ทริปนี้มาพบกับเรากับกลุ่มคนที่ชอบท่องเที่ยวแนวแบ๊คแพ็คกันอีกแล้ว ทริปนี้เราจะพาเพื่อนๆไป เที่ยวเสม็ดนางชี อยากบอกว่า เอาจริงๆนะ เราไม่รู้จักที่นี้เลยด้วยซ้ำตอนแรก

พอหาข้อมูลเท่านั้นแหละ อยากบอกว่า เฮ้ยยยย !! มันสวยมากกก สวรรค์บนดินชัดๆ ไม่คิดว่ามันจะอยู่ใกล้แค่เอื้อม อยู่ในประเทศไทยนี่แหละไม่ต้องไปไกลถึงต่างประเทศ กับสถานที่ที่เค้าว่ากันว่าเป็นจุดชมวิวบรรยากาศหลักล้าน นามว่า เสม็ดนางชี Unseen พังงา

เสม็ดนางชี Unseen พังงา ดินแดนของคนชอบถ่ายรูป ดูพระอาทิตย์ขึ้น เก็บบรรยากาศพระอาทิตย์ตก หรือจะเป็นการนอนดูดาว ล่าทางช้างเผือก สูดอากาศบริสุทธ์ท่ามกลางธรรมชาติ อยากรู้ใช่ไหมละว่ามันจะสวยขนาดนั้นเลยหรือเปล่า เรามีคำตอบให้กับการเดินทางเที่ยว เสม็ดนางชี ในทริปนี้ด้วยการเดินทางโดยการบินไป บินกลับ เหมารถตู้เที่ยว กางเต้นท์นอนกับที่พักหลักร้อยวิวหลักล้าน ว่าเเล้วก็เดินทางตามเรามาได้เลยครับ

-ทริปนี้เราเดินทางไป จังหวัดภูเก็ต กันด้วยเครื่องบิน โดยสายการบินแอร์เอเชีย ครั้งนี้เราได้ตั๋วโดยสารไป-กลับ มาในราคา 1600 บาทเท่านั้น เรารวมพลกันที่สนามบินดอนเมืองในเวลา 02.00น. เพื่อเช็คอินและเดินทางกันในเวลา 03.35 น. เครื่องบินถึงสนามบินภูเก็ต 05.00 น.ตรงเวลาเป๊ะ เมื่อถึงสนามบินภูเก็ตแล้วเราได้ทำการติดต่อรถตู้ วีไอพี 10ที่นั่ง สำหรับนำเที่ยวตลอด2วัน1คืนกับการเที่ยว 2จังหวัดทั้งจังหวัด ภูเก็ตและจังหวัดพังงา โดยเริ่มต้นทริปจากสนามบินภูเก็ตเพื่อไปยังจุดชมวิวเขาไข่นุ้ย

*ติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ สายการบิน AirAsia

*ติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ รถตู้นำเที่ยวจังหวัดภูเก็ต จังหวัดพังงา https://www.facebook.com/vipvanphuket/

