พอเอ่ยถึง “ย่างกุ้ง" ทุกคนคงนึกถึง เจดีย์ชเวดากอง เป็นสิ่งแรก ซึ่งเป็นสถานที่ ที่ใครไปเยือนย่างกุ้งแล้วไม่ไปที่นี่ ถือว่าคุณมาไม่ถึงกันเลยทีเดียว



แต่จริงๆแล้ว ย่างกุ้งไม่ได้มีแค่วัดนะ ย่างกุ้งยังมีสถาปัตยกรรม ตึกรามบ้านช่องที่แลดูคล้ายๆ ยุโรป และตึกเก่าๆ ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และที่สำคัญ เราว่า เมืองย่างกุ้ง เหมาะสำหรับคนชอบถ่ายรูป Street Photo เป็นอย่างที่สุด จริงๆนะ



สำหรับทริปนี้ เราไป 4 วัน 3 คืน ค่าใช้จ่ายทั้งหมดแค่เพียง 4,641 บาท



[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/littlegirlinabigworld2/

http://www.girlinabigworld.com/



เราบินด้วยสายการบิน Thai Lion air ราคาตั๋ว ไปกลับเพียง 1,090 บาท (จองผ่าน เวบ Jet radar )


เมื่อเครื่องบินใกล้จะถึง ย่างกุ้ง เหล่านางฟ้าสุดสวยก็จะแจกใบขาเข้าให้เรากรอก



ผ่าน ตม รับกระเป๋าเป็นที่เรียบร้อย เดินออกมาก็จะเจอกับ ธนาคาร MAB หรือ Myanmar Apex Bank ซึ่งเราจะแลกเงินกันที่นี่เลย


แต่แนะนำให้แลกเงินบาทไทยเป็น US. Dollar ก่อน แล้วค่อยเอาดอลลาห์มาแจกเป็นเงินจ๊าดที่นี่



เราแลกเงินมาจากไทย 200 USD เพราะกลัวว่าใช้ไม่พอ แต่ตอนยืนรอแลกเงินงะ สังเกตเห็นคนอื่นแลกแค่ 50-100 USD


เราเลยแลกแค่ 100 USD ได้เงินมา 115,800 จ๊าด 1,000 จ๊าด 32 บาท



แลกเงินเสร็จ เราก็เตรียมหา Taxi เข้าเมือง เพื่อนเราบอกว่า ถ้าออกมาเรียกข้างนอกราคาจะไม่เกิน 6,000 จ๊าด แต่ด้วยความที่ฝนตก เราเลยใช้บริการ Airport Taxi Service ในราคา 8,000 จ๊าด



เรานั่ง Taxi จากสนามบินเข้าเมือง ใช้เวลาราว 1 ชม ย่างกุ้งเป็นเมืองที่รถติดไม่ต่างจากกรุงเทพ และการจราจรทางถนนเป็นอะไรที่สะพรึงมาก ขับกันน่าหวาดเสียว ข้ามถนนทีนึงเนี่ยเหมือนขีวิตฝากอยู่บนเส้นด้าย รถทุกคันชอบบีบแตรลั่น นี่ถ้ามาบีบแตรแบบนี้ในประเทศไทย คงมีโดนด่าถึงบุพการีกันเลยทีเดียว



เราพัก Hostel ชื่อว่า Space Boutique hostel พัก 3 คืน เป็นห้องนอนหญิงล้วน 4 เตียง ในราคา 850.74 บาท รวมอาหารเช้า ตกคืนละ 284 บาทเท่านั้นเอง

อาหารเช้าจะเป็นอาหารเช้าธรรมดา คือ ขนมปัง 2 แผ่น ไข่ดาว 1 ฟอง กล้วย 1 ลูก



ที่พักค่อนข้างสะอาด ผู้จัดการและพนักงานบริการดีและเฟรนลี่เป็นสุด คอยแนะนำทุกอย่าง อยากได้ข้อมูลอะไรก็ถามเอาที่หน้าเคาน์เตอร์ได้เลย



