อยากหนีเรื่องวุ่นวายไปพักใจที่เกาหลี แต่มีงบไม่ถึงหมื่น เอาวะ ไปดาลัทแทนก็ได้

จากที่เคยเห็นภาพทุ่งไฮเดรนเยียสวยงาม คาเฟ่เก๋ๆ เมืองที่ไม่วุ่นวาย และที่สำคัญราคาสบายกระเป๋า

เราจึงรีบชวนเพื่อนกึ่งบังคับ จองตั๋ว วางแพลน แล้วขนเสื้อผ้ายื่งกว่าไปเกาหลี ไปถ่ายรูปโปรไฟล์ดีๆ กันที่ดาลัท

เมื่อก่อนดาลัทอาจจะเป็นแค่ทางผ่านของคนที่นั่งเครื่องมาลงโฮจิมินห์ และไปเที่ยวทะเลทรายที่มุยเน่

แต่ทริปนี้เราจะไปจัดเต็ม เที่ยวชิลๆ กิน ดื่ม ปาร์ตี้กันแบบไม่ต้องรีบที่ดาลัท 5 วัน 4 คืน

แบบที่ว่ากำเงินไป 5000 บาท (ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน) ยังเหลือ

"น ก อ อ ก"

เพราะเรา 'นก' เราจึง 'ออก' เดินทาง

https://www.facebook.com/nokaokthetraveller

https://www.youtube.com/channel/UCGuHxDmnI0lLCMhpp61YFBA


หรือใครอยากดูแบบเป็นคลิปก็มีนะจ๊ะ


PLAN 5 DAYS 4 NIGHTS


DAY1 : Airport / Big C / Cozy Boutique Hotel / Nem Nướng Bà Hùng / UP coffee / Dalat Market


DAY2 : Cối Xay Gió / AN CAFE / Bún Chả Hà Nội / Dalanta Waterfall / Domaine de Marie / Pedagogical College of Đà Lạt / Dalat Market / B21Bar


DAY3 : Dalat Railway Station / Garden hydrangeas / Sunny Farm / Ting House2 / BBQ Mọ Tề


DAY4 : THONGDALAT.SPACE / Secret Garden (Closed) / Doha Cafe / Dalat Market / Fog Bar / B21Bar


DAY5 : Lien Hoa Bakery / Airport


ข้อควรรู้ก่อนไปดาลัท

1. มีบินตรงวันละเที่ยว เวลา 11.30 สายการบิน Vietjet Air

2. เวียดนามเวลาเท่าประเทศไทย

3. เวียดนามไม่สามารถเช่ารถยนต์ขับเองได้ ต้องมีใบขับขี่เวียดนามเท่านั้น

4. ค่าแท็กซี่ เริ่มตอนที่ 7,000 ดอง ประมาณ 10 บาท

5. ใครที่เที่ยวโดยแท็กซี่ ถ้าออกไปนอกเมือง สามารถบอกคนขับให้รอรับกลับได้ ไม่เสียค่าอะไรเพิ่มเติม

แต่พวกเราก็ให้ทิปเค้าไปนิดหน่อย

6. คนดาลัทพูดภาษาอังกฤษได้น้อยมาก เราเลยต้องคุยกันด้วยภาษามือ ถ้าไม่รอดจริงๆ

ก็เอา Google Translate ขึ้นมาพิมพ์กันตรงนั้นแหละ

7. อาหารเวียดนามที่ดาลัทค่อนข้างหวาน พริกสดบดๆ เหมือนพริกในผัดกะเพราที่มีอยู่บนโต๊ะแทบทุกร้านช่วยท่านได้

8. ร้าน Local ที่เวียดนาม จะมีแก้วชาเล็กๆ กับเหยือกน้ำชา เท่าที่เราสังเกตดูคือคนก่อน

กินเสร็จก็คว่ำไว้ เลยไม่กล้ากินต่อ ต้องสั่งน้ำเปล่าเป็นขวด หรือน้ำอัดลมมากินแทน

10. เบียร์ที่เวียดนามถูกมาก กระป๋องละประมาณ 20 บาท ถ้าในผับ ก็ขวดเล็กประมาณ 60 บาท

11. โรงแรมที่ดาลัทไม่มีแอร์ แต่เดือนกุมภาพันธ์กลางคืนหนาวมาก อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 13-16 องศา

แล้วพอเริ่มเย็น อากาศลดฮวบทุกชั่วโมงเลย

12. ที่ดาลัทบีบแตรกันโหดมาก แต่เพื่อนบอกที่โฮจิมินห์โหดกว่าเยอะ ตอนไปวันแรกคือหงุดหงิดมาก แต่อยู่ไปซักพักก็จะชิน

13. ปลั๊กที่เวียดนามเหมือนไทย แล้วเค้าไม่ค่อยหวงปลั๊ก ตามโรงแรม ร้านกาแฟ มีปลั๊กเต็มไปหมด


DAY01

เวลาประมาณ 13.00 น. พวกเราก็มาถึงสนามบินดาลัท สนามบินที่นี่ไม่ใหญ่มาก

พอผ่าน ตม. เสร็จ เราก็เดินไปขึ้นรถบัสเข้าเมืองที่หน้าอาคารผู้โดยสาร ราคาคนละ 40,000 VND

พอคนเต็มก็ออก ใช้เวลาประมาณเกือบๆ ชั่วโมง

รถจะมาจอดที่บิ๊กซี บิ๊กซีจะอยู่ใต้ดินของโดมข้าง DOHA CAFE ที่คนมาถ่ายรูปกันเยอะๆ นั่นแหละ

พอเดินลงบันไดไป ให้เดินไปทางเข้าบิ๊กซี ร้านจะอยู่ตรงบันไดเลื่อนเลย เป็นตู้เล็กๆ งงๆ

ที่ดูไม่เหมือนร้านขายซิม เราซื้อแบบ 5 GB แพ็คเกจต่ำสุด ราคา 150,000 VND ซื้อมาก็คิดว่า

ตัดสินใจถูกแล้วที่ซื้อแค่นี้ เพราะดาลัทมีไวไฟฟรีแทบทั้งเมือง ร้านอาหาร คาเฟ่

หรือแม้กระทั่งร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านๆ ก็มีให้ เพราะฉะนั้น 5 GB ก็เหลือเฟือจ้า

รอซื้อซิมอยู่นานมาก เพราะคนขายมีอยู่ 2 คน กว่าจะกรอกข้อมูล กว่าจะ Activate

แล้วคนที่ลงรถมาก็มุ่งหน้ามาซื้อพร้อมๆ กัน ก็ปาไปครึ่งชั่วโมงได้

เสร็จแล้วก็เรียกแท็กซี่ไปที่พักเราคืนแรก Cozy Boutique Hotel แค่เรียกแท็กซี่ก็งงแล้วจ้า

คือเราชินกับการอยู่ไทยแท็กซี่มีป้ายว่าง แล้วอยู่ที่นี่ดูยังไงว่ามันว่างอะ ไม่มีไฟอะไรทั้งนั้น

ขับมาเราก็โบก พอขับผ่าน เอ๊า!! คนนั่งเต็มรถ พยายามถาม reception ที่โรงแรมแล้วว่า

ดูยังไงว่าคันไหนว่าง แต่ก็สื่อสารกันไม่ค่อยเข้าใจ

ที่พักของเรา 2 คืนแรก ห้อง 4 คน มีห้องน้ำในตัว ราคาคืนละ 900 กว่าบาท

วิวที่ระเบียงดีมากกก ราคาไม่แพง อยู่ห่างจากตลาดดาลัทประมาณ 1.7 KM.

