ทริปนี้จุดหมายของเราอยู่ที่ "ดอยอ่างขาง" ดินแดนที่เค้าว่ากันว่า "เป็นแดนมหัศจรรย์" ทั้งเรื่องความงามของทิวทัศน์ที่เขียวชะอุ่ม และความหนาวเย็นที่มีให้สัมผัสกันตลอดทั้งปี

อุณหภูมิเฉลี่ยคร่าวๆ

- เดือน พ.ย. - ก.พ. (ฤดูหนาว) กลางวัน 10-22 และ ตอนกลางคืน 5 - 10 องศา *** ต่ำสุดที่ -4 องศา ช่วง ธค. - มค.

- เดือน มี.ค.- พ.ค. (ฤดูร้อน) 15 - 28 องศา (ก็ยังน่าเที่ยวอยู่ดี เย็นกว่า ธ.ค. ที่กรุงเทพฯ 555+)

- เดือน มิ.ย.-ต.ค.(ฤดูฝน) 17- 28 องศา

การเดินทางของทริปนี้ (ขอรีวิวเรื่องรถไฟแปป เผื่อใครไม่เคยนั่ง แล้วอยากไปนั่งบ้าง)

เราเดินทางด้วยรถไฟ เส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ (สายเหนือ "อุตราวิถี) "รถด่วนพิเศษ" ขบวนที่ 9

เวลาออกจากหัวลำโพงคือ 18.10 น ถึงเวลา 7.15 น. (บอกเลยว่าไม่มีเลทนะจ๊ะ บนรถไฟจะมีบอกในจอตลอดว่าเราอยู่ที่ไหนแล้ว)

ค่าตั๋ว : รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 เตียงบน 941 บาท เตียงล่าง 1,041 บาท (อันนี้เป็นที่เรานอนนะ)

  • รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 1 เตียงบน 1,653 บาท เตียงล่าง 1,453 บาท (อันนี้เป็นห้อง)

จองตั๋ว / เชคราคารถไฟ >คลิกที่นี่

เชคอากาศ สถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขาง

เอาล่ะ เกริ่นมานาน เริ่มทริปได้ ^^ ( บอกตรงๆ แอบตื่นเต้น นั่งรถไฟครั้งสุดท้ายตอนอยู่อนุบาล 3 ตั้งแต่ที่มันยังเลทหนักๆเป็นชั่วโมง แบบว่าได้ยินเสียงปู๊นนนนน ปู๊นนน แต่ยังไม่ออกสักที ฮ่าๆ)

ดูความต่าง ขบวนเก่าด้านซ้าย ขบวนใหม่ที่เห็นด้านขวาเนี่ยแหละ!

มีจัดแถวด้วย : ) นานๆ จะเห็นที (ก็นะ ไม่ได้ขึ้นมา 10 กว่าปี ขอเก็บเป็นทีระลึก)

มีโบกี้ที่ขายอาหารและเครื่องดื่มด้วย หิวๆก็แวะมา (ถ้าจำไม่ผิดปิด 5 ทุ่ม เปิดตี 5 ประมาณนี้) ข้าวกล่อง กล่องละ 60, นม กาแฟ 45 - 70 บาท

กินไป ชมวิวไป เพลิ๊น เพลิน แอร์เย็น ลมไม่ตีหน้า ผมไม่พันกัน (ผู้หญิงชอบ 555+)

ในส่วนของห้องน้ำ ขอบอกว่าประทับใจก็เรื่องที่มีสายฉีดเนี่ยแหละ + กับไม่มีกลิ่นตีแสกหน้าเวลาทำธุระ (คือตอนเด็กนี่ต้องฝึกกลั้นหายใจกันเลยทีเดียว แบบสูดหายใจ 5 ทีต้องฉี่เสร็จนะ ไม่งั้นเป็นลม) นี่สะอาดหมดจรด ไร้คราบ : )

ห้องน้ำสำหรับคนพิการ และผู้สูงอายุก็มีนะ (ใหญ่เลย)

ส่วนที่เป็นห้อง เตียงบน 1,253 บาท เตียงล่าง 1,453 บาท

ที่เห็นประตูนี่ถ้าเปิดไป จะเป็นห้องแบบนี้เหมือนกัน เผื่อใครไปกับเพื่อน ก็ทำเป็นแบบห้องทะลุกันได้ : )

