การเดินทางครั้งนี้ ต้องการไปสัมผัสโลกท้องทะเลกันที่เมืองตรังครับ ได้จองตั๋วโปรจากแอร์เอเชีย ทำให้มีโอกาสไปเที่ยว จังหวัดตรัง อีกครั้งครับ เป้าหมายการมาในครั้งนี้คือการดำน้ำตื้น หาปลาการ์ตูนและแวะเที่ยวถำ้มรกต อันสวยงามครับ เนื่องจากผมพักอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟเมืองตรัง ก็เลยเดินซื้อทัวร์ดำน้ำ จากโต๊ะขายทัวร์บริเวณนั้นเลยครับ ประมาณ 800 บาท ครับ เที่ยว 4 ที่ด้วยกัน คือ เกาะมุก เกาะกระดาน เกาะเชือก และถ้ำมรกต รวมอุปกรณ์ดำน้ำ รวมอาหารกลางวัน และรวมรถรับส่งครับ เป็นราคาคนไทยที่ไม่แพงมากครับ

จุดเริ่มต้นแรกก็คือ หาดปากเมง ครับ

อยู่ห่างตัวอำเภอเมืองตรังประมาณ 35 กิโลเมตร เป็นชายหาดรูปพระจันทร์เสี้ยวติดทะเลอันดามัน ของมหาสมุทรอินเดีย เมื่อน้ำลดลงต่ำสุดจะมีความกว้างขวาง 500 เมตร จนสามารถขับรถยนต์ลงไปได้ เพราะทรายมีความหนาแน่นเพียงพอที่จะรองรับน้ำหนักรถได้ มีจุดสังเกต คือ เขารูปคล้ายคนขนาดยักษ์นอนหงายอยู่ มีชื่อเรียกว่า "เขาเมง" หรือ "เกาะเมง" อันที่มาของชื่อเรียก ซึ่งมาจากนิทานพื้นบ้านเรื่องของเฒ่าเมง ผู้เฒ่าชาวประมงที่กำลังจะแต่งงานลูกสาวชื่อ มุก กับพระยาลันตา มีความงามอย่างยิ่งยามพระอาทิตย์ตก ขนาบด้วยแนวต้นสนทะเลยาว 5 กิโลเมตร ถัดออกไปทางอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมยังมีสะพานคอนกรีต 2 แห่ง ที่นิยมใช้เป็นสถานที่ตกปลาอีกด้วย

นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นสถานที่ตั้งของท่าเรือปากเมง ซึ่งเป็นท่าเรือที่รับส่งนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวยังเกาะต่าง ๆ ที่อยู่ในบริเวณทะเลจังหวัดตรัง เช่น เกาะมุก, ถ้ำมรกต, เกาะไหง ซึ่งผมกำลังจะเดินทางกันไปในวันนี้ครับ

ชุดพร้อม เตรียมลงเรือกันครับ

ไกด์ก็ได้อธิบายการใส่เสือชูชีพที่มีความสำคัญมากๆครับ เราต้องตั้งใจฟังให้ดีๆครับ

น้องผมกำลังเครียดมากๆครับ ตั้งใจมากจริงๆ

ผมเดินมาดูหน้าเรือหน่อยครับ คนมุงถ่ายรูปกันเยอะเชียว

ผมขอถ่ายสักใบล่ะกัน

และแล้ว เราก็มาถึงจุดแรก นั้นก็คือ เกาะเชือก-เกาะม้า ครับ มันมีลักษณะ เป็นโขดหิน แหละหน้าผาหินสูงชัน ไม่มีชายหาด หรือบ้านเรือนของผู้คน และชาวประมงอาศัยอยู่บนเกาะทั้งสาม นอกจากมี กระท่อมของคนเฝ้า รังนกปลูกเรียงรายบนโขดหินรอบตัวเกาะ บริเวณรอบเกาะทั้งสามเป็นแหล่งดำน้ำ ชมปะการังชนิดต่างๆ มีทั้ง ปะการังน้ำตื้นและน้ำลึก รายรอบ มีฝูงปลาทะเลสีสันสวยงามนานาชนิด เช่น ปลานกแก้ว ปลาโนรี ปลาสินสมุทร ปลาลายเสือ