แต่เสียอย่างเดียวคือห้องแคบไปหน่อย แต่ราคานี้ก็โอเคแหละ

ส่วนใครที่นั่งรถรอบกลางคืนมาถึงเช้าแล้วอยากเช็คอินก่อน ก็จ่ายเพิ่ม 15% ของราคาต่อคืน

เพราะเพื่อนเราบินตรงจากภูเก็ตไปลงโฮจิมินห์แล้วนั่งรถมาเจอกันที่ดาลัท ก็ใช้วิธีนี้


Cozy Boutique Hotel


https://goo.gl/maps/xACSe8qJvWG2

พนักงานที่นี่พูดภาษาอังกฤษได้ค่อนข้างดี โทรเรียกแท็กซี่ให้เราทุกครั้งที่ออกจากโรงแรม

อยากไปกินอาหารแนวไหนก็แนะนำดี ที่สำคัญหน้าตาน่ารักด้วย สาวเวียดนามนี่เบ้าหน้าดี

หุ่นดีทุกคนเลย อิจฉาโว้ยยย

มื้อแรกของพวกเราผู้หิวโหยตอนแรกเล็งร้านแหนมเนืองไว้ร้านนึง จากรีวิวใน Foody

แต่ลองถามพนักงาน เค้าแนะนำอีกร้านมา เลยเชื่อเค้า


Nem Nướng Bà Hùng

https://goo.gl/maps/NtxXsBWVDpH2

เดินเข้าร้านแหนมเนืองไม่พูดพร่ำทำเพลง คนขายยกมือ 4 เราก็พยักหน้าไป

ไม่นานแหนมเนืองก็มาเสิร์ฟ 4 ชุด มีแหนมที่เหมือนแหนมซี่โครงหมูตามร้านเหล้าแต่ไม่มีกระดูก

มีอะไรกรอบๆ ไม่รู้เหมือนแผ่นแป้งทอด มีถาดผักใหญ่ยักษ์ ผักดอง และแป้ง ที่นี่เค้าจะมาแบบเหนียวๆ

เหมือนผ่านน้ำอย่างรวดเร็วไม่ทันได้เปียก

นี่เคี้ยวกันจนเมื่อยปาก ที่สำคัญชุดนึงเยอะมากเด้อ ที่นี่ไม่ต้องสั่งอาหารเป็นเซ็ตตามจำนวนคนก็ได้

แนะนำให้สั่ง 2 คนต่อ 1 ชุดก่อน น่าจะกำลังดี แต่ผักดองที่นี่ดีมาก กรอบ เปรี้ยวๆ หวานๆ นี่กินจนหมดจาน

นั่นแหละ อย่างที่บอก เราเทน้ำชาใส่แก้วแล้วก็มองอยู่นานมาก แก้วนี้มันกินได้จริงเหรอวะ

มันเหมือนมีร่องรอยการใช้งานจากคนก่อนๆ มาไม่รู้กี่ก่อน เรามองหน้ากันสักพักก็เลย Coke please!!!

คือไม่รู้ว่าเป็นวัฒนธรรมหรืออะไรของบ้านเค้านะ แต่เราขอผ่านก่อนละกัน

กินเสร็จ ออกจากร้านประมาณ 17.00 อากาศเย็นลงเร็วมาก แต่ละคนคือใส่ขาสั้น เสื้อบางๆ จากเมืองไทย

มาอย่างมั่นใจ หนาวสั่นกันเลยจ้า

UP Coffee มาถึงก็สั่งกาแฟข้างล่างกันก่อน แล้วเดินขึ้นไปมี 3 ชั้น แนะนำให้มาช่วงเย็นๆ

ที่นี่วิวดีมาก กาแฟก็ดีมากเช่นกัน จากการโหวตของพวกเราทุกคนในทริป ให้กาแฟร้านนี้เป็นอันดับ 1

ส่วนเรากินโยเกิร์ต ก็อร่อยมากเช่นกัน โยเกิร์ตที่นี่มีขายทุกที่ ทั้งคาเฟ่ ข้างทาง ตามตลาด ราคาไม่แพง

แล้วอร่อยทุกร้าน คอนเฟิร์ม


UP coffee


https://goo.gl/maps/36szKBnusd82

ที่นี่ถ่ายรูปได้แทบทุกมุม เราผลัดกันถ่ายรูป นั่งชิลๆ รับลมเย็นๆ รู้ตัวอีกทีก็ผ่านไปเกือบ 3

ชั่วโมงแล้ว ถ่ายจนกล้องแบตหมด จนชาร์จในร้าน แล้วถ่ายกันต่อจนค่ำ เลยย้ายร่างไปที่

Dalat Night Market

พอลงจากแท็กซี่ตรงวงเวียนหน้าตลาดเท่านั้นแหละ โอ้โห แม่เจ้าโว้ย เสียงแตรตรงวงเวียน

ระงมอะไรกันขนาดนั้นล่ะ คืออยากรู้ว่าที่เค้าบีบๆ กันนี่หมายความว่าไง แล้วถ้าเราเป็นคนขับจะรู้ได้ไง

ว่าใครบีบให้เรา หรือเค้าบีบให้ใคร บีบจนนี่อยากรู้ว่าบริษัทรถจะมีโปรโมชั่นซื้อรถแถมเปลี่ยนแตร

ไม่จำกัดตลอดอายุการใช้งานมั้ย?

วันนี้วันเสาร์ คนในตลาดเยอะมาก ของกินก็น่ากินทั้งนั้น คนเวียดนามเค้าชอบขายของเหมือนกัน

แล้วขายติดๆ กัน คืองงว่า ตลาดตั้งกว้างใหญ่ ก็ไปวางไกลๆ กันหน่อยก็ได้ ขายอะไร ก็จะกระจุกไปขายติด

กันอยู่หย่อมนึง งงมาก


DALAT MARKET

https://goo.gl/maps/1HspWVUNZF22

เราเดินไปจนถึงวงเวียน รอบวงเวียนเต็มไปด้วยร้านพิซซ่าเวียดนามติดกันประมาณ 30 ร้านได้

เราก็เลยเดินวน 1 รอบ แต่เล็งไว้ร้านนึง เพราะคนขายเป็นผู้หญิง หน้าตาโอเค เจาะเต็มตัว

เออ! มีคาแรคเตอร์ดี เดี๋ยวพี่กลับมากกินร้านนี้นะน้อง พอวนกลับมาที่เดิม เอ๊ะ!! ทำไมโล่ง

เมื่อกี๊ภาพลวงตาเหรอ? หรือฝันไป? น้องเจาะไปไหน พอมองไปไกลๆ ก็อ๋ออออออ ตำรวจมาจ้า

คือตำรวจที่นี่คงทำงานควบตำแหน่งเทศกิจด้วย แป๊บเดียวเท่านั้น ฟุตปาธรอบวงเวียนที่เต็มไปด้วยร้านค้า

