ช่วงเวลา 28 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน 2014



สวัสดีค่า

การเที่ยวฮ่องกงครั้งนี้ เป็นการเที่ยวด้วยตัวเองครั้งแรกเลยค่ะ และตั้งใจมากที่จะกลับมารีวิว แต่ก็มีบางช่วงเหนื่อย เพลีย และขี้เกียจหยิบกล้อง อาจมีภาพไม่ครบ ก็อย่าว่ากันน๊าาา....

ก่อนจะตามตาลไปตะลุยเที่ยวฮ่องกง มาสรุปค่าใช้จ่ายทริปฮ่องกง 5 วัน 4 คืนกันก่อนเลย (ขอสรุปเป็นตัวเลขกลมๆน้า)

- ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ Hong Kong Airline : 5,900 บาท

- บัตรเข้าสถานที่ต่างๆ(Sky100 480.-,Disneyland 1680.-,กระเช้านองปิงแบบคริสตัล 780.-,one2free sim 360.-) : 3,300 บาท

- ค่าที่พัก H.K. Taisan Guesthouse (Harilela Branch) 550 HKD/คืน ทั้งหมดสี่คืนตกคนละ : 4,600 บาท

- ค่ากิน+ค่าเดินทาง (octopus ใช้ไป 190 HKD) : 4,550 บาท

รวมค่าใช้จ่ายทั้งทริป 5 วันที่ฮ่องกงคือ 18,350 บาท (ไม่รวม shopping นะคะ)

::รู้ค่าใช้จ่ายแล้ว ต่อมาเรามาดูกันค่ะ ว่าตาลเตรียมตัวอย่างไรบ้าง::

A...ตั๋วเครื่องบิน...

ตาลจองตั๋วตั้งแต่พฤษภาค่ะ จองล่วงหน้านานมาก รอจนหายตื่นเต้นไปเลย 555 พอดีเปิดเข้าไปดูมีตั๋วราคาโปรพอดี เลยตัดสินใจจองเลยค่ะ จองตรงกับสายการบินฮ่องกงแอร์ไลน์ ราคาโอเค เวลาบินก็ถูกใจ ได้ไฟล์บินดึกถึงเช้า ไปถึงพร้อมเที่ยวเลย ขากลับเครื่องออกห้าโมงเย็น เรื่องตั๋วเครื่องบินนี่ตาลว่าเส้นทางฮ่องกงมีสายการบิน full service จัดโปรบ่อยเหมือนกันนะคะ ช่วงก่อนตาลไปสักสองสามเดือนมีโปรของ Emirate ราคาอยู่ที่หกพันกว่าบาท แต่เวลาบินอาจไม่สวยมาก แต่ถ้าตาลยังไม่ได้จองกับฮ่องกงแอร์ไลน์ก็คงเป็นเจ้านี้แหละค่ะ ใครวางแผนจะไปเที่ยวก็ลองเข้าเวปไปดูบ่อยๆก็ได้ มีโปรมาปุ๊บจะได้สอยเลย หรือติดตามเพจต่างๆที่มีการแชร์ข้อมูลข่าวสารตรงนี้ก็ได้นะคะ อันนี้ก็รู้เร็วดี ไม่ต้องไปนั่งเข้าเวปเช็คบ่อยๆ

B...ที่พัก...

หลังจากได้ตั๋ว ก็หาที่พักอย่างด่วน ดูรีวิวเยอะแยะไปหมดค่ะ ตอนแรกจะจองที่ Hop inn แต่ราคาตอนนั้นสูงเหมือนกัน ไปๆมาๆ สรุปได้ที่ H.K. Taisan Guesthouse (Harilela Branch) 550 HKD/คืน จ่ายมัดจำผ่านทาง Paypal 800 HKD (ค่าธรรมเนียม 40 HKD) ที่เหลือจ่ายวันเข้าพัก

C...บัตรเข้าสถานที่ต่างๆ...

ตาลซื้อไปจากที่ไทยเลยค่ะ ไม่อยากไปเข้าแถวรอซื้อตั๋ว อย่างดิสนีแลนด์ แนะนำให้ซื้อไปเลยเถอะค่ะ ตาลไปถึงน่าจะสิบโมงกว่า คนมากันเพียบ คิวยาวมาก ซื้อไปเข้าได้เลย ไม่เสียเวลา สบายใจ กระเช้านองปิงอีก ซื้อไปก่อนดีที่สุด ตาลไปถึงนองปิง ช่วงเวลาที่กระเช้ายังไม่เปิดให้บริการนะคะ แต่เริ่มมีคนมาเข้าแถวแล้ว แต่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ซื้อบัตร.... ส่วนจะซื้อกับเจ้าไหน แล้วแต่เพื่อนๆสะดวกเลยค่ะ เลือกตามใจชอบเล้ยยย

อ่อ.. ซื้อซิมจากไทยไปเลยก็ดีนะคะหรือจะไปซื้อที่สนามบินที่นู้นก็ได้ แต่พอดีไฟท์ตาลถึงสนามบินเช้ามาก ร้านขายซิมยังไม่เปิด เลยซื้อจากไทยไปเลย ตอนซื้อแจ้งเอเจ้นเจ้าที่เราซื้อด้วยนะคะ ว่าเป็นซิมแบบไหน ของตาล i phone 5s ซิมนาโน เค้าก็จะตัดซิมมาให้พร้อมใช้งานเลย สะดวกมากๆ ไปถึงก็เปลี่ยน กดรหัสตามที่เอเจ้นบอกแล้วก็ใช้งานได้เลย ตาลถูกใจเนตที่ฮ่องกงมาก เล่นเท่าไหร่ไม่มีหมด ความเร็วโอเคมากๆเลย แนะนำๆ

ตาลสมัครแบบ 7 วัน เพราะ 5 วันไม่มี แถมสมัครแล้วมีเงินเหลือไว้โทรกลับไทยได้ด้วยค่ะ


D...ที่ฝากรถสำหรับใครที่ขับรถไปเอง...