Hostel ที่เราพัก ดีอย่างนึงก็คือจะมี บริการน้ำดื่มฟรี และ มีเครื่องทำกาแฟและช็อกโกแลตร้อนบริการฟรี กดได้ตลอดทั้งวัน



Check-in ที่ Hostel เสร็จ เราก็ไปซื้อ Simcard พร้อม แพคแกจอินเตอร์เน็ต ของ ooredoo ในราคา 5,500 จ๊าด โทรได้ 1000 จ๊าด Internet 550 MB



เอาล่ะ!!! เมื่อมีอินเตอร์เน็ตในมือถือ เราก็ไม่กลัวหลงอีกแล้ว เตรียมออกท่องเมืองย่างกุ้งกันได้เลย


หลังจากซื้อซิมการ์ดเสร็จ เราก็เดินไปที่ Sule Pagoda ซึ่งเป็นเจดีย์ที่อยู่ใจกลางเมือง ถูกสร้างขึ้นก่อนเจดีย์ชเวดากอง อายุก็ราวๆ 2,500 ปี



ค่าเข้า 3,000 จ๊าด ส่วนค่าฝากรองเท้าแล้วแต่จะให้ เราไม่มีเศษ เลยหยอดตู้บริจาคไป 1,000 จ๊าด



วัดที่นี่ห้ามใส่รองเท้าและถุงเท้าเข้าไป ต้องเดินเปลือยเท้าเข้าไปเท่านั้น



ออกจาก Sule Pagoda เราก็เรียก Taxi ไปเจดีย์ชเวดากอง ในราคา 2,000 จ๊าด


นั่งรถไปประมาณ 15 นาที ก็ถึงเจดีย์ชเวดากอง ค่าเข้า 8,000 จ๊าด ก่อนเข้าก็ฝากรองเท้าอีกตามเคย



ค่าฝากรองเท้าจริงๆแล้วแต่ใครจะบริจาคเท่าไหร่ก็ได้ แต่คนที่เฝ้ารองเท้าเค้าคงเห็นเราเป็นนักท่องเที่ยว พอเราชักเงิน 200 จ๊าด กำลังจะใส่ตะกร้าให้ นางก็บอกว่า ไม่ใช่ 200 จ๊าดนะ นางบอก 3,000 จ๊าด เราเลยบอกทำไมแพงจัง มันไม่น่าแพงอย่างนี้ หันไปถามอีกคน นางก็บอกว่า 3,000 จ๊าด เราก็เลยให้ไปแบบงงๆ



เดินชมความงามของเจดีย์ชเวดากองจนพอใจแล้ว ก็เดินออกมาทางตลาดเพื่อหาอะไรกินรองท้อง


ไปเจอกับร้านขายก๋วยเตี๋ยวเล็กๆริมทาง



สั่งมากิน 1 จาน ราคา 500 จ๊าด หน้าตา คล้ายขนมจีนบ้านเรา แต่รสชาติจะออกเลี่ยนๆหน่อย



เดินไปเกือบสุดถนนเห็นสามล้อจอดอยู่ เลยลองใช้บริการสักหน่อย จากตลาดใกล้ชเวดากองไปทะเลสาบ Kandawgyi ในราคา 1,000 จ๊าด



ถึงแล้วทะเลสาบ Kandawgyi เป็นทะเลสาบที่สวยงาม มีสะพานทอดยาวสุดลูกหูลูกตา



ป้าแก่ๆนั่งขายอยู่บนสะพาน เลยช่วยซื้อมา 1 อัน ราคา 500 จ๊าด รสชาติแปลกดี หวานๆ เปรี้ยวนิดหน่อย



เดินเล่นที่ทะเลสาบสักพักฝนเริ่มจะลงเม็ด เลยเรียก Taxi กลับ Hostel ในราคา 2,500 จ๊าด