หายวับไปกับตา แม่ค้าพากันยกร้านหนีเข้าไปอยู่ตรงสวนเล็กๆ ในวงเวียน รอตำรวจไป ก็ไม่ไปซักที

สุดท้ายเราเลยไปหาร้านพิซซ่าร้านอื่นแทน

พิซซ่าเวียดนามจะมีแป้งๆ แบบแป้งแหนมเนือง ไข่ ผักโรย กับผงอะไรซักอย่างเหมือนปลาแห้ง

บางร้านก็มีซอส ชีส ไส้กรอกอะไรเต็มไปหมด ราคาประมาณ 20,000 VND

ก่อนกลับเห็นร้านปิ้งย่างไม้ๆ คลายๆ หมาล่าบ้านเรา มีผัก ไก่ หมู กุ้ง ปลาหมึก

น่าสนใจเลยซื้อมาประมาณ 7-8 ไม้ ตอนหยิบก็ไม่มีราคา พอคิดเงินก็แอบตกใจเบาๆ 150,000 VND

200 กว่าบาท แพงจัง ที่สำคัญคือไม่อร่อยเลย เป็นอาหารที่ไม่ประทับใจที่สุดในทริปนี้

ขากลับเดินไปเรียกแท็กซี่อีกฝั่งของสระน้ำ กว่าจะเรียกได้ รถเยอะมาก กลางคืนก็มองไม่เห็นว่า

แท็กซี่ว่างไม่ว่าง เรียกได้บางคันเห็นเราเป็นต่างชาติ เค้าคงขี้เกียจสื่อสาร เลยไม่ไป

จนตกลงกันว่าถ้าว่างอีกคัน เราเปิดประตูขึ้นไปนั่งเลย แล้วค่อยบอกว่าไปไหน สุดท้ายพอเราขึ้นไป

แท็กซี่ไม่ยอมกดมิเตอร์จ้า บอกว่าเหมา 40,000 เอาวะ ขามาก็ 30,000 กว่าแล้ว ยอมๆ ไปเหอะ

หนาว อยากกลับโรงแรม


DAY02

ตามแพลนคือต้องออกจากห้อง 9 โมง ใช่จ้ะ 10 โมงเรายังแต่งหน้ากันไม่เสร็จเลย

ที่แรกวันนี้คือร้านขนมปังเหลืองที่ใครไม่มาถ่ายรูปเหมือนมาไม่ถึง ซึ่งมันก็คือกำแพงโง่ๆ สีเหลือง

ข้างร้านที่เหมือนตึกแถวห้องมุมอะ ทำไมคนต้องมาต่อคิวกันยาวเหยียด ไร้สาระ ตัดภาพมาคือ

นี่ผ่านทีไรแวะถ่ายทุกรอบจ้า กลางวันกลางคืนมีหมด ต่อแถวถ่าย โดนคนเวียดนามแซงคิว

จนนี่ต้องมองแรงไปหลายที 5555
 ร้านนี้มีหลายสาขานะ กำแพงในภาพอยู่สาขาที่ใกล้ตลาดดาลัท

Cối Xay Gió

https://goo.gl/maps/jGgMw3FHRbG2


คนอื่นมาถ่ายๆ แล้วก็กลับ ส่วนสายกินอย่างเราก็ขอลองซักหน่อย ร้านนี้ไม่ได้มีดีแค่

กำแพงเหลืองนะ ขนมเค้าก็อร่อยเด้อ ที่เราชอบที่สุดคือ แอเคลร์ เอ๊ะ!!! ตกลงนี่เรียกว่า เอแคลร์มั้ย?

เอแคลร์กับชูครีมต่างกันยังไง สมมุติว่ามันคือเอแคลร์ละกันเนอะ แป้งก็ไม่ต่างจากของไทยมาก

แต่ว่าไส้มันหอม ละมุนลิ้นมาก

กินเสร็จ ถ่ายรูปจนหนำใจเราก็เดินไปร้าน An Cafe ที่อยู่ไม่ไกลกันมาก

ร้านก็แบ่งออกเป็นหลายมุม แต่ด้านบนเต็มหมด เราเลยต้องนั่งข้างล่าง บรรยากาศเราว่าเฉยๆ

หรือเป็นเพราะนั่งด้านล่าง ที่ไม่ใช่โซน outdoor เครื่องดื่มก็รสชาติมาตรฐาน ไม่ค่อยอินเท่าไหร่

AN CAFE

https://goo.gl/maps/VNjMpbpJE3x



ระหว่างกิน มองเห็นฝั่งตรงข้ามมีร้านเฝอ เลยตกลงกันว่า ไปหาของคาวจริงจังกินกันเถอะ

ที่นี่จะมีแค่ 3 เมนู เฝอเนื้อ ข้าวเหมือนข้าวผัดกับหมูย่าง แล้วก็มีเส้นขนมจีนหมูย่าง แล้วก็เหมือนเดิน

แก้วชาวางคว่ำไว้แบบมีคราวน้ำชาอีกแล้วจ้า อะ สั่งน้ำขวดมากินสิจ๊ะ จะรออะไร


Bún Chả Hà Nội

https://goo.gl/maps/SCJXJWuVKyo

พวกเรา 4 คนกินทั้ง 3 เมนู เฝอเนื้อเพื่อนบอกว่าเฉยๆ ข้าวผัดเพื่อนก็บอกว่าจืดๆ

แต่ขนมจีนหมูย่างของเรา เราชอบมาก เพราะปกติชอบกินอาหารเวียดนามด้วยหรือเปล่าไม่รู้

จริงๆ มันก็จะแอบบรสชาติจืดๆ นิดหน่อย แต่ทุกอย่างแก้ได้ด้วยพริกตำ

อร่อยในราคาจานละ 40,000 VND อันนี้ให้ผ่าน


ตั้งแต่ก้าวขาออกจากโรงแรมก็คือยังกินไม่หยุด ต่อไปเราเลยต้องไปย่อยอาหารที่กินไป

คือไปห้องน้ำ!! ผิด!! ไปเล่น Roller Coaster กันที่ Dalanta Waterfall เราเรียกแท็กซี่จากหน้าร้าน

An Cafe ไปน้ำตก ประมาณ 8. Km. พอไปถึงคนขับก็จอดถอยเข้าถอยออก เข้าซองอย่างดี

เราเลยหันมาคุยกันว่า เค้าจะจอดรอเราเหรอวะ? นี่เป็นคนทำแพลนก็เคยอ่านเจอว่าให้เค้ารอได้

แต่ก็คิดว่าอาจจะต้องดีลกันตั้งแต่เรียก ไม่คิดว่ารอได้ทุกคันขนาดนี้ พอจอดเสร็จคนขับก็พาเราไปซื้อตั๋ว

Roller Coaster แล้วก็บอกว่าเดี๋ยวรอตรงนี้ เราก็เอ้อ ดีว่ะ แต่ในใจยังแบบ

จะคิดค่ารอตูมั้ยเนี่ย แต่คิดค่ารอเพิ่มก็ต้องจ่ายแหละ มองไปรอบๆ เราไม่น่าเรียกแท็กซี่ตรงนี้เข้าเมืองเองไ้ด้


