วังเวียง เที่ยวจนวันลาหมด

https://www.facebook.com/teewjonwanlamhod/

เคยมั้ยครับที่เบื่อๆแล้วอยากพาตัวเองไปที่ไหนสักที่ ถ้าไม่เคยต้องลองดูสักครั้งนะครับเพราะมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด มิหนำซ้ำมันยังเปิดโลกของเราได้กว้างขึ้นอีก

ไปหาเพื่อนใหม่

ไปเที่ยว

ไปอยู่กับตัวเอง

ไปเมาให้ยับต่างถิ่น

ไปทำอะไรที่ไม่เคยทำบอกเลยว่ามันคุ้มค่ามากกับการตัดสินใจเที่ยวของผมครั้งนี้ วันนี้ผมจะพาไปเที่ยวเวียงแบบไปคนเดียว แบบเช่ามอไซค์เที่ยว แบบเดินหาที่พัก เที่ยวแบบคนดวงซวยแบบผมฮ่าๆ

...................................

วังเวียงเมืองเล็กๆของประเทศลาว ที่ไปง่ายมากกกกเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ให้เรารู้สึกอยากออกเดินทางไปค้นหากับความสวยงามของเมืองนี้ ทั้งธรรมชาติ ทั้งวิถีชีวิต ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว และที่สำคัญที่นั่นประยุคต์ธรรมชาติให้เป็นกิจกรรมให้เราทำเยอะเลยครับบอกเลยว่าเด็ดมากกกก ไปดูกันว่าผมไปทำอะไรได้บ้างในวันที่เที่ยวคนเดียว

**สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมคร่าวๆเมื่อไปคนเดียว

-พลาสปอร์ตครับ ต้องมีนะ

-ขาตั้งกล้องอันนี้สำคัญเลยเพราะเดี๋ยวไม่มีรูป

-ผ้าบัฟพกไว้กันฝุ่นเวลาขับรถหรือผ้าปิดปากทั่วไปก็ได้

-ซิมลาวครับ ซื้อเถอะ 120 บาทเล่นเนตยันวันกลับ

-กระเป๋ากันน้ำ

-เสื้อกันฝน หมวก แว่นกันแดด

-ของมีค่าเวลาพกติดตัวต้องเก็บให้มิดชิดเพราะเวลาขับมอไซค์จะได้ไม่เป็นเป้าสายตาเพราะบางที่ที่เราขับไปมันเป็นป่า

***การเดินทาง

-รถต่อเดียว อุดร-หนองคาย-เวียงจันทร์

-รถสองต่อ หนองคาย-เวียงจันทร์ แล้วต่อรถตู้ไปวังเวียง

-กรุงเทพ -เวียงจันทร์ แล้วต่อรถตู้

-อุดร-เวียงจันทร์ แล้วต่อรถตู้ เอาง่ายๆมาลงเวียงจัทร์แล้วต่อรถตู้ได้หมด

***ค่าใช้จ่าย

-ค่ารถ นค.-เวียงจันทร์ จาไป 65 ขากลับ 70

-ค่ารถ เวียงจันทร์-วังเวียง ขาไป 350 จากลับ 250

-ค่าเข้าเมือง ไป5 บาท กลับ 20

-ค่าเติมน้ำมัน 20000 กีบประมาน 80 บาท

-ค่าเช่ารถ 40000 กีบ ประมาน 160 บาทสองวัน

-ค่าที่พักห้องละ100000 กีบเท่ากับ 380 บาทต้องจ่ายเป็นงินกีบค่อยคุ้มนะครับเพราะถ้าเงินไมยเจาปัดเป็น 400 บาท ไปหลายคนคุ้ม

-ค่าเข้าที่เที่ยว น้ำตก 10000 กีบ ผาเงิน 10000 กีบ ผาเงินต่ำๆผมจำชื่อไม่ได้ 10000 กีบ ถ้ำจัง 5000 กีบ บลูลากูน10000 กีบแต่ผมไม่เสีย

