ยุโรป เลือกไปเอง หรือ ไปกับทัวร์ดีกว่ากัน (สำหรับ 8 วัน 4 ประเทศ งบไม่เกิน 46,000 บาท/คน รวมทุกอย่าง)

  • เส้นทางยอดนิยม เยอรมัน ฝรั่งเศส สวิสเซอร์แลนดื ลิกเทนสไตน์ ปัจจุบันนี้ธุรกิจการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเติบโตเร็วมาก เทียบกับเมื่อหลายปีก่อน ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็ถูกลงด้วย เพราะมีการแข่งขันกันสูงขึ้น บทความนี้นี้เขียนจากประสบการณ์ผมเอง ที่ท่องเที่ยวมาแล้วกว่า 26 ประเทศ ทั้งไปกับทัวร์ และไปเองผมไม่ได้เขียนตามหลักวิชาการใดๆ แต่เขียนตามประสบการณ์ จากการสอบถาม และความเข้าใจตัวเองล้วนๆ อาจไม่ถูกต้องทั้งหมดแต่พอเป็นแนวทางสำหรับเพื่อนๆได้บ้าง
  • ยุโรปไปกับทัวร์กับไปเอง มีข้อดีข้อเสียพอๆกัน แต่ทัวร์ถูกกว่าไปเอง 2-3 เท่าตัวเลยละ กรณีไม่มีญาติในยุโรปเลย เพราะปัจจัยราคาสำคัญคือ ค่าตั๋ว (30%) ค่าที่พัก (30%) ค่าเดินทาง (20%) ค่าอาหาร (15%) และค่าอื่นๆ (5%) เป็นต้น
  • สำหรับ ทริปยุโรป เมื่อ 5 ปีที่แล้วราคาขั้นต่ำทัวร์เกรด B คือ 8 หมื่นเกือบแสน ประมาณ 8 วัน 6 คืน เที่ยว 3-4 ประเทศ และทัวร์เกรด A ประมาณ แสนกลางๆ ประมาณ 10 วัน 8 คืน เที่ยว 3-4 ประเทศ สมัยก่อนเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วยังไม่มีทัวร์ยุโรปราคาต่ำกว่า 6 หมื่นเลย
  • แต่ปีนี้ ปี พ.ศ.2560 เป็นต้นมา เริ่มเห็นทัวร์แบบเจาะลึกประเทศเดียวราคา 4 หมื่น แต่นอน 3 คืน เที่ยวจริง 4 วัน ซึ่งก็ถือว่าเหนื่อยเหมือนกัน เช่นประเทศอิตาลีค่อนข้างไกลกันระหว่างเมืองใหญ่ๆ เช่น โรม กับมิลาน แต่โปรแกรมแบบนี้ก็ไม่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวชาวไทย ซึ่งชาวไทยมีคอนเซ็ปการเที่ยวต่างจากชาวยุโรป กลุ่มพวกนั้นชอบเที่ยวแบบเจาะลึก ไม่เน้นถ่ายรูปอวดกัน เน้นศึกษาสถานที่จริงๆ อยู่กับที่นั่นได้เป็นวันๆ โดยเฉพาะโบราณสถานต่างๆ แต่ธรรมชาติคนไทย (เกือบทั้งหมด) เน้นเที่ยวเยอะ หลายๆ ที่ ยิ่งดี ไม่ไม่นานไม่ว่า ไม่เข้าข้างในไม่ว่า ขอถ่ายรูปคู่กับสถานที่ไว้ก่อน ไปไหนก็กิน กินตลอด มีอาหารตุนในกระเป๋าทุกคน ชิมอาหารทุกที่ เน้น ช็อปปิ้ง บางทีของดเที่ยวบางโปรแกรมเพื่อให้ได้ช็อปปิ้ง นี่แหละทัวร์ไทย คนทำทัวร์เลยจับจุดคนไทยได้ คนไทยเน้นราคาประหยัด โปรแกรมเหมือนกัน ราคาต่างกัน 1 พันก็ซื้อแล้ว แต่พอช็อปปิ้ง คนไทยไม่เคยประหยัด ค่าช็อปแพงกว่าค่าทัวร์อีก


