Bonjour บองชูวร แปลว่า สวัสดีค่ะ ทุกคน

เบลกลับมาปารีสแล้วค่ะ หลังจากพาไปชิมร้าน Relæ กัน วันนี้เรามาชิมอาหารที่เค้าเรียกกันว่า วิทยาศาสตร์ในอาหารกันค่ะ นั่นก็คือ Molecular Gastronomy หรือเรียกกันแบบง่ายๆคือ Food Science เป็นการนำศาสตร์ของทางด้าน Physical กับ Chemical มาผสมกัน ออกมาเป็นอาหารในโลกใหม่ อาหาร Molecular เนี่ยถือว่าเป็นศาสตร์ในโลกใหม่จริงๆค่ะ ทั้งรูป รส กลิ่น texuture ค่อนข้างต่างจากอาหารในโลกเก่า หรือ Classic ค่ะ แล้วอะไรคือโลกใหม่ อะไรคือโลกเก่าละ งง กันแล้วใช่ไหมค่ะ เอางี้เรามาอธิบายกันง่ายๆแบบฉบับคนทั่วไปไม่ต้องเอานักวิทยาศาสตร์มาอธิบายให้ยุ่งยากละกันค่ะ

อาหารในโลกเก่าเนี่ยถ้าเราสั่ง สเต็กเนื้อ หนึ่งจาน จานที่ได้มายังไงก็เห็นเป็นเนื้อ เป็นสเต็ก เราไม่ต้องชิมก็รู้เลยว่าเนี่ยคือเนื้อแน่นอน เรารับรู้จาก รูป กลิ่น ส่วนอาหารที่เป็นยุคของโลกใหม่ ถ้าเราสั่งเนื้อสเต็ก จานที่ออกมาอาจจะใช่ดูไม่ใช่เนื้อ อาจจะมาในรูปแบบที่ไม่มีเนื้อสเต็กเลย มีแค่กลิ่นของเนื้อ แต่เวลาเราทานลงไปมันคือเนื้อสเต็กที่เราสั่งนี่ไง อาหารค่อนข้างแปลก แต่ที่โดดเด่นสำหรับอาหาร Molecular นั่นก็คือความแปลกใหม่ แล้วก็เนื้อสัมผัสในการกินค่ะที่แปลกออกไป

วันนี้ที่เราไปชินกันเป็นร้านอาหารสัญชาติญี่ปุ่นแท้ๆเลยแต่ผสมลูกครึ่งของอาหารฝรั่งเศสค่ะ แรงบันดาลใจของเชฟเค้ามาจากวัฒนธรรมของอาหารฝรั่งเศสค่ะ ชื่อร้าน Atsushi Tanaka เชฟท่านนี้เคยร่วมงานในร้านอาหาร Molecular 3 Star Michelin ในปารีสมาค่ะ การแตกต่างของเชฟท่านนี้คือการนำญี่ปุ่นมาผสมผสานในสไตล์ของ Molecular ที่แปลกแหวกแนวมากค่ะ

สำหรับร้านนี้วิธีการจองนั่นแสนง่ายค่ะ จองผ่านเวปออนไลน์ได้เลย http://www.atsushitanaka.com/en.html#0 จากนั้นในเวปจะถามว่า เราต้องการเลือก Set Menu แบบไหน ถ้าเราไม่แน่ใจ จองแบบธรรมดาคือไม่เลือกไรเลยว่าจะเอา Set ไหน เราไปเลือกในวันที่เราไปทานได้เลยค่ะ ส่วนการเดินทางไปร้านนี้ให้ลง Metro Saint-Michel, Maubert-Mutualité, Cardinal Lemoine จริงร้านนี้ใกล้โบสถ์ Notre-Dame นั่นเอง กินข้าวเสร็จไปลุยเที่ยวต่อได้เลย ใจกลางปารีสขนาดนี้ ต้องไปลองให้ได้ค่ะ

เริ่มต้นวันนี้ด้วยการเลือก Set Menu เลย ราคา Set Lunch อยู่ที่ 55 ยูโรค่ะ ราคานี้รวมน้ำแล้ว กับ Service แล้ว แต่วันนี้เบล Top Up Foie gras ด้วย มาถึงฝรั่งเศษทั้งทีเนอะ

จานแรกมาแล้ว มันคือ ข้าวเกรียบใส่ถ่านญี่ปุ่นค่ะ รสชาติก็จืดๆค่ะ ไม่หวือหวาแบบข้าวเกรียบกุ้งบ้านเรา

