เข้าหน้าร้อนกันล่ะ อากาศร้อนอบอ้าวขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

สำหรับคนอยู่ในเมืองยิ่งร้อนไปใหญ่ พอมีเวลาได้หยุดคลายร้อนสักที

ก็ขอไปเที่ยวคลายร้อนใกล้ๆกรุงสักหน่อย...ว่าแล้วก็ขับรถไปเที่ยวเมืองกาญกันดีกว่า..

จุดหมายแรกที่ผมแวะไปคือร้านกาแฟที่มีชื่อว่า "ริมน้ำคาเฟ่"

แผนที่ https://goo.gl/maps/cKxUpmKRBxA2

ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ในอำเภอไทรโยค ทางไปสถานีรถไฟถ้ำกระเเซ อยุ่ใกล้กับโยโกะ ริเวอร์แคว

หน้าร้านอาจจะสังเกตุยากสักหน่อยเพราะต้องเข้าไปในเขตบ้านอีกนิดนึง

แนวร้านตกแต่งสไตล์วินเทจ มีของโบราณเก่าเก็บ โหลไข่ก็มีนะ

บรรยากาศสบายๆ มีมุมถ่ายรูปเยอะแยะ


จุดเด่นอีกอย่างของร้านริมน้ำคาเฟ่คือนี้เป็นร้านเป็นร้านกาแฟที่อยู่ติดริมน้ำแควน้อย บริเวณร้านเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่

ภาพแบบ 360 องศา https://goo.gl/maps/qtFLGNWdrzp

เหมาะกับการมานั่งเงียบๆ ปลดปล่อยอารมณ์ให้ไหลไปตามสายน้ำ

พักชิมกาแฟริมน้ำกันไปแล้วเราก็ออกเดินทางต่อครับ


ขับรถไปอีกไม่ไกลเราก็มาถึงที่หมายของเราแล้ว แควธาราริเวอร์ไซด์วิลล่า

แผนที่ครับ https://goo.gl/maps/mzErzwduX2t


ด้านหน้ารีเซฟชั่นมีจักยานจอดอยู่ด้วย..ขอยืมไปปั่นเล่นได้มั้ยนะ


ระหว่างรอเช็คอินรับเวลคัมดริ้งค์ไปดื่มก่อน ของแควธาราริเวอร์ไซด์วิลล่า นี้เป็นน้ำพันช์ครับ


ที่แควธาราริเวอร์ไซด์วิลล่ามีห้องพักอยู่สองแบบครับ

แบบแรกชื่อ Canal Access Villas ราคาคืนละ 3500 - 4000 ด้านหน้าของห้องพัก จะมีลำธารใสๆ

เพื่อให้เราสามารถเล่นน้ำได้จากหน้าห้องพักเลย น้ำในสระนี้เป็นระบบน้ำวน

จะไหลจากน้ำตกจำลองไปยังท้ายน้ำแล้วก็ถูกดูดขึ้นมาบนน้ำตกจำลองไปเรื่อยๆ

ภาพแบบ 360 องศา https://goo.gl/maps/krfvcXxmvAU2



ห้องพักอีกแบบจะอยู่ด้านล่างติดกับแม่น้ำแควเลย...ต้องใช้คำว่าบนแม่น้ำแควถึงจะถูก

ห้องพักแบบที่สองชื่อว่า Floating Villas


ผมได้ห้องพัก 207


ห้องพักของที่นี่จะตกแต่ง สไตล์ Modern-loft มีขนาดห้องกว้างขวางมาก

เตียงมีขนาดใหญ่ ทีวี LED 42 นิ้ว มี wifi ทุกห้องครับ

อ้าวๆลืมไป ห้องพักแบบ Floating Villas ราคาคืนละ 4500 - 5000 บาทครับ

ภาพแบบ 360 องศา https://goo.gl/maps/WiDwtdgBiVF2

ห้องพักโปร่งโล่งสบายด้วยการใช้กระจกขนาดใหญ่ ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด

และทำให้เราสัมผัสกับวิวของแม่น้ำแควได้อย่างเต็มที่


ชา กาแฟ น้ำเปล่า และขนมขบเคี้ยวต่างๆ สามารถทานได้เลยครับ

ทุกอย่างรวมอยู่ในค่าห้องหมดแล้ว (เค้าเรียกมินิบาร์ใช่มั้ยอ่ะ)


ชุดลำลอง..รองเท้าแตะมีให้ครับ..ชุดลำลองที่นี้ดูแปลกๆเนอะ

ห้องน้ำถูกแบ่งโซนแห้ง โซนเปียกด้วยกระจก ด้วยกระจกบานใหญ่



ส่วนระเบียงด้านนอกอยู่ติดริมน้ำเลยครับ...มีเก้าอี้โยคให้นั่งเล่น


แต่ถ้าให้ถูกใจต้องเป็นเจ้าตาข่ายพักผ่อนผืนนี้


นอนมองผืนฟ้า...แผ่นหลังติดผืนน้ำ...ฟินนนนนนนนน


ห้องพักแบบ Floating Villas มีระเบียงให้เราขึ้นไปชมวิวด้วยนะครับ ขึ้นไปจากมุมบนลงมาบ้าง


พอถึงเวลาประมาณ 16.30 ทางแควธาราริเวอร์ไซด์วิลล่าจะมีบริการล่องแพเปียวให้เราไปลอยคอเล่นน้ำกันครับ


อยากเปียกมั้ยล่ะ...



เด็กๆเล่นได้


ผู้ใหญ่เล่นดี


หรออยากจะนั่งชิลๆก็ได้ครับ


มุมมองแควธาราริเวอร์ไซด์วิลล่าจากแม่น้ำแคว


ภาพบรรกาศของแควธาราริเวอร์ไซด์วิลล่ายามโพล้เพล้



รุ่งเช้าเรามานอนจิบการแฟที่ตาข่ายผืนโปรดอีกสักทีนึง

ภาพแบบ 360 องศา https://goo.gl/maps/Ab1WEPqmkXA2


มีความลับอยู่อย่างนึงจะมาบอกครับทุกๆเช้าปางช้างที่ติดกับแควธาราริเวอร์ไซด์วิลล่า

จะนำช้างลงมาอาบน้ำทุกวัน ถ้าใครอยากชมช้างอาบน้ำแบบฟรีๆล่ะก็ให้พักห้อง 210 ครับ มันจะเป็นห้องริมสุดเลย


ถ่ายรูปจนพอใจแล้วเราขึ้นไปทานอาหารเช้ากัน...

ทานอาหารเช้าท่ามกลางวิวเขา...โรแมนติกไปอีกแบบนะครับ


อาหารเช้าของที่แควธาราริเวอร์ไซด์วิลล่า จะมีข้าวต้ม และอเมริกันเบรคฟาสต์

เราสามารถที่จะเลือกทานได้อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือจะรับทั้งสองอย่างเลยก็ได้

และที่พิเศษคือจะมีข้าวผัดไข่ ผัดซีอิ้ว ชากาแฟและน้ำพั้นช์นี่เราสามารถเติมได้ไม่อั้นครับ


ก่อนกลับแวะซื้ออาหารไปให้ปลาตะเพียนหางแดงแถวๆที่พักสักหน่อย

ที่แควธาราริเวอร์ไซด์วิลล่านี่ปลาตะเพียนหางแดงเยอะมาก


ถ้าใครสนใจที่พักแบบชิลแบบนี้ติดต่อได้ที่

แควธารา ริเวอร์ไซต์ วิลล่า
รีสอร์ทตั้งอยู่ที่ ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

http://www.kwaitara.com/

https://www.facebook.com/KwaiTara/


ขากลับเราขับเลยไปที่ วัดทิพย์สุคนธาราม อำเภอห้วยกระเจ้า

แผนที่ https://goo.gl/maps/F3eHHVQS6EU2

ภาพแบบ 360 องศา https://goo.gl/maps/Zwdg6CMMVaC2

เพื่อเข้าไปไหว้พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์

สร้างตามแบบพระพุทธรูปองค์ที่อยู่บน เทือกเขาบาบียันอายุกว่า 2,000 ปี

ที่ถูกพวกตาลีบันทำลายไปให้กลับปรากฏให้เห็นอีกครั้งในประเทศไทย


และตอนนี้ก็ได้มีส่วนที่เปิดใหม่ชื่อว่า "อนุสรณ์แห่งการตื่นรู้" โดยจะมีไกด์ซึ่งเป็นนักเรียนพาเราชมและให้คำแนะนำอยู่ตลอด

เสียดายที่ผมความจำสั้นเลยจำอะไรไม่ได้มากเท่าไหร่ แต่ถือว่าเป็นอีกจุดนึงที่ไม่ควรพลาดเหมือนกันครับ


"อนุสรณ์แห่งการตื่นรู้" แบ่งเป็น 4 โซนได้แก่

โซนที่ 1 คือ พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์ ที่จะกล่าวถึงเหตุการสร้าง การออกแบบ

ของพระพุทธรูปองค์นี้


องค์จำลองที่สร้างขึ้นมา ก่อนที่จะสร้างองค์จริงด้านนอก

ภาพจำลองพระบาทของพระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์

ว่ามีการสร้างอย่างไรจึงสามารถรับน้ำหนักกว่าร้อยตัน

จำลองพระอุระด้านใน

โซนที่ 2 คือ การเดินทางของพระพุทธศาสนา

แสดงเรื่องราวการหยั่งรากของพระพุทธศาสนาลงบนดินแดนสุวรรณภูมิ .. มีการจำลอง "จารึกพระเจ้าอโศกมหาราช" ที่ทำให้ชาวตะวันตกยอมรับว่า พระพุทธเจ้ามีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์

และการเดินทางของพระพุทธศาสนามาสู่ดินแดนสุวรรณภูมิ

โซนที่ 3 คือ เจติยะ (สิ่งที่ควรบูชา)

แสดงเรื่องราวสัญลักษณ์ที่ใช้ในการสื่อสารทางพระพุทธศาสนา เพื่อรำลึกถึงการตื่นรู้และการเผยแผ่พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า


โซนที่ 4 คือ คบเพลิงแห่งธรรม

ทำหน้าที่ย้อนทวน ตกผลึกความคิด ทางศาสนา ..เหมือนเปลือกที่ห่อหุ้มแก่น ทำหน้าที่เป็นคบเพลิงแห่งธรรม ที่คอยปลูกผู้คนให้ตื่นรู้ต่อไป ..

รวมระยะเวลาการเข้าชม "อนุสรณ์แห่งการตื่นรู้" ก็จะใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ

แต่รับรองว่าจะได้ความคิดดีๆกลับไปแน่นอนครับ

จากนั้นเราก็เดินทางกลับ กทม. เป็นอันจบทริป หนีร้อนเดือนเมษา แต่เพียงเท่านี้ครับ


Fanpage : https://www.facebook.com/wefoto/

Instagram : preuk13

Twitter : preuk13 /// https://twitter.com/preuk13

Wefoto

 วันพฤหัสที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.43 น.

ความคิดเห็น