Dalanta Waterfall

https://goo.gl/maps/MeuYHX6YTaq

Roller Coaster คนละ 150,000 VND เป็นตั๋วไป- กลับ เก็บตั๋วไว้ดีๆ นะ เพราะเค้าจะฉีกหางตั๋ว

ทีละส่วน คันนึงแล้วแต่เราเลยว่าจะนั่ง 2 คน หรือคนเดียว ส่วนเรานั่ง 2 คน ตอนแรกก็ธรรมดามาก

แต่ได้ยินเสียงกรี๊ดด้านล่าง ก็คุยกันว่า กรี๊ดอะไรกันวะ ไม่เห็นน่ากลัวเลย พอผ่านจุดที่ดึงขึ้นเนินอัตโนมัติ

เท่านั้นแหละ ที่ผ่านมา คุณหลอกดาว!! โอ้โห ทางคดเคี้ยวมาก โค้งทีนี่กรี๊ดลั่น ยิ่งบางโค้งที่ไม่มีตาข่ายกั้น

คือเหมือนจะหลุดโค้งออกไปฟาดต้นไม้ให้ได้ ในขณะที่กรี๊ดจนหน้าบูดเบี้ยวเสร็จ

ก็มีป้ายภาษาเวียดนาม เราก็งง เฮ้ย ป้ายอะไรวะ ให้ระวังหรือทำอะไรวะ ยังไม่ทันจะหุบปากก็มีแสงแฟลช

วาบออกมาจากป้าย อ๋ออออ ถ่ายรูป นังบ้า!!! ภาพฉันจะเป็นยังไงวะเนี่ย

น้ำตกข้างล่างก็ไม่มีอะไรมาก ถ่ายรูปกัน 5 นาทีกลับ ส่วนเพื่อนเราก็ซื้อภาพที่ถ่ายไป

ราคา 60,000 VND เป็นภาพปริ๊นท์ออกมา แล้วก็มีรหัสให้ล็อกอินเข้าไปเซฟรูปจากเว็บ

ขาขึ้นจะมีสลิงดึงไป เรานั่งเฉยๆ คนที่ดูแลบอกเลยว่า “นั่งเฉยๆ” ทีภาษาอังกฤษน่ะไม่ยอมพูดกัน

ภาษาไทยดันพูดได้เฉย ออกมาก็เจอคุณลุงยืนรออยู่ ก็เลยบอกคุณลุงว่าเราจะไปโบสถ์สีชมพู

ไปถึงก็ประมาณ 4 โมงเย็น ก็จะย้อนแสงหน่อยๆ แต่ก็ไม่มาก เพราะวันนั้นเมฆค่อนข้างเยอะ

ตอนเราไปไม่ค่อยมีคนเลย พอถ่ายกันไปแป๊บนึง คนมากันเพียบ


Domaine de Marie

https://goo.gl/maps/wZxtSBRBueQ

ถ่ายเสร็จก็เดินออกมา กินโยเกิร์ตดาลัทที่เค้าบอกว่าต้องมากิน คือหน้าทางเข้ามีคุณป้า 6 คน

ที่นั่งขายโยเกิร์ต กับสตรอว์เบอร์รีคลุกพริกเกลือเหมือนกันหมด ป้าาาา ป้าลองคุยกันมั้ย

ว่าใครจะขายอะไร จะได้ไม่ต้องแย่งกัน นี่ก็เดินวนๆ หลบตาป้า เพราะรู้สึกผิด

แล้วก็แรนด้อมเลือกมาร้านนึง ราคาถ้วยละ 10,000 VND ส่วนสตรอว์เบอร์รี ถ้วยละ 15,000. VND

อร่อยมาก Texture ของโยเกิร์ตที่นี่มันกินเพลินมาก เมื่อวานโยเกิร์ตที่ร้าน UP ทำอะไรชะนีท้องผูก

จากเมืองไทยไม่ได้ วันนี้โยเกิร์ตป้าหน้าโบสถ์ที่เค้าร่ำลือกันนักหนาต้องสำแดงเดชแล้วนะ

จากโบสถ์ก็ไปกันที่มหาวิทยาลัยเก่าแก่ของเมืองดาลัท ไปถึงเห็นคนอื่นขับมอเตอร์ไซค์เข้ากันฉิว

เราก็ยืนงงอยู่ข้างหน้า พอกำลังจะเข้าไป ลุงยามก็เรียกเงิน แล้วควักแบงค์ 10,000 ให้ดู ทำมือบอกว่า

คนละ 10,000 VND 4 คน ก็ 40,000 แต่เราจ่ายแบงค์ 50,000 ไป ลุงไม่ยอมทอนเฉย

ตั๋วอะไรก็ไม่มีให้ ลุง!!! อมตังค์มหาลัยใช่มั้ย?


Pedagogical College of Đà Lạt

https://goo.gl/maps/9nRbZ7DUAnE2


ภายในมหาลัยก็จะมีตึกรอบๆ แล้วมีลานตรงกลางกว้างๆ มีเด็กมหาลัยมาถ่ายรูปกันเพียบ

ที่นี่เค้าบ้าถ่ายรูปกันมาก เราว่าคนไทยบ้าแล้วนะ ไปที่นู่นคือยอม ทั้งถ่ายเดี่ยว ถ่ายคู่ ถ่ายแก๊งเพื่อน

แบบนัดใส่เสื้อผ้าเป็นธีม ถ่าย Pre-wedding ยิ่งท่าจูงมือไปข้างหน้านี่ เจอได้ทุกที่ ทุกคู่จ้าาาา

วันนี้เราเที่ยวเสร็จเร็วเพราะข้ามแพลนที่จะไปถ่ายรูปตรงสะพานที่ตลาด แล้วก็เราวางแพลน

ไปแบบหลวมมากๆ อยากเที่ยวชิลๆ ก็เลยเสร็จเร็ว ไม่รู้จะไปไหน สุดท้ายก็กลับไปที่โรงแรมก่อน

เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วค่อยออกมาปาร์ตี้กัน ทริปนี้เตรียมเสื้อผ้าไปเยอะมาก ต้องใส่ให้ครบ

พอค่ำเราก็ออกไปตลาดเหมือนเดิม เดินเข้าไปเจอร้านที่ขาย คือเป็นแป้งในหลุมขนมครก

แล้วมีไข่นกกระทาด้านบน กินกับน้ำซุปที่มีต้นหอม ถั่ว เส้นอะไรไม่รู้ น้ำซุปที่นี่เค้าจะเสิร์ฟตามจำนวนคน

ส่วนไข่สั่งได้เลยว่าจะเอากี่เซ็ต เราสั่งไปแค่ 2 เพราะจะไปกินอย่างอื่นต่อ วิธีกินคือ เอาไข่ไปจุ่มน้ำซุปแล้วกิน

ตอนแรกคิดว่ารสชาติซุปมันจะติดเหรอวะ? แต่พอลองกิน อร่อยมาก ดีมาก ราคาเซ็ทละ 40,000 VND

