ความเดิมจากตอนที่แล้ว From Bangkok to Mandalay จากกรุงเทพฯ ถึง มัณฑะเลย์ ตอนนี้เราจะไปที่เมืองพินอูวิน (Pyin Oo Lwin) และสีป่อ (Hsipaw) ตามหา แสงฉาน ด้วยรถไฟสายประวัติศาตร์ที่เก่าแก่ของพม่า



พวกเราเหมารถจากมัณฑะเลย์มาที่เมืองพินอูวิน ออกมาบ่ายๆ ก็ถึงเกือบค่ำ แล้วตะเวนหาที่พักใกล้ๆ สถานีรถไฟ มืดค่ำพอดี ที่เมืองพินอูวินพวกเราทำได้แค่เพียงพักนอน 1 คืนและเดินหาอะไรกินได้ 1 มื้อค่ำ ส่วนเรื่องจองตั๋วรถไฟไปสีป่อก็ให้ทางโรงแรมที่เราพักซื้อให้ ในราคาคนละ 1,100 จ๊าด หรือประมาณ 30 บาทไทย ได้รอบ 8.30 น. อาจจะใช้เวลาเดินทางนานแต่เราตั้งใจจะมานั่งรถไฟอยู่แล้ว รถไฟสายนี้จะผ่านเมืองต่างๆ ชมธรรมชาติ วิถีชาวบ้านระหว่างสองข้างทาง และไฮไลท์สำคัญคือ จะผ่านสะพานรถไฟ Gokteik (ก๊กเต๊ก) ที่ยาวและเก่าแก่ที่สุดของพม่า ครองตำแหน่งสะพานรถไฟที่สูงที่สุดในอาเซียน (แอบตามรอยหนังเรื่อง ถึงคน ไม่คิดถึง ยังอินอยู่ อิอิ)


เช้านี้โรงแรมมีรถมาส่งที่สถานีรถไฟ ลืมบอกชื่อโรงแรม ชื่อ HOTEL 99 สนใจอีเมล์นี้เลยค่ะ [email protected] พูดภาษาอังกฤษได้และถือว่าการบริการดีทีเดียวค่ะ

พร้อมเดินทางละ

หน้าตาตั๋วรถไฟ

ดูไปดูมาบรรยากาศก็คล้ายบ้านเราแฮะ อิอิ

พวกเราติดลูกอมและอมยิ้มมาไว้แจกเด็กๆ ด้วย

กว่ารถไฟจะออกก็ได้หลายรูปเลย อิอิ

พอรถไฟออกก็ไม่อยู่เฉย เดินเล่นในรถไฟ

ที่จะต้องมี คือ แม่ค้าขายของ ขนม น้ำ ของกิน บ้านเราก็ต้องเป็นไก่ย่างข้าวเหนียวซินะ

สบายๆ เหมือนอยู่บ้านซินะ

แวะจอดเรื่อยๆ มีเวลาก็ลงมาถ่ายรูป ทักทายชาวบ้าน

บรรยากาศระหว่างทาง แบบบ้านบ้าน

ทุ่งนาเขียวกำลังสวยเลยค่ะ

เด็กแว๊นๆ

เป็นสายรถไฟที่ใกล้ชิดธรรมชาติเป็นที่สุด ^_^ แทบจะเป็นเนื้อเดียวกันแล้วอ่า 555+


และแล้วก็มาถึงจุดไฮไลท์ สะพานรถไฟ Gokteik (ก๊กเต๊ก) ที่ยาวและเก่าแก่ที่สุดของพม่า ยาว 650 เมตร สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1903




เป็นจุดที่ต้องมาถ่ายรูปนะ

รวมถึงพวกเราด้วย ตื่นเต้นนะเนี่ย

เบื้องล่าง

หุบเขา ลำธาร เหวลึก

เกือบ 7 ชั่วโมงที่อยู่บนรถไฟ เราก็มาถึงเมืองสีป่อ แล้วค่ะ

ก่อนจะลงรถไฟก็เซลฟี่ซะหน่อย เพราะขากลับจะไม่ได้นั่งรถไฟกลับ กลับด้วยรถบัสค่ะ

ครั้งนี้ก็ไม่ได้จองที่พักมาก่อนล่วหน้าอีกแล้วนะ ตามสภาพ แต่ที่อ่านรีวิวคนอื่นมาแวบๆ ที่เมืองสีป่อนี้ หลายคนแนะนำให้พักที่ Mr.Charles Hotel ลงรถไฟก็เจอเจ้าหน้าที่ของโรงแรมถือป้ายรอรับแขกและแอบเรียกแขกเพิ่มด้วย พวกเราก็ถามว่ามีห้องว่างมั้ย มีว่างก็พักที่นี่ละกัน นอน 2 คืน ได้มีเวลาตะเวนเที่ยวสีป่อ มีรถมารอรับฟรีอีกด้วย

