกสักที่... วันพักผ่อนสบาย ๆ อาจกลายเป็นที่นี่ที่มอบความสุขให้ก็เป็นได้



...สุดท้ายขอสรุปความรู้สึกส่วนตัวล้วน ๆ กับอริสโตไว้คร่าว ๆ ดังนี้นะครับ



...จุดเด่น...



...1. บริเวณรีสอร์ทมีขนาดกว้างใหญ่ ทำให้มีพื้นที่ในการเดินเล่นได้เต็มที่ สำหรับคนชอบพื้นที่กว้าง ๆ อย่างผม

...2. ด้วยสไตล์โมเดิร์น เมดิเตอร์เรเนียน ที่อริสโตเน้นสีขาวเป็นหลัก .. เลยกลายเป็นที่ถูกใจของผมอยู่แล้วกับที่พักที่ใช้โทนสีน้อย ๆ ดูเรียบง่าย สบายตา ไม่ฉูดฉาด

...3. บรรยากาศสีเขียว ๆ มีทั้งบึงน้ำ มีต้นไม้ ทำให้รู้สึกชอบมาก ๆ บวกกับการวางตำแหน่งของที่พักแต่ละจุดไว้อย่างลงตัว

...4. แม้รีสอร์ทจะไม่มีสระว่ายน้ำแต่ก็ทดแทนด้วยอ่างแช่น้ำ Jacuzzi ซึ่งมีด้วยกันเกือบทุกประเภทของห้องพัก



...จุดด้อย...



...1. เนื่องจากที่พักอยู่ใกล้ป่าเขาทำให้มีแมลงเยอะถึงเยอะมาก ยิ่งในช่วงหน้าฝนที่ได้เดินทางมาด้วยแล้ว .. ทำให้เกิดความรำคาญในการขับไล่ แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าเป็นผลพวงจากธรรมชาติ .. แต่ทางรีสอร์ทก็มีเครื่องไล่แมลงไฟฟ้าไว้ให้ภายในห้องพัก แต่สำหรับแขกผู้มาพักหากมีใครแพ้แมลงควรติดยาทาป้องกันมาด้วยก็จะดีไม่น้อยครับ

...2. รีสอร์ทไม่มีสระว่ายน้ำใหญ่ ทำให้อาจขาดแคลนอะไรไปนิดสำหรับผู้มาพัก หรือครอบครัวที่มีเด็ก ๆ ชอบเล่นน้ำ

...3. บริเวณพื้นที่ที่พักด้านบน อาจดูแคบ และอึดอัดไปสักนิดนึง แต่ทั้งนี้ก็เนื่องจากตามสภาพของพื้นที่ที่อยู่บนเนินเขา ...



...ขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่แวะเข้ามาคลิ๊กชมกันนะครับ ติชมได้ตามสบายแล้วเจอกันใหม่รีวิวหน้านะคร๊าบบ .. สวัสดีทุกคนครับ



Forzanu

 วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 13.45 น.

ความคิดเห็น