-ค่าข้าวมื้อละ ประมาน 80 บาทแต่ผมกินไม่กี่มื้อนะเพราะเมา

-ค่าซิม130

***รวม 1930

เบียร์ 1000บาทฮ่าๆผมประหยัดทุกอย่างมาลงนี่เลยครับ

ปล.1ที่พักคืนแรกผมฟรีเลยเสียคืนเดียว เอาเงินไปลงที่เบียร์

ปล.2 1บาทเท่ากับ 246 กีบโดยประมานแลกเงินที่ธนาคารจะมีเลทให้ดู

ผมเริ่มต้นเดินทางที่หนองคาย กายพร้อม พลาสปอร์ตพร้อมลุย

ด้วยความชิลฮ่าๆไม่จองตั๋วครับ คือไม่รู้ว่าตั๋วรถต่อเดียวจองออนไลน์ได้ ก็ปีที่เเล้วยังจองไม่ได้นี่หว่า เป็นไงละ เต็มสิงานนี้ ต้องแหกขี้ตาตื่นเช้าไปเวียงจันทร์มั้ยละช้าไปอีกกก นี่แค่เริ่มต้นนะฮ่าๆโอเคครับถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองเสร็จ พอไหวข้ามเเดนได้สบาย แต่พอก้าวขาเหยียบสะพานไทยลาวเท่านั้นแหละป๊อกแป๊ก น้ำใสๆหยดใส่หน้าจ้าใครมาเล่นสงกรานต์วันนี้ก็ไม่น่าใช่ ไอ้สาสสส ฝนตก

พอมาถึงด่านลาว ต่อแถวเลยครับ ต้องรีบด้วยนะพยายามเกาะกลุ่มไว้ รีบประทับรีบรีบขึ้นรถเลย 5 บาทค่าเข้าเมือง จากนั้นผมก็เเลกเงินซื้อซิม ไปรอบนี้รู้สึกรวยเพราะพกเงินไปครึ่งล้าน กีบฮ่าๆ

สวัสดีๆๆวังเวียงหรออ่อเปล่าครับ สวัสดีเวียงจันทร์ จ้า ฝนยังไม่หยุดจ้า ผมเดินทางรถสองต่อคือนั่งจากหนองคายมาลงเวียงจันทร์จากนั้นนั่งรถตู้ต่อ ไม่ต้องห่วงนะครับ รถตู้เยอะแยะมาก แต่ผมแนะนำว่าอย่าจ่ายเงินลาวนะ หรือถ้าจ่ายพยายามจ่ายให้เท่ากับจำนวน เพราะเศษนิดเศษหน่อยคนลาวเขาปัดขึ้นเลยนะครับ ผมนี่เทียบบัณญัตไตรยางค์ทันทีเลยทีเดียวฮ่าๆ ค่ารถตู้เงินไทย 350 บาท อัตราเงินลาว 1 บาทไทย เท่ากับ 264 กีบโดยประมาน

ไปถึงผมไม่รอช้าครับ รีบเช่ามอไซค์ทันที แม้แต่กระเป๋าก็ยังไม่ได้วางอะคิดดู ค่าเช่ามอไซค์ 40000 กีบประมาน 160 บาทพยายามต่อด้วยนะครับ หาร้านดีๆคุยเลย พอได้มอไซค์ด้วยความที่ไปถึงช้าแล้วเลยเที่ยวได้น้อย ดิ่งไปนี่เลยครับ ผาเงิน แต่ระหว่างทางเราจะเห็นวิถีชีวิตคนที่นั่น จอดสิครับจอดเด็กน้อยเลิกเรียนพอดี ผมว่ามันเป็นภาพที่คลาสสิกมากเลยนะ

ผาเงินไปไม่ยากครับ ไปทางเดียวกับบลูลากูนเลย จะเห็นป้ายเลี้ยวซ้าย พอถึงจ่ายค่าเข้าเลยครับ 10000 กีบ จากนั้นเดินครับเดิน ถามว่าใกล้มั้ยบอกเลยว่าไม่ โอ้โหเดินเหนื่อยมากครับ แต่เชื่อมั้ย ผมขึ้นไปด้านบนแค่คนเดียว วิวสวยมากครับ แต่ๆๆ. ระยะเวลาที่ผมเดินขึ้นมาอันยาวนานต้องหายวับไปกับตา ฝนจ้าฟ้าร้องดังเปี้ยงป้างมาแต่ไกล เอาไงกว่าจะขึ้นมาถึง คิดตามเลยนะครับอยู่ยอดเขาคนเดียวท่ามกลางฝนตกและฟ้าแล้บ เผ่นสิครับงานนี้ วิ่งลงอย่างไม่คิดชีวิต จากที่เหนื่อยๆอยู่ลืมไปเลย