– จุดชมวิวเขาไข่นุ้ย ตั้งอยู่ที่บ้านฝายท่า ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง เป็นจุดชมวิวที่เพิ่งจะเป็นที่รู้จักได้ไม่นาน เป็นจุดชมทะเลหมอกที่มีชื่อเสียงอีกจุดหนึ่งของจังหวัดพังงามีความสูง ประมาณ 200 เมตรจากระดับน้ำทะเล บนยอดเขาไข่นุ้ยมีจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและวิวทะเลหมอกที่มองเห็นได้ในมุมกว้างและวิวทะเลวิวภูเขาทอดยาวสุดลูกหูลูกตา โดยเขาไข่นุ้ย เดิมเป็นพื้นที่ทำสวนยางของชาวบ้าน พวกเขาเห็น ทะเลหมอกกันจนชินตา แต่ไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ จนเมื่อทางอบต.ไปพบและทำการประชาสัมพันธ์ออกไปก็ได้รับ การตอบรับอย่างดีเยี่ยมเขาไข่นุ้ย มีจุดเด่นอยู่ที่ 5 มหัศจรรย์ คือ 1.พระอาทิตย์ขึ้น 2.พระอาทิตย์ตก 3.ทะเลหมอก 4.ทะเลอันดามัน และ 5.ทิวเขา เขาไข่นุ้ย เป็น มีความสูง การเดินทางขึ้นไปชมความสวยงามของเขาไข่นุ้ยจะต้องทำการติดต่อรถโฟลวิลเพื่อทำการขึ้นไปถึงจุดชมวิวนะครับ เพราะเส้นทางค่อนข้างชันและสภาพทางขึ้นเขาไม่เหมาะกับรถทั่วไป โดยรถโฟลวิล1คัน สามารถนั่งได้ประมาฯ10 คน โดยค่ารถคิดรวมอาหารเช้า เช่นข้าวต้ม ชา กาแฟ ขนมพื้นบ้าน น้ำดื่ม เพียงคนละ 150 บาทเท่านั้น เรามาถึงเขาไข่นุ้ยในเวลา 06.30 น.ยังทันเห็นทะเลหมอก บรรยากาศบนเขาไข่นุ้ยอยากบอกว่ามันอากาศดีมากกกกก ถ้าเช้าๆจะเห็นทะเลหมอกสุดลูกหูลูกตาเลยละ นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิว จุดถ่ายรูปเก๋ๆด้วยนะ เราอยู่ที่นี่จนถึง 09.30 น จึงลงและเดินทางไปยังจุดหมายต่อไปคือวัดท่าไทร

พิกัด https://goo.gl/maps/Rxxf2L9Z47A2

ค่าเข้า – ไม่มี แต่เสียค่ารถโฟลวิวขึ้น-ลงเขาพร้อมอาหารเช้า 150 บาท/คน

*ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ที่พักรถขึ้นชมเขาไข่นุ้ยได้ที่ https://www.facebook.com/Rabiangmok/

–วัดท่าไทร หรือวัดวัดเทสก์ธรรมนาวา เป็นวัดติดทะเลที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนกันมาตลอดเวลา ตั้งอยู่ที่บ้านท่าแตง ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เป็นวัดที่โดดเด่นด้วยอุโบสถ ไม้สักหลังงาม ริมทะเลบริเวณหาดชายทะเลท่าไทรท่ามกลางป่าสนชายฝั่งทะเลในบรรยากาศร่มรื่น โบสถ์ไม้สักวัดท่าไทรเป็นอาคารทรงไทย ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา แกะสลักจาก หินหยกขาว อิทธิพลศิลปะอินเดีย วัดนี้จึงมีบรรยากาศที่เงียบสงบ มีเสียงคลื่นกระทบฝั่งตลอดเวลา โดยมีชายหาดที่ทรายละเอียดมากกกก แต่เราบอกก่อนนะว่าชายหาดแห่งนี้ไม่เหมาะกับการเล่นน้ำเพราะเป็นชายหาดที่น้ำลึกมาก นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาเก็บภาพบรรยากาศกันมากกว่า โดยวัดท่าไทรเป็นวัด หนึ่งเดียวในภาคใต้ที่ติดทะเล ทำให้โบสถ์ไม้สักวัดท่าไทรกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหนึ่งแห่งของจังหวัดพังงา เราอยู่กันที่วัดท่าไทรราวๆ1ชั่วโมงจึงเดินทางสู่จุดหมายต่อไปของเราคือน้ำตกลำปี

