เป็นครั้งที่ 2 แล้วทีเราได้ไปเที่ยว จ.กาญนะจ๊ะบุรี เฮ้ย กาญจนบุรี เฮ้ย ถูกแล้ว ! ทริปนี้ก็มีมาแทรกแบบไม่ทันได้ตั้งตัว เนื่องจากน้อง ๆ ที่ทำงานอยากไปเที่ยวกันเลยลงมติว่าจะไปกาญ เพราะใกล้ ๆ เดินทางสะดวก และเข้าหน้าหนาวแล้วด้วย อิ ๆ

จริง ๆ ถ้าขับรถไปก็แค่ 2 ชม.นิด ๆ แต่พวกเราอยากฟิน จึงเลือกเดินทางด้วยรถไฟ (ตอนฟรีก็ไม่ไป มาไปตอนที่เสียเงิน 555)

ที่สถานีรถไฟ วันนี้มีนักท่องเที่ยว ทั้งไทยและต่างประเทศ มารอกันมากหน้าหลายตา อาจเป็นเพราะเข้าหน้าหนาวแล้ว คนจึงมาเที่ยวกันเยอะ จะบอกให้ว่า ที่นั่งเต็มตั้งแต่สถานีนี้กันเลยที่เดียว

มาเช้า ๆ ใครจะมาใส่บาตรที่นี่ก็ได้นะเออ เพราะรถไฟออก 7.50 น. เวลาเหลือ ๆ

ได้ตั๋วแล้ว เก็บให้ดี เพราะจะมีตรวจข้างบนนะจ๊ะ

รถไฟชั้น 3 จะไม่มีแอร์นะ จะมีแต่พัดลม ไว้บริการ แต่จะบอกว่า ตลอดการเดินทาง ไม่ร้อนเลย เพราะช่วงที่เราไป อุณหภูมิ ลดลงพอดี เลยนั่งไป คุยไป แบบไม่รู้สึกเบื่อ (จริงป่าว 55)

วิวระหว่างทาง

ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง

จะบอกว่า ขาไปถ้าอยากชมวิวสวย ต้องนั่งฝั่งซ้าย แต่ต้องแลกกับแสงแดด

บนรถไฟ จะมี ข้าว ก๋วยเตี๋ยว น้ำ ขนม ผลไม้ ไว้บริการตลอด ถ้าใครไม่ได้ทานอาหารเช้ามา ก็สามารถหาเลือกซื้อได้เลยค่ะ ตามสบาย

แบ่ง ๆ กันนั่งเนอะ วันนี้นักท่องเที่ยวเยอะจริง ๆ

ถึงสถานีน้ำตก 13.05 น. (ตามตาราง 12.35 น) ช้าไป 25 นาที ก็ถือว่าโอเคนะ พอรับได้ค่ะ

หาอะไรทานก่อน ร้านแถว ๆ สถานีรถไฟนั่นแหละ ก่อนเข้าที่พัก

ลงแค่นี้พอ เดี๋ยวหิวอิ ๆ

เหมือนเดิม ถ้าใครจะไปเที่ยวน้ำตก ก็ต่อรถสองแถวไป คนละ 20 บาท แต่เราไม่ได้ไปน้ำตก แต่จะไปแพ จึงใช้บริการ รถสองแถวเจ้าเดิมที่เคยเรียกใช้บริการ (น้องติว 061-4632776) เหมาไปแพที่พัก 700 บาท ราคานี้แวะเที่ยวพิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด ก่อนเข้าที่พักด้วย (แต่ว่าเวลา 15.00 น. ที่แพมีกิจกรรมลากแพไปน้ำตก เราจึงรีบเข้าที่พักเลย เพราะเวลาจะไม่ทัน)

ถึงแพ เกือบจะ 15.00 น. เช็คอิน เสร็จก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าลงแพกันเลย เพราะนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น ๆ ไปรอกันหมดแล้ว

ห้องพักไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย เพราะเข้าห้องได้ ก็โยนกระเป๋า เปลี่ยนเสื้อผ้า ห้องเละทันที่ 555 มาถ่ายอีกทีก็ตอนเช็คเอ้าท์ เห็นแม่บ้านทำความสะอาดห้องข้าง ๆ ไว้ เลยถ่ายมาให้ดูค่ะ

(ห้องพักจะเป็นแอร์ ของเรานอนได้ 4 ท่าน มีผ้าขนหนู สบู่ ยาสระผมให้ ไม่มีทีวี ตู้เย็นนะจ๊ะ ถ้าจะมาให้เตรียมกระติกน้ำแข็ง ขนม เครื่องดื่ม มานั่งทานได้หน้าห้องพักค่ะ)

พร้อม ลงแพลากกันได้เลย.....