วิ่งลงนี่ไม่คิดชีวิตเลยครับ แต่ละที่ที่ไปเห็นจับมือถือไม่ต้องแปลกใจนะ คือผมตั้งกล้องถ่ายรูปทุกที่ที่ไปฮ่าๆว่าแล้วก็กดถ่ายสักหน่อยเดินมาตั้งไกลกว่าจะถึง เเต่ถือว่าคุ้มค่ากับการขึ้นมาที่นี่มากเลยครับ วิวสวยมากน่าจะเป็นวิวที่สูงที่สุดของวังเวียงก็ว่าได้ ธรรมดาแหละคนดวงซวยเที่ยวมันก็จะเป็นแบบนี้

ลงมาถึงด้านล่างก็ไม่สามารถกลับได้ เพราะฝนแรงมาก รอนานก็ยังไม่หยุด ผ่าฝนกลับเลยครับงานนี้ เปียกเหมือนลูกหมาตกน้ำเลยละ

เป็นไงฝนจ้าฝน

จากนั้นก็ไปส่งคืนมอไซค์ แล้วเดินหาที่พัก ความโชคร้ายยังมีความโชคดีอยู่ เจอรุ่นที่ทำงานครับ โอ้โหบังเอิญมาก ที่พักยังไม่มีพี่ๆชวนไปนอนด้วย ไปสิครับไป

นี่คือหน้าที่พักของพี่ๆเขาพักกัน จนตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้จ่ายค่าที่พักพี่เขาเลยฮ่าๆ ต้องขอบคุณพี่บลูพี่ต้นพี่บอยน้องยุ้ยมากที่ทำให้วังเวียงคืนแรกของผมไม่เหงาแถมเมาอีกต่างหาก แม่น้ำซองยามค่ำคืน คืออีกหนึ่งสิ่งที่สวยงามมาก เพราะแสงไฟกระทบน้ำมันเข้ากันได้อย่างลงตัว

จากนั้นก็แยกย้ายกับพวกพี่ๆ ครับเพราะพี่เขากลับวันนี้พอดี วันนี้ผมก็เดินทางคนเดียวเช่นเคย มีให้เลือกหลากหลายที่มาก ซื้อทัวร์กับเช่ามอไซค์ คิดอยู่พักใหญ่ เลยตัดสินใจเช่ามอไซค์ไปเที่ยวน้ำตกตากแก้งยุยครับ ขับไปถนนอีกฝั่งของวังเวียง ระยะทาง 7กิโล แต่ๆๆๆ ถนนนี่รุกรังเลยครับ ล้มทีแผลเต็มตัวแน่ ทางค่อนข้างเปี่ยว ผมไปคนเดียวด้วย แอบกลัวอยู่หน่อยๆแต่ผมคิดว่าถ้าเป็นช่วงน้ำเยอะถนนเส้นนี้คงครึกครื้นมาก

ค่าเข้า 10000 กีบ ดั้นด้นมาแสนไกลแต่น้ำตกไหลไม่เป็นใจฮ่าๆ โอ้ยนอ ซวยอีกแล้ว น้ำตกม่ายยยมี น้ำน้อยมากครับ แต่จะกลับมาแก้ตัวใหม่แน่นอน

ถ้าช่วงมีน้ำคงสวยมาก เพราะมีหลายชั้น แต่ถ้าชั้นรักเธอให้มาหาผมครับ เดี๋ยวๆเล่นอะไรของเนี่ย เจอกันใหม่น้ำตกตาดแก้งยุย

จากนั้นก็มุ่งหน้ามาอีกฝั่งนั่นคือ ถ้ำจัง เป็นถ้ำที่มีจุดเด่นหลายจุดไม่ว่าจะเป็นสะพานสีส้ม ปากถ้ำที่มีน้ำสีบลูลากูน หรือหินย้อยที่อยู่ในถ้ำ

อยากได้รูปอย่าไปเขิลเวลาตั้งกล้องเก๊กท่าเนียนๆเหมือนมีคนถ่ายให้เลยครับ ถ้ำนี้สามารถมาง่ายมาก ค่าเข้าชม 5000 กีบ ลุยสิครับรออะไรละ