พิกัด https://goo.gl/maps/F6TS1LET8Ym

ค่าเข้า – ไม่มี

–น้ำตกลำปี ตั้งอยุ่ที่ หมู่มี่ ๖ ถนนเพชรเกษม บ้านลำปี อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา น้ำตกลำปีเป็นน้ำตกขนาดกลาง มี ๓ ชั้น แต่ละชั้นสูงประมาณ ๑๐๐ เมตร น้ำตกชั้นล่างสุดมีแอ่งน้ำใสสะอาด มีความลึกมาก แต่มีบริเวณที่สามารถลงเล่นน้ำได้ส่วนหนึ่ง น้ำตกลำปีแห่งนี้เป็นสถานที่ซึ่งมีชื่อเสียงมาตั้งแต่สมัยอดีต นักท่องเที่ยวนิยมแวะวเยนมาชมความงานของธรรมชาติที่นี่ ทั้งการเล่นน้ำ การให้อาหารปลา จึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกตามสมควร ได้แก่ห้องน้ำที่สะอาดไว้บริการฟรีแก่นักท่องเที่ยว ร้านอาหารและเจ้าหน้าที่คอยดูแลให้ความช่วยเหลือแต่ไม่มีห้องพักไว้บริการ เที่ยวจากน้ำตกลำปีเสร็จเราก็เดินทางสู่จุดหมายต่อไปคือร้านกาแฟต้นไม้ทรีคัพ

พิกัด https://goo.gl/maps/YFyqYedsLwQ2

ค่าเข้า – ค่าเข้าอุทยานคนละ 20 บาท/คน ค่าจอดรถ 30 บาท/คัน

–ร้านกาแฟต้นไม้ทรีคัพ คอฟฟี่ พังงา เป็นร้านกาแฟบนต้นไม้ที่กำลังมาแรงของจังหวัดพังงา จากการดูรูปเราจึงต้องมาที่ให้ได้ ดดยร้านกาแฟ ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านเขาเปาะ ตำบลกระโสม อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา โดยตัวร้านตั้งอยู่บนบนต้นตะเคียนรากขนาดใหญ่มีความสูงถึง 17 เมตร อายุกว่า 300 ปี เป็นร้านกาแฟที่จะได้สัมผัสบรรยากาศของความเป็นธรรมชาติของต้นไม้เขียวขจีและอากาศแสนบริสุทธิ์ รวมทั้งสามารถชมทัศนียภาพของอ่าวพังงาได้แบบ 180 องศา เมนูมีในส่วนของเครื่องดื่มซึ่งค่อนข้างหลากหลาย ทั้งชา กาแฟ โกโก้ นมเย็น แบบต่างๆ ราคาเครื่องดื่มจะอยู่ที่แก้วละ 65-95 บาท เราว่าแอบแพงไปนิดนึง แหะๆ นอกจากเครื่องดื่มต่างๆแล้วยังมีเบอเกอรี่และอาหารจานเดียวเน้นอาหารฝรั่ง อาหารทานเล่น ที่ร้านจะมีมุมมองเห็นเห็นวิวทะเลเกาะน้อยใหญ่ของอ่าวพังงาได้แบบชัดเจนซึ่งวิวดังกล่าวถือว่าเป็นจุดขายของร้าน ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 11:00 – 17:00 น. หยุดทุกวันจันทร์ เราอยู่อยู่ที่นี่นานพอสมควรเราก็ได้เวลาเดินทางสู่จุดหมายต่อไปคือร้านขนมจีนป้าศล

พิกัดhttps://goo.gl/maps/Ubudg8KtHYu

ค่าเข้า – ไม่มี

–ร้านขนมจีนป้าศล มาพังงาทั้งที ก็ต้องหาของกินขึ้นชื่อใช่ไหม ถ้าใช่เราแนะนำเลย เพราะก็มีคนแนะนำเรามาอีกที 555ร้านป้าศลเป็นร้านขนมจีนเก่าแก่ของพังงาจนคนต่างตื่นยังต้องมาลิ้มลอง ขนมจีนที่นี่ อยากราดน้ำอะไรเลือกได้ตามใจชอบ ที่สำคัญร้านสะอาด นั่งสบาย เครื่องเคียงให้เลือกกว่า 20 ชนิด คนชอบกินผักต้องไม่พลาดเพราะผักที่นี่เยอะมาก เราอยากบอกว่าเป็นขนมจีนที่เข้มข้นมากเวอรรร์ เผ็ดมากกก เผ็ดแค่ไหนก็มีเครื่องเคียงนับสิบอย่างรออยู่ตรงหน้าคุณ กินไปเลย กินได้กินไป จะสั่งขนมจีนจานเดียวแล้วกินเครื่องจนหมดยังได้ 5555 ใครมาเที่ยวพังงาแล้วอยากลองร้านเด็ด ร้านนี้คือหนึ่งในนั้น หลังจากที่ท้องอิ่มแล้วทีนี้เราก็เดินทางไปยังจุดหมายต่อไปของเราคือ วัดสุวรรณคูหา

