Nubra Valley

2 days trip

หลังจากเที่ยวใน เลห์ ลาดักห์ กันไปแบบเต็มๆแล้ว
อีกสามวันที่เหลือเราจะนั่งรถให้ตูดเปื่อยไป Nubra valley (หมู่บ้าน นูบร้า) กับ Pankong lake (ทะเลสาบแปงกอง) กัน!

ทริปสองสามวันนี้คือต้องนั่งรถกันเป็นวันๆเพื่อจะไปถึงสถาณที่ที่นึง
เตรียมใจนั่งรถกันให้ดี พกเพื่อนดีๆไปด้วย เตรียมเสื้อคลุมกันแดดและหมอนรองคอให้พร้อม
อัด Playlist เจ๋งๆและ power bank ให้แน่น แล้วก็ Hit the road กันเล้ยยย!

Nubra valley, I'm coming!

รอก่อนนะจ๊ะน้องอูฐ พี่กำลังไปหา!!

Morning in Leh

ตื่นกัน 7:00 am เราตื่นคนแรก เราจะอาบน้ำแต่น้ำเย็นมาก และไม่มีเครื่องทำน้ำร้อนชั้นบน
เราเลยถามเขาว่า ที่นี่มีน้ำร้อนไหม ชั้นล่างมีเครื่องทำน้ำร้อนไหม อาบชั้นล่างก็ได้อะไรแบบนี้
เขาก็บอกว่า yes yes yes พยักหน้าหงึกๆๆ แล้วบอกให้เรารอเดี๋ยว เราก็รออยู่แป๊บนึง
ซักพักซันทิลก็ขึ้นมาพร้อมถังใส่น้ำร้อน คือสรุปที่นี่ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น เขาไปต้มมาให้เราอ่ะ

ซันทิลน่ารักมากขออะไรก็บอก มีๆๆ yes yes yes พยักหน้าหงึกๆๆ น่ารักมากๆ

8:30 เก็บของเสร็จกันแล้ว รถยังไม่มา เอาของบางส่วนฝากไว้ที่เปียมาเพราะไปค้างที่ Nubra คืนนึง
และต้องปล่อยห้องคืนนึงให้คนอื่นเช่า จะได้ไม่เสียตังค่าเช่าอีกคืน พรุ่งนี้ค่อยกลับมาเช่าใหม่

เปียมาชวนกินชา เลยได้เข้าไปนั่งห้องนั่งเล่นกัน

ซักพักซันทิลพาลามะมาบ้าน พระมาปั้นๆสิ่งที่เรียกว่า "โชป้า" ปั้นเป็นรูปเคารพหรือเอาผงมาทาตัว

ลามะก็เล่นกะเราใหญ่เลย พยามจะหลอกให้เรากิน 555

Day 3

Nubra Valley

Road trip ไป camping, ขี่อูฐที่ Nubra

The longest road trip

วันนี้ road trip ไป Nubra กันนน

เป็น road trip ที่ยาวที่สุดเท่าที่เคยนั่งมาเลย (แต่เดี๋ยวตอนนั่งแคชเมียร์อาจจะนานกว่านี้)
ในภาพคือเอ๋ยทำอาหารเช้าให้กิน เป็นขนมปังกับ Nutrella ที่เอามาจากไทยด้วย มีโอกาสได้กินซักที
เพราะอาหารที่นี่ดีกว่าที่คิด เลยแทบไม่เห็นต้องพึ่งอะไรที่เอามาเลย
(สาบานว่ากินได้จริงๆนะ ฮ่าๆๆ อย่าเพิ่งตัดสินจากรูป)

Into the grate things

แล้วยิ่งออกไปไกลธรรมชาติมันก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ
ยิ่งออกเที่ยวก็ยิ่งเห็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และเราเชื่อว่าต้องมีที่ยิ่งใหญ่กว่านี้อีกในทริปต่อๆไป
พอเห็นโลกกว้างๆก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่า เฮ้ย ตัวเรานี่เล็กจังเลย
มองภูเขา ท้องฟ้ารอบๆตัว สุดลูกหูลูกตายิ่งกว่าเดิม

ลาก่อนสีเขียวชะอุ่ม พุ่มไม้ในเมืองเลห์

สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น...

