หน้าฝนแบบนี้ทำให้คิดถึง " เขา " แบบนี้ก็ต้องไปหา " เขา " สินะ

เพราะเคยเที่ยวเชียงใหม่หน้าฝนแล้วติดใจ ปีนี้เลยจัดไปอีกค่ะ ตอนแรกจองตั๋ว 0 บาทไว้ 2 คนกะแฟน ว่าจะขี่มอเตอร์ไซด์ไปนอนเล่นบ้านระเบียงดาว แต่มีสมาชิกอยากตามมาด้วย แต่ค่าตั๋วแอร์เอเชียแรงจุงเบย (ถ้าไม่มีโปรฯจะแพงมั๊ก ๆ ) เลยจองของเวียตเจ็ทแทน ราคาก็แตกต่างกันไป ตามช่วงเวลา แต่ของบอกว่าถูกกว่าหางแดงมาก ๆ ๆๆๆ

พวกเราเปลี่ยนใจไม่ไปนอนบ้านระเบียงดาวแล้ว เพราะเวลาจำกัด และขี่มอเตอร์ไซด์ไปอาจอันตราย และที่สำคัญโทรติดยากด้วย 555 พอติดก็ยังไม่ให้จอง ต้องรอช่วงเวลาเปิดจองอีก หุ หุ (ไม่ได้จองหน้า hi ซะหน่อยนิ) เลยเปลี่ยนมาพักที่นี่แทนค่ะ

วันเดินทางก็ต่างคนต่างไปเนอะ เราขึ้นเครื่องที่ดอนเมือง ส่วนน้องกับเพื่อนรวม 4 คนขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ (ไฮโซ จริง ๆ เลย อิจ ๆๆๆ)

ไม่ว่าคุณจะมาด้วยวิธีไหน แต่สุดท้ายเราก็มาเจอกันที่จุดนัดพบ 55 และก็นั่งรถตู้ไปเที่ยวกันเลย ... ลืมบอกไปว่า ถ้าจะท่องเที่ยวในเชียงใหม่ พวกเราให้ความไว้วางใจ เลือกใช้บริการทีมงาน Soupvan cnx. ตลอด ๆ เพราะขับรถดี บริการเยี่ยมค่ะ

8 โมง ก็ออกเที่ยวได้เลย (เดินทางเช้าก็ลำบากตอนออกจากบ้าน แต่ดีตรงได้เที่ยวเร็ว ยอม ๆ ) บางคนทานอาหารมาแล้ว บางคนแวะหาอะไรทานที่ 7-11 ส่วนเราเห็นของลดราคาไม่ได้ จัดอาหารเช้าบนเครื่องซะหน่อย 100 กินบนเครื่องถือว่าถูก แต่ถ้าทานริมถนนถือว่าโครตแพง 555 (เอาน่าถือว่ามาตั๋ว 0 บาท แบ่ง ๆ กำไรให้เค้าบ้างก็แล้วกัน)

ที่แรกก็ชุมชนบ้านข้างวัด เช้าจริง แค่ 8.30 น. เอง คนยังไม่เยอะ แถมร้านค้าต่าง ๆ ก็ยังไม่เปิด 55 ดีเหมือนกัน ได้เดินถ่ายรูป แบบส่วนตัว ไม่มีใครเลย อิ ๆ

เดินเข้ามาก็จะมีร้านค้าเล็ก ๆ ขายอยู่หลายร้าน

เสาวรส สดและอร่อยมาก ๆ ถุงละ 60 บาทเองค่ะ

เอ๊ะ เค้าไม่จำกัดอายุใช่ไหม อ่อ ๆ เข้าได้ 55

มุมนิยม ที่วัยรุ่นชอบมานั่งกัน มีลานกว้าง ๆ ให้ทำกิจกรรม ด้านล่างด้วย

มุม สวย ๆ ให้ถ่ายรูปเยอะมากกก

♥♥♥

เอาไว้จะจองตั๋วมานอน ในเมือง แล้วจะมาเที่ยวใหม่

หลาย ๆ ที่น่านั่งมาก ๆ

และก็มาต่อกันที่วัดอุโมงค์ รอบที่เท่าไหร่แล้วนะ สำหรับเรา 55

เจ้าถิ่นคุมซอย

เขียว ๆ แบบนี้ ไม่บอกก็รู้ว่าคือสถานที่ใด

และก็มาไหว้พระต่อกันที่ วัดพระธาตุศรีจอมทอง เป็นวัดประจำวันเกิดของคนเกิดปีชวด ฮ้า ๆๆๆๆ เสร็จเรากะนู๋นา สินะ