พิกัด https://goo.gl/maps/VVNhKjVtssn

ค่าเข้า – ไม่มี

–วัดสุวรรณคูหา หรือที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่า วัดถ้ำ ตั้งอยู่ ม.2 ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา นับเป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากมีถ้ำอันเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปต่างๆ ที่สำคัญคือ พระพุทธไสยาสน์ ที่ตั้งวัดอยู่บนเขา นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นจะนิยมมานมัสการเพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิต รอบๆวัดมีร้านค้าสำหรับซื้อของฝากด้วยนะ และที่สำคํญที่นี่ยังมีฝูงลิงมากมายเลย แต่ลิงที่วัดนี้นิสัยดีไม่ดุร้ายเหมือนลิงทั่วๆไป เมื่อเราเข้าไปในตัวถ้ำเราจะเห็นพระนอนประดิษฐานและถ้ำแก้วมีปล่องใหญ่เหนือเพดานถ้ำจึงมีแสงส่องลงมาที่ผนังเป็นลำแสง นอกจากพระนอนแล้วเดินเดินไปอีกเราจะเจอถ้ำเล็กถ้ำน้อยให้เราเกินชมความงามของธรรมชาติ ที่นี่นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาเที่ยวกันตลอดทั้งวันถ้ายิ่งวันเสาร์ อาทิตย์ คนจะเยอะเป็นพิเศษ

เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.

พิกัด https://goo.gl/maps/1NWhg2aAZzr

ค่าเข้า – ไม่มี

–วิวระหว่างทาง ระหว่างทางจากวัดสุวรรณคูหา เพื่อมาเสม็ดนางชี เราสังเกตเห็นว่าวิวบรรยากาศสองข้างทางของจังหวัดพังงาโดยเฉพาะเส้นที่มาเสม็ดนางชีมันมีความ Unseen มากกก ยิ่งช่วงทางเข้าเขตท่องเที่ยวของเสม็ดนางชี ถนนจะตัดผ่านภูเขาลูกนู้นทีลูกนืที สลับกับต้นไม้น้อยใหญ่ มันยิ่งทำให้การเดินทางมันเพลิดเพลินโดยไม่รู้ตัว บางครั้งระหว่างทางมันเพลิน จนลืมว่าระยะทาง มันไกลแค่ไหน ถ้าหากผ่านร้านค้าเราแนะนำให้ซื้อเสบียงตุนขึ้นไปกินยามดึกได้เลย เพราะบริเวณที่พักเสม็ดนางชีจะไม่มีร้านค้านะครับ นอกจากร้านค้าของทางที่พักเอง ทริปนี้เราไดทำการจองที่พักล่วงหน้าไว้กับเสม็ดนางชีบูทีค เมื่อถึงแล้วเราจะต้องจอดรถไว้ด้านล่าง ต้องต่อรถสองแถวของทางที่พักขึ้นเขาเพื่อไปยังที่พักนะครับ เนื่องจากทางขึ้นจะชันมาก

–เสม็ดนางชี ถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งงของ จ.พังงา เสม็ดนางชีเพิ่งเปิดให้นักท่องเที่ยว ทั้งหลายขึ้นไปถ่ายรูปเยี่ยมชม สัมผัสความ เรียกว่าเปิดปุ้บ ก็ได้รับการอัพเกรดให้เป็นที่เที่ยวใหม่ที่มีคนให้ความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ไฮไลท์ของทริปนี้อยุ่ที่ เสม็ดนางชีบูทีค เป็นที่พักแนวกางเต้นท์อยู่บนเนินเขา ทีนี่จะเป็นการนอนแบบกางเต้นท์เพียงอย่างเดียวครับ แต่ไม่ต้องกลัวลำบากครับเพราะที่นี่ยกพื้นสำหรับกางเต้นท์โดยเฉพาะ ในเต้นท์จะมีปลักไฟ พัดลมให้พร้อม ส่วนห้องน้ำเป็นห้องน้ำแยกนะครับ ส่วนราคาของเต้นท์มี 600 -800-1200 บาท ไม่รวมอาหารเช้านะ เราเดินทางมาถึงที่นี่ก็ราวๆ16.30น.แล้ว เลยไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากถ่ายรูปและถ่ายรูปเพราะกลัวแสงจะหมด วิวที่นี่มัน Unseen สุดๆครับ มีวิวที่เป็นทะเล วิวภูเขา วิวป่าโกงกาง วิวรอบๆที่พัก กลางวันไม่ต้องกลัวร้อนครับเพราะลมที่นี่พัดเย็นสบายเพราะเราอยู่บนเนินเขา ยิ่งช่วงดึกๆอากาศจะค่อนข้างเย็นเลยละถ้าใครร้อนก็เปิดพัดลมนอนได้เลยในเต้นท์มีพัดลมให้หลังละ1ตัว

