4 วัน 3 คืน แบกเป้ไปเที่ยว " กาญ " เถอะ...

4 วัน 3 คืน แบกเป้ไปเที่ยวกาญกันเถอะ....ที่พักที่เราสองคนพักกัน 3 คืน คือ ริเวอร์แคว จังเกิล ราฟท์ , หินตก ริเวอร์แคมป์ และ โฮมพุเตยรีสอร์ท รีสอร์ทติดริมแม่น้ำ มากระโดดน้ำ ลอยคอในน้ำ นอนแพ นอนเตนท์ เอาให้ครบกันเลยทีเดียว....คืนแรกเรานอนที่ริเวอร์แคว จังเกิล ราฟท์ รีสอร์ทลอยน้ำ เเนว SLOW LIFE จริงแท้แน่นอน!!! เพราะที่นี่ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ มีแต่คนข้างๆ และผู้คนที่พบเจอในที่พักแห่งนี้ มาลองใช้ชีวิตเงียบๆ อยู่กับตัวเองและคนรอบข้างให้มากๆ....การเดินทางขับรถไม่ถึงสามชั่วโมงจากกทม. ถึงท่าเรือท่าเรือรีโซเทล มีบริการเรือรับส่งลูกค้าฟรี ตามรอบเวลาที่ทางรีสอร์ทกำหนด นั่งเรือประมาณ 15 นาที ก็ถึงรีสอร์ท ระหว่างนั่งเรือก็ได้สัมผัสธรรมชาติสองฝั่งริมแม่น้ำก็ฟินแล้วค่ะ

ที่พักแบบเรียบง่าย ทำจากวัสดุธรรมชาติ เป็นไม้ไผ่สานอย่างดี ดูแล้วกลมกลืนกันกับสิ่งแวดล้อม ทุกห้องจะตั้งอยู่บนผืนน้ำ มีไอน้ำออกมาตลอดเวลาทำให้ที่นี้เย็นสบายโดยไม่ต้องใช้แอร์หรือพัดลม แต่ในห้องทุกห้องจะมีพัดค่ะ พัดจริงๆ เก๋มั้ยละ ^^ เอาไว้พัดคลายร้อน ในช่วงเวลากลางวันได้ หน้าห้องจะมีเปลแขวนไว้นอนชิลได้ทั้งวัน พร้อมกับมีระเบียงยื่นออกไปไว้เพื่อนั่งชมธรรมชาติรอบตัวแบบฟินๆ กันไป และเล่นน้ำ กระโดดน้ำจากแพหน้าห้องได้ทั้งวันกันเลยทีเดียว กิจกรรมยอดฮิตคือปล่อยตัวให้ไหลไปตามน้ำ จากแพหลังแรกไปจนถึงหลังสุดท้าย ที่สำคัญอย่าลืมใส่เสื้อชูชีพด้วยนะคะ เพราะน้ำไหลแรง ถึงว่ายน้ำเป็นก็ควรใส่ค่ะ และยังมีกิจกรรมเป็นกิจกรรมทางน้ำอย่างพายเรือแคนู ล่องแพ ชมหมู่บ้านมอญด้านหลังที่พักอีกด้วย

ช่วงเย็นความมืดเริ่มครอบคลุม อากาศค่อนข้างดีมีลมเย็นๆ มาปะทะตัว มีเพียงตะเกียงที่ให้แสงสว่างเท่านั้น หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จ ที่นี้ยังมีโชว์ระบำมอญให้ชมเวลา 2 ทุ่มตรงกันด้วย การแต่งกายร่ายรำแบบชาวมอญ และที่นี้ไม่มีไฟฟ้า แสงสว่างจึงไม่มากนัก และถ่ายรูปหามุมยากมากกก...แต่ทำให้เห็นดาวชัดเจน มีความอลังของดาวมากๆ เรานั่งเอนกายตรงระเบียงแพหน้าห้อง สัมผัสลมเย็นๆ ฟังเสียงน้ำไหล และตาดูดาว ถ้าโชคดีเราได้เห็นดาวตกอีกด้วย และในยามเช้า จะมีช้างมาเล่นน้ำ มีคนมาคอยป้อนอาหารน่ารักน่าเอ็นดูเลยทีเดียว บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนชิวๆ ในวันที่ใจต้องการพักจริงๆ นะ...ไม่เชื่อลองมาดู ^_^

วันที่ 2 เราจิไปนอนเตนท์กัน " หินตก ริเวอร์แคมป์ " แนวแคมปิ้งกำลังมา ใครอยากชิคอยากเก๋ควรมาจริงๆ นะ..เตนท์ที่พักตกแต่งแนวซาฟารี กึ่งวินเทจ ผสมผสานวัสดุธรรมชาติเป็นไม้ไผ่สาน ทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ทำให้การตกแต่งดูเป็นแนวธรรมชาติแบบลงตัว การพักผ่อนที่นี่เหมือนได้ออกไปกางเต้นท์กลางป่า แต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวก โดยไม่ได้รู้สึกถึงความลำบากกันเลย ในเตนท์มีห้องน้ำส่วนตัวพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น ด้านนอกบริเวณโดยรอบโอบล้อมไปด้วยต้นไม้ร่มรื่นเย็นสบาย...ถ้ามีเสื่อผืน หมอนใบ หนังสือ 1 เล่ม นี่คงหลับยาวแน่นวลลล...^^

ช่วงบ่ายแดดร่มลงนิดหน่อย ไปเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำริมผากัน เดินลงบันไดไปแถวริมน้ำ เป็นสระว่ายน้ำหินปูน น้ำใสไหลเย็นมาก นั่งแช่น้ำไปพลางดูวิวของแม่น้ำแควที่เป็นส่วนโค้งพอดีมันฟินมิใช่น้อย เดินลงไปอีกนิดก็เป็นระเบียงแพ นั่งชมบรรยากาศตรงหน้าที่มีวิวเป็นแม่น้ำภูเขา เป็นแบล็คกราวฟินกันไป ในช่วงเย็นมีอาหารแบบบุฟเฟ่ ให้เลือกสรรมากมายเป็นการจัดโต๊ะกลางสวน ประดับด้วยไฟสีส้มแลดูเป็นกันเองและอบอุ่น...