ใครไปต้องลอง

วันนี้ตั้งใจจะมากินร้านหอยตรงบันไดที่เล็งไว้ แต่วันนี้เงียบกว่าเมื่อวานเยอะเลย

แถมร้านหอยตรงบันไดก็หายไปหมด หรือโดนตำรวจรวบไปหมดแล้วตั้งแต่เมื่อวานไม่รู้ เลยเดินย้อนกลับมา

เจอร้านหอย เจ๊เจ้าของร้านเห็นเราเดินผ่านก็เรียกเราด้วยภาษาไทย ก็เลยแวะซะหน่อย

คือเบ้าหน้าฉันคงไทยมากสินะ เดินไปไหนถ้าเจอร้านที่พูดไทยได้ เค้าจะพูดไทยใส่เราตั้งแต่ยังไม่ได้หลุดปาก

พูดภาษาไทยออกมาด้วยซ้ำ หอยก็รสชาติโอเค น้ำจิ้มแปลกดี แต่เค็มไปหน่อย

ส่วนหอยตัวเล็กกว่าบ้านเรา และตามร้านแบบนี้จะมีผ้าเย็นวางไว้

บอกไว้ก่อนเลยว่าไม่ฟรีนะจ๊ะ พวกเราพกทิชชู่เปียกกันตลอดอยู่แล้ว ก็เลยใช้ของตัวเองดีกว่า

หลังจากที่เมื่อวานพลาดร้านเบียร์ เพราะเหนื่อยกัน วันนี้เลยต้องไปให้ได้ ระหว่างทาง

เจอร้านหมวกท้ายตลาด ก็แวะซื้อ เสื้อผ้าเมืองหนาวที่นี่ถูกมากกกก เสื้อโค้ทสวยๆ ตัวละ 600-700

เสื้อไหมพรม 150,250 ก็มี แล้วตอนแรกเราคิดว่ามันจะดูเชยๆ เพราะขายในตลาด

แต่ของจริงคือสวยมากเด้อ ถ้าใส่ไม้แขวน วางในช้อปดีๆ ก็ไม่ต่างจากเสื้อผ้าในฮงแดอะ

เพื่อนเราได้หมวกเบเร่ต์ไหมพรมน่ารักมาก มาในราคา 50,000 VND

ตอนคนขายบอกราคาเราได้ยินผิดเป็น 70,000 VND ก็ว่าถูกแล้ว แต่เพื่อนบอกว่าจ่ายไป 500,000

เค้าทอนมา 450,000 อะ หมวกใบละ 75 บาท บ้าบอ นี่ฉันถ่อไปซื้อเบเร่ต์ใบละ 250 บาท

ที่แพลตตินั่มทำไม ร้านจะอยู่ตรงด้านบนบันได มีหลายร้าน ลองถามๆดู ราคาพอๆกัน

จากนั้นก็เดินไปร้าน B21BAR แต่ระหว่างทาง เอ๊า !!! ผ่านร้านขนมปังเหลืองว่ะ

นี่ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว คนละชุดกับเมื่อเช้า แวะถ่ายหน่อยมั้ย ไหนใครบอกกำแพงโง่ๆวะ

เมืองดาลัทเป็นเมืองเล็กๆ เดินไปเดินมา เอ๊า ร้านนี้หนิ วงเวียนนี้หนิ เหมือนจะไปไหนก็ช่าง

ต้องผ่านวงเวียนหน้าตลาด ผ่านบิ๊กซี

ร้าน B21BAR ร้านนี้ฝรั่งดีงามสมคำร่ำลือ วันที่เรามามีวันแดงเดือด พอบอลจบเท่านั้นแหละ

ฝรั่งหายไปอย่างรวดเร็ว เดี๋ยวสิเธอ มานั่งเป็นอาหารตาให้ฉันก่อน อย่าเพิ่งไปปปป ร้านนี้จะมี 2 โซน

ด้านหน้าจะเป็นเก้าอี้นั่งไม่กี่โต๊ะ ข้างในจะเป็นผับ มีดีเจ คนเยอะ แต่โต๊ะไม่เบียดเท่าผับที่ไทย

ตอนเรานั่งข้างนอก ดีเจเปิดเพลงดีมาก พอดึกๆ เราย้ายเข้าไปข้างในเท่านั้นแหละ

เพลงอะไรก็ไม่รู้ พี่แก่แล้ว EDM จ๋าขนาดนั้น พี่เต้นไม่เป็นลูกกกก


B21BAR

https://goo.gl/maps/B7UDdUyPZ2n

เบียร์ที่นี่ก็ราคาไม่แพง จริงๆ เพราะดาลัทเบียร์ถูกด้วยแหละ เบียร์ขวดเล็กประมาณ

50 กว่าบาท ทาวเวอร์ก็ประมาณ 500 บาท แล้วที่นี่น้ำแข็งฟรี แล้วที่พีคคือ คนเวียดนามแต่งตัวกัน

จัดมากกกกกก นึกว่าหลุดไปเกาหลีผู้หญิงคือใส่โค้ท กระโปรงสั้น บู๊ทส้นสูง หน้าเป๊ะ

ผมลอนพลิ้ว แต่คือขับมอเตอร์ไซค์มา ใส่หมวก ใส่มาสก์ คร่อมมอไซค์ แต่พอลงรถหน้าผับ

ถอดทุกอย่างแต่เสื้อผ้าหน้าผมเป๊ะมาก งงมะ? อยากรู้ว่าใช้สเปรย์อะไรใส่ผม


DAY 03

เมื่อคืนซัดเบียร์กันไป 1 ทาวเวอร์กับคนละ 1 ขวด วันนี้กว่าจะตื่น กว่าจะออกจากโรงแรม

ก็เกือบเที่ยง เนี่ยข้อดีของการเที่ยวเอง และการอยู่เมืองนี้เมืองเดียวยาวๆ อยากตื่นเมื่อไหร่ก็ตื่น

ไม่ต้องรีบ วันนี้เราต้องเช็คเอาท์จากโรงแรม แล้วฝากกระเป๋าไว้ก่อน

สถานีรถไฟดาลัท เป็นสถานีเก่าแก่ ที่ก็สวยแหละ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรมาก สถานีเล็กนิดเดียว

เสียค่าเข้าคนละ 50,000. VND เข้าไปถ่ายรูป กินกาแฟ


Dalat Railway Station

https://goo.gl/maps/a84wxtJMvGp

สถานีต่อไปก็คือ Hydrengea Garden นี่คือไฮไลต์ของทริปนี้ อยากมาที่นี่เพราะเห็นรูป

ทุ่งไฮเดรนเยีย ดอกไม้ที่แม่ชอบมาก แต่แม่ไม่ยอมมาด้วยเหตุผลว่า ขี้เกียจ อ้าว!! เมาท์แม่เฉย

จากหน้าสถานีมีแท็กซี่จอดอยู่ เลยบอกว่าไปไฮเดรนเยีย เปิดแมปให้ดูก็แล้ว เปิดรูปให้ดูก็แล้ว

คุณลุงก็ไม่เข้าใจ จนต้องไปให้พนักงานร้านกาแฟช่วยแปลให้ ทุลักทุเลใช้ได้เลย ก่อนจะออกมีผู้หญิง

ใส่ชุดเหมือนเป็นพนักงานของบริษัทแท็กซี่คันนี้เดินมาถามว่า จะให้คนขับรอมั้ย?