  • ผมเอง เฝ้าติดตามทัวร์ยุโรปมา ตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว ทำตารางเปรียบเทียบโปรแกรม โรงแรม อาหาร ระยะทางเดินทางแต่ละวัน เกือบทุกบริษัทดังๆ ในไทยเกือบทั้งหมด ทำให้รู้ว่าทัวร์แพงๆ หรูๆ คือทัวร์ที่ทำการตลาดเอง ขายเอง ไปเอง ไม่ส่งให้เอเจนซี่รายอื่น มีความชำนาญเส้นทางจริง ไกด์รู้จริง โรงแรม 4-5 ดาว อาหารดี ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องเงินไปเถอะครับ ยังไงก็ถูกกว่าไปเองครึ่งนึงเลยละ
  • ทัวร์ราคาประหยัดคือ ทัวร์ที่ใช้ระบบธุรกิจเครือข่ายเข้ามาช่วย ช่วยกันทำการตลาด ช่วยกันขาย แล้วส่งลูกค้าให้บริษัททัวร์ใหญ่ๆ ทำให้ราคาทัวร์ค่อนข้างถูก ก่อนอื่นผมขอแยกต้นทุนราคาทัวร์ก่อนครับ ตามประสบการณ์ส่วนตัวนะครับต้นทุนหลัก ตัวแปรสำคัญกำหนดราคาทัวร์คือ ค่าตั๋วเครื่องบิน (ประมาณ 30
  • สำหรับ ทริปยุโรป หากไปเอง กรณีของครอบครัวผม เดินทางไปเยอรมันเองช่วง เม.ย. 60 ค่าตั๋วการบินไทย ชั้นธุรกิจ ของพ่อ 16x,xxx บาท ของแม่จองห่างกับพ่อไม่นาน ราคาขึ้นไปที่ 17x,xxx บาท ซึ่งเป็นเที่ยวบินตรงจากไทยไปเยอรมัน นี่ขนาดจองล่วงหน้าแต่หากไปเองไม่สามารถจองล่วงหน้าได้นานเพราะจะกล้าจองตั๋วและจ่ายเงินได้เมื่อวีซ่าผ่านแล้วเท่านั้น หรือชั้นประหยัดไปเยอรมัน การบินไทย ก็เพิ่งจองให้ข้าราชการในหน่วยไปเยอรมันราคา 44,xxx บาท เป็นแบบต่อเครื่อง หรือสายการบินจากตะวันออกกลางก็ราคาถูกลงมาอีก แต่คงประมาณ สามหมื่นกว่าๆ แน่นอน ดังนั้นต้นทุนไปเอง ตั้งไว้ขั้นต่ำสุด 35,000 บาท (ไม่ต้องเทียบกับการบินไทยชั้นธุรกิจ เพราะแพงกว่ามาก)
  • ค่าตั๋วเครื่องบินสำหรับทัวร์บริษัทใหญ่ๆที่ทำสัญญารายปีกับสายการบินแบบยืนยันจำนานที่นั่งล่วงหน้า เช่น ทัวร์ที่ผมไป ยืนยันที่นั่ง
  • ปัจจัยราคาต่อมาคือค่าโรงแรม หากไปเอง แบบไปจองวันนั้น (Walk in) ราคาเต็มแน่นอน หรือจองในเน็ทผ่านตัวแทนก็ใช่ว่าจะได้ราคาถูก เพราะราคาแปรผันกับจำนวนห้องที่ว่าง เช่น ครอบครัวผมไปเยอรมันกับทัวร์ เข้าพักที่โรงแรมที่เยอรมัน (Intercity Hotel 3 ดาว ใจกลางเมือง ติดสถานีรถไฟฟ้า) เลยนัดเจอน้องสาวและครอบครัว น้องสาวเป็นคนไทย ได้สัญชาติเยอรมัน อาศัยอยู่ที่เยอรมันพร้อมครอบครัว เลยจะมาหาและพักด้วยกัน ซึ่งจะจองโรงแรมผ่านเน็ท ราคาโดดไปที่หมื่นต้นๆ ต่อคืน เพราะทัวร์ไทย ทัวร์จีน นักท่องเที่ยวจองกันเต็มราคาเลยสูง หากไปช่วงคนน้อยๆ ราคาโรงแรมแห่งนี้ ประมาณ 6 พันบาทหรือ 3 พันบาทต่อคน แต่เท่าที่ทราบทัวร์คงจองได้ในราคาไม่น่าถึง 3 พันบาท ก็เท่ากับว่าประมาณ 1,500 บาทต่อคน ซึ่งถูกว่าไปเอง ประมาณ 1,500 บาทต่อคนต่อคืน นี่คิดราคาขั้นต่ำนะครับ จริงๆ หากจองเองผมว่าแพงกว่านี้แน่นอน เพราะน้องสาวอยู่ที่เยอรมันบอกมา ว่าแพงมาก พักไม่ไหวต้องออกไปจองโรงแรมนอนตัวเมืองที่ห่างออกไปเกือบ 20 กม.
