การใช้ชีวิตแบบผู้ใหญ่ในบางครั้งอาจเจอเรื่องราวปั่นป่วน ชีวิตดูเป็นสีเทาหม่นๆ แบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออก บางครั้งสิ่งที่เราต้องทำ อาจเป็นแค่การปล่อยให้ไหลไปตามธรรมชาติ เสมือนน้ำในแม่น้ำที่เรามองเหม่อ มันไหลโดยไม่แยแสสายตาใครๆ เพียงแค่ไหลไปตามทาง ไม่แม้แต่ฝืนธรรมชาติและแรงโน้มถ่วงของโลก
วันนี้เราสองคน Lazy Coup ตั้งใจพาเพื่อนๆ มาหยุดดูความธรรมดาของธรรมชาติ โยนตัวใส่แม่น้ำแคว พาความสุขคลื่นแล้วคลื่นเล่า ซัดเข้าร่างกายตัวเอง หายใจเอาความสุขเข้าปอดตัวเองให้เต็มอิ่มที่ Float House และ Jungle Raft สองโรงแรมพี่น้องที่อยู่บนแม่น้ำแคว ซึ่งมีความแตกต่างกันมาก (ทั้งสองที่สามารถจอดรถไว้ที่ท่าเรือพุตะเคียน และขึ้นเรือไปที่รีสอร์ทอีกทีนะคะ) Google Map ท่าเรือพุตะเคียน:https://goo.gl/maps/
ที่พักแรกของเรา The Float House River Kwai เป็นโรงแรมหรู สไตล์บูติคลอยน้ำ พี่พนักงานน่ารักมาก คอยดูแลต้อนรับเอา welcome drink มาให้ ดูแลอย่างดี ระหว่างที่พี่คิมเช็คอิน หนูขอเดินสำรวจรอบๆ ให้ดูนะคะ
ตรงล็อบบี้เช็คอินก็จะมีจุด
เอาล่ะ เตรียมขนของเข้าห้องกัน เป็นไม้ทั้งหมดเลยน้า ดูสวยหรูแต่ธรรมชาติเข้มข้น
ใครจะเล่นน้ำ ที่นี่ก็มีเสื้อชูชีพให้ใส่
สำหรับห้องพักที่นี่ห้องกว้างมาก (ประมาณ 90 ตร.ม.) เพดานห้องพักสูง รู้สึกโปร่งโล่งสบายมากที่สุด สามารถนอนดูวิวแม่น้ำแควได้จากบนเตียงเลย แถมมีระเบียงส่วนตัวพร้อมเก้าอี้ชิงช้าริมเเม่น้ำสุดชิวสามารถโดดน้ำได้หน้าบ้านพัก เหมาะกับการพักผ่อน และการฮันนีมูนมาก เป็นโรงแรมที่เหมาะกับการไปเป็นคู่ ไปเป็นครอบครัวจริงๆ
ถ่ายจากระเบียงดูบ้าง มีเก้าอี้ให้นั่งชิว มองดูวิวจากหน้าบ้านได้เลย
มุมนอกแพ ข้างๆตัวบ้าน พื้นที่กว้าง ถ้ามากันเป็นกลุ่มนะตรงนี้น
ที่นี้ขอเก็บบรรยากาศยามเย็นที่คนเริ่มเล่นน้ำกันมาให้ดูนะคะ ^^ ขอย้ำว่าสามารถเล่นน้ำได้หน้าที่พักเลย
ที่นี่มีให้บริการทั้งแพเปียก (คือลอยไปเรื่อยๆ มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลบนแให้ อยากโดดเล่นน้ำตรงไหนก็โดด เหนื่อยก็ขึ้นมาพักบนแพ) และคายัคด้วยจ้า
หลังจากนั่งชิวที่ห้องพัก ก็ตัดสินใจว่า เรามาหาอะไรอร่อยกันที่ห้อง
สายค็อกเทลอย่างเราก็จัดมาสองแก้ว แก้วสีฟ้า คือ Blue Kamikaze ส่วนสีชมพู คือ Pink Ladyโดยส่วนตัวชอบสีชมพูมว๊ากกกกกก อิอิ
นั่งชิมค็อกเทล ดูคนเล่นน้ำสนุกสนาน
พามาดูมุมต่างๆ ของห้องอาหารกันบ้าง เก้าอี้แต่ละตัวจะมีหมอนสีพ
