*** รีวิวนี้ ผมเป็นคนเสียค่าใช้จ่ายและบริการเองทั้งหมด และเพื่อเป็นแนวทางในการเดินทางของหลายๆท่าน ผมเลยนำประสบการณ์ที่ผมได้รับมา รีวิว ครับ สำหรับรีวิวเต็มๆ ผมจะค่อยๆทยอยเขียนรีวิวให้ชมกันครับ

หากท่านต้องการสอบถาม พูดคุย กับผมมีอีกช่องทางนึงครับ https://www.facebook.com/littleduckinthefog inbox message มาคุยกับผมได้เลยครับ

รีวิวนี้คงจะเป็นรีวิวที่ตัวหนังสือเยอะหน่อยนะครับ รูปส่วนใหญ่คงเป็นรูปโรงแรมที่เวียนนาหลังจากตกเครื่อง เนื้อหาค่อนข้างที่จะละเอียดพอสมควร เพื่อที่จะเป็นแนวทางกับหลายๆท่านว่าต้องทำอย่างไรบ้าง บอกเลยว่าผมก็เจอกับประสบการณ์แบบนี้ครั้งแรก แต่โชคร้ายเบิ้ลเป็นสองเท่าก็แค่กระเป๋าหาย เหนียวตัวไป 2 วัน หึหึ....เหมือนจะฮา....แต่ทริปก็เกือบจะล่ม เพราะใจมันก็ห่อเหี่ยว...อ่ะ เพื่อไม่ให้เสียเวลา เริ่มกันเลยครับ

ผมได้เส้นทางบินไปยุโรปจาก Website Expedia HK ในราคาแค่ 12XXX บาทครับ ก็ได้มือลั่นกดจองไปเลย โดยที่ยังไม่ทำวีซ่าใดๆทั้งสิ้น และ ผมจาก Hongkong Airline จากกรุงเทพไปฮ่องกงขาเดียวครับในราคา 3000 บาท สรุปเส้นทางดังนี้นะครับ

ฺขาไป: Bangkok --> Hongkong --> Vienna (Transit Flight) --> Paris (Hongkong Airline / Austrian Airline / Air France)

ขากลับ: Zurich --> Hongkong --> Bangkok (Swiss Air / Thai Airways)

รวมๆทั้งหมดราคาประมาณ 15000 บาทครับ ยกเว้นค่าจองตั๋วที่นั่งของ Austrian Airline เค้าคิดค่าจองที่นั่งที่ละ 900 กว่าบาท เนื่องด้วยอาจเป็นเพราะตั๋วถูกมั้งครับ แล้วผมเดินทางกัน 4 คนเลยอยากนั่งด้วยกันเลยยอมเสียครับ

มาเริ่มกันด้วย Hongkong Airline กันก่อนเลยครับ วันที่ 26 Apr 2017 ไฟล์ออกประมาณตี 4 แต่เนื่องจากอะไรไม่ทราบ Flight Delay เที่ยวบิน HX7882 ถ้าจำไม่ผิด แต่ผมไม่ซีเรียสครับ Delay ประจำอยู่แล้ว Delay จนชินแล้ว Delay ประมาณเกือบๆชั่วโมงครับ เอาจริงๆผมนั่ง Hongkong Airline 2-3 ครั้งนะ แต่แจ๊กพอตอะไรไม่รู้ delay ทุกรอบ ฮ่าๆๆ แต่ที่ผมไม่ซีเรียสเพราะ อีกเที่ยวนึงที่ผมจะเดินทางไป Paris คือเวลา 12:45 เลยชิวๆครับ

เดี่ยวจะตาลายกันเกินไป จัด Chep Lap kok ซัก 1 รูป

สำหรับท่านที่จะไปแบบผมเตรียมเอกสารให้พร้อมนะครับ ตั๋วเครื่องบินขากลับต้องพร้อมยื่นนะครับ เพราะเราบินมาขาเดียวนะครับ แต่สำหรับทริปนี้ของผม 4 คนผ่านฉลุย ไม่ตรวจไม่เรียกเอกสารใดๆเลย มันเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับทริปนี้ของเรา จัดข้าวหมูกรอบ ก่อนไปกินขนมปังยุโรปอีกซักรูป