พิกัด https://goo.gl/maps/25CT2BimBUu

ค่าเข้า – ไม่มี

*ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม เสม็ดนางชีบูทีค https://th-th.facebook.com/Sametnangshe.boutique/

–มานอนดูดาวที่เสม็ดนางชี ส่วนนักถ่ายรูป นักล่าทางช้างเผือก ที่เสม็ดนางชีถือว่าเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆในการถ่ายภาพบันทึกความทรงจำเลยก็ว่าได้ เนื่องจากที่เสม็ดนางตกดึกชาวบ้านจะดับไฟ และบริเวณรอบๆก็จะมีเพียงแสงจันทร์ให้ความสว่างทดแทนไฟฟ้า ทำให้การถ่ายภาพทางช้างเผือกเป็นใจแบบสุดๆ ยิ่งช่วงเช้าวิวที่เสม็ดนางชีเราสามารถดูพระอาทิตย์ขึ้นได้ เรียกได้ว่าสวยไม่แพ้ที่เที่ยวที่อื่นเลยทีเดียว

–มากินอาหารเช้าที่เสม็ดนางชีท่ามกลางวิวสุด Unseen คงจะดีใช่ไหมถ้าได้มากินอาหารท่ามกลางธรรมชาติแบบนี้ จิบชา กาแฟดูวิวตอนเช้าๆนี่มันฟินสุดๆนะ ที่จริงเราสามารถออกมากินอาหารที่นอกเม็ดนางชีได้ แต่มาถึงที่นี่ทั้งทีจะไปกินอาหารที่อื่นก็คงไม่ใช่ที่ เราขอแนะนำว่า ให้จองเต้นท์ที่เสม็ดนางชีบูทีคแบบรวมอาหารเช้าด้วยจะคุ้มกว่า เพราะตอนเช้าจะมีอาหารบริการ เช่นข้าวต้ม ชา กาแฟ ผลไม้ อาหารพื้นบ้านของเสม็ดนางชี หรือจะสั่งแบบบริการอาหารตามสั่ง มากินก็ยังได้ หลังจาสกท้องอิ่มแล้วที่นีเราก็เก็บข้าวของและเช็คเอาท์เพื่อออกเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองภูเก็ต เราจะเที่ยวไปเรื่อยๆจนถึงช่วงเย็นเพื่อกลับกรุงเทพ โดยเป้าหมายของเราคือ แท่น แท่น แท้นนน สะพานรักสารสินนั่นเอง