พอดีตาลต้องขับรถไปเอง ตอนแรกว่าจะจอดสนามบิน แต่ลองหาไปหามาเจอเจ้านี้ แถมราคาไม่แพงอีก ไม่รีรอ รีบจองรีบจ่ายเงินเลยค่ะ ที่นี่เลย http://siamautoparking.com/ วันละ 150 บาท ถูกมากก แต่ที่จอดมีไม่เยอะนะคะ ใครสนใจต้องจองล่วงหน้า คือโอนเงินไปจองที่ไว้ค่ะ

ตาลจองล่วงหน้าประมาณเดือนนึง ที่จอดเป็นโรงจอดรถ ประตูปิดมิดชิด คือเป็นโรงจอดสี่เหลี่ยมปิดทึบ มีคนเฝ้าตลอด ที่นี่เค้าจะบริการไปส่งไปรับเราด้วยนะคะ พอจอดรถเสร็จเค้าก็จะขับรถไปส่งเรา ส่วนวันกลับ เราก็โทรศัพท์ให้พี่เค้ามารับค่ะ ที่จอดรถใกล้สนามบินมากๆ ขากลับโทรไปแปบเดียวก็มาถึงแล้ว (หัวค่ำวันเสาร์รถไม่ติดด้วยค่ะ) สำหรับตาล ตาลว่าที่นี่โอเคมากๆเลย เดี๋ยงสงกรานต์จะไปญี่ปุ่น คงจะฝากที่นี่เหมือนเดิม ยังไงก็ลองดูไว้เป็นตัวเลือกหนึ่งนะคะ ส่วนจะใช้บริการกับเจ้าไหน หรือจะจอดสนามบินก็แล้วแต่สะดวกเลยจ้า

E...แลกเงินฮ่องกง...

ตอนแรกฝากพี่สาวไปแลกที่ซุปเปอร์ริชค่ะ ได้เรท 4.16 แต่พอไปถึงสนามบินคิดว่าไม่พอแน่ๆ เลยแลกเพิ่มที่ร้าน Value Plus ค่ะ ได้เรท 4.18 ก็ถือว่าโอเค ดีกว่าแลกธนาคาร ใครแลกเงินไปไม่พอ หรืออยู่ต่างจังหวัดไม่สะดวกมาแลกร้านถูกๆ แนะนำเจ้านี้เลยค่ะ

อ่อ ตอนนี้มีบริการ นำเงินมาให้ที่เคาร์เตอร์เช็คอินด้วยนะคะ วันนั้นตาลก็โทรไปให้เจ้าหน้าที่นำเงินมาให้ แต่ถ้าจะแลกคืนต้องไปที่เคาเตอร์เองค่ะ หาไม่ยาก เพราะวันกลับ ตาลก็ไปแลกคืน เดินตามรูปนี้เลย

*สามารถโทรไปจองเงินได้ด้วยนะคะ ขั้นตอนตามภาพเลยค่ะ


F...สภาพอากาศและการแต่งกาย...


สามารถโหลด app >> MyObservatory มาเช็คสภาพอากาศได้เลยค่ะ พอรู้ว่าอากาศเป็นยังไง ก็จะจัดการเรื่องเสื้อผ้าได้ง่ายขึ้นนะคะ

G...การเดินทางโดยรถบัส...

แนะนำเช็คจากเวปโดยตรงได้เลยค่ะ ดีมากๆ http://www.nwstbus.com.hk/home/default.aspx?intLangID=1


H...การเดินทางโดย MTR...

สามารถเช็คกับเวปของ MTR ได้โดยตรงเลยค่ะ ดีมากๆเหมือนกัน http://www.mtr.com.hk/en/customer/main/index.html เวปนี้ส่วนใหญ่ตาลจะใช้ตอนจัดตารางเที่ยวค่ะ พอไปถึงไม่ได้ใช้เลย เพราะหาข้อมูลเตรียมไปพร้อมหมดแล้ว

**ข้อแนะนำสำหรับใครที่จะเที่ยวด้วยตัวเอง อยากให้อ่านเยอะๆ หาข้อมูลเยอะๆ หากไม่รู้ หรือไม่มั่นใจในข้อมูล ก็ถามค่ะ ถามในนี้แหละ มีเพื่อนๆรอตอบอยู่เพียบเลย และอยากให้เตรียมข้อมูลให้พร้อม *ขอดีคือเราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเปิดเนตหาข้อมูล หาข้อมูลระหว่างเที่ยวเสียเวลาเยอะเหมือนกัน เตรียมข้อมูลไปเลยค่ะ อยากไปไหน ต้องนั่งรถอะไร ลงสถานีไหน ออกทางออกไหน สุดท้ายเตรียมไปแล้ว ถ้าหลงก็คือหลงค่ะ หลงก็ถาม มีเนตก็เปิดหาข้อมูลเพิ่ม ตาลทำตารางเที่ยวไปพร้อม แต่พอไปหน้างานก็มีเปลี่ยนแปลงบ้าง มีหาข้อมูลเพิ่มบ้าง แต่รู้สึกว่าการเตรียมไปพร้อมมันมีประโยชน์มากๆ

....การเที่ยวไม่ได้สนุกแค่ได้เที่ยวนะคะ แต่เริ่มสนุกตั้งแต่เริ่มคิดจะเที่ยวแล้ว โดยเฉพาะการทำตารางเที่ยว อันนี้สนุกมาก....

*** ตาลหาข้อมูลทั้งหมดจากอินเตอเนต บวกกับดูหนังสือด้วยนิดหน่อย แต่ส่วนใหญ่มากจาก Pantip และเวปไซต์ต่างๆ

ในเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ววววว ไปเที่ยวฮ่องกงกันเล้ยยยยยย



28 ตุลาคม 2014

BKK 02:20 – HKG 05:50 HK774

- ตอนจองเค้ามีให้เลือกที่นั่ง ตาลเลือกไป 36A 36C ค่ะ แต่พอไปเช็คอิน เจ้าหน้าที่บอกไม่มีการบุ๊คที่นั่ง ก็ไม่เป็นไรค่ะ เลยบอกเจ้าหน้าที่ว่าขอนั่งริมหน้าต่าง ก็ได้ตามนั้น แถมได้อัพเกรดนิดนึง ได้นั่ง Emergency seat จนท.บอกว่าที่ตรงนี้ต้องจ่ายเงินเพิ่มนะจ๊ะ แต่นี่เราให้คุณฟรีค๊า 555ก็ได้ที่นั่งเป็น 56A 56C (flight นี้มีแต่คนจีนค่ะ คือเราแทบไม่เห็นคนไทยเลย เห็นมีสองคนตอน จนท.เรียก ผดส. bussiness class ที่เหลือเท่าที่เราเห็นเป็นทัวร์จีนทั้งนั้นค่ะ เยอะมากก (อยากบอกว่ามารยาทไม่ค่อยดีเลย ไม่ประทับใจสุดๆ) ขึ้นเครื่องไป แอร์ดูเหนื่อยมากกก แถมต้องสู้รบกับคนจีนอีก คือเดินไม่หยุด วุ่นวายสุดๆ สงสารแอร์มากค่ะ (flight นี้เครื่องดีเลย์นิดหน่อย) อาหารมือเช้ามืดแบบนี้เป็นขนมปังใส้หมูค่ะ หมูนี่เหมือนหมูเด้งปรุงรสอ่ะค่ะ ไม่ได้ถ่ายรูปมา พอดีเวียนหัวมาก โชคดีพกยาดมไปด้วย (แนะนำเลยค่ะ พกไปเถอะ ถ้าไม่ได้ใช้ก็เก็บไว้ ถ้าได้ใช้นี่ช่วยได้เยอะมากๆเลยนะคะ) สาเหตุที่เวียนหัว จะอ้วกตลอดทั้งไฟท์เลยคือ กัปตันขับเครื่องบินแบบวูบขึ้นวูบลงอ่าค่ะ บอกไม่ถูก มันไม่ได้บินนิ่งๆ คือไม่ทราบสาเหตุนะคะว่าเพราะอะไร แต่เครื่องบินเดี๋ยววูบขึ้น วูบลงค่ะ วูบแบบนิดๆหน่อยๆนะคะ ไม่ได้วูบสูง ลงต่ำมาก แต่เวียนหัวสุดๆ หลับๆตื่นๆตลอดเลย สรุปเช้านั้นเพลียมากค่ะ