อิ่มกันละใช่มั้ยครับ เรา 4 คนยังคงตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจที่จะไปยุโรป เวลาที่ขึ้นเครื่อง Delay นิดหน่อยแค่จาก 12:45 (เวลาที่แจ้งในใบ Expedia HK) เป็นเวลา 13:15 ก็ไม่น่าจะมีอะไร ยังคิดว่าน่าจะเร่งความเร็วนิดหน่อย หรือคุยกับทาง Air France แล้วว่าจะไป Late นิดหน่อยนะ อะไรประมาณนั้น ปรากฎว่า สายการบินจัดผู้โดยสารขึ้นเครื่องครบเสร็จเรียบร้อยในเวลา 13:00 หน่อยๆ ดูดีใช่มั้ยครับ แต่....แต่...แต่ 13:30, 13:45, 14:00 (เฮ้ยทำไมไม่ออกวะ) นอนหลับไป 1 ตื่นละก็ยังไม่ออก 14:00 ผู้โดยสารเริ่มบ่นพรึมพรำละ แอร์โฮสเตสเข็นน้ำมาเสริฟนี่ชัดเลย...กรูจะได้ไปตอนไหน แต่ก็ยังไม่ถามครับ ไม่คุ้นภาษาอังกฤษสำเนียงเยอรมันของขุ่นป้าแอร์ที่เดินอยู่เลยผ่านๆไป 14:30 มีลุงฝรั่งใจกล้าโวยวายแล้วครับ ชักสีหน้าใส่แอร์เลยละ จนเครื่องออกประมาณ 15:00 นั่นแหละครับ กัปตันก็ไม่ได้บอกสาเหตุใดๆกับผู้โดยสาร หรือผมหลับก็ไม่ทราบได้ครับ

ระหว่างที่นั่งอยู่บนเครื่องบิน 10 กว่าชั่วโมง ผมนั่งคิดนอนคิดตลอดครับว่า Air France ที่ต่อเครื่องที่เวียนนามันจะรอกรูมั้ยว้าาา มันต้องรอสิ สายการบินออสเตรียต้องรับผิดชอบดิว้าาาาา....แต่ถ้าไม่ละกรูจะทำไง ชิ..หายยย...ละ ภาษาอังกฤษกรูก็อ่อนด้อยซักเหลือเกิน ตามกำหนดเดิมเครื่องต้องถึงเวียนนาประมาณ 19:30 และจะบินไปปารีสโดย Air France 20:15 ไปถึง Paris 22:45 ครับ (จอง Mercure ที่ CDG 1 คืน เช้าตรู่จองรถไฟไปลียงเลยครับ ผมไม่ชอบเที่ยวปารีส) ปรากฎว่าเครื่องมาถึงเวียนนาประมาณ 22:15 หรือ 22:45 จำไม่ได้ละ ก่อนเครื่องลงกัปตันประกาศว่าผู้โดยสารที่มี Connection flight ไป Munich, Budapest, ...XXX... ก็ตาโตขึ้นมาทันที Paris กรูหายไป เอ๊ะหรือกรูฟังไม่ทัน หันไปถามน้องที่มาด้วยกันฟังทันมั้ย น้องบอกฟังทัน ไม่มีปารีสจริงๆด้วย ในใจคิดเลยว่า ....XXX..ละ เอาไงละกรู ถึงตอนนี้เราทุกคนรู้แล้วละว่าพวกเราตกเครื่อง แต่ขอชื่นชมสายการบิน Austrian Airline ในการ Manage คนตกเครื่องครับ (ชื่นชมการบริหารนะ เดี๋ยวเรื่องกระเป่าต้องเจอตรู...) พอออกมาจากงวงช้าง สายการบินจะมาตั้ง counter กันเลยครับหน้างวงนั้นเลยครับว่า ผู้โดยสารที่จะนั่น นู้น นี่ให้ติดต่อ Counter นี้อะไรประมาณนั้น เอาจริงๆจากที่ผมคาดคะเนเกือบร้อยอยู่เหมือนกันนะครับ เราก็ไปยืนต่อคิวโต๊ะที่จะไปปารีสครับ คาดคะเนโดยสายตาน่าจะ 30 - 50 คนครับ เค้าใช้คนแค่ 2 คน Manage คนที่ตกเครื่องไปปารีสเร็วมาก ไม่เกินครึ่งชั่วโมงครับ