  • ปัจจัยค่าโรงแรมอีกตัวคือจำนวนคืนที่พัก บางทัวร์จองตั๋วเครื่องบินขาไป ได้ไฟล์ทเช้า ถึงยุโรปค่ำ ต้องนอน 1 คืน กว่าจะได้นอนก็เที่ยวคืน และขากลับจองได้ไฟล์ทเช้าทำให้ต้องพักเพิ่มอีก 1 คืน แต่ดังนั้นการเลือกทัวร์ต้องดูให้ดีๆ โปรแกรมผม ขาไปถึง 6 โมงเช้า สามารถเที่ยวได้เลย นี่แหละสุดยอด ที่ยิ่งกว่านั้นคือ ไฟล์ทกลับ 4 ทุ่มครึ่ง ทำให้เที่ยววันสุดท้ายได้อีกเต็มวัน ไม่ต้องนอนอีก 1 คืน ทำให้ทัวร์ผมเที่ยว 5 วันเต็ม พัก 4 คืน แต่บางทัวร์ พัก 5-6 คืน แต่ได้เที่ยวจริง 5 วันเท่ากัน แต่ต้องจ่ายแพงกว่ามาก ต่อจากค่าโรงแรมที่ถูกว่า 1,500 บาทต่อคืน หากนอน 4 คืน ก็ประหยัดไป 6 พันบาท นี่คือขั้นต่ำสุดนะครับ หากจองตั๋วไม่ดี ต้องนอนเพิ่มอีก 2 วัน ต้องจ่ายเพิ่มถึง 9 พันเลยนะ
  • รายการถัดมาคืออาหาร หากเป็นทัวร์เกรด เอ จะเน้นอาหารพื้นเมือง และอาหารไทย ซึ่งราคาจะแพงมาก (ย้ำว่าแพงมาก) แต่ทัวร์ยังไงก็ต้องเน้นประหยัดแน่นอน นั่นคืออาหารจีน จะราคาถูก แต่ถูกปากคนไทย สำหรับทัวร์ราคาถูกลงมาก็เน้นอาหารจีนและอาจมีบางมื้อต้องให้หากินเอง เรียกว่า อาหารตามอัทยาศัย ซึ่งทัวร์ส่วนใหญ่บอกว่าเพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาช็อปปิ้งของลูกทัวร์ แน่นอนว่า หากไป 7 วัน เดินทาง 2 วัน เหลือ 5 วัน อาหาร 15 มื้อ ตัดมื้อบนเครื่องออก 2 มื้อ ตัดอาหารเช้าโรงแรม 4 มื้อ หาทานเอง 2 มื้อ เหลืออาหาร 7 มื้อ (เป็นอาหารเกรดเอ คือ สเต็กและอาหารไทย 3 มื้อ และเป็นอาหารจีน 4 มื้อ) ซึ่งอาหารเกรดเอ ราคาตามเมนูแพงมาก เฉลี่ยต่อคน 40 ยูโร หรือ 1,600 บาท สำหรับอาหารจีนเฉลี่ย 800 บาทต่อคน แต่หากไปกับทัวร์ราคาตัดไปเลยครึ่งนึง แต่อาจจะไม่ได้อาหารครบ set ดังนั้นประหยัดไป (3x1,600+4x800)-(3x800+4x300)= 4,000 บาท แค่กิน MAC 1 มื้อ ยัง 20 ยูโรเลย ดังนั้นไปกับทัวร์ถูกกว่าแน่นอน



  • รายการถัดมาคือค่ารถซึ่งค่อนข้างจะเปรียบเทียบยากเพราะ ถ้าไปเองเราจะต้องเหมารถเล็ก เช่น ตอนที่ครอบครัวไปเยอรมันกันเอง รวมแล้ว 7 คน เช่ารถนั่งไม่เกิน 7 คน ไม่รวมคนขับ ราคาหลักแสนไม่รวมค่าประกันหลักหมื่น หากหารเฉลี่ยต่อคนต่อวันก็ประมาณ 7 พันบาท นี่ยังไม่รวมค่าเรือ ค่ารถไฟความเร็วสูงระหว่างเมืองอีก เฉลี่ยจริงๆก็คนละ 1 หมื่นบาท แต่หากไปทัวร์ คณะผม 42 คน เช่ารถบัสใหญ่สบายๆ ไปได้ทั่ว ทั่งในประเทศและระหว่างประเทศ ซึ่งผมไม่รู้ราคาจริงๆ แต่ประมาณไม่เกินคนละ 3 พัน