พอลงเครื่อง ( Terminal 1 ) เดินตามป้าย Immigration ผ่านตม.จะถึง Arrival Hall (ก่อนถึงทางออกสามารถหยิบแผนที่ได้ที่ศูนย์บริการนทท.)จัดแจงเปลี่ยนซิมโทรศัพท์ สมัครแพกเกจ ก็ใช้งานได้เลยค่ะ และก็ไปซื้อบัตร Octopus Card ที่ AE Counter ตาลซื้อ 150 HKD และเดินตามลูกศรไปที่ To City พอสุดทางก็เดินต่อโดยตามป้าย Bus ดูป้ายจุดขึ้นรถบัส A21 หาไม่ยากเลยค่ะ เดินตามป้าย สบายมาก ขึ้นรถบัส A21 เพื่อไปที่พักของเรา H.K. Taisan (Harilela branch) ไปลง Tsim Sha Tsui St. (ลงป้ายที่ 13 Cameron Road, Nathan Road) ไม่ต้องห่วงด้านหน้ารถมีชื่อสถานีบอกตลอดว่าสถานีต่อไปคือที่ไหน นั่งชิลล์ๆ ชมวิวบ้านเมืองเค้าสบายๆค่ะ


**ขอเล่าเรื่อง ต.ม. ฮ่องกงนิดนึง เกือบไม่ได้เข้าประเทศเค้าแย้ววว 555 วันนั้นคนจีนไปเที่ยวเยอะมากค่ะ คนจีนผู้หญิงสามคนก่อนหน้าตาล โดนถามนานเหมือนกันค่ะ พอถึงคิวตาล เหอะๆ จะรอดหรอคะ นานกว่าสามสาวจีนอีกค๊า 5555 ตอนนั้นใจไปอยู่ตาตุ่มเลยจริงๆ จนท. เค้าถามว่า มากี่วัน (ถามสองรอบ) ชื่ออะไร นามสกุลอะไร มากับใคร พอดีตาลไปกับสามีค่ะ ต.ม. ตรวจอยู่ข้างๆพอดี พอเค้ารู้ว่ามากับสามี เค้าก็ขอ Passport ของสามีมาดูค่ะ ตอนแรกตาลก็บอกไปแล้วว่า my husband เค้าก็ถามย้ำอีกว่า เพื่อน หรือสามี ตาลมีไปเที่ยวญี่ปุ่น เค้าคงดูว่ามีไปญี่ปุ่นเหมือนกันมั้ยนะคะ จนท.เค้าดูหน้า passport ทุกหน้าเลยค่ะ และเค้าก็ขอเอกสารการจองตั๋วเครื่องบินไปกลับจากสามี จริงๆตาลก็เตรียมไปแต่เค้าไม่ได้ขอจากตาล จนท.ดูทุกแผ่นเลย แล้วก็มองหน้าเรา ดู passport คือคงกำลังคิดจะยังไงดีน้อ ตอนนั้นใจไม่ดีมากๆ คือเราก็ไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ตอนนั้นเนอะ อาการกลัวน่าจะเป็นเรื่องปกตินะ สุดท้ายก็ผ่านมาได้ โล่งอกสุดๆค่ะ ยังไงก็อยากให้เพื่อนๆเตรียมตัวไปให้พร้อมกับทุกสถานการณ์นะคะ สู้ๆ

มาต่อๆ การเดินทางไปที่พัก H.K. Taisan Guesthouse (Harilela branch) (Harilela mansion 81)

พอถึงป้ายที่ 13 ลงรถ แล้วก็เดินไปตามทางรถบัสวิ่งค่ะ เดินไปไม่ไกลจะเจอสี่แยก ตามภาพ เราเดินไปข้ามทางแยกที่เค้ามีสัญญาณคนข้ามเลย ข้ามไปอีกฝั่งนึง ข้ามไปปุ๊บ ซ้ายหันเลยค่ะ แล้วเดินตรงไปเลย จะเห็นป้าย Emperor ชัดแจ๋วมาก ตึก Harilela mansion 81 จะอยู่ติดกับ Emperor เลย แต่จะถึงก่อนนะคะ พอเจอแล้ว ก็เดินขึ้นไปเลยค่ะ ชั้น 9 ลิฟต์ที่จะขึ้นไปยัง H.K. Taisan Guesthouse ใช้ได้สองตัว ลิฟต์ใหม่ค่ะ คนก็ใช้ไม่เยอะ พอถึงก็ตามภาพเลยค่ะ ตาลไปเช้ายังไม่ถึงเวลาเช็คอิน แต่ได้ส่งเมลล์ไปบอกคุณเคนแล้วว่าจะขอฝากกระเป๋า ไปถึงก็ชำระเงินที่เหลือกับแม่บ้าน และฝากกระเป๋าค่ะ


เรามาดูที่พักตั้งแต่เปิดประตูเข้าไปเลยดีกว่าเนอะ ตามภาพเล้ยย ในภาพก็จะเป็นโถงเล็กๆก่อนเข้าสู่ตัวห้องค่ะ มีกล้องวงจรปิด มีโซฟา และก็มีน้ำไว้ให้บริการด้วยนะคะ ตาลกรอกใส่ขวดก่อนออกไปเที่ยวทุกเช้า ประหยัดไปได้เยอะเลย

