ล้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม พัด ตึ้ง ! พัด ตึ้งงง ! ก้ำ ภูกระดึง เขตเมืองเลยยยยยยยย "

ต้องขอกล่าวสวีดัส สวัสดี ผู้รักการท่องเที่ยวทุกทั่น

, และในครั้งนี้ผมจะภูเขารูปหัวใจแห่งจังหวัดเลย หลายคนอาจจะสงสัยใช่มั้ยล่าาา ว่ามันคือที่ไหน o,O ?
มันก็คืออออออ ภูกระดึงงงงงงงงงง และนี่เป็นการไปภูกระดึงครั้งแรกของผม
ถามว่าตื่นเต้นมั้ยก็นิดหน่อย ก็เคยได้ยินหลายต่อหลายคน กล่าวขานถึงความทรหดของการเดินเท้า
แต่ผมไม่สนใจหรอก บังเอิญความอยากรู้อยากเห็นของผมมันมีมากเกินไป การเดินทางครั้งนี้ก็เลยเกิดขึ้นมายังไงล่ะ ! ฮิฮิ


และช่วงเพลาต่อจากนี้ไปปปปปป ( เอคโค่ ) ผมจะอธิบายถึงภูกระดึงแบบ เป็นขั้นเป็นตอน เผื่อ ! จะเข้าใจได้ง่ายขึ้น (รึเปล่า)


หลายคนอาจจะงง ว่ามันอะไรยังไง จะพูดภาพรวมๆ ก่อนนะครับ , ผมขอแบ่งภูกระดึงเป็น 2 ตอน



ตอนที่ 1 ตั้งแต่ทางขึ้น คือเริ่มจาก ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่เชิงเขา ผ่านซำแฮก และซำบลาๆ อีกหลายๆซำ จนถึงลานที่เป็นที่ราบบนเขา ที่เรียกว่าหลังแป ระยะทางทั้งสิ้น 5.43 กิโลเมตร (จะเดินไหวมั้ยน้าาาา เป็นห่วงจังงง)

ตอนที่ 2 เดินไปขึ้นถึงที่ราบ(หลังแป)ปุ๊บต้องเดินอีก 3.526 กิโลเมตร เพื่อไปลานกวาง ซึ่งเป็นจุดกางเต็นท์ จุดเดียวเท่านั้น (ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว) สงสัยกันมั้ยว่าทำไมถึงเรียกว่าลานกวาง ?? ? (ก็เพราะมันซาฟารีสุดๆไงหละ บ้างก็มีน้องกวางออกมาเดินเพ่นพ่าน หรือไม่ก็มาปลุกที่ข้างเต็นท์เลยแหละ แลดูเราเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเนอะ เป็นไงดูเอกคคูซีฟมั้ยหละครับ)



เรามานะเดิน มานะปีน มาถึงข้างบนนี้เพื่ออะไร ? อ๊ะ ! จะโม้ให้ กิจกรรมแรกๆของเช้าวันใหม่คือ ดูพระอาทิตย์ขึ้น
ดูพระอาทิตย์ตก ถ่ายรูปกับใบเมเปิลสีแดงสวยๆ เรียนดาราศาสตร์กับท้องฟ้ายามค่ำคืน ว๊าว ๆ กิจกรรมมีเยอะแยะไปอีกก
ถ้าพูดขนาดนี้แล้ว ไม่มาไม่ได้นะ

*****ขอดอกจันทน์ไว้ตรงนี้ว่าอาหารไม่แพง น้ำแพงแต่สมราคา เพราะอะไรลองตามอ่านให้จบ เดี๋ยวรู้เรื่อง*****


/ 1 day


ผมเดินทางจากจังหวัดขอนแก่นที่ บขส.1 จะมีรถขอนแก่น - เมืองเลย เที่ยวแรก ตี 3.40 (รถออกทุกๆ40นาที) ไปผานกเค้า รถจอดหน้าร้านเจ๊กิม (ร้านขายอาหารและหลายอย่าง มีตู้เอทีเอ็มออมสิน)