สาธุ ปีนี้ลูกช้างชงเหลือเกิน เจ็บขามาหลายเดือนแล้ว ขอให้หายป่วย หายเจ๊บทีเถอะ เพี้ยง

วันนี้ฟ้าเป็นใจ ถ่ายอย่างไรก็สวย

ก่อนเข้าที่พัก แวะจิปกาแฟกันสักหน่อย ที่ร้านเก๊ามะขาม กันค่ะ

ร้านเก๋ น่านั่งดีค่ะ

แถมกาแฟก็อร่อยด้วยค่ะ ถูกปากพวกเรา 6 คนมาก ๆ เยี่ยม

ไปนั่งรับลมข้างบนกันดีกว่า

ถ้าข้างบนเต็ม ก็สามารถนั่งข้างล่างได้นะคะ

หลังจากนั้นก็เข้าที่พักกันค่ะ

คุณต่ายเจ้าของที่พักต้อนรับพวกเราด้วยลำใยจากสวนข้าง ๆ หวาน หอม ชื่นใจจริง ๆ ค่ะ

เราจองเรือนหลังใหญ่ ไว้ ราคาไม่แพง 2000 บาท มี 2 ชั้น นอนได้ 8 คน รวมอาหารเช้าด้วยนะเออ

ชั้นล่างนอนได้ 4 คน

ชั้นบนก็เช่นกัน

ชอบห้องน้ำข้างบนค่ะ เปิดประตูไป ระบายอากาศได้ดีมาก ๆ 555

ไม่ต้องติดเครื่องระบายอากาศเลย อิ ๆ

บรรยากาศรอบ ๆ บ้านบ้าง

ช่วงที่ไป เป็นช่วงเริ่มดำนากันแล้ว ถ้าอยากเขียว ๆ กว่านี้ ต้องอีกสัก 2 เดือนเนอะ จะเขียวเต็มนาไปหมด

ตกเย็นมานั่งชิว ๆ หน้าบ้าน สุดยอดค่ะ

ส่วนเรือนหลังเล็ก ชื่อว่าเฮือนของขวัญ ไม่มีแขกในวันนี้ เราเลยขอไปถ่ายรูปด้านนอกสักหน่อยค่ะ

ระเบียงหน้าบ้านน่ารักมากกก

ถ้าดำนาเต็มพื้นที่ จะฟินขนาดไหนหนอ ♥

ช่วงรออาหารเย็น บ้างก็นอน บ้างก็คุย บ้างก็ออกไปปั่นจักรยานเล่น สุขจริงหนอ

พอตกเย็นก็มาทานขันโตกกันค่ะ (ต้องสั่งล่วงหน้านะคะ เจ้าของจะได้เตรียมไว้ให้)

ทานขันโตกมื้อเย็น รายล้อมไปด้วยนาข้าว ขอบอกว่าอร่อยมาก ๆ ค่ะ อาหารไม่ต้องหลายอย่าง แต่เค้าคัดแต่ของอร่อย ๆ มารวมไว้ สุดยอดค่ะมื้อนี้ โตกละ 350 บาท คุ้มจริงบอกเลย

ทานไป ดูพระอาทิตย์ตกไป

และก็มีเซอร์ไพรส์อีกแล้วค่ะปีนี้ มีเค้กวันเกิด 2 ก้อนมา ให้เรากับต๋อย อีกแล้วครับท่าน ขอบคุณนะ ♥♥♥