นี่คือบรรยากาศในถ้ำและรอบถ้ำนะครับ ใครมาต้องห้ามพลาด มันสวยมากกก

หลังจากถ้ำจังผมก็ไม่รอช้ามุ่งหน้าสู่นางเอกของที่นี่นั่นคือบลูลากูน แต่ระหว่างทางที่จะไปเราจะผ่านสะพานข้ามแม่น้ำซองสะพานนี้รถใหญ่เก็บตังค์นะเเต่มอไซค์ผมไม่เห็นเก็บสักคันพอผ่านเท่านั้นแหละ เลยต้องหาที่จอดรถแล้ววิ่งมาถ่ายรูป ด่วนเลยครับ วิวสวยมากจะถึงมั้ยเนี่ยบลูลากูน ต้องรีบด้วยนะครับหาจังหวะดีๆที่รถไม่มา ไม่งั้นเราจะขัดขวางจราจร

อย่างที่บอกข้างต้นว่าวิถีชีวิตของที่นี่มีเสนห์มาก เขายังใช้ชีวิตกันปกติแม้ว่าบ้านเขาจะเปลี่ยนเป็นที่ท่องเที่ยวอันยอดฮิตจากนักท่องเที่ยวก็ตาม ตรงกันข้าม เขากลับเป็นเจ้าบ้านที่ดี ต้อนรับผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี

ขับรถไปเรื่อยๆไปทางเดิมของเมื่อวาน ถ่ายวิวไป ถ่ายรูปตัวเองไป บอกเลยว่านี่แหละ ชีวิตสโลว์ไลฟที่แท้ทรู

ขับหลงทางอยู่นานผมก็มาถึงที่บลูลากูนครับ ค่าเข้า10000 แต่ผมไม่ได้เสีย เขาไม่เห็นหรือมันค่ำแล้วก็ไม่แน่ใจ พอจอดรถเสร็จก็ต้องตกใจ วิวหรอไม่ใช่ครับ คนนี่แหลเยอะมากกกก อะมอง มอง เหมือนไม่สูงใช่มั้ย ใช่ครับทีแรกผมก็คิดแบบนั้น

น้ำสีบลูลากูนมากกก นี่ขนาดฟ้าครึ้มนะ สียังฟ้าได้ขนาดนี้ และคนก็เยอะเช่นกัน ทำไงดีค่อยจะได้รูปที่มีคนน้อยๆ รอสิครับรอ ระหว่างรอผมโชคดีมากที่เจอรุ่นพี่กลุ่มหนึ่งจรกมุกดาหารที่แรกก็นึกว่ารุ่นน้องเพราะหน้าเด็กมาก คุยไปคุยมาเท่านั้นแหละ พี่มหาลัยนี่หว่าเอ้าชนนนนพี่ชน พวกพี่แกก็รอเหมือนกัน เปิดเบียร์สิครับงานนี้ฮ่าๆ ถ้าพี่ๆผ่านมาอ่านผมขอขอบคุณมากครับที่คุยกับผมฮ่าๆ

คำตอบคือรอครับ รอจนค่ำกลับกลุ่มสุดท้ายก็ยอม และมันก็คุ้มจริงๆ ผมได้รูปที่ไม่ค่อยมีคนอื้อหือออ สมหวังดั่งใจหมายเลยครับทีนี้ ถ่ายรัวสิรออะไร

บอกแล้วว่าทีแรกคิดว่าไม่สูง พอขึ้นไปเท่านั้นแหละ มันสูงมากกก จะเห็นได้ชัดเลยว่าในคลิปผมย่อตัวลงนั่งเพราะขาสั่นฮ่าๆ

แต่ถามว่าโดดมั้ย ไม่เหลือครับ นี่น้องแบงค์เพื่อนกินเบียร์คืนที่สองของผม น้อง รร บอกเลยว่าบังเอิญมาก ถ้าไม่ได้น้อง ก็คงไม่มีโต๊ะในซากุระบาร์ฮ่าๆ เอ้าชนนนน

จากนั้นผมก็กลับไปยังที่พัก ระหว่างทางกลับ หมอกจางๆตอนเย็นมันสวยมาก สวยจนอดใจไม่ไหวที่จะถ่ายรูป

เห็นมั้ยครับ ว่านี่แหละคือเสน่ห์ของวังเวียง มันมีความคลาสสิกในตัวมันอยู่ ปรับแต่ไม่เปลี่ยนไปจากเดิม

