พัทยา จ.ชลบุรี เป็นเมืองท่องเที่ยวที่หลายครอบครัวมาแล้วต้องมาอีกอยู่เรื่อยๆ ว่าไหมคะ บ้านไหนที่มี แพลนจะกระเตงลูกมาเที่ยวเร็วๆ นี้ ลองดูค่ะว่าจะพาไปลั้นลาได้ที่ไหนกันบ้าง

รอบนี้บ้านเราจัดทริป 3 วัน 2 คืน เริ่มต้นออกเดินทางจากกรุงเทพฯ โดยมุ่งหน้าไปสวนสัตว์เปิดเขาเขียวเป็นที่แรก เปิดตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น

สวนสัตว์ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาเขียว-เขาชมภู่ เนื้อที่กว้างมากถึง 5,000 ไร่ สัตว์บางส่วนจากสวนสัตว์ดุสิตที่ปิดตัวไปก็ถูกย้ายมาไว้ที่นี่


ค่าเข้าผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก (สูงไม่เกิน 135 ซม.) 30 บาท ส่วนผู้สูงอายุฟรี นำรถยนต์เข้าเสียเพิ่มอีก 80 บาท แต่รถวิ่งวันเวย์นะคะ ฉะนั้นเช็กแผนที่ดีๆ ขับเลยแล้ววนยาว (โดนมาแล้ว T-T) หรือจะเช่ารถกอล์ฟขับ เพลินๆ หาที่จอดง่ายด้วยค่ะ แต่ถ้าอยากได้บรรยากาศแนะนำนั่งรถนำเที่ยว มีให้บริการฟรี

เช็กอินดูพาเหรดเพนกวินกันก่อน ควรไปก่อนเวลาแล้วจับจองที่ตรงลู่เดินนะคะ จะได้เห็นเพนกวินเดินเรียงแถวเตาะแตะมาแบบใกล้ชิดมว้ากก พวกนี้เป็นเพนกวินพันธุ์ฮัมโบลด์ มาจากเขตร้อนทางหมู่เกาะและชายฝั่งของทวีปอเมริกาใต้ จึงทนอากาศร้อนของบ้านเราได้ ดูเสร็จสามารถให้อาหารต่อ นักเรียน/นักศึกษา 20 บาท บุคคลทั่วไป 50 บาท

ตารางต่อไปเป็นการแสดงโชว์ความสามารถสัตว์ที่เราจะได้เห็นพฤติกรรมน่ารักๆ ของสัตว์ค่ะ เช่น ตัวนากเก็บขยะ นกแก้วบวกเลข หมีขอห้อยหัวกินอาหาร แต่โชว์จะอืดๆ หน่อยเพราะสัตว์บางตัวติสเหลือเกิน

จากนั้นไป Elephant Learning Station เป็นจุดให้ความรู้เกี่ยวกับช้าง เดินบันไดลงไปชั้นล่างจะมีที่นั่งดูโชว์ช้างว่ายน้ำ เด็กๆ ตื่นเต้นกันใหญ่ได้เห็นช้างตัวโตๆ ดำผุดดำว่ายอยู่ในสระ

ทางเดินลงไปดูฮิปโปตัวเบิ้ม เล่นเอาเหนื่อยเลย



กิจกรรมสุดโปรดคือป้อนอาหารสัตว์ ตรงปากทางเข้าสวนสัตว์มีแผงผักผลไม้ขายด้วย แต่เราคิดว่าไปอุดหนุนข้างในดีกว่าค่ะ ไม่แพงกว่ากันมาก และเป็นอาหารที่ตรงกับที่สัตว์กินด้วย

อาหารการกินในสวนสัตว์มีทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหาร และโซนอาหาร บางบ้านเลือกใช้วิธีเข้าไปปิกนิก แต่เตือนก่อนว่าลิงป่าเยอะมากกก ดุ ไม่กลัวคน และพร้อมจะแย่งอาหารจากเราทุกเมื่อค่ะ แทนที่จะกินอย่างเอร็ดอร่อย ต้องคอยระแวงตลอดเวลา ระวังอย่าให้โดนกัดนะคะ เพราะอาจติดเชื้อพิษสุนัขบ้าได้

ที่จริงไฮไลต์ที่ต้องไปดูมีเยอะมาก แต่เด็กๆ เริ่มไม่ไหวแล้ว เราเลยเข้าที่พักกันก่อน ถ้ายังไงลองวางแผนการจากบ้านมานะคะ โดยเช็กรอบการแสดงที่เว็บไซต์ http://www.khaokheow.zoothailand.org