และสำหรับมื้อเย็นของวันนี้ เราไปฝากท้องไว้กับ KFC จ่ายไป 2,500 จ๊าด แต่ลืมถ่ายรูปมา ฮี่ๆๆเริ่มค่ำแล้ว แต่ยังไม่ง่วง เลยออกไปชมวิวมุมสูงที่ Sakura Tower ชั้น 20 เห็นเจดีย์ชเวดากองอยู่ไกลๆ

ส่วนนี่เป็น City View เวลากลางคืนของเมืองย่างกุ้งจากชั้น 20

บนชั้น 20 นั้นมีบาร์ชื่อว่า Yangon Yangon เราอยากลองดื่มเบียร์พม่า เลยจัดมา 1 ขวด ใน ราคา 5,000 จ๊าด


ซึ่งบาร์นี้ถือว่าเป็นบาร์ที่มีราคาสูงใช้ได้เลยทีเดียว



สำหรับวันที่ 2 เรามีแพลนจะนั่งรถไฟเที่ยวรอบเมือง Yangon Circular Railway ใช้เวลาประมาณ ราว 3 ชั่วโมงเศษ



ตั๋วราคา 200 จ๊าด ตลอดสาย



ระหว่างรอรถไฟ ก็ลองซื้อไก่ทอดมาลองกินดู รสชาติเหมือนแบบไก่แห้งค้างคืน กัดคำเดียว ลงถังเถอะครัช เสียไป 200 จ๊าด



นี่เป็นภาพภายในรถไฟรอบเมืองในกรุงย่างกุ้ง ค่อนข้างที่จะเก่าและสกปรก อีกอย่างวันที่เราไปฝนตก ทำให้พื้นและเบาะแฉะมากทีเดียว เราใส่เดรสสีขาวไป ลุกขึ้นมาตูดดำเป็นดวงๆเลยทีเดียว



ขณะนั่งรถไฟ ก็มีคนมาขายของเป็นระยะๆ เหมือนกับรถไฟไทย ขายตั้งแต่แผ่นซีดี ยันขนม เราเลยซื้อขนมมาลองกินดู ในราคา 200 จ๊าด


(ว่าแต่ ผช คนนั้น มองช้านทำไม ชั้นไปทำอะไรให้เธอเคืองโกรธ)



เรานั่งมาสักพัก ก็มาถึงสถานีที่เดินไปทะเลสาบอินยาได้ เลยตัดสินใจลงที่สถานีนี้


ส่วนชื่อสถานีอะไรนั้น เราก็ไม่รู้ พอดีได้ยิน ฝรั่งข้างๆคุยกัน ถ้าว่าจะไปอินยาเลคต้องลงสถานีนี้

ได้ยินดังนั้นเราเลยรีบกระโดดลงรถไฟอย่างไว



ระหว่างเดินไป ก็ถ่ายรูปตึกรามบ้านช่องไป


เดินผ่าน มหาวิทยาลัยย่างกุ้ง แชะภาพสักหน่อย มหาลัยนี้เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศพม่า



ถึงแล้วทะเลสาบอินยา วันนี้ฝนตก เลยไม่ได้ถ่ายรุปสวยๆมา แต่ของจริงก็สวยนะ มีปลาตัวใหญ่ๆกระโดดขึ้นมาให้เห็นเป็นระยะๆด้วย



มื้อเที่ยง ฝากท้องไว้กับร้านอาหารใกล้ๆทะเลสาบ สั่งผัดก๋วยเตี๋ยวมาหน้าตาคล้ายบะหมี่ผัดซีอิ้ว พร้อมโค้ก 1 กระป๋อง ราคา 3,000 จ๊าด


พอฝนหยุดตก เราก็เดินเล่นริมทะเลสาบสักพัก ก็ข้ามถนนไปขึ้นรถเมล์กลับตัวเมือง ถนนที่นี่ไม่มีรถมอเตอร์ไซ แม้แต่คันเดียว เนื่องจากกฎหมายไม่อนุญาตให้ขี่บนท้องถนนได้