เอาล่ะ ... เมื่อถึงเวลานอน ก็จะมีบุรุษรถไฟ มาไขเตียงบน แล้วปูทีนอนให้ (ไม่ต้องตกใจนะ ไม่ได้มีอะไร ที่มุงกันอยู่เพราะเค้าถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ฮ่าๆ)

เออ ลืมบอกไป ที่ดีกว่านั้นคือ มีปลั๊กไฟ ให้ชาร์ตมือถือด้วยที่หัวเตียง ไม่ต้องกลัวแบตหมด

หลับๆ ตื่นๆ อาจเพราะไม่ชินที่ นอนเล่นมือถือสัญญาณ ก็น้อยนิด (เผื่อใครถาม เราใช้ Truemove) ขาดๆหายๆ 7.10 เราก็ถึงจุดหมาย (ตรงเวลามาก บอกเลย)

สำหรับทริปนี้ เราขึ้นรถตู้ต่อไปที่อ่างขางเลย (เป็นรถตู้จากทริปของ CP)

การเดินทางต่อไปยังดอยอ่างขาง (อันนี้เราหาข้อมูลมาเผื่อ ผิดถูกประการใดต้องขออภัยไว้ก่อนนะจ๊ะ)

สำหรับคนที่เดินทางมาเอง ไม่เหมารถ ให้นั่งรถสองแถวสีแดง ไปต่อรถที่สถานีขนส่งช้างเผือก (ที่นี่จะมีรถตู้ และรถประจำทางที่สามารถต่อไปยังอำเภอ และจุดท่องเที่ยวต่างๆ) จากจุดนี้ คุณสามารถนั่งไปลงตรงทางขึ้นดอยอ่างขางได้

- รถประจำทาง "เชียงใหม่ - ฝาง" (ใช้เวลา 3 ชม. เนื่องจากจอดรับทุกป้ายที่คนโบก) นั่งไปลงที่วัดหาดสำราญ (ค่ารถน่าจะไม่ถึงร้อย) ชมวิว ชิลล์ มากมาย จนเมื่อย แต่สัมผัสบรรยากาศดี

- รถตู้ (ค่ารถร้อยกว่าบาท อึดอัดหน่อย แต่ถึงไว)

*** นั่งมาลงที่วัดหาดสำราญทั้งคู่ แล้วค่อยรถคนหารค่า 2 แถวขึ้นดอย (ช่วงนักท่องเที่ยวเยอะรอไม่ถึงชั่วโมง)

ติดต่อรถคิวปากทางขึ้นดอยอ่างขาง : 053-884848 / 086-1947484 คุณส้ม

*** กรณีขับรถมาเอง ถ้าขับไม่คล่อง หรือไม่ค่อยได้ขึ้นเขา อันนี้บอกเลยว่าไม่แนะนำ! เนื่องจากทางแคบ และบางช่วงลาดชันพอสมควร

*** รถจะมาส่งตรงสถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขาง จากตรงนี้สามารถหาที่พักได้เลยค่ะ (ตรงจุดนี้เดินไปถนนคนเดินก็ประมาณ 400 ม. ที่พักเพียบ ลองเลือกสักที่)


ที่พัก : อ่างขางวิลล่า

ระยะทางเดินไปถนนคนเดินประมาณ 300 ม. หรือจะไปสถานีเกษตรก็ 400 ม. โดยประมาณ (อาจใกล้กว่านี้นะ เรากะเอาคร่าวๆ)

ราคา 800 บาท สำหรับห้องพักในตึก พักได้ 2 คน (ไม่มีอาหารเช้า)

ราคา 1500 บาท สำหรับที่เป็นบ้าน พักได้ 2 คน (ไม่มีอาหารเช้า)

เบอร์โทรติดต่อ 053-450-010 ( ลองโทรไปสอบถามก่อนเพื่อความชัวร์)

ราคาที่พัก ห้องในตึกราคา 800 บาท (ตึกแดงๆ เนี่ยแหละ)

ไม่มีแอร์ ... แต่ไม่ต้องกลัวร้อนนะ กลางคืนนี่หนาวม๊ากกกก (เราไปมาตอนกุมภาพันธ์ 2017 ที่ผ่านมา)

*** โปรดสังเกตุความหนาของผ้านวม จะบอกว่าเราใช้ทั้ง 2 ผืนเนี่ยแหละ แม่งเย็นจริงๆ กลางคืนนี่ใส่เสื้อ 3 ชั้น + ถุงเท้า กะถุงมือ เย็นจับใจ ไอออกปากเลย

ส่วนรูปด้านล่างน่าจะเป้นอันที่ราคา 1500 นะ เราไม่ได้ถ่ายภายในห้องมานะ แต่จากที่มองดู วิวน่าจะสวยพอสมควรเลย : ) * ลองสอบถามดูอีกทีนะ


พระเอกของงานนี้ "สถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขาง*

ทั้งไร่สตอเบอร์รี่ แปลงบ๊วย ไร่ชา จุดชมวิวสวยๆ ทั้งหมดอยู่ในนี้แหละ!