ที่นี่มีรถสองแถวสีแดง ไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่ภูกระดึง รถออกเมื่อคนเต็ม 10-12 คน ค่ารถคนละ 30 บาท (แต่ถ้าไม่มีคนไปด้วยต้องเหมา300บาท/เที่ยว)


*จะไม่ค่อยมีคนตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถ้าเกินเวลานี้ก็ต้องเหมาเองแหละ 555 ถ้าใครไปแบบจนจน ก็ทำเวลานิดนึงนะครัช เค้าเป็นห่วง

จากร้านเจ๊กิมไปถึงทางขึ้น คนขับบอก 15 กิโลเมตร พอถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวปุ๊บ ไปติดต่อที่เคาทเตอร์


จ่ายค่าเข้าอุทยาน 30 บาท / คน (บัตรนักศึกษา 20 บาท) , ติดต่อเรื่องเต็นท์สำหรับคนที่ทำการจองผ่านเว็บไซต์มาแล้ว แต่สำหรับใครที่ไม่ได้จองก็สามารถจองเต็นท์ได้ที่ลานกวางข้างบนได้เลย และคนที่มานะแบกเต็ทน์มาเองก็จ่ายค่ากางเต็นท์ที่นี่ ถ้าสงสัยอะไรก็สอบถามเจ้าหน้าที่ได้เลย (จนท.เค้าใจดี หุ่นดี และหน้าดี ต้องบอกต่อฮะ)


\ ที่จุดรับ-ส่งสัมภาระ มีบริการลูกหาบ ราคา 30 บาท / กิโลกรัม ใครกระเป๋าหนักอยากเดินสบายๆ เงินหนาก็เปย์พี่ลูกหาบไปเลยนะฮะ แต่ถ้าใครอยากวัดความบึกบึนของตน ก็แบกไปเล้ยยย ,

[\\ นี่ลุงสุนทร ลุงแบกเจ้าเนี่ย 80 โลได้ ลุงแบบอย่างเจ๋งอะ !|


,,ถ้าจัดการเรื่องลูกหาบเสร็จสรรพ ก็ไปที่จุดทางขึ้นนรก เอ๊ยไม่ใช่ ๆ สวรรค์สิสวรรค์ #กัดฟันพูด



V
V


อย่างที่ได้เกริ่นไปยาวๆ ในตอนที่ 1 จากทางขึ้น เริ่มเดินตอน 9 โมง 40 นาที

ก็เดินชิลชิลหอบสังขารขึ้นไปเรื่อยๆ ถึงซำแฮกเป็นซำแรก ที่ซำนี้มีร้านค้า อาหาร ของที่ระทึกไว้บริการและมีจุดถ่ายรูป แบบนี้ที่ซำนี้นะฮะ


เฉาก๊วยช่วยคุณได้นะครับ


#ราคาสินค้าทุกชนิดแปรผันตรงตามความสูง พูดให้เข้าใจง่ายขึ้นคือยิ่งสูงยิ่งแพง แพงขนาดไหนต้องอ่านต่อนะจ๊ะ



จากนั้นก็เดินต่อ เดินต่อนี่คือ เดินบ้างปีนบ้างนะ ไม่ใช่ทางราบเดินสบายๆ อยากเดินทอดน่องนี่ต้องฝันเอาแล้วหละ

จุดต่อไปเป็นซำบอน ซำกกกอก และถึงซำกอซาง ตามลำดับ ที่กอซางมีร้านค้าร้านขายไว้คอยบริการ ที่ซำนี้น้ำเปล่าขนาด 1.5 ลิตร ราคา 40 บาท อาหาร 45 50 ปกติไม่แพง จุดต่อไปเป็นพร่านพรานแป ต่อด้วยซำกกหว้ามีร้านค้าบริการอีกแล้ว สำหรับใครที่รู้สึกเหนื่อย ต้องการพลังงานมากๆ ก็แวะกินเฉาก๊วย ทุกซำไปเลย 555555 / ผมแวะกินมื้อเที่ยงที่ซำนี้แหละ