รถเมล์ของพม่าเก่ากว่ารถเมล์ไทยนะ แถมนั่งๆไป รถเสียกลางทางจ้า ต้องเปลี่ยนไปขึ้นรถคันใหม่อีก 55555


ค่าตั๋วรถเมล์ สนน ราคา 200 จ๊าด

เราบอกเค้าลง Sule Pagoda คือ ที่ Sule น่ะ มันจะเป็นเหมือนท่ารถ เอาไว้ต่อรถ คล้ายๆอนุสาวรีย์ชัยบ้านเราดีดีนี่เอง



จากทะเลสาบอินยา นั่งรถราวๆ 40 นาที ก็ถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ลงจากรถเมล์ ก็เดินชมเมืองถ่ายรูปตึกไปเรื่อยๆ


มีตึกสวยๆเพียบ อารมณ์แบบอยู่อังกฤษเลยทีเดียว



ลองถ่าย เป็น ขาว – ดำ ก็ได้อีกอารมณ์นึงเนอะ



หิวแล้ว ลองกินอาหาร Street food ดู เห็นคนพม่าเค้าบอกว่า อร่อยน๊า ยูลองกินจิ พร้อมยกนิ้วโป้ง การันตี


ลองซื้อมา 1 กล่อง ในราคา 500 จ๊าด มันคือถั่วลิสง ข้าวโพด ปลาแห้ง ราดน้ำซอสอะไรสักอย่าง


รสชาติเหม็นๆ ลองกินไปคำสองคำ ลงถังขยะอีกตามเคย



เดินตามถนนไปเรื่อย สังเกตเห็นคนพม่า ชอบสูบบุหรี่อันใหญ่ สีเขียวๆ เลยจัดมาลองดู ในราคา 3 อัน 100 จ๊าด


สำลักน้ำหูน้ำตาไหล แถมแสบคออีกต่างหาก

ส่วนอันนี้เป็นยาดมพม่า รู้สึกในไทยก็มีขายเหมือนกัน เราซื้อมา 850 จ๊าด


เริ่มค่ำแล้ว เลยไปเดินเล่นที่ China Town ตั้งอยู่ที่ถนน 19


ไปถึงปุ๊บ ไม่แน่ใจว่ามันคือ China Town หรือตลาดสด 555++ เนื่องจากไม่มีอะไรบ่งบอกถึงความเป็น Chinese แม้แต่นิดเดียวเลยจ้า

นี่งงมาก คิดว่ามาผิดที่ เลยถามคนแถวนั้นไป ว่านี่คือ ไชน่าทาวน์ใช่มั้ย ? Really

มีขายดอกไม้ ผลไม้ และ Street food อารมณ์เหมือนชั้นมาเดินเล่นในตลาดบางกะปิ



เดินไปเดินมา ไม่รู้จะกินอะไรดี และแล้วเย็นของวันนี้เราฝากท้องไว้กับร้านอาหารไทย ตรงข้ามโรงแรม Shangri La


เมนูที่สั่งคือ กุ้งผัดผงกะหรี่ กับ น้ำแตงโมปั่น ราคา 3,500 จ๊าด



เราเริ่มต้นวันที่ 3 ที่ Bogyoke Market เป็นตลาดที่สร้างโดยชาวสก๊อต ที่นี่มีขายทั้งผ้า เครื่องเงินและอัญมนีต่างๆ


วันนี้เรามีเพื่อนใหม่ที่ทำความรู้จักจาก Hostel ไปด้วยกัน เย้ๆ ไม่เหงาแล้ว



ภายในตลาด ก็มีร้านขายเครื่องประดับมากมาย ให้เลือกซื้อหากันได้



หรือจะใครสนใจจะซื้อผ้า ก็มีให้เลือกมากมายหลากสีสัน


เราซื้อทานาคา มาทาหน้า ในราคา 200 จ๊าด แม่ค้าใจดีทาหน้าให้ด้วย


ถัดจากตลาด Bogyoke จะมีโบสถ์เก่าแก่ ชื่อว่า Holy Trinity Cathedral สร้างเสร็จเมื่อปี 1894 อายุราว 120 กว่าปี