เตรียมโดดน้ำครับโดยจะมีทีมงานคอยดูแลตลอดครับ


โดดลงไปน้ำทะเล อุ่นๆครับ แปลกจริงเชียว

และน้องๆผมก็โดดตามมาครับ

เราอยู่จุดนี้ได้ประมาณ ครึ่งชั่วโมงครับ

จากนั้นพี่ๆ ทีมงานก็ไปต่อกันที่ เกาะมุกครับ

เกาะมุก

เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของท้องทะเลตรัง แบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือ ชายฝั่งด้านตะวันตกซึ่งเป็นที่ตั้งของถ้ำมรกตที่มีความงดงามตระการตา ซึ่งฝั่งนี้จะไม่มีชายหาดและที่พักใดๆ และอีกฝั่ง คือ เกาะมุกฝั่งด้านตะวันออก เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมง มีรีสอร์ทที่พัก ร้านอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มีชายหาดที่สวยงามและน้ำทะเลให้ลงเล่นน้ำหลายหาด บรรยากาศค่อนข้างสงบ นักท่องเที่ยวไม่วุ่นวาย เหมาะสำหรับมาเที่ยวพักผ่อน

ลงดำน้ำกันต่อครับ


อยากเซฟฟี่นิดนึงครับ


เราอยู่ที่เกาะมุกได้สัก 20 นาทีครับ ก็ต้องขึ้นเรือต่อกันไปแล้ว



ช่วงเวลานั้น มีพายุเข้าก็เลยต้องเปลื่ยนไปเกาะกระดานก่อน ระหว่างทางก็ได้รับประทานอาหารกันบนเรือครับ และดูวิว ดูท้องฟ้ากันไป


ไม่นานนักก็มาถึงแล้วครับ


เราก็ได้มีเวลาอยู่เดินเล่นที่ เกาะกระดาน ประมาณ 30 นาที ได้ครับ


เกาะกระดาน เป็นเกาะที่สวยที่สุดของทะเลตรัง อยู่ทางด้านตะวันตกของเกาะมุกและเกาะลิบง มีเนื้อที่ 600 ไร่ ซึ่ง 5 ใน 6 ส่วนของเกาะนี้อยู่ในความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ที่เหลือเป็นของเอกชน เกาะกระดาน มีชายหาดที่มีทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลใสจนมองเห็นแนวปะการัง ซึ่งเป็นปะการังน้ำตื้น ตลอดจนฝูงปลาหลากสีหลายพันธุ์ จุดเด่นของเกาะกระดาน คือ ชายหาดที่มีทรายขาว ละเอียดเหมือนแป้งและน้ำใสจนเห็นแนว ปะการังซึ่งทอดยาวจากชายหาดด้านเหนือถึงชายฝั่งด้านหลัง เกาะมีอ่าวเล็ก ๆ มีคลื่นลูกโต ๆ เป็นระลอกๆ เหมาะสำหรับการเล่นกระดานโต้คลื่น

รอบเกาะกระดานมีชายหาดอยู่ 4 แห่ง

01.ชายหาดเกาะกระดาน เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ อยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะ มีชายหาดขาวยาวประมาณ 2 กิโลเมตร บริเวณด้านหน้าของชายหาด นักท่องเที่ยวนิยมมาดำน้ำดูปะการัง ซึ่งยาวตลอดแนวชายหาด จากชายหาดสามารถมองเห็นเกาะลิบง เกาะแหวน เกาะมุก และเกาะเชือก และยังสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นได้อีกด้วย

02.ชายหาดอ่าวช่องลม ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะ อยู่เหนือที่ทำการพิทักษ์อุทยานฯ ห่างไปประมาณ 800 เมตร สามารถเดินเท้าขึ้นเนินไปชมดวงอาทิตย์ตก มองเห็นเกาะรอกได้อย่างชัดเจน

03.ชายหาดอ่าวเนียง ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ เป็นหาดทรายขาวยาวประมาณ 800 เมตร ด้านหน้าชายหาดนักท่องเที่ยวนิยมดำน้ำดูปะการัง ซึ่งมีตลอดแนวชายหาด จากชายหาดนี้สามารถมองเห็นเกาะลิบงได้

04.ชายหาดสุดท้าย อ่าวไผ่ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ เป็นหาดทรายขาวยาวประมาณ 200 เมตร ด้านหน้าของชายหาดไม่มีแนวปะการัง สามารถมองเห็นเกาะเชือก เกาะแหวน เกาะมุก สามารถชื่นชมกับดวงอาทิตย์ตกได้สวยงาม