จานที่ 2 เป็น ต้มหอมญี่ปุ่น ซอสครีมเนย กับเจลลี่ค่ะ อันนี้เหมือนเค้าเอาต้นหอมญี่ปุ่นไปมักในซอสไรซักอย่างแล้วเอามาเข้าเตาอบค่ะ อันนี้อร่อยค่ะ ชอบชอบ

ต่อไปเป็นหอยกับครีมข้าวโพดค่ะ ข้างล่างเหมือนมีครีมข้นของข้าวโพดอีกชั้นค่ะ

จานต่อไปคือ ก้อนหินสีดำ เย้ยไม่ใช่ค่ะ เค้าคือ Foie gras ที่เบลเพิ่มไปนั่นเอง แต่ไหนละ Foie gras ศาสตร์ของ Molecular เนี่ยอย่างที่เบลบอกเราอาจจะมองไม่ออกว่าตรงหน้าเราคืออะไร แต่เค้าบอกค่ะ ว่าคือ Foie gras

ถ้าเราเอาแผ่นๆ Charchoal Meringue ออกเราจะเห็น Foie gras ที่ออกมาในรูปของการเอาไปคลุกในผงถ่านญี่ปุ่น มาพร้อมกับซอสคาราเมล ตื่นตามากสำหรับจานนี้ รสชาติก็ foie gras จริงๆค่ะ

จานนี้ เบลค่อนข้างชอบความตื่นตาเค้า ผงขาวเนี่ยคือ ครีมเอาไปจุมใน Nitrogen ค่ะ เนื้อเค้านี้เบายิ่งกว่าปุ่ยนุ่นอีกค่ะ มาพร้อมกับ แผ่น Meringue 2 แบบ กับซอส Pasley ค่ะ

ข้างในเป็นหอยแบบ Tepanyaki แต่มาใส่ซอสแบบฝรั่งเศส กับศาสตร์ Molecular แปลกตาดีค่ะ

อันนี้คือ Focaccia มาพร้อมกับน้ำมันมะกอกแบบสดค่ะ ชอบน้ำมันมะกอกค่ะ กินแล้วรับรู้ถึงลูกมะกอกที่สดใหม่มากๆ

Main Course มาแล้ว เป็นปลา Hake มาพร้อมกับ Zuchini ในแบบหลายๆสี จากนั้นราดน้ำซุปจากปลากับผักค่ะ รสชาติจานนี้ให้ความรู้สึก ต้มผักใบหญ้านาง ถ้าใส่ปลาร้านี่ใช้เลยค่ะ เบลล้อเล่นค่ะ เอาเป็นว่าทุกอย่างในจานสดใหม่ น้ำซุปอร่อยหวานได้กลิ่นของเครื่องเทศฝรั่งกับปลา รสชาติลงตัวมากค่ะ

จานนี้จริงๆต้องเป็นเนื้อวัวค่ะ แต่เบลไม่ทานเนื้อเค้าเลยเปลี่ยนจากเนื้อเป็นไก่ให้ค่ะ ซอสของจานนี้เบลชอบมากที่สุด ให้รสแบบเนยๆครีมนิดๆทานคู่กับไก่ เข้ากันดีที่เดียว

ของหวานมาแล้วค่ะ จานนี้เบลว่ารสชาติแปลกมากๆ เหมือนทานไม้ในถังไวน์แบบอบแล้ว รสชาติเค้าจะอารม Smoky Flavour เป็นรสชาติที่แปลกมากเท่าที่เคยทานมาเลยค่ะ สีสันของจานนี้มาในรูปแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยค่ะ

ร้านนี้อาจจะเป็นอาหาร Molecular แบบเข้าใจง่าย ยังไม่ได้เป็น Molecular แบบหนักๆไปเลย เข้ามีการผสมผสานที่ลงตัวกันระหว่างอาหารญี่ปุ่น กับ นำอาหารฝรั่งเศสมาผสมกัน โดยรวมถือว่าเข้ากันได้ดี แต่บางจานอาจจะทานยากไม่เข้าใจถึงอาหารที่เค้าสื่อออกมา แต่ถือว่าเป็นอีกร้านที่เบลแนะนำให้ไปลองทานดูค่ะ ราคาไม่แพงมากสำหรับร้านอาหารแบบ Molecular รีวิวนี้คงจะจบโดยเท่านี้ค่ะ เบลขอตัวไปหาร้านต่อไปที่จะพาไปเพื่อนๆ พี่ๆ ไปทานกันดีกว่าค่ะ สวัสดีค่ะ










Sakaokarn Vongchansilp

 วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 22.21 น.

ความคิดเห็น