เดินต่อไปจะเป็นจุดพักเป็น ซำกกไผ่

ต่อไปอีกก็ซำกกโดน

ซำสุดท้ายคือ ซำแคร่ ที่ซำนี้น้ำเปล่าราคา 50 บาท อีขนาด 1.5 ลิตรอะ


เป็นไงหละ ???? น้ำแพงอย่างที่บอกแมะ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องเตรียมมาคือ เ งิ น ไม่ใช่น้ำ มาซื้อกินเถอะ ถ้าแบกขึ้นไม่ไหว


แต่ควรพกน้ำ 1.5 ลิตร ติดตัวมาด้วย 1 ขวดก่อนขึ้นเขาอะนะ จากอีจุดซำแคร่ ไปหลังแปที่เป็นที่ราบสูง 1.3 กิโลเมตรอะ

ไม่ต้องถามหาทางสำหรับเดินทอดน่องสวยๆนะครับ มั น ไ ม่ มี !



- 1.3 กิโลเมตรต่อจากซำแคร่นี้เป็นการใช้ทักษะเดิน 20 % และใช้ทักษะการจิกเท้าขั้นสุด อีก 80 % เพื่อดีดร่างของเราขึ้นสู่เบื้องหน้าต่อไป เพราะเหตุเช่นนี้จึงทำให้ผู้ที่ดี๊ด๊ามาภูกระดึงครั้งแรกต้องสยบและเอ่ยปากว่า

" ไ ม่ มี ค รั้ ง ห น้ า อี ก ต่ อ ไ ป "

#เอาเข้าจริงจริงมันไม่ได้แย่ขนาดนั้นเว้ยมันสนุกเหอะแต่ต้องอาศัยแรงกายกับแรงใจที่เข้มแข็งและมุ่งมั่นพอสมควร



สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อกระดูกควรพิจารณาเป็นพิเสกโลโซ (พิเศษ) เพราะมันก็บั่นทอนแรงกายในระดับ 8.9/10 อะนะ ล้อเล่นครับ เอาเป็นว่าถ้าใจมันเรียกร้อง ก็มาเหอะ มาง่ายๆ อย่าได้กังวาล เอ๊ย กังวล อิ๊อิ๊

***เพิ่มเติมนิดๆ ไม่ใช่แค่ระยะ 1.3 กิโลเมตรสุดท้ายนะฮะ ที่ต้องใช้ทักษะการจิกเท้าขั้นสูง ตั้งแต่ขึ้นมา ทางมันก็มีง่ายบ้าง ยากเยอะหน่อยเป็นธรรมดา สู้ๆ ละกันสำหรับคนที่อยากได้ประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ

อะ ๆ ! เดี๋ยวไม่จบวันแรก พอถึงหลังแปปุ๊บ ! ถ่ายรูปสิครับรออะไรหละ

ถึงหลังแป ตอน 4 โมง 28 นาที { ใช้เวลาไม่นานหรอก5555555 โกหกที่สุดในโลกอะ }



จากหลังแปสู่ลานกวาง 3.526 กิโลเมตร // สำหรับผู้ที่ใฝ่ฝันทางเดินสบายๆ นี่ไง 3.526 กิโลเมตรนี่ไง สบายๆ
ลงเนินบ้างไรบ้างแต่จะหน่วงนิดๆ เพราะมีช่วงที่เป็นพื้นทราย ซึ่งก็ไม่มิได้ช่วยให้เดินสะดวกขึ้นแม้แต่อย่างใด

ไปถึงลานกวางตอน 5 โมงเกือบ 6 โมงเย็น

ถึ ง ล้ า ว ว ว ว ว ล า น ก ว า ง ง ง ง ง ง ง . . .