ตาลได้ห้องเบอร์ 910 บรรยากาศภายในห้องดูภาพประกอบได้เลยค่ะ จะว่าเล็กมันก็เล็ก แต่สำหรับตาลเพียงพอต่อการใช้งานค่ะ ใต้เตียงสามารถเอากระเป๋าใส่ไปได้ ของทุกอย่างมีครบเลย ผ้าเช็ดตัว(เปลี่ยนทุกวัน) ไดร์เป่าผม สบู่ แชมพู แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ปลั๊กก็ไม่ต้องใช้หัวแปลงค่ะ เสียบได้เลย แม่บ้านจะมาทำห้องให้ทุกวัน *และที่สำคัญมีอินเตอเนตให้ใช้ในห้องพักค่ะ

ส่วนทางออก MTR ที่ใกล้ที่พักที่สุดคือ Tsim Sha Tsui Exit C2 ค่ะ ใกล้มากกก ขึ้นมาก็จะเจอป้าย Emperor เดินตรงไปนิดเดียวก็จะเจอ Harilela mansion แล้วค่ะพอฝากกระเป๋าเรียบร้อย ก็เดินทางตามรอยพันติ๊บไปหาร้านโจ๊กเจ้าอร่อยทันที


ชื่อร้าน : Hung Lee

ที่ตั้ง : Shop A, 2 Hau Fook Street, tsim sha tsui

เปิดบริการ : 8:00 - 22:00

การเดินทาง สถานี Tsim Sha Tsui ทางออก B2 (ขอบคุณข้อมูลนี้จากเพื่อนๆใน pantip ค่ะ)

เมนูที่สั่งมีโจ๊กไข่เยี่ยวม้า โจ๊กตับไก่-ตับหมู ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ (ร้านนี้มีเมนูเป็นภาษาไทยนะคะ ขอเมนูเค้าได้เลย)

เนื้อโจ๊กนุ่มมากกก ชอบค่ะ ไข่เยี่ยวม้าอร่อย ตับหมูก็อร่อย ชอบๆ ไม่แข็ง ไม่นิ่ม พอดีสุดๆ และไม่คาวด้วย อีกอย่างคือน้ำเต้าหู้ รสชาตกลมกล่อมดี แต่ปาท่องโก๋ไม่ถูกใจ แข็งไปหน่อย

หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จก็ไปช็อปปิ้งค๊า... ใกล้ๆที่พักมีร้านเพียบเลย Sasa , Bonjour, Goodyear(ร้านนี้ไม่ค่อยมีคนพูดถึง แต่ของก็ขายเพียบเช่นกัน) ช็อปกันได้ตามสบายเลยค่ะ ไม่ต้องถามหาพิกัด เพียงแค่กวาดสายตาหน่อย เจอจริงๆค่ะ เยอะมาก ช็อปเสร็จก็ได้เวลาเข้าที่พัก เอาของไปเก็บ เข้าห้องเรียบร้อย นอนพักสักงีบนึง เพราะบนเครื่องหลับๆตื่นๆตลอดเลย

...ต่อไปก็ได้เวลาไปรอถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกสวยๆ แถว harbour city และ Avenue of star....

จาก H.K. Taisan Guesthouse เดินทางไปยัง Avenue of star

เดินลงมาจากที่พัก หันขวา เดินยาวไปสุดตึกเลยค่ะ แล้วข้ามถนน ก็จะเจอ Avenue of star และจุดชม Symphony of light ถ้าเดินไปทางขวา ยาวๆเลย ก็จะเป็น Harbour city ค่ะ

แสงสีทองช่วงพระอาทิตย์กำลังจะตก สวยมากๆเลยค่ะ

ตาลอยู่ตรงนี้นานมากๆค่ะ คือมารอถ่ายแสงเย็น และลากยาวไปถึงดู Symphony of light เลย

เริ่มเปิดไฟแล้ว


29 ตุลาคม 2014

ที่แรกคือ Nan Lian Garden

การเดินทาง

ถึงสถานี Diamond Hill ออก Exit C2 จะเจอ Plaza Hollywood เดินเลี้ยวขวาออกมาจะเจอป้าย เดินไปตามป้ายเลยค่ะ

*** ขอแจ้งนิดนึงว่า สะพานแดงและศาลาสีทองกลางน้ำปิดปรับปรุงจนถึง 31 มกราคม 2015 นะคะ แต่บริเวณอื่นยังเปิดให้เข้าได้ปกค่ะ

สวนสวยดีค่ะ ร่มรื่น อากาศดี ลมเย็นสบาย

ใกล้ๆกันก็จะเป็น Chi Lin Nunnery

ที่ต่อไปคือ Wong Tai Sin Temple

จากสถานี diamond hill นั่งมาอีกสถานีนึงค่ะ มาลงที่สถานี Wong Tai Sin ทางออก B3 ออกจากสถานีเลี้ยวขวาเดินขึ้นบันไดจะเจอลานกว้าง และก็ถึงจุดหมาย

หลังจากนั้นเราก็ไป Che kung Temple

การเดินทาง

ถึงสถานี Che Kung Temple ออก Exit B เลี้ยวซ้ายเดินลง Subway สุดทางเลี้ยวขวา ออกจาก Subway ตรงไป 100 ม.จากนั้นจะเจออุโมงค์เพื่อใช้ลอดข้ามถนน ลงอุโมงค์ขึ้นมาเดินไปอีกสักพักจะเจอวัด สำหรับตาล...ตรงนี้ตาลว่าเดินเหนื่อยค่ะ อากาศเย็นๆ แต่แสงแดดแรงค่ะ

หลังจากเที่ยวมาสามที่ติดก็กลับมาเริ่มต้นที่ Tsim Sha Tsui ค่ะ ว่าจะหาขนมหวานกิน ไปเจอร้านนี้ 許留山 Hui Lau Shan

การเดินทาง ถ้าเริ่มจากหน้าที่พัก เดินข้ามถนน หันซ้ายนิดนึง จะเจอถนนเล็กๆขวามือ เดินตรงเข้าไปเลยค่ะ เดินไปปุ๊บก็จะเจอร้านเลย อยากบอกว่าซอยตรงนั้นของกินเพียบ เดินเลือกเลย งานนี้อย่าเท้าตายค่ะ เดินๆๆๆ อิอิ

ขอบอกว่า....อร่อยยยย สั่งเลยค่ะ มีหลายอย่างให้เลือก ไปแล้วต้องกินค่ะ อร่อยจริงๆ เห็นแล้วอยากกินอีก อิอิไปต่อกันที่ Sky100


การเดินทาง

นั่ง MTR ไปลงสถานี Kowloon ทางออก Exit C1 / D1, 2/F, Metal Zone, Element

เราจะมารอถ่ายแสงเย็นกันค่ะและอยู่จนตึกเปิดไฟเลย (น่าเสียดายวันที่ตาลไปทางฝั่งตะวันออกเขาปิดไม่ให้เดินไป เพราะมีการจัดงาน) ก่อนจะไป Sky100 เช็คก่อนนะคะว่าปิดรึเปล่า