ตลอดทางของ road trip ก็จะเป็นประมาณนี้
ปีนไต่ไหล่เขาไปเรื่อยๆ หวาดเสียวบ้างตอนที่รถสวนกันบนถนนแคบๆที่ชำรุด แล้วรถเราอยู่ฝั่งด้านนอก
มองลงไปเห็นล้ออยู่เฉียดกับริมผานิดเดียว เห็นหินตกลงไปข้างล่างแกรกๆๆ ทำได้แค่เชื่อใจในคนขับรถเท่านั้น

จุดพักชมวิวจุดแรกที่เขาจะจอดให้เรา
เมฆลอยอยู่แค่นี้เอง อยากจะหยิบลงมากิน
เห็นเงาของเมฆพาดบนภูเขา ชัดเจนมาก

ทุนดุ๊บสุดหล่อ

ก่อนอื่นขอนำเสนอ ทุนดุ๊บ (tundup) คนขับรถผู้พูดน้อย แต่ใส่ใจหนักมาก ฮ่าๆ
รูปนี้ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ เดี๋ยวดูรูปล่างๆ เดี๋ยวๆๆๆ!! ทุนดุ๊บอายุประมาณ 27
ทุนดุ๊บพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ แต่แม้จะสื่อสารกันไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่ก็เข้าใจกันได้ดี
เราใช้เวลา 3 วันเต็มๆอยู่ด้วยกันบนรถ ตามทางไหล่เขาที่หวาดเสียวมาก แต่ทำไมไม่รู้เรามั่นใจในทุนดุ๊บมาก
เขาจะขับรถด้วยความมั่นใจ เอาจริงๆเรียกได้ว่าขับห้าวมากๆเลยแหละ ในขณะที่ก็รู้กฎกติกาและสุภาพด้วย
เวลามีลมฝุ่นเยอะๆอยู่ข้างหน้า เขาจะรีบกดปิดกระจกอัตโนมัติให้พวกเรา
เวลาแดดมา เขาจะหันมามองๆพวกเราว่าโดนแดดหรือเปล่า แล้วเอาที่ปิดดึงมาปิดให้
เขาจะชอบสังเกตุพวกเรา เช่นเราน้ำหมดเขาก็จะรู้ มีจะแบ่งน้ำให้กินด้วย
เวลาเราเปิดฝาขวดน้ำเขาก็จอดรถให้ด้วย เราก็งงว่าเขาจอดรถทำไม อ้ออ เพราะเขาจะให้เรากินได้สะดวกๆ น้ำไม่หก อูววว
เพราะทางที่นี่มันยึกยักๆ ไม่ได้เรียบๆ มันเลยกินน้ำลำบากหน่อยเวลารถแล่น (หรือจริงๆเขากลัวเราทำหกเลอะรถเค้าวะ 555)
ps.รถไม่มีแอร์นะ เปิดหน้าต่างโลด

สองสามวันที่อยู่กับทุนดุ๊บ ก็ได้ลุ้น ได้เสียวเวลาเขาขับรถเลนส์นอกที่มองลงไปไม่มีอะไรนอกจากหุบเหวลึกๆ
เวลาขับสวนกันกับรถคนอื่นๆเป็นทำเนียมที่รถที่อยู่ด้านใน ต้องหยุดให้รถที่อยู่ด้านนอกผ่านไปก่อน เพื่อความปลอดภัย
ซึ่งทุนดุ๊บถือว่าเป็นคนมีน้ำใจบนท้องถนนมากๆ

ฟ้าใสขนาดนี้ ไม่ถ่ายรูปได้ไง


ต่อมาก็ทำ Permit เข้าเขตของ Nubra valley
ตรงนี้ทุนดุ๊บจะทำให้ทั้งหมด ตอนถึงด่านเพราะมี permission ที่เอเจนซี่ทำไว้ให้เมื่อวานแล้ว
แต่อย่าลืมพกพาสปอร์ทอ่ะ ตรงนี้พวกเราก็แค่นั่งรออยู่ในรถเฉยๆ
ทายจิเล่มไหนของเรา : )

Highest road in the world

ถึงจุดที่เป็นถนนที่สูงที่สุดในโลก (18,380 feet)
ขนาดไม่ใช่หน้าหนาว บนนี้หนาวแฮะ แวะพักได้แป๊บเดียวเอง

พักระหว่างทางที่ๆสอง
แทบไม่อยากลงเพราะง่วงมาก กำลังหลับได้ที่เลย แต่ถ้าไม่ลงนี่เสียดายแน่ๆ
ตรงนี้มีม้า มีคนมาปิคนิค มีรถโรงเรียนมาพักจอดให้เด็กๆลงมาเล่นกัน
เด็กที่นี่หน้าตากวนโอ๊ยจริงๆ ตาคมๆมองจิกๆ แถมเล่นกล้องเป็นบ้า

Maggi is always a good choice.

