โรงแรม มารีน บีช พัทยา (Marine Beach Hotel Pattaya)

หลังจากเหน็ดเหนื่อยเมื่อยก้นกันจากการเล่นสไลเดอร์แบบไม่มีพักกันที่สวนน้ำรามายณะแล้ว บรรดาหลาน ๆ ของหม่อมป้าทั้ง 4 หน่อ ก็ขอนอนสลบเอาแรงอยู่บนห้อง ที่เราไปเช็คอินเรียบร้อยที่โรงแรมที่ได้จองไว้ นั่นคือ โรงแรม มารีน บีช พัทยา (Marine Beach Hotel Pattaya) ซึ่งอยู่แถว ๆ หาดจอมเทียนนี่เองค่ะ

ทางเข้าห้องอาหารของโรงแรม ด้านหน้าหาด

ที่เลือกจองที่นี่ เพราะเพื่อนแนะนำมา ราคาพอรับได้ แถมยังอยู่แถว ๆ หาดจอมเทียน ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เด็ก ๆ เล่นน้ำทะเลต่อกันได้เลย แต่บรรยากาศไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่ค่ะ ฟ้าเดี๋ยวมืด เดี๋ยวสว่างด้วยเมฆฝน แถมฝนยังตกพรำ ๆ ตลอดทาง

การตกแต่งแบบจีนร่วมสมัย (Contemporary Chinese) เห็นได้ทุกที่ภายในโรงแรม

เด็ก ๆ นั้นได้กินข้าว กินขนมกันมาแล้วบนรถตลอดทาง ทำให้ไม่ห่วงเท่าไหร่ อีกอย่างใกล้ ๆ กันนั้นก็มี เซเวน มีแฟมิลี่ มาร์ท ให้เดินซื้อกันแบบสบาย ๆ ไม่ต้องข้ามถนน และด้วยความที่ฝนตกนี่หละ เลยทำให้ขี้เกียจออกจากโรงแรมไปไหน แถมโรงแรมก็บรรยากาศดี ตกแต่งแบบจีนร่วมสมัย (Contemporary Chinese) ได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะที่บริเวณล๊อบบี้ และห้องอาหาร

สิงโตผู้ปกปักรักษา ถูกว่าด้านหน้าตามหลักศาสตร์ฮวงจุ้ย โต๊ะแบบที่เห็นในร้านกาแฟสมัยก่อน

อย่ากระนั้นเลยค่ะ กินกันที่โรงแรมนี่หละ ดูเมนูแล้วค่อนข้างหลากหลาย โดยเฉพาะอาหารประเภทฟิวชั่น ที่ชอบเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว เลือกโต๊ะเลยแล้วกัน

ตั้งวางโต๊ะไม้ขนาดใหญ่อยู่กลางร้านอาหาร

เคาเตอร์คิดเงิน เบอร์เกอร์รี่ กาแฟ รวมอยู่เป็นแถวแนวเดียวกัน

บรรยากาศด้านใน

เราเลือกโต๊ะที่อยู่ตรงกลางตัวใหญ่ เพราะเผื่อเด็ก ๆ จะสนใจลงมากินข้าวด้วยกันต่อ เลยเลือกเผื่อเอาไว้ จากนั้นก็เริ่มสั่งอาหาร ซึ้งน้อง ๆ บริกรก็น่ารักพร้อมให้บริการเต็มที่

มุมของห้องอาหารเช้าที่มี ABF ไว้บริการ

ภายในห้องเล็ก ๆ ที่ดูเป็นส่วนตัว ตั้งวางโต๊ะไว้สองโต๊ะ เปิดแอร์เย็นฉ่ำ

ระเบียงด้านนอก เป็นระเบียงที่นั่งแบบเหล่าเต๋งคนจีนสมัยก่อน

ขนมปังพร้อมเนย

จานแรกที่นำมาเสิร์ฟ เป็นออเดิร์ฟ แบบอาหารฝรั่งทั่ว ๆ ไป คือ ขนมปังแบบต่าง ๆ และเนย ๆ ที่นำมาเสิร์ฟนี่เป็นเนยสด แบบจืด ไม่ใช่พวกมาการีน หรือเนยเทียม จึงมีความหอมมันมากเมื่อกินกับขนมปังที่เสิร์ฟมาหลายแบบหลายขนาด

สลัดไก่อบ

เมื่อขนมปังและเนียมาแล้ว ที่ตามมาตามสูตรคือ "สลัด" เป็นสลัดไก่อบที่เสิรฟมาก่อน เนื้อหน้าอกไก่ที่คลุกเคล้ากับเครื่องปรุง ปรุงสุกกำลังดี เนื้อไม่นิ่มไม่แข็ง วางมาบนผักสลัดสด ๆ ราดด้วยน้ำสลัดแบบใส ให้รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ตัดรสได้ดีกับอกไก่อบที่เสิร์ฟมา เรียกความสดชื่นได้โขอยู่

หอยแมลงภู่อบชีส

จานที่สองนี่เป็นหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวโต ๆ อบชีสพร้อมตกแต่งมาด้วยผักอบ อย่างมะเขือเทศราชินี และพริกหวานลูกใหญ่ ที่บรรจุชีสหอม มัน มาจนเต็ม ต้องบอกว่าจานนี้ชอบมาก รสชีสเต็ม ๆ คำ แต่ไม่ทำให้รสของหอยแมลงภู่ด้อยลงไป เพราะตัวใหญ่สะใจไม่แพ้กัน หอยแมลงภู่หมดก็ยังนั่งควักชีสด้านในพริกกินกันเพลิน ๆ ได้อีก