คืนนี้เราจะไปหาอะไรอร่อยๆกินกันที่ Temple Street ค่ะ


การเดินทาง

นั่ง MTR ลงสถานี Jordan ทางออก A ออกมาแล้วเจอถนน Jordan เดินไปทางขวายาวมาเรื่อยๆ ไม่ไกลค่ะ จะเห็นประตูทางเข้าเสาใหญ่ๆ นั่นแหละค่ะถึงแย้วว เลี้ยวขวาเข้า Temple Street ได้เลย ของกินเพียบ เลือกตามชอบเลย วันนี้ตาลกับสามีตั้งใจจะไปกินนกพิราบย่าง (ดูมาจากรายการทูไนท์โชว์ แต่ไม่แน่ใจว่าร้านเดียวกันรึเปล่า)

นกพิราบย่าง อันนี้ถูกใจสามีมากกกก เลยให้กินไปคนเดียวเลย 555 มันมีกลิ่นเหม็นสาบ ตาลไม่ชอบกิน แต่เค้าให้เกลือผสมพริกไทยมาจิ้มนะคะ ก็หายเหม็นสาบค่ะ แต่พอจิ้มก็เหมือนกินเกลือ มันเค็ม อิอิ แต่ถ้าถามว่าอร่อยมั้ย ... อร่อยค่ะ ติดนิดเดียวจริงๆ นี่กลับมาคุณสามียังเรียกร้องอยากจะกินอีกนะคะเนี่ย จะไปหาที่ไหนให้ได้ละค๊า....

และก็สั่งอย่างอื่นมาอีกสามอย่าง อร่อยทุกอย่างนะคะ มื้อนี้สนนราคาที่ แปดร้อยบวกๆ อร้ายยยย...แพงมากค่ะ

อิ่มท้องแล้วก็กลับห้อง พักผ่อนเตรียมลุยวันพรุ่งนี้ต่อวันที่สาม 30 ตุลาคม 2014


วันนี้ช่วงเช้าเราไปนองปิงค่ะ ตอนเช้าฝากท้องกับ Mac ที่ Citygate outlets

การเดินทาง

นั่ง MTR ลงสถานี Tung Chung เดินออกมาก็จะมีป้ายชี้ให้เราเดินไปที่กระเช้า

ตาลไปถึงยังไม่ถึงเวลาเปิด แต่เริ่มมีคนแล้วค่ะ มีเจ้าหน้าที่มาจัดระเบียบอยู่ด้านล่าง สักพักก็ปล่อยขึ้น ขึ้นบันไดเลื่อนไปเข้าแถวอีกรอบ ตรงนี้จะแยกแถวแล้วค่ะว่าใครซื้อตั๋วมาแล้ว ใครยังไม่ซื้อ ต่อคนละแถว พอเจ้าหน้าที่เปิดก็นำตั๋วไปแลกบัตรขึ้นกระเช้า และก็เดินไปเข้าคิวรอขึ้นกระเช้าได้เลย ขาไป จนท. จะให้นั่งกันหลายคนค่ะ กระเช้าตาลมีตั้งหกคนแน่ะ หรืออาจเป็นเพราะวันที่ตาลไปคนเยอะด้วยแหละค่ะ แต่ขากลับคนน้อยนั่งกันสี่คน

ไปถึงด้านบน แดดเปรี้ยงเลยค่ะ ลมเย็นนะคะ แต่แดดนี่แรงมากกกก


เดิน เดิน เดิน ขึ้นไปข้างบนค่ะ รู้อย่างถ่องแท้สังขารไม่ไหวจริงๆ พักตลอดทางเลย 5555


ฮึบๆ อีกนิดเดียวก็จะถึงแล้ววว ไม่ได้เหนื่อยนะคะ หยุดถ่ายรูปเฉยๆ อิอิ


ข้างบนอากาศดีมาก แต่อย่าไปยืนตรงแดดนะคะ อิอิ หลบตรงเงาองค์พระใหญ่ค่ะ ยืนชมวิว ลมเย็นสบาย


ยังอยู่ที่นองปิง แต่เป้าหมายต่อไปของเราคือ Honeymoon Dessert หาหนมหวานกินกัน

อย่าถามชื่อค่ะ จำไม่ได้ 5555 จำรูปไปค่ะ สั่งเลยอร่อยจริงๆ (ออกตัวก่อน สำหรับตาลอร่อยมากค่ะ แต่แต่ละคนก็ชอบไม่เหมือนกันเนอะ แต่ยังไงไปแล้วลองดูสักนิดก็ไม่เสียหาย เนอะๆ)

นำเสนออันนี้ ชอบเป็นพิเศษ เนื้อแป้งที่หุ้มมะม่วงนุ่มมากกกก อ๊ากกก อยากกินอีก อร่อย

อิ่มหนมหวานแล้วก็บ๊าย บายนองปิง ไปหาข้าวกินที่ citygate กันต่อ ตาลไปกินที่ Foodrepublic ใน Citygate ค่ะ ราคาไม่แพงแถมอร่อยด้วย สั่งข้าวกับไก่ต้ม หน้าตาเหมือนไก่ต้มบ้านเราเลย แต่ๆๆ.... ไก่เนื้อนุ่มมากค่ะ นุ่มมากจริงๆ ยังติดใจอยู่เลย อยากกินอีก แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา เพราะ...หิวมากกก อิอิหลังจากนั้นรีบบึ่งไป The Peak ตาลนั่ง Bus 15 ขึ้น The Peak

นั่ง MTR ไปลงสถานี central ทางออก A ออกไปข้างนอกจะเห็นบันไดเลื่อน ขึ้นบันไดเลื่อน เดินไปลงอีกฝั่ง ลงบันไดเลื่อน เดินอ้อมบันไดเลื่อนไปด้านหลัง เลี้ยวซ้ายและเดินตรงไป จะเจอป้ายรอรถบัสค่ะ ยืนรอตรงป้ายเลข 15 ตาลนั่งด้านหน้าสุดชั้นบน อยากบอกว่าน่ากลัวมากกกก ตอนขึ้นเขา วิวสวยมากค่ะ แต่ตาลกลัวมาก ไม่กล้ามองเลย ไม่กล้าถ่ายรูปด้วย เลยไม่มีรูปสวยๆมาฝากเลย เสียดายเหมือนกัน

อ่อ..ช่วงเย็นๆ รถติดนะคะ นิดนึงก่อนขึ้นเขา ตาลไปช้า เจอรถติด เกือบไม่ทันแสงเย็น รีบแทบตายค่ะ