พอออกมานอกเมืองเลห์แล้วคิดถึงเลห์ชะมัด คิดถึงมากทุกครั้งที่กินอาหาร T-T
เริ่มไกลออกมา อาหารก็หามีรสชาติได้ยากเหลือเกิด ฮือๆ ดังนั้นสิ่งที่เราจะชอบกินกันคือ "แม๊กกี้ใส่ไข่"
ไม่ใช่ซอสแม็กกี้นะ แต่ยี่ห้อเดียวกันนั่นแหละ เค้าทำเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขายที่นี่ สั่งเขาว่า maggi with egg
เราว่าประทังชีวิตได้ อร่อยด้วยถ้าร้านไหนที่ปรุงดีๆอ่ะ เมนูนี้มันทำให้ไม่อร่อยยากมากเลยนะ!
ร้านไหนทำ maggi ไม่อร่อยก็อย่าไปสั่งอะไรอีกเลยเราว่า

It's on me : )

อย่าลืมจ่ายค่าข้าวให้คนขับด้วยน้า ไม่กี่บาทหรอก
มื้อไหนที่กินด้วยกัน บอกเขาด้วยนะ ว่าเราจะจ่ายให้ ไม่ต้องเกรงใจ
ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวเขาก็ทำแบบนี้กัน

ห้องน้ำหลุมครั้งแรกในชีวิต..

อย่างน้อยเขาก็ดูแลความสะอาด ดีกว่าห้องน้ำในจุดพักชมวิวอ่ะ อย่าได้ไปเข้าเลยขอบอก ที่จะให้เดินเหยียบเข้าไปยังไม่มี
เอาละนะ จะเปิดล่ะนะ!

รวมแฟชั่นห้องน้ำในเลห์

เกร๋ไก๋มีสไตล์ ฉี่หดตดหายกันไปตามระเบียบ

ไปกันต่อนะ : )

นี่ก็ใกล้เย็นแล้ว เราจอดพักตรงนี้กันแป๊บนึงหลังจากที่ขับมากันหลายชั่วโมง
มองดูภูเขา นั่งดูขบวนบิ๊กไบท์ขี่ผ่านไป

Hot spring & วัดทิเบต

ระหว่างนั้นเขาจะพาเราแวะสองสามที่ก่อนถึงหมู่บ้าน
เราว่าถ้าไม่อยากเสียเวลาให้ตัด Hot spring ออกไป เพราะไม่มีอะไรเล๊ยยย
มีแค่ม้าที่หลังเขา กับอ่างแช่เท้าที่เห็นในรูปด้านล่าง

ที่ๆสองเป็นวัดทิเบต ที่มีวัวทิเบตเฟรนด์ลี่ๆหน้าตาประหลาดๆ
ตอนเราไปลามะกำลังสวดมนต์กันอยู่ เลยได้นั่งฟังนั่งดูอยู่แป๊บนึงก่อนจะออกมา

ทางแบบนี้คือ ใกล้แล้ววว..

จะมีดอกม่วงๆข้างทางเป็นพุ่มๆ เขาเอาต้นพวกนี้มาทำเป็นรั้วบ้านกัน

Finally we get here : )

ถึงแล้วที่พักใน Nubra valley เราแพลนมานอนแคมป์กันที่นี่ สรุปแล้วจองเป็นเต้นท์นอนสองหลัง ด้านหลังเป็นทิวเขา
เรากินอาหารเย็นกันที่นี่เลย บอกให้เขาเตรียมไว้ให้ (ต้องจ่ายเพิ่ม) เพราะขี้เกียจออกไปหาอะไรกินที่อื่นแล้ว
ที่นอน ระวัง bed bug นะ เอาผ้าห่มไปสลัดๆนอกเต๊นก่อนแล้วก็ปัดๆเตียงก่อนจะนอนนะ
ps.ห้องน้ำเป็นห้องน้ำเล็กๆในตัว ยื่นออกมานอกเต๊นหน่อยนุง
น้ำตอนเช้าและตอนกลางคืนหนาวมากกก เรียกว่าเย็นเจี๊ยบเหมือนออกมาจากช่องฟรี๊ซเลย ยอมไม่อาบอ่ะ

Having a greeting tea

ชอบ baked narn, ชอบน้ำตาลเม็ดโตๆ


บารปา เจ้าอูฐหนอกเหี่ยว

ออกมาขี่อูฐกัน เรามาช้ากันนิดหน่อย แต่ดีที่ยังทัน โอยชอบจังเลย animal riding เนี่ย
ไม่ว่าจะเป็นม้า เป็นช้าง เป็นอูฐอะไรก็แล้วแต่ ชอบบบบ
(แต่นอกจากม้าแล้วก็ยังไม่เคยขี่อะไรเลยนะ แต่รู้ไว้ก่อนแหละว่าชอบ ฮ่าๆๆ)
อูฐเราชื่อบารปา มันไม่ได้กินน้ำหรือไงทำไมหนอกมันถึงเหี่ยว แต่ก็สู้ของเอ๋ยกับนาเดียไม่ได้
เหี่ยวจนพับไปข้างๆเลย สนุกดี อยากขี่นานกว่านี้จัง

อูฐเป็นสัตว์สายแบ๊ว มันชอบทำปากจู๋อยู่ตลอดเวลา
xo xo~

อาหารเย็น..