เราเลยถามย้ำว่าถ้ารอต้องจ่ายอะไรเพิ่มมั้ย? เค้าบอกว่าไม่ ตามมิเตอร์เลย ก็เลยบอกให้รอ

ขับรถออกมานอกเมืองประมาณ 8-9 กิโลก็ถึงทุ่งไฮเดรนเยีย ทำไมมันเงียบแบบนี้อะ

แล้วในรูปกว้างใหญ่ไพศาล ของจริงมีแค่เนี้ย? เปิดแมปก็พาไปอีกทุ่งนึงที่ใช้คำว่า Hydrengea Garden

เหมือนกัน เราเลยวิ่งลงไปดู ก็มีสะพานรูปหัวใจยื่นออกไป เป็นจุดถ่ายรูปเหมือนตาม ที่นี่เขาค้ออะ

เลยเดินกลับมาบอกเพื่อนพร้อมกับที่คุณลุงคุยโทรศัพท์เสร็จพอดี ลุงเลยเรียกให้ขึ้นรถ

บอกว่า Big Big อะ อีกทีใหญ่กว่านี้แน่นอน อันนี้เรามาผิดเว้ยยย เออ ค่อยยังชั่ว

ลุงขับย้อนมาประมาณ 1 โล ก็ถึงอีกสวน ที่ก็เงียบเหมือนเดิม

ลุง!!! นี่บิ๊กแล้วหลอ โมโห ลุงหลอก สวนเมื่อกี๊ใหญ่กว่าอีก แต่ที่นี่ก็ดีตรงที่สวนอยู่บนเนิน

ถ่ายภาพออกมามันเลยสวยกว่า เพราะสวนที่เราไปตอนแรกมันลาดลง

ถ่ายไปจะเห็นโรงเรือนปลูกผักของอีกฝั่งนึง อะ ให้อภัยลุงก็ได้ จริงๆ คือถ่ายรูปมาอัพแล้วเพื่อนๆ

ฮือฮากันมาก จากหน้างอเป็นปลาทูแม่กลองเพราะนอยด์ลุง ก็ยิ้มไม่หุบจ้าาา


Garden hydrangeas

https://goo.gl/maps/TnhV67eExH72

มี 2 ที่ใน google map ใช้ชื่อเดียวกัน อันที่ใกล้กว่า เล็กกว่าแต่อยู่บนเนิน

อันที่ไกลเมืองกว่า กว้างกว่า แต่ว่าทางลาดลง เลือกตามสะดวกเลย

สถานที่ต่อไปก็คือ Sunny Farm คาเฟ่ที่มีบันไดสู่สวรรค์ที่ชีวิตจริงคงไม่ได้มีโอกาสขึ้นไป

จริงๆ เราก็ไม่ได้อินอะไรมาก แต่ทางผ่านก็เลยแวะซักหน่อย เครื่องดื่มก็เฉยๆ สั่งแล้วก็รอเอา

แล้วก็ไปหาที่นั่ง แล้วสั่งทีรามิสุ ก็ยัดใส่แก้วกาแฟมาพร้อมช้อน โอ๊ยยย ใส่จานให้หน่อยเถอะ

ส่วนการตกแต่งก็มีบ้านซุ้มๆ มีบันได มีระเบียง ดูแบบสร้างทีละอย่าง แล้วแต่ละอย่างไม่เข้ากันเท่าไหร่

แต่ก็นั่นแหละ ก็ถ่ายรูปมาอวดเพื่อนในโซเชียลได้อยู่


Nông Trại Vui Vẻ Sunny Farm Cafe

https://goo.gl/maps/f45QXh2ucaU2



เสร็จแล้วเราต้องกลับไปเอากระเป๋าที่โรงแรม เพื่อย้ายไปเช็คอินอีกที่ก็เลยใช้รถลุงยาวไปเลย

ตั้งแต่สถานีรถไฟ >ไปทุ่งไฮเดรนเยีย>ไปซันนี่ฟาร์ม>ไป Dalat Cozy Hotel > ไป Ting House

ตั้งแต่ประมาณ 13.00 - 18.00 ค่ามิเตอร์รวมประมาณ 400,000 VND เราให้ทิปลุงไปอีก

25,000 VND รวมแล้วราคาประมาณ 600 บาท หารมาตกคนละ 100 กว่าบาท

ก็อุ่นใจกว่าไปเช่ามอเตอร์ไซค์ขับเองเยอะ ถ้าใครมา 4 คน แนะนำแท็กซี่ดีกว่า ถ้ารถเช่าเหมาพร้อมคนขับ

ก็วันละ 1,000,000 VND 10 ชั่วโมง แท็กซี่คุ้มสุด ไม่ต้องติดต่อล่วงหน้า โบกคันไหน

แล้วบอกให้เค้าไปไหนต่อยาวๆ ได้หมดทุกคัน เราลองแล้ว

ที่พักที่ 2 ของเรา คือ Ting House จาก AirBnB ราคา 2 คืนสำหรับ 6 คน(ตอนแรกจะไป 6 คน

แต่เพื่อนป่วยไป 2 เลยเหลือแค่ 4 คน) ประมาณ 3,000 บาท เราใส่โค้ดส่วนลดจองครั้งแรก

เหลือ 1,800 บาท จริงๆ มีห้องแบบ 2 คนก็มี ครั้งแรกที่เห็นภาพวิวห้องนอนมุมนี้คือเอาที่นี่แหละ

เพราะตอนไปเกาหลีคนเดียว เราเดินถ่ายไปภาพบ้านมุมริมเนินเขาแบบนี้แล้วชอบมาก

ทริปนี้เลยเลือกที่พักที่เห็นมุมแบบนี้ทั้ง 2 ที่เลย ข้างในห้องคือกว้างมาก มีเป็นห้องโถง เป็นเตียง 2 ชั้น

นอนได้ 4 คน มีโซฟา ทีวี โต๊ะกินข้าว ห้องน้ำ ตู้เย็น ไดร์ แล้วก็มีห้องนอนข้างใน มีแอร์ บ้านสวยมาก

แต่พอเรามาถึงชักโครกใช้ไม่ได้ คุณป้าคนดูแลบ้านก็ตามช่างมาซ่อมให้อย่างรวดเร็ว

แต่ข้อเสียคือที่ตั้งจะอยู่ในแหล่งที่เป็นบ้านคนจริงๆ ไม่ใช่โซนนักท่องเที่ยวแบบแถวตลาด

ก็จะหาแท็กซี่ยากหน่อย แล้วก็ห้องเป็นกระจกทั้งผนัง ถ้ามาหน้าร้อนก็น่าจะระอุอยู่


Ting House 2

https://th.airbnb.com/rooms/22413938?s=51

เราไม่ได้ถ่ายรูปในห้องมาเลย เพราะมาถึงกองกระเป๋า เข้าห้องน้ำแล้วน้ำไม่ไหล เพียงชั่ววินาที

ทั้งกระเป๋า ทั้งป้าคนดูแลพร้อมหลานสาวตัวน้อย และช่างซ่อมห้องน้ำ ก็อยู่กันเต็มห้องแล้ว

หลังจากรอช่างซ่อมห้องน้ำเสร็จ เราก็จะไปโดนปิ้งย่าง ร้านชื่ Mo Te BBQ อยู่ไม่ไกลจาก

ที่พักของเรามีให้เลือกทั้งปิ้งย่าง กับ Hotpot แค่เดินเข้าไปก็สัมผัสได้ถึง.... อาหารอร่อยเหรอ?