พอถึงข้างบน ตาลไปถ่ายรูปตรง Lugard road นะคะ เดินประมาณ 20 นาที ทางเดินเป็นแบบในภาพ

คือจุดถ่ายรูปนี่ก็บอกไม่ถูกจริงๆ มันไม่มีสัญลักษณ์อะไรบอกเลย แต่ตรงนั้นเวลาตั้งกล้องจะไม่มีต้นไม้บังค่ะ

เดินไปกลางทางเห็นมีการร่วมลงชื่อคัดค้านการสร้างรีสอร์ทตรงทางเดินนี้ คือถ้ามีการสร้างรีสอร์ท ก็จะไม่มีทางเดินนี้ ไม่มีจุดถ่ายรูปตรงนี้อีกแล้วค่ะ

ขากลับตาลก็ไปเซ็นชื่อกับเค้าด้วยค่ะ อิอิ ตรงนั้นวิวสวยจริงๆ ไม่อยากให้ทางเดินนี้หายไปเลยวิว The Peak ตรงจุดที่ตาลไปถ่ายรูปค่ะ

ตึกเริ่มเปิดไฟแล้วค่ะ แต่หมอกเพียบเลย อากาศเย็นมาก แนะนำใส่เสื้อหนาๆนิดนึงนะคะ

อยากบอกว่าวิวสวยมากกกกก ชอบที่นี่มากๆค่ะ

ขากลับว่าจะนั่ง Tram ค่ะ แต่...คนเยอะมากกก กลับบัสเหมือนเดิมนั่นแหละดีแล้ว คราวนี้นั่งข้างล่าง นั่งข้างบนไม่เอาแล้ว กลัว 5555ลงจาก The Peak ก็ไปหาอะไรอร่อยๆกินที่ Temple Street เช่นเคยค่ะ วันนี้เปลี่ยนร้าน ราคาไม่แพงเลย อร่อยด้วยค่ะ

และร้านนี้ คือตั้งใจตั้งแต่ครั้งแรกที่มาว่าจะต้องกิน เพราะเห็นมีคนมารีวิวไว้ว่าอร่อย บวกกับคนซื้อกินเยอะมาก อร่อยแน่ๆ แต่...อิ่มค่ะ อิ่มมาก กินไม่ไหวจริงๆ

อิ่มแล้วก็กลับห้องนอนค่ะ พรุ่งนี้ต้องไปลุยดิสนีแลนด์ จะแปลงกลายกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งวันที่สี่ 31 ตุลาคม 2014

วันนี้เราไปตะลุยดิสนีแลนด์กันค๊า...

(กรอกน้ำใส่ขวดจากที่พัก พกกันไปด้วยน๊า ประหยัดได้เยอะเลย มีจนท.ตรวจ เปิดกระเป๋าดูก่อนเข้านะคะ อย่าเอาไปเยอะ อะไรเอาเข้าไม่ได้เค้าหยิบทิ้งลงถังขยะเลยน๊า ตาลคิดว่าน่าจะเป็นพวกของกิน)

ก่อนไปแวะไปทานโจ๊กร้าน Hung Lee อีกรอบ หลังจากที่กินไปแล้ววันแรก

อันนี้แนะนำๆ ต้องกิน อร่อยๆ

เติมพลังแล้วก็ไปลุยดิสนีแลนด์ได้........


การเดินทางก็แสนง่าย นั่ง MTR ไปลงสถานี Disneyland Resort เลยค่ะ ถึงแล้วก็เข้าไปได้เล้ยยยย ตาลซื้อตั๋วมาแล้วก็สบาย ไม่ต้องไปเข้าคิวยาวเหยียดค่ะ (แนะนำว่าให้ซื้อไปจากไทยค่ะ)

อย่าลืมหยิบ Park Map และโบรชัวร์แสดงเวลาโชว์นะคะ หลังจากผ่านประตูตรวจบัตรเข้ามาแล้ว ตาลเดินมาฝั่งซ้าย จะมีเคาร์เตอร์วาง Map ไว้อยู่ อย่าลืมหยิบนะจ๊ะ

แสงเย็นที่ดิสนีแลนด์สวยมากค่ะ พระอาทิตย์ตกหลังปราสาท สวยจริงๆ

Disney Paint the Night Parade และ Disney in the Stars Fireworks สวยมากๆค่ะ ประทับใจมาก

ต้องกลับแล้ว บ๊าย บาย ดิสนีแลนด์ ดินแดนแห่งความสุข


ขอเพิ่มเติมอาหารของวันที่สี่ 31 ตุลาคม 2014

อาหารที่ดิสนีแลนด์ค่ะ ตาลกินแค่มื้อกลางวันมื้อเดียว ราคาแพงมาก เซ็ตนี้ (มีข้าวและน้ำ) ร้อยกว่าเหรียญ ก็น่าจะถึงห้าร้อยบาท แพงเนอะ

หลังจากออกจากดิสนีแลนด์ก็ประมาณห้าทุ่ม ตอนแรกว่าจะไปกินที่ Temple Street แต่ว่ากว่าจะไปถึงก็เกือบเที่ยงคืน เลยกลับไปกินแถวที่พักแทน


ชื่อร้านไม่มีภาษาอังกฤษเลยค่ะ ถ้าออก Tsim Sha Tsui Exit C2 ก็เดินไปสี่แยก แล้วข้ามถนนไปอีกฝั่ง (ฝั่งที่เรานั่งบัสมาจากสนามบิน) ข้ามปุ๊บ หันซ้ายจะเจอถนนเล็กๆ เลี้ยวขวาเข้าไปเลยจ่ะ เข้าไปแล้วข้ามถนนเล็กๆไปอีกฝั่ง เดินเลย MTR ไปก็จะเจอร้าน ตรงนั้นมีอยู่ร้านเดียว คือจริงๆออก MTR ตรงนั้นก็ได้นะคะ ขึ้นมา เดินนิดนึงถึงเลย แต่...ตาลจำไม่ได้ว่า ทางออกไหน (ใครไปแล้วแวะมาบอกหน่อยนะคะว่าทางออกอะไร)

ตอนตาลไปถึงก็จะเที่ยงคืนแล้ว คนเยอะมาก แน่นร้านเลย เหมือนว่าจะเปิด 24 ชั่วโมงด้วยค่ะ ราคาอาหารก็ไม่แพง แถมอร่อยด้วย ดึกๆฝากท้องที่นี่ได้เล้ยยย