  • ปัจจัยต่อมาก็ค่าเข้าชมสถานที่ ค่าล่องเรือ ทัวร์จองล่วงหน้าและจองในปริมาณมาก ได้ในราคาเซลล์แน่นอน คล้ายๆกับโรงแรมก็จะถูกลงครึ่งนึง แต่ทัวร์ราคาถูกก็เน้นไปสถานที่ที่ไม่ต้องเสียค่าเข้าชม หรือไปถ่ายรูปด้านนอก ทัวร์เกรดเอ ก็จะเข้าชมด้านในด้วย ราคาค่าเข้าชมแต่ละที่หลักพันแน่นอน ทัวร์ที่ผมไปเสียแค่ค่าล่องเรือทะเลดำ และล่องแม่น้ำแซน เท่านั้น
  • รวมๆ แล้ว ไปเองแพงกว่าทัวร์ประมาณ 4 หมื่นบาท ในกรอบจำนวนวัน 7 วัน เที่ยวจริง 5 วัน พัก 4 คืน แต่หากไปเองแบบเต็มๆ เหมือนครอบครัวผมไป แบบเฟริ์สคราส 4 คน เฉลี่ยคนละเกือบ 4 แสนกว่าครับ กับจำนวน 15 วัน มาถึงตรงนี้คงสงสัยกันแล้วใช่ไหม ราคาทัวร์ผมไปเท่าไหร่ ทำไมจองได้จังหวะดี ราคาดี ได้ไปกับบริษัทใหญ่ จองได้ราคาดี ในปริมาณสูง คือบริษัทที่ผมไปเป็นตัวแทนครับ (One World Tour) ซึ่งผมให้คะแนน 10 เต็มเลย ไกด์อาวุโส ชื่อคุณแจ็คกี้ ดีมากๆ ราคาทัวร์ไม่แพง (ราคาทัวร์ไม่ถึงประมาณ 4.6 หมื่น/คน) ราคาพอๆ กับทัวร์ญี่ปุ่นเลย บอกเลยว่า ถูกมาก ผมจ่ายเงินสดลด 1 พัน/คน บริษัทจ่ายค่าวีซ่าให้อีก 3 พันกว่าบาท/คน กับโปรแกรมที่เลือกแล้ว ว่าได้ไปฝรั่งเศส ได้ไปขึ้นเขาเอลฟ์ ที่สวิส ได้ไปเยอรมัน รวม 4 ประเทศ (อีกประเทศคือ เมืองวาดุส ประเทศ ลิกเทนสไตน์) ซึ่งถือว่าถูกมาก ในคณะมีผู้จัดทัวร์อีกบริษัทด้วย ยังเลือกใช้บริการกับทัวร์นี้ ซึ่งแกเล่าว่า ลูกค้าอีกหลายคนอยากมาแต่จองไม่ทัน โปรแกรมออกมาแป็ปเดี่ยวเต็ม คณะแกจองทันได้แค่ 24 ที่ แต่ครอบครัวผม 6 ที่จองกลุ่มแรกเลย เพราะผมเฝ้ามานานเปรียบเทียบมาเยอะแล้ว อ่านโปรแกม เช็คชื่อเสียงบริษัท ติดต่อเซลล์ขอส่วนลด ซึ่งก็โอเคทุกอย่าง ไปเที่ยวกลับมาด้วยความประทับใจ หัวหน้าทัวร์คุณแจ็คกี้ ก็ดีมาก เก่ง ประสบการณ์สูง สำหรับลูกทัวร์ก็มีทั้งเจ้าของธุรกิจ นายกเทศมนตรี นายอำเภอ ซึ่งในคณะมีเด็กๆ ถึง 9 คนเพราะเป็นช่วงปิดเทอม ตุลาคม อากาศที่ยุโรปดี 5-15 องศา ใบไม้กำลังเปลี่ยนสี สวยงามมาก ซึ่งลูกทัวร์แต่ละคนก็ช็อปกันสนุก ผู้ชายก็ได้นาฬิกาโลเลท ราคา 2 แสนกว่า ซึ่งแกเช็คราคามาแล้วถูกกว่าที่ไทย 8 หมื่น ยังสามารถคืนภาษีได้อีก