ป่าว!!! เด็กเสิร์ฟงานดีอะ ผู้ชายเวียดนามที่หน้าดีที่เราเจอ ไม่ได้อยู่ในผับ

แต่คือคนขับแท็กซี่ที่เด็กๆ กับพนักงานเสิร์ฟตามร้านอาหารใหญ่ๆ นี่ก็สั่งปิ้งย่างกันมาเพียบ

พอกินเตาปิ้งย่างมอด อยากกินซุปอะไรอุ่นๆ เลยสั่ง Hotpot มาต่อจ้า น่ากลัวมั้ย คนพวกนี้

เมนูมี Hotpot หมู ไก่ เนื้อ เป็ด กบ Thai Hotpot เออ เอาอันหลังเนี่ยแหละ

อยากจะรู้เหมือนกันว่ามันจะเป็นยังไง? สรุปคือเป็นน้ำเหมือนต้มยำที่หวานมาก ใส่สับปะรดในซุป

มีหมู ผัก ปลาไข่มาเป็นตัว หัวปลีซอย งงไปหมด มันไทยตรงไหนเนี่ย? หรือจริงๆ คำว่า THAI

มีความหมายอื่นในภาษาเวียดนาม นั่นแหละ เด็กเสิร์ฟงานดี ตอนนี้กินหินกินกรวดพี่ก็จะไม่บ่น 555


BBQ Mọ Tề

https://goo.gl/maps/RowdMqZ9aNo


DAY04

วันแห่งความเฟล

ตื่นมาเสิร์ชร้าอาหารแนะนำใกล้ๆ ที่พัก เจอร้านนึง ห่างจากที่พักประมาณ 1 โล ก็เลยตัดสินใจเดินไป

เดินผ่านบ้านคนแถวนี้บรรยากาศดีมาก บ้านแต่ละหลังใหญ่มาก ดีไซน์สวยมาก น่าเอามาทำ Airbnb

ทุกหลังเลย แล้วบ้านที่นี่หลังใหญ่ทุกหลัง เลยสงสัยว่าเค้ารวยกันมาก หรือค่าก่อสร้างที่นี่ถูกเหรอ

บ้านแบบนี้ถ้าเป็นเมืองไทย ในต่างจังหวัดก็เอาเรื่องอยู่อะ

เดินไปจนถึงร้าน เอ๊า!! ร้านปิด ปิดแบบปิดเลย สาบสูญไปแล้ว เลยเรียกแท็กซี่ไปอีกร้าน

ที่หาสำรองไว้ พอไปถึง เอ๊า!!! ปิดอีกแล้ว นี่มันวันอะไรเนี่ย ก็เลยมั่วๆ ไปกินร้านใต้โรงแรมแถวนั้น

กินข้าวเสร็จก็ตามด้วยกาแฟ ร้าน THONGDALAT.SPACE ร้านนี้โกโก้ดัง เหมือนเค้าทำเองมั้ง

ด้านหน้าร้านจะดูเป็นคาเฟ่ธรรมดา แต่เดินทะลุด้านหลังไปก็จะเป็นร้านที่เต็มไปด้วยต้นไม้

บรรยากาศก็ชิลๆ ดี แต่กาแฟเพื่อนเราบอกว่าจืด ส่วนของเรากิน Dark Chocolate Orange

ก็เป็นโกโก้ปั่นใส่เปลือกส้มกวน ก็อร่อยดี แต่ที่ดีที่สุดในร้านนี้คือเจ้าหมา ชื่อ ชิม มันขี้อ้อนมาก

เดินคลอเคลียตามตลอด อยากอุ้มกลับบ้าน


THONGDALAT.SPACE

https://goo.gl/maps/BaXPskhkrkB2



จากนั้นเราก็จะไป Secret Garden จริงๆ ก็ไม่ได้อยากไปที่นี่หรอก แต่ว่าสระน้ำสีฟ้ามันปิดไปแล้ว

มีเวลาเหลือเลยไปที่นี่แทน Secret Garden จะอยู่ออกนอกเมืองไปประมาณ 10 กว่าโล

ระหว่างทางเราจะผ่านทะเลสาบที่อยู่กลางร่องเขาไปตลอดทาง สวยมากกกกก

จนไปถึงทางเข้าก็มีป้ายภาษาเวียดนามอ่านว่าอะไรไม่รู้ ผ่านป้ายเข้าไปก็จะเป็นทางลูกรัง

จนไปเจอทางแยก เลี้ยวขวาไป Secret Garden แต่มีไม้มากั้นไว้ห้ามเข้า ก็เลยตรงไป

พอตรงไปมันคือเหมือนค่ายลูกเสือธรรมดา เงียบมาก มีแค่หมา 2 ตัว แต่ที่อ่านมามันต้องเสียค่าเข้าอะ

ไหนอะ ไม่เห็นมีคนเก็บเงินเลย พอเดินไปสุดก็มองเห็นอีกฝั่งเหมือนในรูปก็เลยให้คนขับพาไปตรงป้า

Secret Garden อีกรอบ มันเป็นไม้เอามาตอกๆ สูงๆ ปิดทางเข้าอะ เลยกลับ ระหว่างทางก็พยายาม

เสิร์ชหาข้อมูล แต่ไม่มีสัญญาณ จนมาถึงในเมืองเสิร์ชเจอว่า

เค้าเพิ่งปิดซ่อมไม่มีกำหนด เอ๊า!!! หรือป้ายข้างหน้าแปลว่าปิด แล้วทำไมคนขับไม่บอกเราล่ะ

โวะ!! เสียค่าแท็กซี่นั่งรถเล่นไปกลับเกือบ 500 บาท


Secret Garden

ตอนนี้ปิดปรับปรุงอยู่นะจ๊ะ ใครจะไปเช็คข่าวดีๆด้วย

https://goo.gl/maps/LrJ4ZEYmDim

เอาไงดีล่ะ ไม่มีที่ไปละ มานั่งคาเฟ่ในโดมก็แล้วกัน รอแดดร่มแล้วค่อยออกไปถ่ายรูป DOHA CAFE

ที่หลายคนมักจะมาถ่ายรูปด้านนอก แต่พวกเราเข้าไปกินด้านใน รสชาติก็โอเค พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้

พอแดดร่มเราก็ไปถ่ายรูปด้านนอกกัน

ถ่ายเสร็จก็ไม่รู้จะไปไหน เลยเดินไปสะพานตรงตลาด เราเจอที่นี่จาก IG คนเวียดนาม

เค้าฮิตไปถ่ายกัน ตอนแรกที่ลืมไปตามแพลนก็ว่าจะเทไปแล้ว เพราะพยายามมองหารอบตลาดก็ไม่มี

แต่ดีแล้วล่ะที่ไม่เท พิกัดคือ วงเวียนด้านในตลาดกลางคืน หันหน้าเข้าบันได แล้วให้เดินเลี้ยวขวา