–มาถ่ายรูปที่สะพานสารสิน สะพานสารสิน เป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างจังหวัดพังงากับจังหวัดภูเก็ต เป็นสะพานแรกที่มีการสร้างเพื่อข้ามจากจังหวัดพังงาไปภูเก็ต เชื่อมต่อระหว่างบ้านท่าฉัตรไชยและบ้านท่านุ่นของจังหวัดพังงา มีความยาวทั้งหมด 660 เมตรสาเหตุที่หลายๆคนเรียกสะพานแห่งนี้ว่า”สะพานรักสารสิน “เนื่องด้วย ในอดีต เคยมี ชายหญิงคู่หนึ่งที่ถูกกีดกันด้านความรักด้วยความแตกต่างด้านฐานะทางสังคมแต่ด้วยความยึดมั่นและมั่นคงในรักแท้ จึงมากระโดดน้ำฆ่าตัวตายพร้อมกัน ณ. สะพานแห่งนี้ จึงกลายเป็นตำนานสะพานแห่งความรักอมตะ ที่ เป็นที่มาของ คำเรียกขานกันต่อๆมาว่า “สะพานรักสารสิน” สะพานแห่งนี้ในยามเย็นจะเป็นจุดชมวิว พระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง เหมาะแก่การชมวิว ถ่ายรูป ตกปลา ควรมาช่วงเช้าหรือเย็น ถ้ามาช่วงเที่ยงแดดจะร้อนมาก ปัจจุบันตอนที่เรามาสะพานสารสินได้สร้างสะพานใหม่ขนานไปกับสะพานสารสินเดิม ซึ่งสะพานสารสินเดิมไม่ได้ให้รถวิ่งแล้วแต่เปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งภาพรวมยังคงมนต์ขลังอยู่ และยังสามารถเดินเลาะริมฝั่งชมวิวทะเลได้ มาภูเก็ตทั้งทีต้องอย่าลืมแวะเวียนกันมานะ หลังจากใช้เวลาถ่ายรูปจนเพลินเราก็เดินทางสู่เป้าหมายต่อไปคือวัดพระผุด

พิกัด https://goo.gl/maps/ckAt14Zsu8S2

ค่าเข้า – ไม่มี

–วัดพระผุด (วัดพระทอง) เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงวัดหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ที่ตั้งของวัดพระทองอยู่ทางด้านทิศเหนือของเกาะภูเก็ต ใกล้ถนนเทพกระษัตรี เหมาะที่จะแวะหลังจากลงเครื่องที่สนามบินภูเก็ต หรือ ก่อนไปขึ้นเครื่อง เนื่องจากอยู่ห่างจากสนามบินภูเก็ตประมาณ 10 กิโลเมตรเท่านั้น ที่มาของชื่อ “วัดพระผุด” มาจากที่วัดแห่งนี้มีพระพุทธรูปที่โผล่จากพื้นดินเพียงครึ่งองค์ ในปี พ.ศ. พระเจ้าปะดุง แม่ทัพพม่า ยกพลมาตีเมืองถลาง ทหารพม่าพยายามที่จะขุดพระผุดเอากลับไป แต่เมื่อลงมือขุดก็เจอกับฝูงแตนไล่ต่อย จนต้องล้มเลิก ในวัดพระทอง นอกจากจะมีพระผุดเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดแล้วยังมี พิพิธภัณฑสถานวัดพระทอง เป็นที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุข้าวของเครื่องใช้ของชาวภูเก็ตในสมัยก่อน วัดนี้อาจจะไม่ใช่วัดชื่อดังอะไรมากมาย แต่ถ้าได้แวะมาขอพรคงจะดีไม่ใช่น้อย ไหว้พระเสร็จแล้วต่อไปเราขอไปหาอะไรกินเล่นบ้างละโดยเป้าหมายของเราคือ ร้านหนังสือ 2521

พิกัด https://goo.gl/maps/Q352oHnrnNS2

ค่าเข้า – ไม่มี

–มากินกาแฟที่ร้านหนังสือ 2521 เป็นอีกหนึ่งร้านกาแฟที่เราอยากแนะนำในย่านเมืองเก่าภูเก็ต ที่เปลี่ยนจากร้านหนังสือเดิมที่เปิดมานานหลายปี ให้กลายเป็นร้านกาแฟวินเทจสำหรับคนที่หลงใหลในตัวหนังสือ นอกจากบรรยากาศเงียบสงบที่มีเสียงเพลงเปิดคลอเบา ๆ ยังมีมุมหนังสือดี ๆ ที่คอยดึงดูดคนที่รักการอ่านให้เข้ามาเยือนแล้ว ที่นี่ยังโดดเด่นด้วยผลงานศิลปะและเฟอร์นิเจอร์เท่ ๆ เมื่อร้านหนัง (สือ) ไม่ใช่แค่ร้านหนังสือ เรื่องอาหารก็ย่อมโดดเด่นไม่แพ้กัน มาถึงที่นี่ต้องลองชิมเมนูซิกเนเจอร์ที่เหมาะสำหรับทานเล่นไปพร้อมกับนั่งอ่านหนังสือดี ๆ สักเล่ม เป็นร้านต้องห้ามพลาด กลางถนนถลาง ย่านชิโน ได้ทั้งเดินชิล ชมสตรีมอาร์ท ช็อปปิ้ง พักเหนื่อยให้แวะร้านนี้เลย ร้านน่ารัก คนขายน่ารัก กาแฟอร่อย ราคาไม่แพง บอกเลย