อย่าคิดว่าไม่หลงไม่งงนะคะ พอลงรถบัสที่ Tsim Sha Tsui เพื่อจะไปที่พัก อยากบอกว่า งง มึนมากค่ะ แล้วข้อมูลที่หาไปเรื่องที่พัก มันก็เก่าแล้ว รายละเอียดบางอย่างก็เปลี่ยนแปลง ทำให้งงมากค่ะ บวกกับไปเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเองครั้งแรกด้วย



ได้คุณน้าในภาพช่วยไว้ รอดตายค่ะ หาที่พักเจอ งมหากันตรงสี่แยก คืออีกนิดเดียวก็จะถึงแล้ว แต่ด้วยความมือใหม่จริงๆ ไปไม่ถูกเลยค๊าาา คุณน้าท่านนี้เข้ามาให้ความช่วยเหลือพวกเราอย่างด่วนเลย ถามว่าจะไปไหน ตาลเขียนชื่อที่พักและให้ดูที่อยู่ คือเค้าดูที่อยู่ เค้าก็ไม่รู้ คุณน้าเลยบอกว่ามีเบอร์มั้ย เดี๋ยวเค้าโทรไปคุยกับที่พัก คุยเสร็จเค้าก็พาพวกเราเดินไปถึงที่เลย และก็อธิบายการดูทาง ดูถนน แนะนำที่เที่ยว บอกการเดินทาง *เค้าบอกว่าตรงถนน มันจะมีป้ายบอกตัวเลข ให้ดูเลขถนนที่เราจะไป มันจะมีลูกศรชี้ให้ไปซ้าย หรือขวา คือแนะนำดีมากๆ แถมให้ปากกามาด้วย

..ในภาพคุณน้ากำลังเขียนสถานที่เที่ยวและการเดินทางให้ค่ะ..

รู้สึกประทับใจมาก ขอบคุณคุณน้าท่านนี้มากจริงๆ

วิธีพับแบงค์เป็นฮู้ไว้ไปลูบหนวดองค์ไฉ่ซิ้งเพื่อเรียกเงินเรียกทองเข้ากระเป๋า

วันสุดท้ายแล้วววว... 1 พฤศจิกายน 2014


วันนี้ไป Repulse Bay

flight กลับตาล 17:00 น. วันนี้เลยตื่นแต่เช้ารีบไป Repulse Bay ตาลถึงที่นั่น เจ็ดโมงเช้า เร็วมากกก รถไม่ติดเลย

การเดินทาง (ที่เดียวกับรถบัสสาย 15 ไป The Peak)

นั่ง MTR ไปลง Central ทางออก A ไป exchange square ออกไปข้างนอกจะเห็นบันไดเลื่อน ให้ขึ้นบันไดเลื่อน เดินไปอีกฝั่ง ลงบันไดเลื่อน เดินอ้อมหลังบันได้เลี้ยวซ้ายและเดินตรงไปจะเจอป้ายรถบัสค่ะ สามารถนั่งสาย 6 6A 6X 260 (260 รถจะวิ่งเร็วกว่าสายอื่น เพราะจอดน้อยป้ายกว่า) แต่ถ้าไปแต่เช้านั่งสายไหนก็ได้ค่ะ เร็ว รถไม่ติด แต่ถ้าสาย บ่าย เย็น เผื่อเวลานิดนึงนะคะ Repulse Bay เราจะต้องลงป้าย Repulse Bay Beach ดูป้ายไฟที่วิ่งหน้ารถเลยค่ะ พอขึ้นว่า next station Repulse Bay Beach กดออดเลยค่ะ พอลงแล้วก็ข้ามถนน แล้วเดินลงไปที่ชายหาด Repulse Bay พอเดินลงจนเจอหาด สุดทางปูนแล้ว หันซ้าย เดินตรงไปจนสุดหาด ก็จะถึง Kwun Yam Temple (วัดเจ้าแม่กวนอิม)

เจ้าแม่กวนอิม

ด้านหน้าเจ้าแม่กวนอิม มีคาถาสักการะเจ้าแม่กวนอิมเป็นภาษาไทยด้วยค่ะ

ขั้นตอนการสักการะ ก็ยืนในวงกลม (ด้านหน้ารูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม) แล้วมองหน้าท่าน จากนั้นก็อธิษฐานสิ่งที่ต้องการ

** ด้านหน้ารูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม จะมีองค์ไฉ่ซิ้ง (องค์สีดำ) อธิษฐานและนำแบงค์ที่เราพับเป็นฮู้ ลูบตั้งแต่หัวจนถึงเท้าแล้วกำใส่กระเป๋า เป็นการเรียกเงินเรียกทองเข้ากระเป๋าค่ะ (ขอโทษทีค่ะ พอดีตาลไม่ได้ถ่ายรูปมา)

เจ้าแม่ทับทิม


สะพานอายุยืน

ให้เดินข้ามสะพานจะทำให้มีอายุยีนขึ้นอีก 3 ปี แต่ห้ามเดินย้อนกลับบนสะพานนะคะ เพราะจะทำให้อายุสั้นลงอีก 3 ปี

เมื่อลงสะพาน จะพบกับเทพเจ้าที่อยู่ในรูปชายชราถือสมุดสีแดงเล่มใหญ่ นั่นคือเทพเจ้าที่คอยหาคู่ครองให้มนุษย์ ใครมีคู่แล้วก็ไปขอพรให้ความรักยืนยาว ส่วนใครยังไม่มีคู่ ก็เอามือไปลูบที่หินสีดำ ที่เรียกว่าหินหาคู่ ตามความเชื่อลูบแล้วจะพบคู่ค่ะ ขอให้โชคดีมีคู่นะค๊าาา... (เทพเจ้าหาคู่ตาลไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ)

แกะสามตัว เป็นตัวแทนของความรุ่งเรืองและความสำเร็จ

ขอพรเสร็จเรียบร้อยก็เดินทางกลับค่ะ โดยเดินไปยังจุดที่เรามาเลย ขึ้นรถบัสฝั่งตรงข้ามที่เราลง นั่งสายไหนก็ได้ค่ะ (6 6A 6X 260) แต่ถ้ารีบแนะนำให้นั่ง 260 *ช่วงเช้ารถไม่ค่อยติด ถ้าสาย บ่าย เย็น ตาลว่ารถติดแน่นอนค่ะ ยังไงอยากให้คำนวนเวลาดีๆนะคะ ถ้าใครไป Repulse Bay ในวันเดินทางกลับแบบตาล แนะนำให้ออกแต่เช้าค่ะ กันรถติด เดี๋ยวพลาดกลับจาก Repulse bay ก็ไปหาอะไรทานแถวที่พักค่ะ


พวกเราไปกินกันที่ร้าน Yuen Kee Restaurant

การเดินทาง ตาลแนะนำให้เสิร์ชใน google map ค่ะ ใส่พิกัดที่คุณอยู่ ส่วนร้านนี้ตาลหาแล้วมีพิกัดใน google map บอกไว้