ภายในก็ตกแต่งได้อย่างสวยงามและมีมนต์ขลัง


ขณะนี้เวลาเกือบเที่ยง ท้องเจ้ากรรม ก็เริ่มงอแง เราและเพื่อนใหม่ เลยชวนกันหาอะไรกินแถวๆนั้น


เราสั่งชามาหนึ่งแก้ว ชาที่นี่รสชาติอร่อยมาก ส่วนสามเหลี่ยมอันนี้รสชาติคล้ายซาโมซ่า เอ๊ะ หรือมันคือ ซาโมซ่าหว่า?



ส่วนจานหลัก เราสั่งเป็นบะหมี่ผัด รสชาติออกเผ็ดเล็กน้อย ทั้งหมดนี้ราคา 2,300 จ๊าด


คนที่นี่ชอบเคี้ยวหมาก จึงมีรถเข็นขายหมากพลูมีให้เห็นทั่วไปตามท้องถนน



วันนี้โปรแกรมของเราก็ไม่มีอะไรมาก แค่เดินชมเมืองแล้วถ่ายรูปตึกเก่าๆ


ตึกที่เห็นอยู่เป็นโดมนั้นเป็นสถานที่ตั้งของสถานีตำรวจ ซึ่งภายในเก่ามาก เราขอเค้าเข้าไป แต่เค้าบอกเข้าไม่ได้นะยู กินแห้วเลย!!!


เดินข้ามสะพานลอยมาเรื่อยๆ เจอทางเดินไปท่าเรือที่ใช้ข้ามฝั่งไป Dala แต่เนื่องจากฝนตก เราเลยไม่ได้ข้ามไปฝั่งนั้น น่าเสียดายจริงๆ


เรือลำสีขาว เป็นเรือ Ferry ที่ใช้ข้ามไป Dala ซึ่งเป็นเมืองชนบทของพม่า ได้ยินมาว่าแตกต่างจากย่างกุ้งโดยสิ้นเชิง


เราไปสอบถามค่าเรือมา ประมาณ 4,000 จ๊าด

ย่างกุ้งเป็นเมืองท่า มีบริษัทขนส่งทางเรือหลายสาย มาเปิดที่นี่


เดินถ่ายภาพตึกรามบ้านช่องไปเรื่อยเปื่อย ในวันที่ฝนตกพรำ


มาสะดุดตากับร้านอาหารข้างทางร้านนึง ขายอะไรเป็นโอ่งๆ หน้าตาเหมือนหม้อแม่นาคจิ๋ว


ลองสั่งมากินดู สรุปมันคือ โยเกิร์ตพม่า รสขาติก็คล้ายโยเกิร์ตทั่วไป แต่จะราดด้วยน้ำตาลทรายแดง (Brown Sugar) ซึ่งทำให้มีรสหวานกว่าโยเกิร์ตทั่วไป (ราคา 400 จ๊าด)


ตึกนี้เป็นตึกแกลอรี่แสดงงานศิลปะ ตั้งอยู่บนถนน Pansodan วันนั้นมีโชว์ผลงานเพ้นท์ภาพของ M.M Thein ศิลปินชาวพม่า


ขึ้นไปชั้น 2 ก็เจอป้ายบอกทางว่าถึงแล้วนะ แกลอรี่


เดินดูผลงานไปสักพัก ศิลปิน เค้าก็มานะแนะนำตัว ว่าภาพทั้งหมดเค้าเป็นคนวาดขึ้นมา


ภายในตึก Lokanat Galleries ค่อนข้างที่จะเก่า


แต่เรามองว่ามัน Classic หาดูได้ยากแล้วในเมืองไทย


เราว่าคนที่นี่ชอบอ่านหนังสือ เห็นได้ว่า ร้านขายหนังสือมีมากมาย บนฟุตบาท


ส่วนตึกนี้เป็นตึกที่เราชอบมากที่สุด ไม่แน่ใจว่าชื่อตึกอะไร


มื้อเย็นของวันนี้ เรานัดกับเพื่อนสมัยมหาลัย นางมาทำงานกับสายเรือข้ามชาติชื่อดัง นัดกันที่ร้านชื่อว่า Vista Bar