ถ่ายรูปใว้เป็นหลักฐานสักหน่อย


บรรยากาศดีมากแม้แต่มีเมฆฝนปรอยๆ ตลอด

จุดนี้ผมชอบมากๆครับ

จุดนี้ก็มีคนมาถ่ายรูปเพียบเลย

หลังจากนี้ก็ต้องบอกลา เกาะกระดานกันแล้วครับ เสียดายมากๆ เวลาสั้นจริงๆ


หลังจากนี้เราก็มุ่งหน้าไป ถ้ำมรกต เรียกว่าไฮไลท์เด็ด ของวันนี้เลยนะครับ

เรือแล่นไปไม่นานมากครับก็มาถึงปากถ้ำแล้ว

ทางเข้าถ้ำมันดูน่ากลัวไม่ใช่น้อยครับ

เราต้องเตรียมตัวมุดถ้ำกันแล้วครับ



เจ้าหน้าที่เข้าจะให้เราจับเชือกครับแล้วใช้ขาปั่นแบบจักรยานมุดเข้าถ้ำครับ มือทั้งสองข้างจับที่เสื้อชูชีพครับ

ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีครับถึงจะถึงด้านในถ้ำ

ข้างในถ้ำมันเหมือนกับหาดเล็กๆที่ไม่น่าเชื่อว่าถ้ามุดออกไปคือมหาสมุทรเลยครับ

ประวัติถ้ำมรกต

ถ้ำมรกต มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งในหมู่ชาวบ้านท้องถิ่นว่า ถ้ำน้ำ เนื่องด้วยเหตุว่าถ้ำแห่งนี้เป็นถ้ำกลางทะเลและเส้นทางเข้า – ออกของถ้ำจะเปิดกว้างออกหรือหุบแคบลงจนกระทั่งปิดตามระดับน้ำทะเลที่ขึ้นลงระหว่างวัน หากคุณเดินทางมาเยือนถ้ำมรกตในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมก็อาจทำให้การว่ายน้ำเข้า – ออกจากถ้ำเป็นไปด้วยความยากลำบาก ส่วนสาเหตุที่ทำให้คนส่วนใหญ่นิยมเรียกชื่อถ้ำแห่งนี้ว่า “ถ้ำมรกต” แทนที่จะเรียกกันว่า “ถ้ำน้ำ” ตามแบบชาวบ้านท้องถิ่น ก็เพราะในขณะที่เรากำลังว่ายน้ำออกจากถ้ำ.....เราจะสามารถมองเห็นแสงแดดส่องทะลุพื้นน้ำใสเบื้องล่างแล้วสะท้อนกลับขึ้นมาบนผิวน้ำและผนังถ้ำเป็นประกายสีเขียวเรืองรองคล้ายกับมรกตนั่นเอง

ถ้ำมรกตถูกค้นพบเป็นครั้งแรกโดยกลุ่มราษฎรท้องถิ่นซึ่งว่ายน้ำเข้ามาหารังนกนางแอ่น.....ต่อมา.....ถ้ำแห่งนี้ก็ถูกใช้เป็นสถานที่ซุกซ่อนสมบัติซึ่งเหล่าบรรดาโจรสลัดปล้นสะดมมาได้อยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ครั้นเมื่อมีผู้คนรู้จักถ้ำมรกตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ กลุ่มโจรสลัดก็ได้ตัดสินใจย้ายสถานที่ซุกซ่อนสมบัติหนีไปยังแหล่งอื่น.....จวบจนท้ายที่สุด.....ถ้ำมรกตก็ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen Thailand ดังเช่นที่เราเห็นและรู้จักกันอยู่ในทุกวันนี้


ถ่ายรูปใว้เป็นที่ระลึกสักหน่อยครับ

กว่าจะได้เข้ามาก็ไม่ง่ายทีเดียวครับ

เราอยู่กันได้แค่ 20 นาทีเองครับ ไกด์ก็เรียกเรากลับขึ้นเรือแล้ว เสียดายจังเวลาสั้นมากๆ

ถึงเรือแล้วครับ


จากนั้นก็ล่องเรืออีกราวๆ 1.30 ชั่วโมงสู่ ท่าเรือปากเมงครับ แล้วก็มีรถตู้ไปส่งเราที่โรงแรมครับ

ตอนเย็นนั้นผมมีนัดกับเพื่อนเก่า พานั่งรถตุ๊กๆกบ ของจังหวัดตรังครับ

ถือว่ามีสีสันมากๆครับ

วันรุ่งขึ้นก็ได้เวลา บินกลับ กรุงเทพ กันแล้วครับ ต้องกลับไปทำงาน หาเงินมาเที่ยวกันต่อไปครับ

ขอขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ กด like share Comment ด้านล่างได้เลยครับ

กดติดตามต่อได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/GolfytheJourney/

Instagram : https://www.instagram.com/golfythejourney/

Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCnqCI_fF3OPdFUSLR...

Readme : https://th.readme.me/id/Golfythejourney


Golfy The Journey

 วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 13.39 น.

ความคิดเห็น