ข้อเสนอคือ เค้าจะจัด flight เช้าสุดบินไปปารีส พร้อมที่พักในคืนนี้ โดยขึ้นรถบัสไปโรงแรมและรถจะมารับตอนตี 4 (จะว่าไปผม ok มากเพราะว่า นั่งเครื่องมาเหนื่อยมากแล้ว พักแล้วบินต่อก็ ok) แต่ ... ช้า ... แต่ สำหรับคนอื่น ใช่ แต่พวกเรา 4 คนไม่ใช่ จำได้มั้ยครับ ที่ผมกล่าวไปข้างต้นว่า ผมจองที่พักที่ Mercure Paris CDG แล้ว 7:00 โมงเช้าผมต้องนั่ง TGV ไปลียง ทำไงละ..

ส่งน้องสาวไปคุยเลย อธิบายสถานการณ์เราให้เค้าฟัง ปรากฎว่าไม่เป็นยังที่คิด แมร่...ง....ง่ายกว่าที่คิดว่ะเฮ้ย...คุณฝรั่ง 2 คนตัวใหญ่ชื่อไรจำไม่ได้ละ เค้าเอาตั๋วเราไปเปลี่ยน Flight พรุ่งนี้เช้าจากปารีสไปลียงให้เลยครับ โดยที่ไม่ได้ขอดูหลักฐานอะไรเลยว่าเราจองตั๋วรถไฟจริงรึเปล่า เออเชื่อใจตรูขนาดนั้นเลย ฮ่าๆๆเจ๋งอ่ะ เค้ามีอำนาจตัดสินใจได้เลย เวริคมากๆ และก่อนที่เราจะไปขึ้นรถบัสไปโรงแรม ผมถามย้ำถึง 2 ครั้งว่า กระเป่า....กระเป๋า ของเราทั้ง 4 คนอ่ะจะไปลียงเลยใช่มั้ย ได้คำตอบแบบโล่งใจเลยว่า No Problem ถึง 2 ครั้ง โห...........สุดๆ โล่งใจมาก (ก่อนขึ้นเครื่องไปลียง ผมก็ถามย้ำกับแอร์กราวน์ อีกครั้งนะครับว่า กระเป๋าตรู Load ไปลียงแล้วใช่มั้ย เต็มปากเต็มคำ "I see your luggage in the system") โหยยยยย...ยืนปรบมือให้ 1 นาที เดี่ยวเรามาดูกันๆ

พักสายตามาดูรูปบนรถบัสไปโรงแรมกันดีกว่าครับ ตอนนั้นทุกคนบนรถเหนื่อยมาก เลยหลับไป แต่เดี่ยวนะรถบัสพาออกจากสนามบินไกลมากประมาณ 1 ชั่วโมงเลยล่ะ เหนื่อยมากๆ

มาถึงโรงแรมกันซักทีครับ ภาษาเยอรมันอ่านไม่ออกครับ ภาษาไทยอ่านว่า "แอม เกรียน" เฮ้ยนี่ด่าตรูป่าววะนิ ฮ่าๆๆ

ภายใน Lobby มีห้องอาหารในตัวและมีบาร์ไว้ให้ดื่มกรึ๊บๆด้วย แต่ด้วยสภาพในตอนนั้น ขอให้กระดูกสันหลังอันยาวๆของผมได้หย่อนลงบนที่นอนนุ่มๆด้วยเถอะ จะนอนก็ไม่กล้านอนเต็มที่กลัวตื่นไม่ทันตี 4

เนี่ย....ๆๆๆ มันน่ากรึ๊บมั้ยละ แต่เที่ยงคืนละ นอนเห้อออ...