สำหรับที่พักเราเลือกโรงแรม Holiday Inn Pattaya อ่านรีวิวหลายที่ว่าเหมาะกับครอบครัว ซื้อวัลเชอร์จากงานไทยเที่ยวไทย ห้องพักดีลักซ์ 3,900 บาทในราคาซื้อ 3 ฟรี 1 (ตกคืนละ 2,925 บาท แต่ห้องเสริมเตียงไม่ได้) โปรนี้เห็นมีขายตามงานเรื่อยๆ ค่ะ

เนื่องจากเราไปเป็นครอบครัวใหญ่ โรงแรมเลยอัพเกรดจากห้องดีลักซ์เป็นห้องโอเชียนวิวแบบสองห้องเชื่อมกันได้ ตึก Bay Tower เสียค่าเสริมเตียงแค่หนึ่งห้อง

พอแดดร่มลมตกเด็กๆ ก็เฮโลไปว่ายน้ำ สระเด็กน้ำไม่ลึกมาก เล่นสไลด์มันส์ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่

เดินต่อไปอีกนิดเป็นสระว่ายน้ำผู้ใหญ่ที่ต้องการความสงบ แต่ก็มีโซนตื้นให้เด็กเล่น

บุฟเฟต์อาหารเช้าเดี๋ยวนี้ไม่มี Kid’s Station แล้วนะคะ ฮือออ อุตสาห์ตามมาจากรีวิว เหลือแต่จานชามเด็กๆ อาหารส่วนใหญ่รสชาติกลางๆ ค่อนไปทางจืด เด็กกินได้ค่ะ

มุมระบายสีหน้าห้องอาหารเลย หยิบไประบายระหว่างรออาหารก็ได้

คิดส์คลับอยู่ข้างๆ เช่นกัน สะดวกมาก พอเด็กๆ กินเสร็จก่อนเราก็พาไปเล่นรอ สามารถฝากให้พี่เลี้ยงข้างในช่วยดู แต่น้องต้องอายุ 4 ปีขึ้นไปถึงจะอยู่ได้โดยไม่ต้องมีผู้ปกครอง เค้าจะให้ลงทะเบียนพร้อมกับถ่ายรูปคู่ลูกไว้เป็นหลักฐาน และไม่ใช่ว่าใครจะเปิดเข้าไปตามใจชอบได้นะคะ ต้องกดกริ่งเพื่อให้พี่เลี้ยงมารับข้างหน้าประตูเอง ด้านในมีโซนต่างๆ มีห้องน้ำเด็ก แถมมีห้องงีบด้วย


เล่นน้ำทะเลต้องเดินออกจากโรงแรมข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม เป็นชายหาดสาธารณะ บรรยากาศก็โอเคนะคะทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็น คนพลุกพล่านพอสมควร


วันที่สองเราเริ่มต้นด้วยไปดูการแสดงของโลมาที่ Pattaya Dolphin World ขับรถออกจากตัวเมืองไปทางบางละมุงประมาณครึ่งชั่วโมง

ค่าเข้าไม่มีบอกทางหน้าเว็บไซต์ ต้องโทรสอบถาม เราซื้อวัลเชอร์จากงานไทยเที่ยวไทยเหมือนเดิม ราคาแพ็กเกจผู้ใหญ่ 200 บาท และเด็ก 120 บาท (ความสูง 91-141 ซม. ต่ำกว่านั้นฟรี) ส่วนราคาวอล์กอินของวันนั้นแพ็กเกจผู้ใหญ่ 300 บาท และเด็ก 150 บาท ผู้สูงอายุครึ่งราคาผู้ใหญ่ (แสดงบัตรประชาชน) ในแพ็กเกจจะได้บัตรเข้าชมโชว์โลมา คูปองแลกอาหารสัตว์ ยิงปืนลม และเข้าชมพิพิธภัณฑ์ของเล่นสังกะสี

โชว์โลมามีวันละ 4 รอบ 11.00 / 13.00 / 15.00 และ 17.00 น. เป็นโลมาพันธุ์อิรวดี หัวจะออกทุยหน่อย พอได้ยินเพลงลูกทุ่งเท่านั้นล่ะแดนซ์กระจาย นอกจากนี้ยังสามารถว่ายไปเก็บบอลแล้วเตะกลับไปหาครูฝึก กระโดดลอดห่วง กระโดดสูงๆ

พิพิธภัณฑ์ของเล่นสังกะสีที่เจ้าของสะสมไว้ มาจากญี่ปุ่น เยอรมัน อเมริกา


ดิสนีย์แลนด์ Limited Edition เป็น 1 ใน 3 ชิ้นที่มีในไทย

ก่อนกลับแวะให้อาหารแพะน้อย


ไปต่อกันที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ซึ่งต้องเข้าไปในเขตของกองทัพเรือ สัตหีบ ด้านในใช้กูเกิ้ลแมพนำทางไม่ได้แล้ว เราถามทางจากพี่ทหารและดูป้ายไปเรื่อยๆ ค่ะ ขับรถเลียบทะเลบรรยากาศดีมาก

ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลอยู่ในความดูแลของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เปิดทุกวัน 8.30-17.00 น. โทร.038-431477 เข้าชมฟรี ภายในบริเวณมีที่จอดรถกว้างขวาง

ตรงนี้เป็นห้องแสดงนิทรรศการเล่าที่มาที่ไปของศูนย์ฯ และให้ความรู้เกี่ยวกับเต่าทะเลแต่ละชนิด

อยากเจอเต่าทะเลตัวเป็นๆ ต้องเดินเข้าไปข้างในอีกที จะเจอกับโรงอนุบาลที่เลี้ยงตั้งแต่เต่าเบบี๋ไปจนถึงเต่ารุ่นพี่ มีทั้งเต่าตนุ เต่ากระ

คุณลุงทหารเล่าว่า เมื่อก่อนเต่าทะเลขึ้นบกไปวางไข่ได้หลายที่ แต่เดี๋ยวนี้เหลือเพียงสามแห่งเท่านั้นในประเทศไทย คือ เกาะคราม เกาะอีร้า และเกาะจาน ทั้งหมดอยู่ในอำเภอสัตหีบนี่เอง จึงต้องสงวนไม่ให้คนเข้าไป หลังจากเต่าขึ้นมาวางไข่ปุ๊บ ทหารจะไปนอนเฝ้าจนกว่าจะฟักตัว แล้วนำลูกมาเลี้ยงต่อที่ศูนย์ฯ เมื่อโตพอจึงปล่อยคืนทะเล ที่ไม่นำมาทั้งไข่เพราะจะทำให้เต่าไม่กล้าขึ้นมาวางไข่อีกเลย การปล่อยเต่าสู่ทะเลจะช่วยให้เต่าได้ผสมพันธุ์ เพราะโดยธรรมชาติเค้าจะไม่ผสมพันธุ์ในบ่อเลี้ยง

หนูๆ ห้ามให้อาหารเต่าและห้ามจับนะคะ เชื้อโรคจากมืออาจทำให้น้องเต่าไม่สบายได้

หาดข้างในศูนย์ฯ ก็สวยนะคะ


จากศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลจะมองเห็นเรือหลวงจักรีนฤเบศรอยู่ลิบๆ ลูกชายรบเร้าขอไปดู เราเลยขับรถต่อไปอีกประมาณสิบนาทีก็ถึง

เรือหลวงจักรีนฤเบศรเป็นเรือบรรทุกอากาศยาน จอดเทียบที่ท่าเรือจุกเสม็ด เข้าชมฟรี 9.00-17.00 น. แสดงเพียงบัตรประชาชน (กลุ่มละหนึ่งคนก็ได้) ยกเว้นชาวต่างชาติไม่อนุญาตให้เข้าชม ความที่ไม่เชิงว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเต็มตัว เพราะยังคงใช้งานอยู่ กองทัพเรือจึงอนุญาตให้เข้าชมแค่บางส่วนค่ะ

ที่นี่เป็นสถานที่ราชการนะคะ ควรแต่งตัวให้เรียบร้อย ก่อนขึ้นเรือจะมีจุดให้บริการยืมกางเกงขายาวสำหรับสวมทับและผ้าคลุมไหล่ ตอนแดดแรงๆ ช่วยกันไม่ให้ผิวไหม้ดีทีเดียว

บันไดขึ้นภายในเรือชันมาก ถ้ามากับเด็กเล็กต้องระวังเป็นพิเศษ ด้านบนไม่มีห้องน้ำ ควรทำธุระให้เสร็จเรียบร้อยตั้งแต่ข้างล่าง

บนดาดฟ้าบินลมพัดเย็นสบาย มาเช้าๆ แดดจะไม่แรงแสบตามาก


เราพาเด็กๆ ปิดทริปกันที่ Terminal 21 Pattaya ค่ะ เพิ่งเปิดให้บริการด้วยขนาดใหญ่และกว้างขวางกว่าที่กรุงเทพฯ เดินตากแอร์ชิลๆ มีมุมให้ตัวเล็กวิ่งเล่นถ่ายรูปเยอะไม่แพ้กัน

ชั้นโตเกียวมีรถไฟเด็กให้บริการด้วย คนละ 50 บาท เด็กที่ความสูงไม่ถึง 80 ซม. ขึ้นฟรี

จบทริปลูกแฮปปี้ พ่อแม่ก็แฮปปี้ค่ะ

Panrawee Akanitthapichat

 วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 11.35 น.

ความคิดเห็น