ใครที่เปย์พี่ลูกหาบไปก็รีบไปรับของที่จุดส่งหาบ ที่ติดกับศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ใครจะติดต่ออะไรก็สอบถามที่นี่ จากนั้นก็ไปเก็บของ อาบน้ำ กินมื้อเย็น ราคาอาหาร 60 บาท ราคาน้ำเปล่า 1.5 ก็เช่นกัน , ทางขึ้นมันลำบากอะเนอะ จ่ายเค้าไปเถอะ กว่าพี่ลูกหาบจะส่งต่อผลิตภัณฑ์คุณภาพเหล่านั้นขึ้นสู่เบื้องบนมิใช่เรื่องง่ายเลย เห็นใจผู้ค้าเนอะ 55555


นี่น้องกวางที่โม้ไว้

กินเสร็จก็ไปนอนซะ .,, อย่าลืมตั้งนากาปลุกตี 4.30 เพราะ ตี 5 เค้าจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น
ระยะเดินจากลานกวาง 1.8 กิโลเมตร แนะนำให้ไปเหอะ กิจกรรมแรกของวันเลยนะถ้าไม่ไปแล้วจะนอนขี้เซาที่เต็นท์ก็แพ้ไปนะฮะขอบอก ฝันดีค้าบ (:


/ 2 day

ถึงตรงนี้อย่าพึ่งเบื่ออ่านนะครับ กราบขอร้อง


เช้านี้ อย่างที่บอก ตั้งนากาปลุก ตี 4.30 แต่ตื่นจริง ตี 5 พอดี ก็แปรงฟันพร้อมล้างหน้าด้วยหลักสูตรเร่งรัด

และจ้ำเท้าตามประชาชีไปที่ ผานกแอ่นเล้ยยยย อย่าลืมพกไฟฉายไว้เป็นแสงนำทางนะ แต่ผู้ร่วมชาตะกรรมคนอื่นๆก็มีไฟฉายกัน นั่งรอพระอาทิตย์มาเซย์ฮาย ก็หกโมงกว่าๆ อากาศเย็นสบาย มีกาแฟร้อนๆไว้ลวกลิ้น แก้วละ 25 บาท ขณะที่พระอาทิตย์กำลังจะขึ้นนั้น กลุ่มลัทธิกล้องนิยม ทั้งกล้องมือถือและกล้องถือมือ ต่างล้วงอุปกรณ์ที่สามารถถ่ายรูปได้ พร้อมกระหน่ำยิงแสงแฟลชใส่กันรัว ๆ

#น้องนี่ตาลายหมดแล้วฮะ หลังจากพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว ได้รูปแล้ว

อัดรูปรัวๆ อยากบอกว่ามันสวยจริงไรจริง

รูปที่ได้ทุกรูปเป็นรูปหมู่ทั้งสิ้น หารูปเดี่ยวเจอไม่ 55 , // ก็คนมันเยอะอะ ได้รูปเดี่ยวมาถือว่าบุญหนักอยู่นะ

จากนั้นเราก็เดินกลับทางเดิมแต่ไม่ใช่แยกเดิม จะมีลานพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ยกพระหัตถ์ขวา ไว้เพื่อสักการะบูชา

ไหว้พระเสร็จก็เดินกลับ ทางกลับที่ผ่านลานพระนี้จะไปทะลุอีกทางสู่จุดกางเต็นท์



มื้อเช้าร้านสุภาภรณ์ร้านเดิม มีน้ำชาอุ่นบริการฟรีด้วยนะ แหมะ ดีไปทู๊กอย่าง

พอมื้อเช้าผ่านไป แพลนวันนี้คือไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก มุมนิยมที่ใครมาภูกระดึงแล้วไม่มาถ่ายรูปที่นี่

ถือว่าไม่ได้เดิน 9 กิโลเพื่อมาที่นี่ 55555 ,,โอเคๆ ภารกิจวันนี้คือไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก
ใช้เส้นทางหลังจุดเช่าจักรยาน ภารกิจนี้คือ รวมการไปดูใบเมโปลลลลลลสีแดงที่น้ำตกถ้ำใหญ่แล้ว



เริ่มมมมม !!!!!