อย่างที่บอก เรามาช้าไง ที่นั่งร่ม ๆ มีหลังคาเต็มหมด เหลือแต่ข้างหน้า ตากแดดไปสิคะหึ หึ

เรือหางยาว จะลากเราไป ผ่านแพ ต่าง ๆ มากมาย

อันนี้แพเปียก น่าเล่นดี

เรือจะลากมาถึงจุด ๆ หนึ่ง จำไม่ได้ว่าที่ไหน เลยจากน้ำตกไทรโยคใหญ่ไปหน่อย เพื่อให้นักท่องเที่ยวกระโดดน้ำ และเรือจะไปรอรับปลายน้ำ เมื่อนักท่องเที่ยวลอยตามน้ำมา

สนุกกันใหญ่

ส่วนคนบนแพ ถ้าไม่ลงก็ขอสักภาพ

พอขึ้นจากน้ำกันครบก็ไปน้ำตกกัน

มีน้ำตกตรงไหน ก็จะมีแพตรงนั้น

จนท.ก็จะทำการผูกแพไว้กับน้ำตก และปล่อยให้นักท่องเที่ยวบนเรือเล่นน้ำกัน

สนุกมาก ๆ ขอบอก

เพราะปกติเวลาเรา เล่นน้ำตก ก็ต้องว่ายไปหาน้ำตก แต่นี่ ไม่ต้องว่ายน้ำเป็นก็เล่นได้แล้ว

สนุกดี ถือว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลย ถ้าใครมา ห้ามพลาดนะคะ แล้วคุณจะเสียใจ

พอได้เวลาก็กลับ (อยากบอกว่า ถ้าใครมา แล้วมีผู้สูงอายุ หรือเด็กเล็ก แนะนำให้พกผ้าขนหนูมาด้วย เพราะขากลับ หนาวมาก ๆ สั่นไปหมดเกือบแย่เหมือนกัน)

ใช้เวลาไป-กลับทั้งหมด 3 ชม. สนุกและคุ้มค่าดีค่ะ กลับมาก็อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าได้เวลาอาหารเย็นพอดี

ทานข้าวเสร็จก็มานั่งคุยกัน หน้าห้องพัก ฟังเพลง

นอน ดูดาว ให้เวลาเดินช้า ๆ แค่นี้ก็สุขแล้ว

บรรยากาศยามค่ำคืน พอได้เวลาก็เข้านอน ZZzzzz

อรุณสวัสดิ์เช้าวันใหม่ ที่สดใส

อากาศเย็นสบาย ๆ จนรู้สึกหนาว ๆ

หมอกบาง ๆ ปลิวมาเป็นระยะ ๆ บนผิวน้ำ

หลาย ๆ คนยังคงหลับไหลอยู่ เพราะเสียงน้ำไหล ฟังดูคล้าย ๆ ฝนตก จึงทำให้หลับอย่างสบาย ^_^

สมาชิก เริ่มตื่นกันแล้ว

บ้างก็ออกมานอนต่อ ที่ระเบียง

พอได้เวลา ก็ไปทานอาหารเช้ากัน

หลังอาหารเช้า หลาย ๆ คนอาจจะทยอยกลับ แต่เรายังคงดื่มด่ำ กับธรรมชาติ ให้นานที่สุด

นั่งมองวิว โหลดภาพ up ภาพ (ขอบอกว่า wifi 5g ที่นี่แรงมากแรงกว่าที่บ้านเราอีก 55)

พอ 12.00 น. ก็เช็คเอ้าท์ นัดรถมารับเหมือนเดิม หิวสิ เลยแวะทานอะไร กันที่น้ำตกไทรโยคน้อย

บ้างก็เล่นน้ำตก

โชคดี ปีนี้น้ำเยอะ เลยได้เห็นน้ำตก ใส ๆ เย็น ๆ

พอได้เวลา ก็ให้รถไปส่งเราที่ บขส. นั่งรถทัวร์กลับกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ ทริปสั้น ๆ แต่ก็สุข และสนุก การเดินทางก็ไม่ลำบาก ไม่มีรถก็สามารถออกมาเที่ยวได้ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดกินพุงกาง ไม่เกิน 2 พันบาท

ถือว่ามาชาร์จแบ็ต เพิ่มพลังก่อนลุยงานต่อ บ๊าย บาย