เที่ยวจนเหน็ดเหนื่อยก็กลับมายังโรงแรม ขี้เที่ยวแบบผมจะพลาดหรอครับซากุระบาร์ พักตรงข้ามเลยจ้า ฮ่าๆเมามาเเลวเดินเซกลับง่ายสบาย ราคา100000กีบหรือประมาน 380 บาทต่อห้องแต่ถ้าคนลาวเขาจะปัดเป็น400 ชื่อ Aang Vieng Boutique Hotel เจ้าของใจดีมาก จองรถตู้ให้ด้วย ไปรีบอาบน้ำรีบไป แล้วภาพก็ตัดไปจนสิบโมงฮ่า ซากุระบาร์มันส์สมคำร่ำลือจริงๆ

วันสุดท้ายแล้ว ด้วยความไม่รีบของผมเลยจองรถตู้กลับเวียงจันทร์ไว้ตอนบ่ายโมงครึ่ง ราคา 250 บาท จองเสร็จเลยหาเดินเล่น นี่คืออีกหนึ่งกิจกรรมที่ผมพลาดมากนั่นคือพายเรือคายัคครับ รอบหน้าไม่พลาดแน่ รอบนี้พลาดเพราะผมเลือกไปน้ำตกฮ่า เอ้าเดินๆ เดินชิลค่าเวลาวนไป

เดินไปเดินมาไปโผล่กลางทุ่งนาเลยครับด้วยความี่เห็นเขาเตี้ยๆแล้วมีธงแดงๆเลยสงสัยว่าคืออะไร ไปตามป้ายเลยครับ เดินข้ามสะพานแม่น้ำซองแล้วตรงอย่างเดียว เห็นมั้ยเขาลูกนั้นแหละที่ผมจะไป

เช่นเคยครับคนเดียวทั้งเขา จ้า วิวสวยมากกก เดินง่ายแปปเดียวถึง ค่าเข้าชม 10000 กีบใครที่อยากได้วิวแล้วไม่อยากเดินไกล ไม่อยากปีนไกล ที่นี่ช่วยคุณได้ครับ

สวยจนอยากห่อกลับบ้าน เว่อไป ที่เห็นจับมือถือไม่ใช่อะไรนะครับ คือตั้งกล้องถ่ายรูปตัวเองฮ่าๆ กลับๆ ร้อนมากวันนี้ ต่างจากเมื่อวานสิ้นเชิงเลย

จากนั้นผมก็เก็บของกลับ นั่งรถมาได้สักพักเสียงเบรคดังเอี๊ยด ไม่ใช่เรื่องดีแน่ ฮ่า จ้าจ้าจ้า รถยางรั่วจ้าเสียงแว่วๆขอพี่โชว์เฟอร์ดังมาเลย ลงถ่าก่อนรถยางหั่ว ฮ่าๆ ผมเลยได้ไปหาเดินเล่นรอ และก็ไปพบกลับชาวลาวนั่งขายของป่าริมถนน นี่ละครับมนต์เสน่ห์เมืองลาว มันน่าหลงไหลจริงๆ

เป็นไงละ ความซวยวิ่งมาทักทายทุกครั้งที่เดินทาง นี่จนจะสิ้นสุดทริปบะก็ยังทักไม่เลิก เปลี่ยนยางวนไปอ้ายเปลี่ยนวนไป

ไม่นานผมก็ถึงเวียงจันทร์ เดินไปตลาดเช้าเพื่อนั่งรถกลับหนองคาย ด้วยราคา 70 บาท สิ้นสุดการเดินทางของผมในครั้งนี้ มันมีความสุขมากอย่างบอกไม่ถูก ผมรักตัวเองมากกว่าเดิม รู้จักตัวเองมากกว่าเดิม และที่สำคัญโลกของผมกว้างขึ้นเยอะกว่าเดิมด้วย กลับมาบ้านพร้อมกับทัศนคติที่ดี มีมุมมองที่ดี เห็นมั้ยละครับว่าการเที่ยวคนเดียวมันก็มีผลดีสำหรับเราอยู่นะ ลองสักครั้งแล้วคุณจะหลงรักมัน ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้ผมก็ต้องขอขอบคุณมากที่อ่านรีวิวผม และขอฝากรีวิวนี้ไว้กับทุกคนด้วย ขอบคุณคร๊าบบ

เที่ยวจนวันลาหมด

 วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 21.40 น.

ความคิดเห็น