เดินผ่านหลังจุดเช่าจักรยาน จะมีต้นพรีเมโปล สังเกตเห็นง่ายๆ

ไปเรื่อยๆ ข้ามสะพานไม้จะเจอ ทางแยกคือ ทางตรงกับเลี้ยงขวา #ให้เลี้ยวนะ เพราะอะไร ต้องติดตาม #ยิ้มอ่อน

/ เดินไปเรื่อยๆ จะเจอลานพระอีกที่หนึ่งของภูกระดึง

แวะสักการะบ้างไรบ้าง ขอพรให้บุญหนักที่ได้ทำมาเสริมส่งให้มีแรงขา ที่จะหอบสังขารของเราให้ผ่านจุดต่างๆไปให้ได้ 55


// ต่อ // ผ่านจุดพระนี้ไปที่น้ำตกถ้ำใหญ่ ( ไม่แวะน้ำตกธารสวรรค์ ) แวะถ่ายรูปกับใบเมโปลสีแดงสไตล์ออทัม ที่จุดนี้ต้องเดินลงไปลึกพอสมควรแต่ก็ไม่มากหรอก ทางลงระดับ 6.5/10 ถ่ายรูปให้สมใจซะนะฮะ เต็มที่อย่าเกิน 12.00 เพราะต้องเดินต่ออีกไกลอยู่






จากจุดตรงนี้ต่อไปเป็นสระอโนดาต ระยะทาง 2.1 กิโลเมตรเดินให้ไวนะครับ ถ้าเดินไหว

เพราะแดดนี่เร่าร้อนสุดพลัง แต่อากาศเย็นมีลมพัด ก็เลยไม่ร้อนเท่าไหร่ ทากันแดดไปด้วยนะ เดี๋ยวเกรียม 55555555

ที่สระอโนดาตไม่แวะแต่แอบถ่ายรูปมาแหละ ; อ้าวๆ เจ้นั้นจะบินแหลว ๆ ๆ ๆ ๆ #อินเนอร์กินรี


ผ่านป่าไม่ผลัดใบ (ผ่านป่าสนเขา แต่เขาไม่สนใจ TT)

ตอนนั้นหิวมากก กะจะไปฝากท้องที่ผาหล่มสัก ที่นั่นมีร้านอาหารที่เดียว ตลอดทางจะเดินไปผ่าหล่มสัก ก็เลยต้องจ้ำอ้าว

เรามีสโลแกนว่า

" #อ่อนแอก็พักไปถ้าไหวก็เดินต่อ อีกอย่างๆ อยากเดินให้ไวจงหาบุคคลเป้าหมายไว้แล้วแอ๊บเดินตามเค้า เราจะเดินไวขึ้นและไม่เหนื่อยเลย "

ทริปนี้ผมทำงี้แหละ เป็นทริคเล็กๆ แบ่งปันกันไป , จากอโนดาตต่อไปเป็นน้ำตกถ้ำสอเหนือ แต่เพราะหิวอีกนั้นแหละ ไม่แวะ มันไม่ได้มีจุดพีคอะไร น้ำตกฤดูหนาวน้ำน้อย ก็เลยขอผ่าน วอร์ค วอร์ค ไปเรื่อย ๆ

จากน้ำตกสอเหนือ ไปผ่าหล่มสัก 3.2 กิโลเมตรไม่ต้องไป ผาแดงนะฮะ เพราะเราจะไปผ่าหล่มสัก 555555555555


ใ น ที่ สุ ด ก็ ถึ ง แ ล้ ว โ ว้ ย ย ย ย ย ย ย ย ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย !


ถึงผาหล่มสักตอน 3 โมงนิดๆ ถือว่าใช้เวลาเหมาะสม สิ่งที่ทำเมื่อมาถึงที่นี่คือ กินสิ กิน เข้าใจไป กินอย่างเดียว กินเสร็จไปเข้าคิวถ่ายรูปครับ



จุดที่เป็นมุมนิยมที่ใครใครมาภูกระดึงต้องถ่ายรูปกลับไปให้ได้ แต่ด้วย มีเมฆหมอกมัว มันครึ้ม ภาพที่ได้ก็เลยเห็นแค่เงาอะ


และจากแพลนที่วางไว้แต่แรก คือจะไม่ดูพระอาทิตย์ตกที่นี่เพราะต้องเดินกลับที่พักไกลเกิน ก็เลยเดินต่อไปดูพระอาทิตย์ตกที่ ผ า เ ห ยี ย บ เ ม ฆ ขออวยที่นี่ ผ า เ ห ยี ย บ เ ม ฆ คื อ เ ด อ ะ เ บ ส ท์ ที่ สุ ด มุมมองมัน 180 องศาจริงๆ สวย มุมดี เหยียบเมฆสมชื่อชอบสุดพอพอกับพระอาทิตย์ขึ้น ที่ผานกแอ่นเลย


เป็นไงหละ ไม่ได้อวยแบบไม่มีหลักฐานนะค้าบบบ

จากนั้นปักหมุด ปูเสื่อรอชมพระอาทิตย์ยามเย็นที่นี่เลย แสงก่อนพระอาทิตย์จะตกนี่สวยจริงๆนะฮะ


หลังจากพระอาทิตย์ตกต้องรีบเดินนะ เพราะฟ้าเริ่มมืด อากาศไม่ต้องพูดถึง เย็นยะเยือกเลยแหละ ต้องสับขาให้ไว เส้นทางกลับสู่จุดกางเต็นท์อีกยาวไกล ระหว่างทางกลับนี้ จะมีผาอื่นๆ ผานาน้อย ผาจำศีล และสุดท้ายเป็นผาหมากดูกที่นี่ ผาหมากดูกก็ ดูพระอาทิตย์ตกสวยเหมือนกันและใกล้ที่พักเพียง 2 กิโลเมตรเท่านั้น 55555 2 กิโลเท่านั้น พูดเหมือน 200 เมตร พอถึงที่พักนี่ต้องเช็คข้อเท้า ทายา กินยาให้ไว เมื่อยมาก เหมือนขากำลังจะเป็นอัมพาต 55555 (ก็เว่อไป)

กลับถึงก็ปาไปแล้ว เกือบ 3 ทุ่ม ทั้งเหนื่อยทั้งล้า ก็เลยแจ้นไปสูบมื้อเย็นที่ร้านเดิม กินสุกี้หมูแบบเดิม แทบจะทุกมื้อ บวกกับโดบน้ำเต้าหู้อุ่นๆ และปาท่องโก๋กรอบๆ ร้านสุภาภรณ์ คือร้านนี้บริการดีมาก มีบริกรชื่อน้องโบว์ เดินดุ๊กดิ๊กๆ อยู่ในร้าน
ทั้ง 3 วันที่ไปภูกระดึงคือทานที่ร้านนี้ทุกวันเลย 55555 ร้านประจำ 3 วัน ก่อนกลับไปพักร่าง


/ 3 Day

เช้าวันสุดท้ายแล้ว เวลาเดิมๆ ตี 4.50 โดยประมาณ ล้างหน้าเคลียร์ตัวเองแล้วรีบเดินไปดูพระอาทิตย์ขึ้น

วันนี้เป็นวันเก็บตก การดูพระอาทิตย์ขึ้น ก็เลยไม่ค่อยถ่ายรูปอะไรกลับมา ( หรออออออ ???? )
ไม่ค่อยถ่ายรูปเลยนะ 555555

แต่ถ่ายเสร็จก็นั่งโง่ๆ เลยนะ ปูเสื่อรอ

#ลองนั่งดูม่านหมอกค่อยๆ จาง ให้เราเห็นความงามในแบบที่เราไม่เคยเจอ , #sunrise2nd
พระอาทิตย์ขึ้นวันนี้มันสวยแบบบอกไม่ถูก เพราะตั้งใจนั่งดูจริงๆ แบบไม่ห่วงว่าจะคว้ามือถือมาเก็บรูปไม่ทัน ก็ดีไปอีกแบบ ลองทำดูนะ