ค่าเข้า คนละ 50 บาท (อากาศ ณ ตอนเช้าๆ ที่เราไปอยู่ที่ 6.6 องศา) บอกเลยว่าควันออกปาก <3

เวลาเปิดอยู่ที่ 6.00 น. ปิด 18.00 น.

ข้างในกว้างมากนะ ถ้าจะให้ทั่วก็คงต้องขับรถ (ถ้าเดินคงได้อยู่นี่ทั้งวันแน่ๆ 555+)

*** ชอบจุดไหนก็แวะเลย (เราเองก็ไม่ได้ไปทุกจุดนะ)

*** ถ้าชอบถ่ายรูปแนะนำช่วงเช้าจะสวยกว่า เห็นหมอกด้วย (เราไปตั้งแต่ 6 โมง - 8โมงกว่า)

*** เราเข้าไปในนี้ครั้งแรกตอนเย็น หลังจากเก็บของในที่พักเสร็จ แต่เนื่องจากอยากได้บรรยากาศทะเลมหมอก เราเลยไปตอนเช้าวันรุ่งขึ้นอีกรอบ (ขอเรียงรูปจากตอนเช้าก่อนละกัน จะได้เห็นฟีลที่แตกต่างกัน)

แปลงดอกกระหล่ำ

จุดแปลงดอกกระหล่ำนี้ สามารถเดินได้เลยค่ะ ไม่ไกลจากตรงป้อมยามน่าจะประมาณไม่เกิน 500 ม.

ถ้าอยากรู้ว่าเย็นขนาดไหน ลองดูที่ดอกด้านล่างนี้ ! (เป็นสะเก็ดอ่ะบอกเลย) เวลาพูดกัน ... ควันออกปาก

ถ้าฟิตมาก... แนะนำให้ลองมาวิ่งชมวิว รับรองว่าคุณจะวิ่งได้นานกว่าปกติ เพราะร่างกายคุณจะหยุดไม่ได้เลย เนื่องจากหนาวม๊าก!!!

ที่เห็นด้านหลังลิปๆ นั่นไอหมอกทั้งนั้น : ) ขณะนี้น่าจะประมาณ 7 โมงเช้า


สวนบ๊วย

ตรงนี้เคยใช้ถ่ายหนังด้วย (ลองชวนแฟนมานะ บรรยากาศดี๊ดี )

ระหว่างทางก็เดินชมชากุระไปเพลินๆ (งบไม่ถึง ไม่ต้องบินไปญี่ปุ่น มานี่ก่อน ^^ )

สวน 80 *ตรงนี้ดอกไม้สวยๆเพียบ!

*** อันนี้จะเป็นรูปช่วงบ่ายๆ เย็นๆ

ดอกอะไรไม่รู้ คล้ายผีเสื้อเลย สีสันสดใส เดินเพลินๆ นึกว่าอยู่ Wonderland ; p


จุดถัดไป : ไร่ชา <3

มีขายชาด้วยนะตรงนี้ : ) เผื่อใครหนาวก็แวะจิบชาร้อนๆได้

ระหว่างทาง เผื่ออยากแวะซื้อชุดไปใส่ให้เข้ากับบรรยากาศ : ) ก็ดีนะ จะได้มี Theme

ถึงละ ... จะบอกว่าถ้ามาเช้าๆ จะดีมากเลย เค้าบอกว่าจะเห็นเป็นไอหมอกเลย Highlight สุดๆ แต่ถ้ามาเย็นๆ ก็จะอารมณ์ประมาณนี้ แสงก็ไม่ค่อยมีให้ถ่ายรูปแล้ว

ถัดจากจุดนี้ เราไปต่อกันที่ ไร่สตอเบอรี่ ... ^^

ไร่สตอเบอรี่

ที่นี่เก็บเองได้นะคะ เก็บสดๆจากไร่ แต่มันต้องใช้เงินสดๆถึง 300 บาท (เราว่าแอบแพงนะ ซื้อข้างนอกถูกกว่า แต่ถ้าคนชอบสดๆ เลย แบบเก็บกินเองสักครั้ง ก็ได้ฟีลลิ่งดีเนอะ)

แนะนำว่าถ้ามาให้มาช่วงเช้าๆก็ดีนะ เค้าบอกถ่ายรูปสวยมาก เย็นๆ จะเห็นแสงเป็นเงาดำๆ

จุดถัดไป สวนบอนไซ ...