อาหารมื้อเย็นของเราคือ ปลากระพงทอดสมุนไพร/ ต้มข่าไก่/ ผัดพริกเผารวมทะเล/ ไก่บาร์บีคิว หน้าตาดี รสชาติก็ดีด้วย แอบชอบต้มข่ารสจัด หอมกะทิ อร่อยมากๆ
ยิ่งตอนกลางคืน แสงไฟ ฝนตกปรอยๆ อากาศกำลังน่านอนเลยทีเดียว
ตื่นมาก็จัดอาหารเช้าแบบเต็มที่เลย
ที่ The Float House มีมุมให้อาหารปลาด้วยเดินข้ามไปบนฝั่งบอกเลยสนุก
หลังจากนั้นก็เช็คเอ้า และเดินทางไปยัง River Kwai Jungle Rafts สำหรับที่พักคืนถัดไป คือ River Kwai Jungle Rafts โรงแรมที่ทำให้เราสัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ เพราะ ที่นี่จะไม่มีไฟฟ้าให้ใช้ในทั้งเวลากลางวันและกลางคืน มีเปลญวนให้นอนเล่น และโดดน้ำจากหน้าห้องพักได้เลย **จุดเด่นของที่นี่ คือ การหลุดพ้นจากสังคมก้มหน้า และใช้เวลาที่จะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิด รับรู้ความเข้าใจของกันและกันมากขึ้น เล่นน้ำกับเพื่อนฝูงอย่างเมามันส์ ได้กินข้าวใต้แสงไฟกับคนที่รัก ใช้เวลาที่มีอยู่อย่างมีคุณค่าจริงๆ (แค่หากเป็นคนติดมือถือจริงๆ ควรเตรียม power bank มานะคะ แอบบอกไว้ก่อน)
สำหรับห้องนอนเป็นแอร์ธรรมชาติ ได้นอนฟังเสียงแม่น้ำไหลไปเรื่อยๆ
ภายในห้องก็มีมุ้งจริงๆ นะไม่ใช่มุ้งมิ้ง กิงก่องแก้ว เอาไว้ใช้กันแมลงตอนกลางคืน
ไม่อยากนอนเปลหน้าห้องพัก ด้านหลังก็มีน้า
มาดูบรรยากาศรอบๆกันบ้าง ที่นี่ถือว่าตกแต่งทุกอย่าง
มุมบางมุมจากแพ เห็นแบบนี้น้ำเชี่ยวมากๆ
มีแมลงปอมาเยี่ยมเราหน้าที่พักเลย
ช่วงบ่ายฝนตก แต่ก็ยังจะอยากถ่ายรูป ยิ่งมีเรือฝ่าสายฝนมานะ ฟินนนนน
สุดท้ายก็ตกหนักมาก แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ บนแพปลอดภัยดี
หลังจากฝนหยุดก็โดดน้ำที่แพ
เริ่มหิวแล้วล่ะ เดินไปห้องอาหารกัน
ตะเกียงเหล่านี้จะช่วยเราให
บรรยากาศยามเย็นของที่นี่ดี
มื้อเย็นที่นี่จะเหมือนกันท
หรือใครที่เป็นสายดื่ม จิบเบาๆ ได้เลยนะ
ตื้นเช้ามาก็ทานข้าวชมวิว อาหารเช้าก็จะจัดเป็นเซตมาใ
หลังอาหารเช้า พอทานเสร็จ พนักงานก็เสิร์ฟสัปปะรดหวาน
ปิดทริปนี้ด้วยรูป ทานข้าวเย็นใต้แสงไฟกับคนรั
ชอบบรรยากาศแบบไหน ลองบอกกันบ้างนะคะ 😀
ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้เราสองคนได้ที่ Fb: Lazy Coup นะคะ
ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนมากๆ ค่ะ ^__________^
Lazy Coup
วันพุธที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 10.19 น.