บาหลี alone 13วันไปทำอะไร?

บาหลี เป็นเกาะที่โครตโชคดีในมุมมองของเรา มีธรรมชาติที่สมบรูณ์แบบมาก ทะเล น้ำตก ภูเขาไฟ กิจกรรมทางน้ำ สวนสัตว์ วัด วัฒนธรรม ผับ บาร์ ห้างสรรพสินค้า ร้านชิคๆ ร้านอาหารสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ออแกนิค เป็นเกาะที่เจริญเลยเหละ นักท่องเที่ยวก็มาตลอดทั้งปี แต่เอกลักษณ์ วัฒนธรรมเค้าดูไม่ได้หายไปเลย ความเป็นตัวตนยังคงอยู่ และอยู่ร่วมกันได้ดีเลย

" เดินทาง 13-23 มีนาคม 2562 +2 วัน (ตกเครื่อง) รวม 13 วัน" จะพยายามรีวิวให้โครตกระชับที่สุด เนื่องด้วยเราไปบาหลีมาหลายรอบในปีนี้ ขอเขียนรีวิวอีกอันพร้อมกันเลยแล้วกัน " อีกครั้งที่ไปก็ 5-10 ตุลาคม 62 " รอบนี้ไปพักผ่อน ก็จะนั่งกินนอนกินเป็นส่วนใหญ่ ข้อมูลสำหรับคนที่ไปเที่ยวคนเดียวแบบเราหวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคน และใครที่อยากไปคนเดียวแล้วยังกังวนภาษาไม่ใช่ปัญหา เราก็พูดไม่ค่อยได้ แต่ก็มีหลายวิธีที่เอาตัวรอด เช่น จดประโยคที่คิดว่าจำเป็นต้องใช้ หรือเวลาไปร้านอาหารเราก็หาตามอินเตอร์เน็ต แล้วข้อดีคือร้านอาหารส่วนใหญ่จะมีราคาและเมนูให้ดูในเน็ต

เราเคยเซฟรูปภาพอาหารที่อยากกินแล้วโชว์ตอนสั่งอาหารเลย ง่ายจะตายแกรรรรร ผู้คนก็ไม่ได้น่ากลัวอย่าไปกลัว ให้คิดว่าเค้าก็ต้องกลัวเราเหมือนกัน 5555

สิ่งที่ชนีคนเดียวอย่างเราต้องมี
โหลด App Gojek หรือ Grab ไว้ติดมือถือ ไปคนเดียวเรียกมอเตอร์ไซค์ เร็ว แรง ถูก ไม่โดนโกงแน่นอนราคาโชว์ชัดเจน (ไม่ใช่ที่นะที่จะเรียกได้ เวลาเรียกก็ต้องมองแท็กซี่นิดนึงเด๋วเค้าจะด่าเอา ยิ่งในอูบุดติดป้ายเพียบ ห้าม!!!!!!! แต่ถ้าไม่ได้พักใจกลางเมืองก็เคยเรียกนะ เรียกได้)
ควรมี App shopback นะทุกคน เวลาจองโรงแรม ตั๋วเครื่องบิน หรือซื้อของ เราจะได้เงินคืน
Internet เราใช้ sim 2 fly ของAIS *111*354# โทรออก 4GB 8 วัน ราคา 299 บาท สำหรับคนที่ไปเกิน 8 วันก็เติมเงินทิ้งไว้ในซิมให้พอสำหรับกดอีกครั้งหลัง 8 วัน ก็กดหมายเลขข้างบนอีกครั้งก็ใช้งานต่อได้อีก 8 วัน อีกวิธีคือ ไปที่ศูนย์บริการ AIS บอกเค้าวันเริ่มต้นใช้งาน สามารถตั้งอัตโนมัติได้เลย เปลี่ยนซิมใช้งานได้ตามปกติ
ควรมี whatapp ติดมือถือไว้ คนที่นั้นส่วนใหญ่ใช้ whatapp ติดต่อไกด์ โรงแรม หลายสิ่ง ผ่านแอพนี้
ครีมกันแดด แดดแรงมาก สำคัญมาก*
กระเป๋าผ้า เป้ใบเล็ก ที่บาหลีเวลาไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อ เค้าไม่มีถุงให้นะ
เสื้อกันฝน (เช่ามอเตอร์ไซค์ขี่ควรต้องมี) เดือนมีนา ฝนตกทุกวันเลย มิถุนาฝนก็ตก แต่ตุลาที่ไปไม่เจอฝนสักวัน บาหลีไม่ฝนตกก็ร้อนมากกกก
ผ้าถุง ที่นู้นเรียกโสร่งถ้าไม่หนักกระเป๋าจนเกินไปก็พกติดไปด้วยก็ดีไม่ต้องเช่า บางที่ก็ฟรี ถ้าขี้เกียจพกก็ไปหาเอาหน้างาน เพราะเข้าวัดต้องใส่
ขาตั้งกล้องเล็กๆน่ารักสัก 1 อัน
ปลั๊กไฟ แนะนำคนเดินทางบ่อยใช้แบบนี้ดูนะคะ มีแบบ usb ด้วย เสียบชาร์จได้หลายรูดี