นั่งเฉยๆ เหมือนว่าเราไม่มีตัวตน ให้ธรรมชาติทำหน้าที่ของมัน ,




ถ้าอ่านมาถึงบรรทัดนี้ต้อง "ขอขอบคุณเป็นอย่างมาก" ที่พยายามอ่านข้อความข้างบนจนถึงตรงนี้


-/ หลังจากเดินกลับ เคลียร์ตัวเอง ทานมื้อเช้าที่ร้านเดิม ความรู้สึกแบบไม่อยากกลับเลย คือ อาหารตาดีมากกกก เดี๋ยว ! ! ดึงสตินิดนึง , #ลืมบอกว่าคนที่มาที่นี่หน้าดีมากกกกกกหน้าดียันเจ้าหน้าที่เลยแหละขอสมัครเป็นติ่งนะครับโผม
เก็บของเสร็จต้องรีบลงเพราะต้องเดินทางไกล

นี่คือน้องโบว์ และร้านสุภาภรณ์ ที่คอยให้การบริการเป็นอย่างดีตลอดการท่องเที่ยวในครั้งนี้




มื้อเช้าผ่านไป ก็แวะไปที่ร้านของที่ระทึก เอ๊ย ! ระลึก ซื้อโปสการ์ด ของฝากบลาๆ สามารถเขียนและส่งโปสการ์ดได้ที่ร้านเลย แสตมป์ 3 บาท / เขียนอะไรไปเยอะแยะ ส่งไปแล้ว ที่เหลือก็แล้วแต่บุญกรรมที่ทำมาของผู้รับแล้วแหละ ว่าแต้มบุญหนักพอที่บุรุษไปรษณีย์จะส่งโปสการ์ดถึงรึเปล่า หุหุ

คืนอุปกรณ์เสร็จ เริ่มเดินจาก ลานกวาง ตอน 9.48 น ถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเชิงเขา ตอน 12.32 ถือว่าก็เร็วอยู่ เพราะหยุดพักที่จุดซำแคร่ รอบแรก แล้วซำต่อๆไป บ้าง

#โคตรสนุกและมีความสุขมากอะ บอกเลย

การไปเที่ยวมันเวิร์ค มันทำให้เราได้มิตรภาพระหว่างทางเยอะแยะเลย
ทำให้เรากล้าที่จะพูดคุยคนอื่นมากขึ้น เป็นประสบการณ์ที่ไม่มีทางเกิดขึ้นกับการอยู่บ้านเฉยๆ ปลื้มปริ่มสุดสุดครับ

/ ขอลาด้วยภาพนี้



ขอพูดเรื่องค่าใช้จ่ายที่หลายคนอาจกังวล

ขอบอกเลยว่าไม่แพง สำหรับ 3 วัน 2 คืน โดยค่าใช้จ่ายหลักๆ เอาตั้งแต่เข้าภูกระดึงเลยนะ

1.ค่าเข้า 20 บาท (ราคานักศึกษา , ทั่วไป 30)

2.แวะทานมื้อเที่ยง 45 บาท

3.ซื้อน้ำเปล่า 50 บาท

4.เช่าเต็นท์ 250/คืน

5.เบาะรองนอน 20/คืน

6.ถุงนอน 30/คืน

7.อาหาร 900 (ทุกอย่างทุกมื้อ แบบอิ่มอ้วก)

8.อื่นๆ อีก 200



- ||ค่าเดินทางไม่ขอพูดถึงนะ บางคนมาจากต่างที่ค่าใช้จ่ายต่างกัน. เนี่ยะหลักๆมีแค่นี้เอง
มาง่าย ค่าใช้จ่ายถูก แต่ใช้พลังกายพลังใจ หุหุ สุดท้ายนี้พบกันใหม่ การเดินทางครั้งต่อไป สวัสดีครับ || -

NYL

 วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 21.46 น.

ความคิดเห็น