เช้าแล้ว เราสามารถเห็นทะเลหมอก ไกล ๆ อยู่หน้าบ้าน

ขอบคุณเพื่อนต๋อยสำหรับของขวัญวันเกิด เป็นกาแฟที่อร่อยที่สุดในโลกเลย

อาหารเช้า ข้าวต้มร้อน ๆ ก่อนอำลา ... บ๊าย บาย แล้วจะมาเยี่ยมใหม่นะคะ #เฮือนขวัญข้าว

ถึงแล้วดอยอินทนน์ ขอบคุณเสื้อสวย ๆ จาก README ด้วยค่ะ

เที่ยวหน้าฝน คุณก็จะเจอหมอกล้วน ๆ ผสมอากาศเย็น ๆ ชุ่มฉ่ำมาก ๆ ค่ะ (แต่ฝนอย่าตกนะ 55)

เสื้อกันหนาว เสื้อกันฝนหยิบขึ้นมา

เขียวได้อีก

สีสัน ตัดกันดี จริง ๆ

ทุกครั้งที่เราได้มาเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา เราต้องมาไหว้ท่านทุกครั้ง "ศาลเจ้ากรมเกียรติ" ขอให้มีเงิน มีโอกาส ได้มาเยี่ยมท่านบ่อย ๆ โดยไม่เดือดร้อน และครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่ได้มา สาธุค่ะ

น่ารักจริง เจ้าช้างน้อย

ออกแล้วนะ ไว้จะมาใหม่

แวะซื้อของฝากก้นสักนิด เดี๋ยวนี้ชีวิตลำบากขึ้น เพราะข้อจำกัดการถือขึ้นเครื่อง รวมกันไม่เกิน 7 กิโล ทำให้คน งก ๆ อย่างเราคิดหนักเลย 555

ผลไม้อบแห้ง หน้านี้อร่อยมากๆ จากที่ซื้อของฝากบ่อย ๆ หน้าหนาว ผลไม้แช่อิ่ม / อบแห้ง จะแห้งไป เก่า ไม่อร่อย สงสัยทำไว้นาน แต่หน้านี้ ฉ่ำสด อร่อยค่ะ

จากนั้นก็ทานอาหารเที่ยงที่ร้านค้าสวัสดิการ ยังอร่อยและคนเยอะเหมือนเดิม เมื่อท้องอิ่ม ก็ไปจิบกาแฟกันสักนิด

หนีน้องหมา ไปนั่งข้างบนกันดีกว่า

ร้านน่ารักดี แต่รสชาติกาแฟให้ผ่าน (ผ่านไปเลยค่ะ) สำหรับลิ้นพวกเรา 6 คนนะ ท่านอื่นอาจจะชอบ อันนี้ คหสต. ค่ะ

นาข้าวเล็ก ๆ หน้าร้าน

ก่อนส่งสนามบิน ก็เวลาเหลือเยอะ เลยแวะที่นี่สักหน่อย เห็นพวกฝาหรั่งชอบมากันบ่อย ๆ

ค่าเข้าคนละ 50 บาท ถือว่าแพงมาก ไม่คุ้มเลย เข้าไปได้ 5 นาที ฝนตก เลยกลับ 5555

เริ่มมาแระ

และก็แวะ 7-11 ตุนอาหารเย็นไปทานในสนามบิน อร่อยแถมประหยัดด้วยค่ะ ระหว่างฆ่าเวลา

ช่วงก่อนเข้าสนามบิน ได้รับ sms / e-mail แจ้ง Retime เวลาใหม่ จาก 22.40 น. เป็น 23.30 น. นับดูเลื่อนไป 50 นาที อย่าลืมตรวจสอบสิทธิ์กันนะคะ จึงไปขอเปลี่ยนไฟทล์บินใหม่ เป็น 21.15 น. เลยโชคดีไป ส่วนอีก 4 คนก็กลับตอน 22.10 น. ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ สุข อิ่ม ฟิน ประทับใจ แล้วเจอกันใหม่ ทริปหน้าที่เชียงรายจร้า บ๊าย บาย

ค่าใช้จ่าย ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน