ได้มารู้จักกับคาเฟ่ ขนมไทยแห่งหนึ่งย่านซอยอารีย์ค่ะ นอกจากร้านจะเก๋แล้ว ชื่อคาเฟ่ก็ยังเท่อีกด้วย นั่นคือร้าน "ทองย้อย คาเฟ่" ซอยอารีย์ ่เนื่องจากแต่เดิมร้านนี้เคยเป็นร้านขายเสื้อผ้ามาก่อน ดังนั้น รูปแบบการจัดวางของทางร้านเลยดูแปลกตาไป แต่ก็ไม่แปลกใจ เพราะยังคงสไลล์ของร้านเสื้อผ้าแบบวินเทจดีไซน์อยู่เช่นเดิม

เคาเตอร์คิดเงิน และเป็นเคาเตอร์โชว์ขนมไปในตัว

วันที่เราไป ถึงจะเป็นช่วงวันหยุดยาวที่คนกรุงเทพฯ ไม่ค่อยอยู่รักษากรุงฯ กันก็ตาม แต่บอกเลยค่ะ คนแน่นร้านมาก ถึงขนาดต้องขอคิวกันเลยทีเดียว อาจจะด้วยตัวร้านเป็นตึกแถวคูหาเดียว แต่ตกแต่งในสไตล์วินเทจ แถมประดับตกแต่งต้นไม้ และดอกไม้ไว้จนเต็มร้าน ทำให้ลูกค้าชอบที่จะมานั่งกินขนม ถ่ายรูปหามุมสวย ๆ โดยเฉพาะกำแพงดอกไม้ ที่ประดับดอกไม้ไว้จนเต็มฝา

ตู้โชว์ขนมบริเวณทางเข้าร้าน

อีกทั้งสีที่ใช้ภายในร้าน เฟอร์นิเจอร์หวาย และวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ภายในร้าน ไปจนถึงภาชนะต่าง ๆ ก็ล้วนแล้วแต่มีดีไซน์ และดูน่าติดตาม ยังไม่ทันจะชื่นชมร้านเขาจนทั่ว คู่นัดหมายเราก็มาเสียแล้ว

กำแพงดอกไม้ ที่จัดประดับไว้ให้ลูกค้าถ่ายรูป

ดูเมนูที่มีทั้งขนม และเครื่องดื่ม รายการและรายชื่ออาหารในเมนูก็ตั้งออกมาได้อย่างเก๋ไก๋ นอกจากจะขายขนมเป็นรายชื่นแล้ว ทางร้านยังจัดเป็นชุด แบบชุดน้ำชายามบ่ายไว้ให้บริการ มีทั้งชุดเล็ก และชุดใหญ่ แต่วันนี้เรามีเจ้ามือ สั่งชุดใหญ่เลยค่ะพี่น้อง

ขนมชุดน้ำชา เสิร์ฟมาในภาชนะทองเหลืองทั้งรูปร่าง และขนาด รวมถึงสีสันดูขลังได้อารมณ์ ภายในชุดน้ำชาชุดใหญ่นั้นประกอบด้วย ขนม 5 อย่างในถาดทองเหลือง ทับทิมกรอบ เค็ก 1 ชิ้น ซึ่งเราเลือกเป็น เค็กบัวลอยไข่เค็ม คุกกี้งาดำ น้ำอัญชัญ 2 แก้ว และน้ำชา 1 ชุด แต่หากไม่รับน้ำชา สามารถรับเป็นเค็กเพิ่มได้อีก 1 ชิ้น ก็เลยเลือกเป็นเค็กมะปรางมาลองชิมดู

ขนมห้าอย่างที่เสิร์ฟมาในถาดทองเหลืองรูปร่างขึงขัง

ข้าวเหนียวปลาแห้ง ข้าวเหนียวมูลหวานละมุนลิ้น กินแกล้มกับปลาแห้งหวาน ๆ เค็ม ๆ กรอบ ๆ

ลืมกลืน (ถ้าจำไม่ผิดนะ) รสชาติหวานมัน

ตะโก้เผือก รสชาติหวานมัน เค็มด้วยหน้ากะทิที่ใส่มาตัดรส

มันม่วงกวน อันนี้ให้รสชาติหวาน มัน และหนึบหนับ เคี้ยวเพลิน

ทองหยอดรูปปลาตัวน้อยและเต่าตัวน้อย ไม่หวานมาก แต่ให้รสชาติความมันของไข่แดงมากกว่า