อีกรูปสำหรับเตาผิง

มาดูสภาพห้องกันดีกว่าครับ ขอบ่นหมอนยุโรปหน่อย แฟ่บมากๆแบนมากๆ นอนไม่ค่อยสบายครับ

ดูหลอนๆนิดๆแต่ไม่มีไรหรอกครับ เหนื่อยๆนอนดีกว่าม่ะ งีบไปซักพักนึง คือใจมันกังวลกลัวตื่นไม่ทันอ่ะครับ เลยตื่นมาถ่ายรูปห้องต่อ

ทีวีไม่ต้องเปิดครับ ภาษาเยอรมันฟังไม่รู้เรื่อง ช่วงนี้เปิดไลน์ดูนี่....hot มาก ครอบครัวถาโถมไลน์มาเป็นไงบ้างๆเพียบ

ว่าไปแล้วก็อาบน้ำให้สดชื่นดีกว่าครับ

ล้างหน้าซักหน่อย

รุ่งเช้าตี 4 รถมารับตรงเวลาเป๊ะๆถึงสนามบินตี 5 เครื่องออก 7:40 ครับ แวะถ่ายรูปร้านคุณ Jamie Oliver ซักหน่อยครับ

และแล้วผมก็มาถึงสนามบินลียงครับ จำคำถามที่ผมถามกับพนักงานเมื่อคืน 2 ครั้งกับแอร์กราวน์เมื่อเช้าอีก 1 ครั้งได้มั้ยว่า ผมถามว่ากระเป๋าของเราทั้ง 4 คนจะไปอยู่ลียงใช่หรือไม่ทุกคนตอบว่า "ใช่"

ปรากฎว่าทั้ง 4 ใบเลยครับหายเกลี้ยง วินาทีนั้นนี่มันอะไรอีก สนามบินลียงเป็นสนามบินเงียบๆไม่ค่อยครึกครื้นวินาทีที่สายพานหยุด ใจเราก็หยุดไปตามสายพาน ฮ่าๆๆ ทำไงดีละ ไม่มีกระจิตกระใจจะถ่ายรูปมารีวิว เลยไม่มีรูปครับ ภายในห้องสายพานกระเป๋านั้น ผมไม่เห็นแผนก Lost&Found ของสายการบิน Austrian Airline เลยครับ ผมเลยเดินเข้าไปที่ Lost & Found ของ Air France ครับได้ความว่า เดี๋ยวเข้าจะโทรเรียกพนักงาน Austrian ให้มารับหน้าประตูห้องข้างๆ ซึ่งสภาพด้านนอกเหมือนห้องไฟตามอาคารของตึกทั่วไป ไม่มีตัวหนังสือบ่งบอกอะไรทั้งสิ้น ถ้าไม่ถามที่ Air France ก็คงไม่รู้

พวกเราแจ้งเรื่องกับพนักงาน สิ่งที่เราเจอมาทั้งคืน ผมสังหรณ์ใจว่ากระเป๋ามันไม่อยู่ที่เวียนนาก็ต้องอยู่ที่ปารีส ผมบอกไปแบบนั้น คุณป้าพนักงานบอกกับเราว่าใจเย็นๆถ้าอยู่ปารีสอาจจะได้คืนช่วงบ่ายๆ ถ้าอยู่เวียนนาอาจจะได้คืนช่วงค่ำๆ ก็ยังพอได้พร้อมให้เขียนแบบฟอร์ม PIR จำชื่อเต็มไม่ได้ (แบบฟอร์มนี้สำคัญนะครับ เราสามารถเอาฟอร์มนี้มาขอ Claim ค่าเสื้อผ้าที่ซื้อไปเพื่อการ suffer ของเรา 50% กางเกงในได้ 100% นะครับ) กรอกเสร็จบอกขนาดเป๋าเป้นแบบไหนสีอะไร ขุ่นป้าก็เอา พวกเราเรียกว่าถุงยังชีพ ข้างในจะมีเสื้อขาว Free size 1 ตัว ยาสีฟัน แปรงสีฟัน โรลออน ครีมทาตัว เข็ม-ด้าย มีดโกนนวด ยาสระผม อย่างอื่นจำไม่ได้ละ มาใช้ไปพรางๆก่อนแต่วินาทีนั้นโสโครกจริงๆนั่งเครื่องมาเกือบ 2 วัน...