เราลืมถ่ายรูป บรรยากาศร้านมา มัวแต่ดีใจ ได้เจอเพื่อนเก่า

ร้านนี้ จะอยู่ชั้นสอง เห็นวิว เจดีย์ชเวดากองยามค่ำคืน สวยงามมากเลยทีเดียว

สั่ง Cocktail และอาหารมานั่งกินกันเบาๆ มื้อเย็น ทั้งหมด 21,000 จ๊าด ค่าแท็กซี่ไปกลับเที่ยวละ 2,500 จ๊าด หารกันตกคนละ 13,000 จ๊าด


วันนี้เป็นวันที่ 4 วันสุดท้ายของการเที่ยวในเมืองย่างกุ้ง เพื่อนเรานัดไปกินก๋วยเตี๋ยวพม่าร้านอร่อยอยู่แถวตลาดใกล้ๆ ถนน Bo Gyoke ตัดกับ ถนน Thein Phyu


มาถึงแล้วร้านก๋วยเตี๋ยว คนรอคิวเยอะพอประมาณ


นี่มาแล้ว ก๋วยเตี๋ยว รสชาติดี หน้าตาคล้ายๆขนมจีนบ้านเรา มีชื่อเรียกด้วย แต่เราลืม 5555++++ ตกราคาประมาณ 900 จ๊าด


กินอิ่มแล้วก็ มุ่งหน้าไปร้าน RTH Tea House เป็นร้านดังในกรุงย่างกุ้ง


ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น สวยงาม น่ารัก เหมาะแก่การถ่ายรุป


เรามากัน 3 คนสั่งชามาคนละแก้ว พร้อมของหวาน เป็น Ice-cream ราดซอสช็อกโกแลต


ราคาทั้งหมด 14,375 จ๊าด ตกคนละ 5,000 จ๊าด ที่เหลือเป็นทิป

ก่อนกลับไป Check – out ที่ Hostel ก็แวะ ไปรษณีย์เพื่อส่ง Postcard


Postcard ราคา ใบละ 300 จ๊าด ส่วนแสตมป์ 500 จ๊าด


ส่วนใครไม่อยากมาส่งที่ไปรษณีย์ ที่ Hostel ก็มีแสตมป์ขายแล้วก็มีบริการส่งให้ด้วย ไม่คิดค่าบริการเพิ่ม

มื้อเที่ยงของวันนี้เราฝากท้องไว้กับ ร้าน Ya kun coffee & toast ที่ห้าง Parkson


เราสั่ง Laksa กุ้ง ในราคา 5000 จ๊าด


ถึงเวลาต้องกลับแล้ว Bye Bye ย่างกุ้ง จากในตัวเมืองไปสนามบิน เรียก Taxi ไปในราคา 7,000 จ๊าด



สรุปทริปนี้ประทับใจมาก คนพม่าส่วนใหญ่ใจดี ต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี

รู้สึกดีใจที่ได้เห็นบ้านเมืองในมุมเก่าๆ ผู้คนน่ารักและที่สำคัญคนพม่ายังไม่ถูกเทคโนโลยีกลืนกิน

ทำให้เรานึกถึงเมืองไทยในช่วง 15-20 ปีที่แล้ว ที่ผู้คนถ้อยที ถ้อยอาศัย ไม่วุ่นว่าย เดินกดแต่มือถือ จนไม่สนใจสิ่งรอบตัว



สวัสดี

Girl in a big world.

 วันพฤหัสที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เวลา 18.01 น.

ความคิดเห็น