สวนบอนไซอ่างขาง

หากใครยังไม่เหนื่อย เย็นๆก็ไปเดินเล่นต่อที่ ถนนคนเดิน ได้นะจ๊ะ ... ระยะทางจากสถานีเกษตร ไปที่พัก และ ถนนคนเดิน เป็นระยะที่ติดๆกันเลย สามารถเดินได้แบบที่ยังไม่ทันเหนื่อย

*** ในสถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขาง มีที่พักเหมือนกันนะคะ ลานกางเต้นท์ก็มี หลังละ 300 (พักได้ 2 คน)

- หลังละ 400 (พักได้ 3 คน), 500 (พักได้ 4 คน) รายละเอียดเพิ่มเติม > คลิกที่นี่

- บ้านพักก้มีนะ นอนได้4คน ราคาตั้งแต่ 3500-5620 แล้วแต่ช่วง ( พักได้ 4 คน มี2ห้องนอน 2 ห้องน้ำ) ดูรายละเอียดเพิ่มเติม > คลิกที่นี่

ถนนคนเดินดอยอ่างขาง

ที่นี่ของไม่ได้เยอะมาก แต่ก็ได้บรรยากาศ แบบอุดหนุนชาวบ้าน ชาวเขา ส่วนใหญ่เน้นของกิน ถ้าพวกเสื้อผ้าก็จะเป็นแนวเสื้อผ้าชาวเขาค่ะ ของที่ละรึกไม่ได้ขายอะไรมากมาย แต่อยากให้ไปเดินนะ

จะว่าไปอากาศเย็นๆ กินนมร้อนๆ สักแก้วมันจะดีมากเลยนะ ราคา 10 บาท ผสมน้ำผึ้งด้วย กินให้ร่างกายอุ่นขึ้น (อร่อยดีนะ เรากินไปทั้งหมด 4 แก้ว กินแบบไม่เกรงใจพุงละ อากาศมันเย็น)

จะเห็นว่ามีที่พักเพียบ ลองหาเบอร์โทรไปสอบถามราคาก่อนก็ได้ค่ะ พิมพ์ใน google ว่า ที่พักใกล้ถนนคนเดินดอยอ่างขาง น่าจะมีเยอะอยู่

ใครที่ยังไม่เคยมา ... แนะนำเลยว่ามาสักครั้งเถอะนะ ดอยอ่างขาง สวยจริงๆ แถมอากาศเย็นทั้งปีด้วย (อากาศที่คนในเมืองแม้ในหน้าหนาวยังไม่เคยได้สัมผัสความเย็น)

ปล. ทริปนี้ต้องขอขอบคุณการสนับสนุนดีๆ จาก CP ALL มา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ เป็นทริปที่เราไปทำ CSR กัน โดยการไปแจกของให้น้องๆ ที่โรงเรียน และเป็นทริปที่ได้ถ่ายทอดการสู้ชีวิตของผู้หญิงคนนึงที่ชื่อ "เสี่ยวฟาง" ทุนจาก สถาบันจัดการปัญญาภิวัฒน์ (ของ CP ALL) จนปัจจุบันมีความก้าวหน้าในชีวิต ด้วยความพยายามของเธอ : )

- สำหรับคนที่สนใจเรื่องทุนการเรียนต่อ หรืออยากรู้เรื่องของหญิงสู้ชีวิตคนนี้ สามารถดูเพิ่มเติมได้จาก http://bit.ly/2mcY9uU #ทริปเชียงดาวเรื่องราวแห่งความหวัง

สำหรับทริปนี้ขอลาไปก่อนนะจ๊ะ ^___^

บ ะ บ า ย ^ ^

ติดตามรีวิวอื่นๆได้ที่ https://th.readme.me/id/ReviewPapai

ฝากเพจด้วยนะคะให้กำลังใจคนเขียนนิดนึง ; p https://www.facebook.com/ReviewPapai/ แล้วพบกันใหม่ : )


ReviewPapai

 วันพุธที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 19.17 น.

ความคิดเห็น