เพราะพวกเราเดินวนรอบตลาดกันมาแล้ว หรือง่ายๆ เลยให้เดินตรงถนนด้านข้างตลาด

เลยบันไดสูงๆ ไป จะเจอบันไดเชื่อมสะพานอันนี้ ไม่ต้องเดินขึ้นบันไดในตัวตลาดให้เหนื่อย


DALAT MARKET

https://goo.gl/maps/pqWDh6B39CP2

สะพานจะอยู่แถวๆ Google Map ที่เราแปะไว้ ลองเดินๆ หาดู

และแล้วเราก็หาเจอ เกือบถอดใจแล้ว ดีที่ไม่ถอดใจและไม่เท เพราะถ่ายเสร็จ

ทุกคนก็เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ใน social media เป็นเซ็ตนี้อย่างพร้อมเพรียง

ถ้ามองด้วยตาเปล่าก็ไม่มีอะไรมาก เป็นสะพานแบบสกปรกนิดนึง ไม่นิดหรอก

แต่ถ่ายรูปออกมาแล้วเริ่ดเวอร์ ได้ฟีลแบบเกาหลี ญี่ปุ่นประมาณนึง แนะนำให้มาช่วงเย็นๆ แสงสวย

เสร็จแล้วก็ไปหาซื้อของฝาก พยายามหาของที่มันดูโลคอล แต่ก็ไม่เจอ เข้าร้าน L’angfarm

ก็ดูเป็นของไม่โลคอลเลย เลยหิ้วกล้วยแผ่น ๆ ที่ไม่รู้เรียกว่าอะไรแต่รสชาติคล้ายๆ

ขนมเปเล่ที่เคยกินตอนเด็กๆ นั่น!! รู้อายุเลย ซื้อมาคนละ 5-6 ห่อ ห่อนึงราคา 25,000

แต่อีกร้านราคา 30,000

แล้วก็เอาของไปเก็บที่ที่พัก เปลี่ยนเสื้อผ้ากันอีกรอบ แล้วเดินออกไปหาอะไรกิน

อยู่มาจนจะกลับ เพิ่งมาเดินวันนี้แหละเยอะสุด แต่เดินไปเรื่อยๆ ร้านก็ปิดหมดแล้ว

เลยเรียกแท็กซี่ไปแถว The Fog Bar เลยละกัน แถวนั้นมีร้านปิ้งๆ แบบเสียบไม้เหมือนหน้าตลาด

ร้านเฝอ แล้วก็พิซซ่า เราเบื่อเฝอแล้วเลยกินพิซซ่ากัน กินเสร็จก็ไป The Fog Bar ผับที่รีวิวดี

กำลังจะเดินเข้าผับ มองไปขวามือ เอ๊า!!! นั่น B21Bar อยู่ใกล้กันเลย โถ่ววว

ผับนี่จะเป็นตึกแถวห้องเดียว ด้านหน้ามีเก้าอี้ซึ่งเต็ม เราเลยเข้าไปข้างใน โต๊ะก็จะเบียดๆ กัน

แล้วมีแต่แก๊งวัยรุ่น เราไม่ค่อยอินเท่าไหร่ กินเบียร์คนละขวดแล้วก็ย้ายไป B21Bar

นั่งกินเบียร์ข้างนอกชิลๆ ท้าลมหนาว 13 องศา อีกคนละขวด แล้วก็กลับ


DAY05

วันนี้ต้องกลับแล้ว เราเก็บของออกจากห้องตอน 10 โมงกว่า พอจะเช็คเอาท์ เจ้าของบ้านเลยถาม

ว่าจะให้เรียกรถไปสนามบินให้มั้ย?ก็เลยตกลงให้เค้าไปส่งที่ร้านข้าวก่อน ราคาตามมิเตอร์

ร้านนี้เป็นร้านเบเกอรี่ยอดฮิตแถวโรงแรม TULIP3 มีอาหารหลากหลาย ราคาไม่แพง น่ากินทั้งนั้น

ในที่สุดเราก็ได้กินบาร์แก็ตซักที ที่นี่ขนมปังกรอบนอกนุ่มใน ไม่เหนียว มีไส้ให้เลือกเยอะ แล้วก็กินก๋วยเตี๋ยว


Lien Hoa Bakery

https://goo.gl/maps/d11JEZHzTVN2

อิ่มแล้วรอคนขับมารับตอน 11 โมงที่หน้าร้าน ไปสนามบิน ใช้เวลาแค่ 30 นาที

ค่ารถ 350,000. VND ตอนมาสนามบิน คนขับก็กดมิเตอร์มาด้วย ในมิเตอร์มันตั้ง 400,000 กว่า

แล้วไหนจะค่าทางด่วนอีก เค้าจะได้กำไรจากไหนอะ พอมาถึงสนามบิน เพื่อนก็ละลายเงินดองที่เหลือให้หมด

ด้วยการซื้อของฝาก แต่เอาจริงๆ ถ้าไม่ซื้อของฝากเราเหลือเงินกันประมาณพันกว่าบาทเลยนะ

ขนาดแลกมาแค่ 3,500,000 VND คิดเป็นเงินไทย 4,900 บาท

ดาลัท เป็นเมืองเล็กๆ ที่ผู้คนน่ารัก ต่อให้พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เค้าก็พยายามสื่อสารกับเรา

เป็นเมืองชิลๆ ไม่ต้องเร่งรีบ อากาศดี บ้านเมืองสวย ต้นไม้เยอะ ที่สำคัญค่าใช้จ่ายถูกมากกกกกกก

ในวันที่คุณเหนื่อยล้ากับงานที่กองอยู่ตรงหน้าลองหาเวลาหนีไปดาลัทซัก 4-5 วันดู

รับรองคุณจะชาร์จแบตได้เต็มที่เลย เก็บกระเป๋า หยิบเอาเสื้อผ้าสีสดๆ

แล้วไปถ่ายรูปให้หนำใจที่ดาลัทกันเถอะ


ค่าใช้จ่าย

1. ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ 3050 บาท (แล้วแต่วันเดินทาง และโปรโมชั่น)

2. ค่าประกันการเดินทาง 200 บาท

3. ค่าน้ำหนักกระเป๋า (เราหอบเสื้อผ้าใส่ไปถ่ายรูปกันเยอะมาก เลยต้องซื้อเพิ่ม) 400 บาท

4. ค่าที่พัก คนละ 940 บาท

- 2 คืนแรกที่ Cozy Boutique Hotel 1870 บาท

- Ting Hous 2 คืน 1882 บาท

5. ค่าใช้จ่าย 5 วันรวมอาหาร แท็กซี่ เบียร์ ค่าเข้าสถานที่ (ไม่รวมของฝาก) 3,000 บาท

6. ค่าซิม 210 บาท

รวมค่าใช้จ่าย 5 วัน 7,800 บาท / คน

ถ้าไม่รวมค่าเครื่องก็กำเงินไป 5000 ยังเหลืออะ ยิ่งคนไม่กินเบียร์หรือเช่ามอเตอร์ไซค์ขับนะ ถูกกว่านี้อีก

ถูกขนาดนี้ คนที่ยังลังเลอยู่ ไปเหอะ!!

นกออก

 วันพฤหัสที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 22.09 น.

ความคิดเห็น