พิกัด https://goo.gl/maps/CLJRNQsQGbP2

ค่าเข้า – ไม่มี

– มาเดินสตรีทอาร์ทย่านเมืองเก่าภูเก็ต ถนนคนเดินภูเก็ต หรือเรียกอีกชื่อว่า หลาดใหญ่ ตลาดจะมีทุกวันอาทิตย์ ประมาณ 5 โมงเย็นเป็นต้นไป ตั้งอยู่บนถนนถลาง ที่สองข้างทางเป็นสถาปัตยกรรมแบบชิโน – โปรตุกีส บนถนนคนเดินนี้ อยากบอกว่าของกินเยอะมากกกก ส่วนใหญ่เป็นของกินแบบท้องถิ่น อาหารพื้นบ้าน รสชาติอร่อย แต่ราคาค่อนข้างสูง คงเป็นเพราะขายให้กับนักท่องเที่ยว ระหว่างทางก็จะมีดนตรีสด การแสดงพื้นเมือง สลับกับของขาย ที่นี่มีครบทุกอย่าง ของกิน ของใช้ ของฝาก เสื้อผ้า เดินไปกินไปถ่ายรูปไป แวะนั่งชมดนตรีสด เป็นพักๆ ที่มีทั้งนักร้องคนไทยและต่างชาติ มีทั้งเพลงไทย เพลงฝรั่งเพลงจีน มีคนร้องเพลงตาม ปรบมือตาม สนุกสนานมาก ถ้าเบื่อๆยังสามารถเดินชมตึกเก่า 2 ข้างทาง พร้อมกับถ่ายรูปสตรีทอาร์ตสวยๆ เดินเพลินๆ ถนนคนเดินนี้ ไม่มีเบื่อแน่นอน จุดหมายต่อไปของเราคือ แหลมพรมเทพ

พิกัด https://goo.gl/maps/o2QgkHeEg622

ค่าเข้า – ไม่มี

–มาดูพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพ หากใครได้มีโอกาสมาเที่ยวภูเก็ตแล้วไม่ได้มาชมอาทิตย์อัสดงที่ แหลมพรหมเทพ ถือว่ายังมาไม่ถึงหรือ เรียกว่า เป็นเป็นการท่องเที่ยวที่ยังไม่สมบูรณ์ตามแบบฉบับของการมาเที่ยวเมืิองภูเก็ต แหลมพรหมเทพจัดเป็นหนึ่งใน จุดชมอาทิตย์ตกก่อนใครที่สวยที่สุดในเมืองไทย หากมาเที่ยวในวันที่อากาศดี ท้องฟ้าเปิด มีเมฆน้อย บรรยากาศพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพจะสวยงามมากเป็นพิเศษ นอกจากความงามยามดวงตะวันลับฟ้าแล้ว แหลมพรหมเทพยังมี ประภาคารกาญจนาภิเษก เป็นอีกหนึ่งจุดสนใจไม่แพ้กัน โดยที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็น ลานจอดรถกว้างขวางคอยให้บริการนักท่องเที่ยว ใกล้กับลานจอดรถมีร้านขายของที่ระลึก มีร้านอาหารและ เครื่องดื่ม คอยให้บริการหลายร้าน โดยแหลมพรหมเทพนั้นห่างจากตัวเมืองประมาณ 19 กม. เท่านั้น ใกล้แค่นี้อย่าลืมแวะมากันนะ ต่อเราเราจะเดินทางไปสนามบินเพื่อกลับกรุงเทพแต่มีจุดแวะหนึ่งจุดที่เราต้องแวะให้ได้คือ หาดในยาง