** ร้านนี้ตาลเดินเข้าไปตรงซอยฝั่งตรงข้ามที่พักอ่ะค่ะ ที่บอกว่าเข้าซอยนั้นมีของกินเพียบเลย แต่ต้องเดินหน่อยนะคะ เพราะร้านก็ไม่ได้อยู่ติดๆกัน แต่อยู่ระแวกนั้นค่ะ ส่วนเข้าซอยแล้วไปยังไงต่อบอกไม่ถูกเลย เพราะจำไม่ได้ อิอิ

อิ่มท้องแล้วก็ไปช็อปปิ้งทิ้งท้าย ขาดเหลืออะไรเก็บให้หมด


ตาลแวะซื้อขนมแถวซอยนั้นด้วย เข้าซอยเดินตรงยาวเลย ร้านอยู่ขวามือ มีทาตไข่ ขนมปัง (คล้ายยามาซากิ) กะซื้อไปกินก่อนขึ้นเครื่อง

ขนมปัง และทาตไข่อร่อยดี รสชาตโอเคเลย จริงๆเห็นร้านนี้ตั้งแต่วันแรกๆแล้ว พอจะซื้อร้านก็ปิดเสียก่อน ร้านนี้คนเข้าเยอะมากค่ะ แล้วราคาก็ไม่แพง

เสร็จแล้วก็เข้าที่พักไปเช็คเอ้า (ประมาณเที่ยง)การเดินทางกลับ


ขึ้น Bus A21 ด้านหน้าที่พักเลยค่ะ ใกล้มากกกก สะดวกสุดๆ ตาลขึ้นรถประมาณเที่ยงกว่าๆ อยากบอกว่ารถติดมากค่ะ หลับไปหลายตื่นก็ยังไม่ถึง

**แนะนำว่าให้เผื่อเวลารถติดด้วยนะคะ ไม่งั้นตกเครื่องแน่เลย มีผู้โดยสารสองคนพอลงรถปุ๊บวิ่งเลยค๊าาา หวังว่าเค้าจะทัน

พวกเราไปถึงก็เอาบัตร Octopus ไปคืนชั้นล่าง AE Counter ที่เราซื้อในวันแรกแหละค่ะ คืนเสร็จก็ได้เวลาเช็คอินพอดี โหลดกระเป๋าเรียบร้อย ก็นั่งทานขนมและกาแฟก่อนเข้าไปข้างในค่ะ**มีเรื่องเล่า ต.ม. อีกแล้ว นึกว่าจะไม่ได้กลับบ้านเสียแล้ว พอยื่น Passport เจ้าหน้าที่เปิดดู มองหน้า มอง มอง มอง จนตาลต้องถอดแว่นสายตาออกเลย แววตาเค้ากำลังสงสัย กำลังคิด แล้วเค้าก็ถามชื่อ คือสักพักหนึ่งเลย ถึงจะผ่านไปได้ passport อิฉันมีปัญหาแน่เลยค่ะ เหอะๆ กลับแล้วน๊า Bye Bye Hong Kong


ขากลับนั่งที่นั่งปกติค่ะ แจ้งตอนเช็คอินว่าขอริมหน้าต่างก็ได้ตามนั้น (ตาลชอบที่นั่งปกติมากกว่า Emergency Seat อีก ไม่รู้ทำไม)

จากภาพช่องว่างช่วงเข่าเพียบเลย อ่อ ... ตาลสูง 155 นะคะ นั่งสบายมากๆเลย อิอิ

เครื่อง Take off สักพักแอร์ก็บริการอาหารเลยค่ะ ไฟท์ตาลมีให้เลือกสองอย่างคือเนื้อ และไก่ ถ้าเนื้อจะเป็นข้าว ไก่จะเป็นสปาเกตตี้ น้ำดื่มก็จะมีพวกน้ำอัดลม น้ำผลไม้ แล้วแอร์ก็จะมาเดินบริการ ชา กาแฟด้วยค่ะ อ่อ..ขึ้นมาปุ๊บ แอร์ก็จะแจกซองทิชชู่เปียกให้คนละซองเลยค่ะ ทั้งไปและกลับ

ขากลับกัปตันขับนิ่มมากค๊าาา แต่ช่วงจะลงจอด ไม่แน่ใจว่าเพราะอะไรถึงลงจอดไม่ได้ กัปตันประกาศนะคะแต่เบามาก และคนก็คุยกันไม่ได้ยินเลย บินวนที่สุวรรณภูมิหลายรอบเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ


ลงเครื่องรับกระเป๋า หลังจากนั้นก็นำเงินที่เหลืออันน้อยนิดไปแลกคืนที่ Value Plus แล้วก็โทรเรียกให้พี่ที่ siamautoparking มารับ แปบเดียวพี่เค้าก็มาแล้วค่ะ เร็วมากกกก พวกเราก็ขับรถไปรับน้องหมาแถวเพิ่มสิน แล้วก็บึ่งรถกลับบ้านเลย...

กลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ

ทริปนี้จบแบบ Happy ending ค๊าาา... สนุกมาก มีความสุขที่สุด

ใครกำลังวางแผนไปเที่ยว ไม่ว่าจะที่ไหน ขอให้เที่ยวอย่างมีความสุขนะคะ เตรียมข้อมูล เตรียมร่างกายให้พร้อม แล้วก็...ลุยเล้ยย


ว่าแล้วลืมอะไร...ประกันการเดินทาง

อย่าลืมซื้อประกันการเดินทางกันด้วยนะคะ สนใจเงื่อนไขกรมธรรม์เจ้าไหนก็ซื้อเจ้านั้นเลยค่ะ

ส่วนของตาลไปคราวนี้ซื้อของ cigna ไม่ได้ใช้ แต่ถ้ามีเหตุต้องใช้ขึ้นมา คงเบาใจไปได้เยอะ

ราคาประกันการเดินทางที่ครอบคลุมทุกอย่างก็ไม่แพงนะคะ ที่ตาลซื้อสองคนสี่ร้อยกว่าบาท ตกคนละสองร้อยกว่า ถูกมากก....

ซื้อเถอะค่ะ อยากให้ซื้อ มีไว้อุ่นใจมาก

ฝากช่องทางการติดตามด้วยนะคะ เข้ามาพูดคุย แนะนำหรือสอบถามได้ตลอดเลยค่ะ

Facebook > Travel-lism : https://www.facebook.com/2happyjourney












Sabai Sabai Japan

 วันศุกร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2559 เวลา 11.00 น.

ความคิดเห็น