เค็กบัวลอยไข่เค็ม, ทับทิมกรอบ, คุ๊กกี้งา และน้ำอัญชัญ กับน้ำชากุหลาบหอมหวาน

ขนมทุกชิ้นจะได้รับการปิดทอง สมชื่อ ทองย้อย เลยจริง ๆ

ชีสเค็กมะปราง เห็นรูปร่างหน้าตาก็ชอบใจแล้วว่าทางร้านมีไอเดียดี ที่จะนำผลไม้ และขนมไทยมาประยุกต์ แต่พอเอาเข้าปาก บอกได้เลยว่า เลิศศศศศ เพราะแป้งคุ๊กกี้ที่ใส่ชีสเค็กให้ความหวาน กรอบละมุน ไม่หวานมากมีเค็มติดปลายลิ้น มาเจอกับชีสเค็กมะปราง และเนื้อมะปรางฝานบาง ๆ วางด้านบนยิ่งตัดรสเปรี้ยว หวานมัน หอมขึ้นจมูก แถมยังมีมะปรางปอกเปลือกสวย ๆ วางมาให้ทานด้านหน้าอีกหนึ่งลูกเสียด้วย

ชีสเค็กบัวลอยไข่เค็ม จริง ๆ ทางร้านมีบัวลอยไข่หวานด้วยนะคะ แต่เราอยากลองบัวลอยไข่เค็ม ให้รสชาติแบบบัวลอยเต็ม ๆ แต่ไม่หวานมาก หนักไปทางมันเค็มติดปลายลิ้น ได้รสสัมผัสของแป้งคุ๊กกี้ที่ด้านล่าง ได้ความเค็มมันของไข่แดงเค็ม อร่อยและเก๋ค่ะ

เห็นเล็ก ๆ อย่างนี้ อันนี้เด็ดค่ะบอกเลย คุ๊กกี้งา ที่ให้รสสัมผัสไม่เหมือนคุ๊กกี้ มันกรอบร่วน ไม่แข็ง กินเคี้ยวเพลิน ๆ แพร๊บเดียวหมดเสียแล้ว

กินขนมตัวเองเรียบร้อยแล้ว มาเดินแอ่วขนมในตู้กันบ้าง จะเห็นว่า มีขนมไทยหลากหลายที่นำมาประยุกต์ให้เป็นขนมแบบตะวันตก แต่ขนมทั้งหมดนี้ต้องอยู่่ภายใต้ความเย็น หากอุณหภูมิไม่ถึงจะคลายตัว ดังนั้น เมื่อทางร้านนำออกมาเสิร์ฟให้กับลูกค้า จะเช็คความแข็งตัวก่อน หากไม่ได้ตามที่ต้องการ ก็ต้องตัดใหม่ เสิร์ฟใหม่กันเลยทีเดียว

(ซ้ายบน) ชีสเค็กลิ้นจี่กุหลาย (ขวาบน) ชีสเค็กทับทิมกรอบ
(ซ้ายล่าง) เค็กฝอยทอง (ขวาล่าง) ชีสเค็กกุหลาบส้มโอ

นั่งกันไป ดูกันไปซักพักน้ำหมดค่ะ เลยสั่ง ช็อกโกเย็นกุหลาบ สีชมพูสวย และช๊อกโก้เย็นมินต์สีเขียวสดใส ดื่มเข้าไปนี่เรารับรู้ถึงความเข้มข้นของช๊อกโกแลตเลยนะคะ แอบหวานมัน และหอมด้วยกลิ่นของกุหลาบและมินต์จนฟุ้งอยู่ในปาก

ทำเป็นเล่นไป เห็นเป็นขนมทานเล่นแบบนี้ ก็กินกันจนได้อิ่มเลยนะคะ ก่อนกลับเราแวะไปชมห้องเสื้อที่ตอนนี้นำขึ้นไปโชว์ไว้บนชั้นลอยของร้าน และหากใครรับทานขนมของทางร้าน จะสามารถนำใบเสร็จมาเป็นส่วนลดในการซื้อเสื้อผ้าของทางร้านได้นะคะ (เงื่อนไขเป็นไปตามร้านกำหนด) เรียกว่า กินอิ่มแล้วยังได้สวยอีกต่างหาก ....

สายลม ที่ผ่านมา

 วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2562 เวลา 17.51 น.

ความคิดเห็น