สปาอาลาเบียต้ากุ้ง

จานนี้อร่อยแปลกดีค่ะ เป็นเส้นเพนเน่ผัดกับซอสมะเขือเทศและเครื่องเทศที่ให้รสเผ็ด แต่ก็ไม่ได้เผ็ดมาก แต่เด่นที่ซอสมะเขือเทศมาก ทำให้เน้นกลิ่นและรสของกุ้งที่ผัดมาด้วยกัน โรยด้วยชีสผง และใส่มะเขือเทศราชินี ตกแต่งด้วยยอดโหระพาตัดสีสันให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น

เบอร์เกอร์เนื้อ

เมนูคุณอาว์ เหมือนเดิมค่ะ เบอร์เกอร์เนื้อ แต่เบอร์เกอร์เนื้อที่นี่เก๋ตรงมีหอมผัดและมะกองดองใส่มาด้วย จะดูในแง่ของการจัดจานก็เก๋และดึงดูดสายตาได้ดี ในแง่ของรสชาติหอมทอดช่วยให้เบอร์เกอร์มีรสหวานกล่มกล่อมขึ้น

เนื้อบดที่นำมาทำเบอร์เกอร์ก็นุ่มและชุ่มชื่น ไม่แข็ง เข้ากันกับผักสด ๆ และขนมปังที่นุ่มนิ่ม ชีสที่อบมาจนยืดช่วยให้เกิดรสเค็มมัน กินเข้ากันได้ดีกับเฟรนฟรายส์ที่ให้มาด้วย ซึ่งทำมาคล้ายเคอร์รี่ฟรายส์ (Curly Fries) ของ A&W แต่มีความกรอบ และรสชาติเค็ม ๆ มัน ๆ ทำให้เคี้ยวสนุกมาก

ปัญหาของเบอร์เกอร์เนื้อ คือ กินยากไปหน่อย เพราะชิ้นมันใหญ่ จะหยิบจะจับเลยทำได้ยากไปนิด

สเต็กปลากระพง

จานนี้ถือเป็นจานเด็ดสำหรับวันนี้ นั่นคือ สเต็กปลากระพง ปลากระพงชิ้นหนา ๆ สองชิ้นที่สดมาก กิลมาบนกะทะร้อนจนเหลืองทำให้ด้านนอกกรอบและด้านในนุ่ม เนื้อชุ่มฉ่ำ กำลังดี ได้ซอสรสชาติเปรี้ยว ๆ ม้น ๆ มากินแก้เลี่ยน แนมด้วยมันฝรั่งทอดชิ้นโต ๆ ผักผัดเนยต่าง ๆ โดยเฉพาะเบบี้แครอทนี่ชอบมาก เพราะมันเบบี้จริง ๆ ไม่ใช่แครอตหัวเล็กแคะแกนมาให้กิน เอาจริง ๆ จานนี้อยากสั่งซ้ำ แต่อิ่มกันเสียแล้ว

เด็ก ๆ เริ่มมีแรงแล้ว และลงมาหาเห็น ยาย ป้า อาว์กินน้ำผลไม้ปั่นอยากกินบ้าง จัดไปคนละแก้ว ก่อนแก็งค์ไอติมพวกนี้จะขอเดินไปซื้อขนมเซเวนมากินบนห้องกันต่อ

น้ำผลไม้รวม (ซ้ายบน), น้ำมะพร้าว (ขวาบน), น้ำส้ม (ซ้ายล่าง) และน้ำสัปรด (ขวาล่าง)

น้ำมะม่วง (ซ้ายบน) น้ำแอปเปิ้ล (ขวาบน) น้ำกีวี่ (ซ้ายล่าง) และน้ำแตงโม (ขวาล่าง)

อิ่มกันแล้วก็หนีกลับขึ้นห้อง ไปนอนพักให้สบาย เพราะห้องสวยมาก และสบายมากจริง ๆ แต่ขอยกไปรีวิวให้ชมในเอนทรี่หน้านะคะ ..... ขอบคุณที่รับชม

เรื่องที่เกี่ยวข้อง ::

เที่ยวพัทยา ตอน 1 :: แวะซิลเวอร์เลค แล้วไปหาอะไรกินที่ The Lake Restaurant at Ramayana Water Park Pattaya

เที่ยวพัทยา ตอน 2 :: ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น ต้องหมุนไปเล่นน้ำ ที่สวนน้ำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย "รามายณะ วอเตอร์ พาร์ค"

เที่ยวพัทยา ตอน 3 :: Dinner หรูดูแพง @ Marine Beach Hotel Pattaya

เที่ยวพัทยา ตอน 4 :: Review ห้องพัก Marine Beach Hotel Pattaya

เที่ยวพัทยา ตอน 5 :: Review บุฟเฟ่ต์ อาหารเช้า Marine Beach Hotel Pattaya

เที่ยวพัทยา ตอน 6 (จบ) :: จับหลานเข้ากรงเสือ ....Tiger Park Pattaya

สายลม ที่ผ่านมา

 วันพุธที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 10.51 น.

ความคิดเห็น