Check in เข้าที่พักแล้วก็ออกเดินเที่ยวเล่นไปเรื่อยๆ

และหาของกิน


มีเวลาอีก 1 วันเต็มๆ ก็เช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับ ราคาประมาณวันละ 300 บาท หรือ 10,000 จ๊าด มีรถขับแล้วก็มีแผนที่ ก็ไปโลด ไปแบบหลงๆ งงๆ บ้าง ฮาๆ

little Bagan

BAMBOO BUDDHA


อาหารท้องถิ่นพม่า พอกินได้รสชาติใกล้เคียงบ้านเรา

แว๊นหลงทางกันต่อ


เมืองสีป่อ (Hsipaw) รัฐฉาน (Shan state) เมืองสุดท้ายที่สิ้นสุดระบอบกษัตริย์ของพม่า พระเจ้าธีบอ หรือ พระเจ้าสีป่อ เป็นกษัตริย์แห่งราชวงศ์อลองพญา และเป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของพม่า ถูกบังคับให้สละราชสมบัติและเนรเทศไปอยู่ที่เมืองรัตนคีรี ประเทศอินเดีย หลังสิ้นสงครามพม่า-อังกฤษ ครั้งที่ 3

นอกจากนี้เมืองสีป่อยังเป็นตำนานรักอมตะของเจ้าชายแห่งรัฐฉาน เจ้าฟ้าสัจจาแสง (Satkyan Sang) กับสาวชาวออสเตรีย ซึ่งถูกถ่ายทอดลงหนังสือ Twilight Over Burma : My Life as a Shan Princess ที่คุณมนันยาเธอแปลเป็นภาษาไทย และตั้งชื่อใหม่ว่า "สิ้นแสงฉาน" ( ตามหาหนังสือมาอ่านหรือหาหนังเรื่องนี้มาดูประกอบได้นะคะ เป็นหนังที่ห้ามฉายในไทย แต่ก็หาได้ไม่ยากค่ะ)



พวกเราได้มาเยี่ยมชม วังสีป่อ สถานที่อันเป็นตำนานรักของ เจ้าฟ้าสัจจาแสง กับชายาชาวออสเตรีย ซึ่งพบรักกันในช่วงที่เจ้าฟ้าสัจจาแสงไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ และที่วังสีป่อเราได้พบกับ เจ้าแสงฝน ซึ่งเป็นหลานสะใภ้ของเจ้าฟ้าสัจจาแสง เป็นผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลรักษาวังนี้ เจ้าแสงฝนยังทำหน้าที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวและเล่าถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของที่นี่ให้ฟัง ประโยคแรกที่จะได้ยินจากเจ้าแสงฝน คือ Where are you from ? สำเนียงภาษาอังกฤษชัดเจนเลยค่ะ น่ารักและเป็นกันเองต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยร้อยยิ้มเป็นมิตร

หอธรรม ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่สวดมนต์และปฏิบัติธรรมของเจ้าสัจจาแสง


จากนั้นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดคือ เก็บพระอาทิตย์ตกดิน ต้องที่นี่นะคะ Sunset Hill รถขึ้นถึง และมองเห็นวิวเมืองสีป่อด้วย บรรยากาศอารมณ์เหมือนวิวบนพระธาตุแม่เย็นที่อำเภอปายบ้านเราจังเลย แฮะๆ หมอกจางๆและควัน

พบมิตรภาพใหม่ๆ เด็กกลุ่มนี้เป็นชาวไทใหญ่ พูดไทยได้ชัดเจน ได้ยินเราพูดภาษาไทย ก็ปรี่เข้ามาคุย มีมาขอถ่ายรูปด้วยนะฮะ หน้าตาวัยรุ่นแบบนี้ค่ะ อิอิ

พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน สิ้นแสงตะวัน สิ้นแสงแห่งฉาน

มืองสีป่อ ความเจริญ แสง สี แสงกำลังเข้าสู่เมืองเล็กๆ นี้ บ้านไม้ที่มีนอกชาน เริ่มถูกเปลี่ยนเป็นตึกบ้าง ร้านอาหารบ้าง มีโอกาสรีบมาเที่ยวนะคะ เราจะได้มีโอกาสเห็นวัฒนธรรมแห่งไต สัมผัสลมหายใจในรัฐฉาน ก่อนที่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป



ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านและย้อนเวลาไปด้วยกันนะ ติดตามทริปต่อไปนะคะ จัดว่าเด็ดเลยทีเดียวเชียวค่ะ :)

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

เรื่องโดย ลิงเปิ้ล | LingPle Mayuree : [email protected]

ถ่ายภาพโดย : ลิงเปิ้ล | LingPle Mayuree , Nawapon Punpeng , At Alex

Facebook เที่ยวแล้วยัง กับ มิตรภาพ Friendship Journey : www.facebook.com/welikejourney

#welikejourney #เที่ยวแล้วยัง #เที่ยวแล้วyoung

IG : lingple


เที่ยวแล้วยัง

 วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 00.33 น.

ความคิดเห็น