สรุปวันแรกของลียงคือการเข้า คาฟูร์ ตรงข้ามโรงแรมเพื่อที่จะไป H&M เอาเสื้อกางเกงที่ถูกที่สุด ใส่แมร่งไปก่อนสวยไม่สวยไม่สนละ เอาให้ไม่เน่าไว้ก่อน ในระหว่างวันในใบ PIR เค้าจะบอกเวปมาให้เราเข้าไปดู Status ตอนนี้ว่ากระเป๋าตรูอยู่ที่ไหน ปรากฎว่าเช้า สาย บ่าย เย็น เงียบกริ๊บ ผมเข้าไปส่งข้อความในระบบด้วยว่ากระเป๋าน่าจะอยู่ปารีส ได้โปรดเร่งหาให้เจอเถอะ ตรูทุกข์ทรมาณมากๆ อะไรทำนองนั้น ด้วยแพลนที่เราวางไว้เราจะต้องได้กระเป่าก่อนที่จะไปเจนีวา ลุ้นกันมากๆ ขอชมเชยพนักงานดรงแรมทุกคนที่ Novotel Lyon Le Part Dieu น่ารักมากๆ ต่อโทรศัพท์คุยภาษาฝรั่งเศสให้เรา ติดตามกระเป๋าว่าเจอหรือยัง ตอนใกล้หัวค่ำได้ความว่า เจอกระเป๋าแล้ว วินาทีนั้นทุกคนใจชื้นขึ้นมาอยากเที่ยวขึ้นมาทันที แต่เข้าไปดู Status มันบอกว่ากระเป๋าคุณจะเดินทางจากลียง ไปปารีส เช็คเที่ยวบินแล้วเออมันไปปารีส อ้าวว ในใจเกิด ?????????? ว่านี่มันอะไรอีกเนี่ย ลงไป Lobby hotel บอกพนักงานให้ติดต่อให้หน่อย แต่มันปิดแล้วต้องมาคุยพรุ่งนี้ 9 โมงเช้า

วันรุ่งขึ้น 9 โมงเช้ามาที่ Lobby เลยให้พนักงานคุยให้อีก สรุปแล้วกระเป๋าเรามาช่วงบ่ายๆของวันที่ 2 ที่ลียง แบบว่าตื้นตันมากๆ พนักงานยังลุ้นไปกับเรา พอพนักงานเอากระเป๋ามาให้นี่ รอยยิ้มแบบว่าแทบจะฉีก ยังจำความรู้สึกนั้นได้ดีครับ ประสบการณืครั้งแรกในชีวิต

สรุปครับ ถ้าท่านใดเจอสถานการณ์อะไรก็ตาม ขอให้มีสติ ไม่ต้องหงุดหงิด โวยวาย ให้ใช้ปากของเราคุยข้อต่อรองให้เป็นประโยชน์กับเรามากที่สุด ต้องคุยให้ดูแล้วถ้าไม่ได้ประโยชน์ต้องดูเท่าเดิมครับ พอถึงไทยเราก้เขียนเมลไปขอ Claim ค่า delay กับ Austrian Airline เค้าตอบมาว่าเนื่องจากเป็นเพราะสภาพอากาศคงจะเคลมให้ไม่ได้ ก็ไม่ได้อะไรครับ เข้าใจ แต่เค้าก็ให้เคลมค่าเสื้อผ้า 50% ค่าเสื้อใน กางเกงชั้นใน 100% ครับ

สุดท้ายนี้ เจตนาของผมไม่ได้ต้องการจะสื่อข้อมูลในทางที่ไม่ดีกับสายการบิน จริงๆแล้วที่ผมกล่าวไปก็มีส่วนที่ดีในหลายๆข้อ หากข้อมูลใดผิดพลาดไป ผมต้องขออภัยไว้ก่อนด้วยนะครับ หากสนใจหรือสอบถามอะไร สอบถามผมได้เลยครับ inbox หรือ like Fan Page ผมมาคุยกันได้ครับ https://www.facebook.com/littleduckinthefog ครับ

I am a Runner

 วันเสาร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 10.02 น.

ความคิดเห็น