ช่วงเช้าเราไปปั่นจักรยานชมวิวบวกกับอากาศกำลังเย็นๆ สุดจะดีจริงๆ นะ จากรีสอร์ทปั่นไปประมาณ 2-3 กิโลก็ถึงสะพานแขวน เป็นสะพานตัดผ่านแม่น้ำแคว ฝั่งตรงข้ามคือ วัดหาดงิ้ว ช่วงเช้าจะมีหมอกจางๆ คุ้งอยู่เหนือเขา ธรรมชาติแบบสุดๆ เดินลัดเลาะไปบางก็มีคนนั่งเล่นริมน้ำ พ่ายเรือ ตกปลา หลังจาก ปั่นจากปั่นจักยานเสร็จเราได้ไปเดินสำรวจร่อยรอยประวัติศาสตร์เส้นทางรถไฟสายมรณะสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งความทรงจำ ช่องเขาขาด ซึ่งห่างจากที่ พักไม่ถึง 500เมตร ซึ่งเป็นสวนหนึ่งของทางรถไฟสายมรณะที่เชลยศึกในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตัดเจาะภูเขาหินด้วยมือ ให้เป็นช่องสำหรับสร้างทางรถไฟไทย พม่า เส้นทางรถไฟสายมรณะ ใช้เวลา เดิน ประมาณ 2 ชั่วโมง สำหรับ หินตก ริเวอร์แคมป์ เป็นสถานนี้พักผ่อนเงียบสงบอิงแอบธรรมชาติได้อย่างเริ่ดมากกกก....

หลักจากออกจากหินตก ริเวอร์ แคมป์แล้ว เรารีบออกจากที่พักเพื่อมาพักและเล่นกิจกรรมอีกที่นึง คือ " โฮมพุเตย ริเวอร์แคว รีสอร์ท " ที่พักติดริมแม่น้ำแคว ห้องพักและตัวบ้านถูกออกแบบด้วยการใช้ไม้สักให้มีความกลมกลืนกับธรรมชาติ ดีไซน์ห้องดูทันสมัย เพิ่มความเก๋ไก๋ ด้วยโทนสีสันแต่ยังคงความอบอุ่น เพดานสูงโปร่งทำให้ห้องดูกว้าง สะดวกสบายๆ ในการพักผ่อน และยังเปิดระเบียงชมวิวแม่น้ำได้จากห้องพักอีกด้วย

รอบที่พักรายล้อมไปด้วยต้นไม้บรรยากาศราบรื่น สูดไอธรรมชาติแบบสุดๆ ช่วงกลางวันนั่งทานข้าววิวแม่น้ำ ลมเย็นไปอีก ท้องอิ่มแล้วอยากจะหลับไปตรงนั้นเลย....^^ ที่นี้ยังมี สระน้ำแร่กลางแจ้ง ที่แบ่งโซนไว้ในตัวสระว่ายน้ำให้เราได้แช่น้ำแร่บริสุทธิ์แบบจริงๆ น้ำมีความอุ่นช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย

ช่วงบ่ายเราจะไปผจญภัย กับกิจกรรมสุดฮิต ในโซนทรีท๊อปแอดเวนเจอร์ (Treetop Adventure Park) ที่รอท้าทายความสนุกและความกล้า กว่า 40 ฐาน พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย กิจกรรมแบบปีนป่าย เล่น zipline บนยอดต้นไม้ มีอุปกรณ์ และเจ้าหน้าที่คอยช่วยดูทุกจุด เชฟตี้ปลอดภัยหายห่วงแน่นวลลล...เจ้าหน้าที่จะสาธิตการใช้อุปกรณ์ก่อนเล่นจริง เพื่อความปลอดภัย แต่ละฐานจะมีความแตกต่างกันไป เช่น ขี่จักรยานบนอากาศ , สเก็ตบอร์ทลอยฟ้า, ทาร์ซานสวิง ,ไต่เชือกทยานฟ้า ,โหนสลิง และกิจกรรมอื่นอีกเพียบบบบ.... รอให้เรามากรี๊ดกันให้สนั่นป่ากันเลย..หากมาพักไม่ควรพลาดจริงๆ นะ

และความพิเศษของที่นี้ก็มีอีกอย่าง คือเป็นสถานที่รวบรวมประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการสร้างทางรถไฟสายมรณะ เกี่ยวข้องในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มีทั้งรูปภาพ ภาพวาดเชลยศึกในสมัยนั้นเพื่อเป็นการถ่ายทอดความโหดร้ายของสงคราม มีการจำลองสถานที่ต่าง ๆ ในช่วงเหตุการณ์อีกด้วย ช่วงขากลับเจ้าหน้าที่พาไปน้ำตกกันยาน้อย ซึ่งอยู่ในบริเวณที่พัก แต่เสียดายน้ำน้อยไปนิด....เรียกได้ว่าพักที่นี่คุ้มมากกก...ได้ทั้งพักผ่อน และเล่นกิจกรรมสนุก ๆ ท้าทาย และ ได้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ เป็นการพักผ่อนแบบไม่น่าเบื่อเลยทีเดียว ^_^