พิกัด https://goo.gl/maps/zFMkELaJVrq

ค่าเข้า – ไม่มี

-มาดูเครื่องบินที่หาดในยาง หลายๆคนจะเคยเห็นภาพเครื่องบินแลนดิ้งริมทะเล ซึ่งดูสวยแปลกตา แต่ใครจะรู้ว่าที่ประเทศไทยก็มีนะ อยู่ที่จังหวัดภูเก็ตนี่เองครับ หาดในยางเป็นชายหาดที่อยู่ติดกับสนามบินนานาชาติภูเก็ต โดยชายหาดแห่งนี้เมื่อก่อนยังไม่เป็นที่นิยมและรู้จักของนักท่องเที่ยวสักเท่าไหร่ จนมีการนำรูปเครื่องบินตอนบินลงสนามบินผ่านหาดในยางมาแชร์บนโลกโซเชียล เลยทำให้หาดนี้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศทันที เราอยากมาดุให้เห็นด้วยตาตัวเองว่ามันจะสวยเหมือนในรูปไหม พอมาจริงๆต้องร้องว๊าวววว แน่นอน นอกจากมาถ่ายภาพกับเครื่องบินแล้วบริเวณชายหาดยังเป็นหาดทรายที่สวยงามแห่งหนึ่งของจังหวัดภูเก็ตเลยละ โดยชายหาดมีขนาดกว้างและยาวมากเน้นครับว่ายาวจริงๆ นอกจากนั้นทั่วทั้งบริเวณนี้ยังมีสวนสนค่อยให้ความร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อนและเล่นน้ำ หาดแห่งนี้มีบรรยากาศเงียบสงบ เป็นที่นิยมในการพักผ่อนหย่อนใจของชาวภูเก็ตเป็นส่วนใหญ่ มีบ้านพักของ อุทยานฯ และเต็นท์สนาม ไว้ค่อยบริการนักท่องเที่ยวในราคาย่อมเยา แต่ไม่ค่อยมีร้านค้าสักเท่าไหร่นะครับ เป็นอีกหนึ่งจุดเที่ยวที่เราขอแนะนำครับ เที่ยวหาดในยางเสร็จเราก็เดินทางเข้าสู่สนามบินภุเก็ตกัน

พิกัด https://goo.gl/maps/heCcNDgzJsF2

ค่าเข้า – ไม่มี

–กลับกรุงเทพ อย่างที่บอกตอนขามาว่าเราได้ซื้อตั๋วเครื่องบินขากลับในราคาน่ารักๆชั้นประหยัด บินตรงสู่กรุงเทพ โดยเราโดยสารขากลับกรุงเทพโดยสารการบินแอร์เอเซีย เราถึงสนามบินกันต้งแต่เวลา 20.00 น.เพื่อทำการถ่ายเทน้ำหนักกระเป๋า อิอิ เพราะน้ำหนักเกินไง 55 โดยเที่ยวบินที่เราใช้บริการเป็นเที่ยวสุดท้ายของวัน ออกจากภูเก็ตในเวลา 22.25 น. และถึงสนามบินดอนเมืองในเวลา 23.50 น.โดยสวัสดิภาพ ซึ่งจากการใช้บริการจริงเครื่องถึงตรงเวลาและไม่ดีเลย์ครับ

พิกัด https://goo.gl/maps/3BiMcHSwzS92

➡️ #ขอบคุณที่อ่านจนจบ หวังว่ารีวิวไก่เขี่ยจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับนักเดินทาง อาจจะไร้สาระไปบ้างก็ขออภัยเราเเค่อยากเเบ่งปันภาพสวยๆรีวิวการเดินทางก็เท่านั้น รออ่านรีวิวทริปต่างๆเเบบละเอียดตัวเต็มได้ทาง www.pantip.com/www.redme.me / www.thailandtopvote.com /http://www.travelbox.live/ เเล้วพบกันใหม่ในทริปต่อๆครับ ......ขอบคุณครับ ^^

Taeremix

 วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 เวลา 01.36 น.

ความคิดเห็น