  • การคืนภาษีที่สวิส สามารถทำได้ไม่ยาก คือ จ่ายค่านาฬิกาเป็นเงินสดหรือบัตรเครดิต แต่ต้องจ่ายค่าภาษีเป็นบัตรเครดิต แบบยังไม่หักเงิน เป็นแค่ค่าประกันไว้ พอผ่านแดนออกนอกสวิส นำใบภาษีไปให้ที่ด่าน ด่านจะส่งไปที่ร้าน ร้านได้รับก็จะไม่หักเงินภาษีที่เราประกันไว้ แต่หากผ่านไป 2 เดือน เรายังไม่เอาใบรับรองไปให้ที่ด่านก็จะถูกริบเงินประกัน สำหรับที่อื่นๆ เช่น ฝรั่งเศส เมื่อซื้อสินค้าเกินกำหนดขั้นต่ำ เช่น 180 ยูโร สามารถคืนภาษีได้ ง่ายๆ แค่กรอกเอกสาร ยื่นของดภาษีที่เค้าเตอร์ในห้าง นำเอกสารมายื่นรับภาษีคืนที่สนามบินซึ่งทุกขั้นตอนไกด์ช่วยเต็มที่ การคืนเงินหากคืนเป็นเงินสดทันทีอาจได้คืนน้อย เช่น 10% แต่หากให้เข้าบัญชีบัตรเครดิต ได้คืนมากกว่า เช่น 12% แต่ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน
  • แต่การไปกับทัวร์ก็มีข้อเสียคือ บางทัวร์บังคับไปร้านขายสินค้าของเอกชนหรือของรัฐบาล พบมากในทัวร์เสียดนาม เกาหลี ญี่ปุ่น จีน หนักสุดที่เคยเจอ คือเกาหลี ทั้งร้านเพชร เครื่องสำอางค์ ร้านหินเครื่องประดับ ร้านทำกิมจิ ร้านโสม สมุนไพรเป็นต้น แต่ไม่บังคับนะ ไม่ซื้อก็ได้ แต่มือใหม่อย่างครอบครัวผม ประมาณว่าเกรงใจไกด์ ซื้อของไปเยอะเลย แฟนก็ได้เครื่องสำอางค์ ซื่อไปหลักหมื่น ผมได้สมุนไพรโสม สรรพคุณบำรุงตับ เกือบหมื่น รวมๆค่าซื้อของแพงกว่าค่าทัวร์อีก สมุนไพรซื้อมาก็กินไม่หมด ไม่ทำให้ดีขึ้นเลย หลังๆ เลยไม่ซื้ออะไรมาก ซื้อเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้นแต่ทัวร์ยุโรปไม่มีแบบนี้ ไม่มีบังคับ สบายๆ ชิวๆ มีแต่ไปปล่อยในห้างครึ่งวันซึ่งถูกใจขาช็อปแน่นอน โดยเฉพาะที่ห้างดังอย่าง กาลาลี่ ลาฟาเยตต์ ที่ฝรั่งเศส แนนอนว่าสินค้าเบรนแนมถูกกว่าที่ไทยเยอะมาก แต่สินค้าอื่นๆทั่วไป แพงกว่ามากเช่นกัน
    *****สรุป ไปกับทัวร์ถูกกว่าชัวร์ ประหยัดเงินได้มาก ถูกใจคนไทยแน่นอน เพราะคนไทยเน้น ช็อป ชิม ชิว แช๊ะ ฉี่ แค่นี่ก็สุขใจแล้วครับ โดยเฉพาะผู้ที่จะพาพ่อ แม่ พี่ น้อง ลูกๆ ไปเที่ยวโดยไม่ต้องคิดและจัดการอะไรให้ปวดหัว เลือกทัวร์แบบ Premium All Inclusive นะครับ ผมยืนยันครับ
  • สรุป คะแนนเต็ม 10 ให้ 10 เลย (ประทับใจทุกอย่าง ทั้งราคาประหยัด อาหารอร่อย วิวสวย อากาศดี แนะนำว่าต้องไปครับ ครั้งหนึ่งในชีวิต)

Chai smile

 วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2562 เวลา 12.55 น.

ความคิดเห็น