หลังจากเราบอกให้เขาทำอาหารเย็นไว้ให้ แล้วกลับมากินกันด้วยความหิว ก็พบว่า มัน.. ไม่.. อร่อย. เล้ยยยย ฮือๆๆ
จะบอกว่าคนบนที่สูงเขาไม่ค่อยกินเนื้อสัตว์กัน ส่วนใหญ่เลยเป็นอาหารมัง
แกงอะไรอ่าาา ผัดอะไรอ่าาาา (แต่ไอ้แผ่นๆกินได้นะโอเคเลย)
เราเลยเอาเลย์มาคลุกข้าวกินกัน ฮ่าๆ แต่ก็แอบเห็นโฮสเค้าแอบมาด้อมๆดูๆว่าเราจะเป็นไงกันบ้าง
เราก็กลัวเขาเสียใจก็กินๆกันเข้าไปบ้างแล้วก็แบบ ทำท่าทางเอร็ดอร่อย แบบ หึมม โอเคเลยว่ะแกร อร่อยๆ
ทำไปก็ขำตัวเองไป เป็น moment ที่ตลกดีชะมัด

ถือว่าเตือนแล้วนะ ไป Nubra เอาขนมไปเยอะๆ!

Good night Nubra valley : )

เขียนโปสการ์ดแล้วนอนกันเถอะ

Day 4

Bye Nubra

way back to Leh

Just you and me and the road and the playlist

ขากลับเราแวะกันแค่สองที่ ใกล้ๆกันคือวัด กับ พระศรีอริยเมตรัย แล้วต่อจากนั้นคือ road trip แบบ ยาวไป ยาวปายยย
ถ้าโบกรถหารเฉลี่ยมากับคนที่ไม่รู้จักก็อาจจะสนุกไปอีกแบบถ้าเขาเป็นคนเฟรนด์ลี่
แต่ถ้าไม่ก็คงจะโคดน่าเบื่อเลยล่ะ สองวันมานี้ได้ใช้เวลากับตัวเองนานที่สุดละ
สิ่งที่อย่าลืมเอามาเลยคือ Play list เจ๋งๆใส่มือถือหรือ ipod มาด้วย (รถทุนดุ๊บมีสายให้เสียบต่อลำโพง)
เราเตรียมกันไปแค่ไม่กี่เพลง สลับกันฟังขับเพลงเลห์ดึ๊งๆของทุนดุ๊บ ซึ่งก็ดีที่เขายังวัยรุ่นอยู่ เพลงที่ฟังก็เลยค่อนข้างสนุก
ส่วนพวกเรา กลับมาก็หลอนเพลง "lost star" กันไปพักใหญ่ เปิดทีไรกลิ่นฝุ่นที่เลห์นี่ลอยเข้ามาเลย

รูปนี้เอ๋ยบอกว่า "กุไม่ขึ้นไปนะ กุรออยู่ตรงเนี้ยแหละ" (เอ๋ยเป็นโรคกลัวความสูง ฮ่าๆ)

โอเค งั้นทิ้งไว้ตรงนี้นะเอ๋ย พวกเราไปล่ะ

พระศรีอริยเมตตรัย

เป็นพระองค์ใหญ่อยู่ตรงกันข้ามกับ Monastery เมื่อกี๊เลย

แล้วก็กลับ Leh อย่างสวัสดิภาพ ภาพนี้เป็นภาพที่เราอัดวิดิโอเต้นกันระหว่างทาง
ไว้ทริปหน้าไปเต้นกันใหม่นะ สัญญาว่าจะอัพขึ้น cloud วิดิโอไม่หายแน่นอน จุ๊บๆ

Budget

Pay together (/4)
Tour van to Nubra (round trip) = 9,606 INR
Tent camp = 4,816 INR
=> 14,422 INR = 3,605 INR /person
= 1,975 THB /person

Food (Together/4) ค่าข้าวกลางวันจ่ายให้คนขับด้วย
lunch on the way to Nubra = 470 INR
dinner @Nubra = 800 INR
lunch on the way back to Leh = 450 INR
dinner @Leh (gesmo restaurant) = 575 INR
water & snack = 30 INR
=> 2,325/4 INR =581 INR /person
= 318 THB /person

Entre fee
Hot spring = 30 INR
Camel back riding = 350 INR
Monastery = 30 INR
=> 410 INR
= 225 THB /person

Personal use
i-scream = 20 INR
=> 11 THB /person

Total for these 2 days
= 2,529 THB


Say hi :))

FB : facebook.com/mithuna27
IG : instagram.com/mithuna27

HappyJune

 วันศุกร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 02.27 น.

ความคิดเห็น