สวัสดีเพื่อนๆทุกคนค่ะ เมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา วันที่ 15-17 เม.ย.60 เราไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่ “นครพนม"
แล้วหลายคนก็ถามว่าจะไปทำอะไรตอนนี้? ที่นครพนมมันมีอะไรให้เที่ยวหรอ? เราอกหัก เราอยากไปพักใจ
อยากไปหาเพื่อน อยากไปใช้ชีวิต slow life ในเมืองที่ขึ้นชื่อว่ามีความสุขที่สุดในประเทศไทย
เราประทับใจที่นี่มากๆ หลงรักเลยก็ว่าได้ จนอยากจะมีบ้านอยู่ที่นี่อ่ะ (ขอเป็นสะใภ้นครพนมได้ไหมคะ 555)
เมืองเล็กๆที่เงียบสงบ ผู้คนน่ารัก บรรยากาศดี คือทุกอย่างมันดูดีและดูมีความสุขมากไปหมด

จะมีความสุขแค่ไหน ไปดูกันค่ะ




Day1: 15 เม.ย.2560

เรานั่งรถตู้อุบล-นครพนมมาถึงแล้ว เพื่อนก็พาไปไหว้ “พระธาตุพนม" สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ซึ่งตั้งอยู่อำเภอธาตุพนม ห่างจากอำเภอเมืองประมาณ 50 กิโลเมตร


คนเยอะมากๆค่ะ เราก็ถามเพื่อนว่าปกติคนเยอะแบบนี้ตลอดเลยใช่มั๊ย? เพื่อนเราก็ว่าใช่ คือจะมีคนมาสักการะพระธาตุพนมอยู่ตลอด แต่วันนี้จะเยอะเป็นพิเศษ เพราะเป็นวันสงกรานต์ และมีพิธีการสรงน้ำพระธาตุด้วยนะ น่าจะมีเฉพาะสงกรานต์เท่านั้น


หิวแล้วค่ะ ไปหาอะไรกินกัน เพื่อนพาเรามากินปลาจุ่มที่ "ร้านภูตะวัน" อันนี้เพื่อนเรานำเสนอมากว่าอร่อย ต้องมากิน ร้านตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง อยู่เส้นรอบเมืองออกไปทางอำเภอท่าอุเทน ใครมาไม่ถูกก็เปิด wongnai ดูได้นะคะ บรรยากาศดีมาก


อาหารอร่อยไม่แพงด้วยนะคะ สั่งมาเต็มโต๊ะ หมดไปพันนิดๆค่ะ


กินอิ่มแล้วเข้าเมืองไปหาที่พักกันค่ะ เราพักที่ "บ้านริมโขง" คืนละ 450 บาทค่ะ สะอาด ปลอดภัยอยู่ใกล้แม่น้ำโขงด้วย


มีจักรยานให้เช่าด้วยนะคะ ชั่วโมงละ 20 บาท ทั้งวัน 50 บาท พรุ่งนี้ค่อยมาเช่ากันค่ะ


บ้านริมโขงมีทั้งหมด 3 ชั้นนะ พักชั้น 3 บรรยากาศดีสุด


เก็บของเสร็จแล้ว แดดร่มลมตก ออกไปเล่นสงกรานต์กันค่ะ 555 ที่กรุงเทพมีถนนข้าวสาร นครพนมก็มีถนนข้าวปุ้นนะคะ อยู่ริมแม่น้ำโขงเลย บรรยากาศดีมาก สนุกมาก


Day2: 16 เม.ย.2560

เช้าแล้วตื่นไปปั่นจักรยานชมเมือง ชมวิวแม่น้ำโขงกันค่ะ


คือมันชิวมาก ดีต่อใจมาก มีความสุขสุดๆ ระหว่างทางปั่นจักรยานสวนกันก็จะมีคนยิ้มให้เราตลอด ไม่รู้จักก็ยิ้มให้ สยามเมืองยิ้มจริงๆ น่ารักมาก


มีอุโมงค์จักรยานริมน้ำโขงด้วยนะ ฟินสุดๆ


ปั่นจักรยานเหนื่อยๆ ต้องไปเติมพลังค่ะ เราไปกินปากหม้อที่ "ร้านข้าวเกรียบปากหม้อศรีเทพ" เป็นร้านเล็กๆแต่คนมาต่อคิวซื้อเยอะมาก อยู่ตรงข้ามกับโรงแรมศรีเทพ ราคาจานละ 30-50 บาท อร่อยมาก กินจนจุกเลยทีเดียว 555


กลับโรงแรมเอาจักรยานไปคืน ไปอาบน้ำแต่งตัวเที่ยวที่อื่นต่อค่ะ นี่คือ "พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม" ซึ่งเป็นจวนผู้ว่าเก่าแต่ปัจจุบันจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ ตั้งอยู่"ถนนสุนทรวิจิตร" ถนนในเมืองนครพนมที่ตัดเลียบริมน้ำโขง วันที่เราไปปิดค่ะ เซ็งมาก ไม่เป็นไรค่ะ แอบถ่ายจากข้างนอกก็ได้


ถัดจากจวนผู้ว่าไปไม่ไกล ก็จะเห็น "วัดนักบุญอันนา หนองแสง" เป็นโบสถ์คริสต์ที่มีความเก่าแก่และสวยงามแห่งหนึ่งในจังหวัดนครพนม


เที่ยงแล้วไปหาข้าวกินกันค่ะ เราบอกเพื่อนว่าอยากกินอาหารเวียดนามอร่อยๆ เพื่อนเลยพาไปกินแหนมเนืองที่ร้าน "เซียม"


สั่งแหนมเนืองมาชุดใหญ่เลย กลัวไม่อิ่ม 555


วิธีการกินแหนมเนืองก็ประมาณนี้ค่ะ ใส่ทุกอย่างรวมกัน ห่อแล้วกินเลยค่ะ 555


นิสัยเราคือกินของคาวเสร็จก็ต้องกินของหวานต่อ 55555 เราไปกินกาแฟที่ร้าน "ข้างสยาม" ร้านนี้ขายทุกอย่างนะ ของคาวของหวาน กาแฟ ไปจนถึงแอลกอฮอล์ กาแฟกับขนมอร่อยมากนะ แอร์ก็เย็นสะใจดีมาก อย่างกับอยู่ขั้วโลกเหนือ 555 เราติดใจที่รหัส wifi อ่ะ เราชอบมากกกกกก คิดได้ไงอ่ะ ตอนไปถามก็อดหัวเราะไม่ได้ รหัส wifi คือ 12 123 12 12 1 เจ้าของร้านต้องเป็นหลีดเก่าแน่ๆเลย 5555555


นี่เป็น Highlight เด็ดที่เราบอกเพื่อนว่าอยากไปมากๆ คือการล่องเรือชมวิวสองฝั่งแม่น้ำโขงไทย-ลาว เป็นเรือท่องเที่ยวของเทศบาลเมืองนครพนม เปิดบริการทุกวัน วันละรอบคือ 17.00 น. ค่าบริการ 50 บาท ใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ 1 ชั่วโมง หรือใครอยากจะเช่าเหมาลำ จัดปาร์ตี้ จัดงานแต่งก็สามารถติดต่อได้นะคะ


"สะบายดี" มีการแวะ Say hi เพื่อนบ้านด้วย 555 เมืองที่อยู่ตรงข้ามกับนครพนมคือ "เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว" เมืองนี้มีภูเขาค่อนข้างเยอะ ธรรมชาติก็อุดมสมบูรณ์


ฟินมากบอกเลย แต่ถ้าเป็นหน้าหนาวคงจะฟินกว่านี้ 555


ท้องฟ้าสีชมพู I love you "Nakhonphanom"


นี่คือ "พญาศรีสัตนาคราช" แลนด์มาร์คแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของชาวจังหวัดนครพนม เพื่อนเราบอกว่าเพิ่งสร้างได้ไม่นาน สวยงามมากๆ มีคนมาไหว้เยอะมาก ล่องเรือเสร็จแล้วค่อยขึ้นไปไหว้กัน


ไปไหว้พญาศรีสัตนาคราชกันค่ะ


ไปเที่ยวกันต่อที่ถนนคนเดินนครพนมค่ะ ถนนคนเดินที่นี่จะมีทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ แต่วันที่เราไปมีร้านค้ามาขายของค่อนข้างน้อย น่าจะเพิ่งหลังสงกรานต์เลยไม่ค่อยมีคน


เที่ยวมาทั้งวันแล้ว ไปหาร้านกินข้าวนั่งชิวๆกันค่ะ เพื่อนพาเราไปร้าน "เดอ คาเฟ่" ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง บรรยากาศดีมากกกกกก


Day3: 17 เม.ย.2560

วันนี้ต้องกลับบ้านแล้ว ก่อนกลับแวะซื้อแหนมเนืองวีทีกลับไปฝากแม่ซะหน่อย (ผู้สนับสนุนทุกการเดินทาง 555)

ปล. แหนมเนืองที่อุบลก็มีนะ แต่มันไม่เหมือนกันอ่ะ รสชาติค่อนข้างแตกต่างแต่ก็อร่อยทั้งสอง ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน ส่วนตัวเราชอบน้ำจิ้มของวีที แต่เราชอบหมูของอุบล 555


ทุกการเดินทางไม่ว่าจะใกล้หรือไกลมักจะมีเรื่องราวดีๆเกิดขึ้นเสมอ เราอยากเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนออกไปใช้ชีวิต

ออกไปสัมผัสสิ่งใหม่ๆ แล้วเราจะได้สิ่งหนึ่งที่เรียกว่า "ความสุขใจ" กลับมา

“นครพนมเมืองคนน่ารัก อยากให้เพื่อนๆได้มาสัมผัส แล้วจะตกหลุมรักเหมือนเรา"


สามารถติดตามกันต่อได้ที่

https://www.instagram.com/plartwo

https://www.facebook.com/plartwo

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามชมค่ะ

แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าค่ะ

Plartwo

 วันจันทร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2560 เวลา 16.19 น.

ความคิดเห็น