เงิน

เราแลกที่ Twelve Victory Exchange ใครสะดวก superrich ก็ได้ธนาคารก็ได้อะไรก็ได้ ตอนเราแลกเรทอยู่ประมาณ 0.0024

เวลาที่บาหลีเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง

การเดินทาง

บิน

เราบินกับ Airasia ราคาที่เคยซื้อได้ถูกสุดคือไม่เกิน 4000 ถ้าเห็นราคานี้ซื้อได้เลยไม่ต้องคิดมาก ถ้า 5000+ คิดเยอะนิดนึง (ซุปเห็ดบนเครื่องนะ ชอบมากกกก)

เช่ามอเตอร์ไซค์ขี่ และบางทีก็ใช้บริการไกด์ แท็กซี่ ตามความขี้เกียจในแต่ละวัน เช่ามอเตอร์ไซค์ วันละ 60.000 idr. นี่เป็นราคาที่เคยได้ บางที่ก็ 70.000 idr. มีเพื่อนเคยบอกว่าเช่าจาก Kuta 100.000 idr. ก็มี เวลา เช่าโมไซเราให้โรงแรมติดต่อให้ เค้าขับรถมาส่งถึงที่เลย เวลาคืนก็ง่าย

มาในส่วนของไกด์ เราไปบาหลีมาค่อนข้างบ่อย เพราะฉะนั้นเราก็ใช้บริการไกด์เยอะเต็มไปหมดแจก whatapp (เก็บไว้ใช้ยามจำเป็นก็โอเคร)

คนที่ 1 +6287761515799 ชื่อออกเสียง ออกูดมีเอส หรือ อกูส นั้นเหละลิ้นรัวๆไป

คนที่ 2 +6282144508198 ชื่อ putu คนนี้ไกด์ที่เกาะ นูซาเปอนีดา

คนที่ 3 +6282146828191 Gustu (คนนี้หาเจอในพันทิปเลยลองดู) ภาษาอังกฤษดี อธิบายประวัติ ศาสนาได้ดี แต่เราเองที่สื่อสารไม่ค่อยเข้าใจ ดูเคมีจะไม่ค่อยตรงกับเราเท่าไหร่

คนที่ 4 +6287861769888 คนนี้เพิ่งใช้บริหารไปเมื่อเดือนตุลานี้เอง แท็กซี่ ได้มาจากที่พักส่งมารับจาก kuta ไป ubud

คนที่ 5 +6281999566659 คนนี้ได้มาจากการเรียก Grab ใช้บริการไปเมื่อตุลาที่ผ่านมาเหมือนกัน

คนที่ 6 +6282230024229 Andrew คนนี้ใช้บริการบ่อย ก็โอเคร แต่รอบนี้เราไม่ได้ใช้ ปกติจะใช้บริการนางเวลาไปแถบโบรโม่ อิเจี้ยน มาลัง

โรงแรม

ส่วนใหญ่เราจองผ่าน booking.com หรือหาใน Airbnb ก็มีโรงแรมที่ใน booking ไม่มี ราคาก็เอาตามกำลังเงินในกระเป๋า นอนรวมเริ่มต้นที่ 100+ ไม่ถึง100ยังมี แต่เอาจริงๆก็ที่พักไม่แพง 400+ มีอาหารเช้า จิบช้าร้อนๆทั้งที่อากาศก็ร้อน

รายการโรงแรมที่เราพัก

13-14 มี.ค. Beds Hostel By Soscomma 176 บาท

14-16 มี.ค. Penida Lacasa Cottage 1123 บาท

16-17 มี.ค. Beds Hostel By Soscomma 172 บาท

17-19 มี.ค. Biyukukung Suite & Spa 2319บาท

19-22 มี.ค. Sunshine Vintage House 1036บาท

22-23 มี.ค. The Pavilion Hotel Kuta 544บาท

23-25 มี.ค. The ONE Legian 1803 บาท

รวม 7173 บาท (ถ้ามีคนหารก็จะดี)

13 มี.ค.62

ดอนเมือง(DMK) - สนามบินเดนปาซาร์ งูราห์ไร (DPS) 6:00-11:15 เช้านี้ที่สดใส ไม่ต้องกรอกใบเข้าเมืองนะคะกรอกแค่แบบฟอร์มศุลกากร (customs declaration)คนต่อคิวยาววววววมาก มากี่ครั้งก็ยาวเผื่อเวลาไปเลย 1 ชั่วโมงกว่าจะได้ออกจากสนามบิน วันนี้เรามีเวลาช่วงบ่ายเลยคิดว่าหาคนขับรถพาเที่ยวสบายๆเลยติดต่อ Gustu ตกลงกันเรียบร้อย สุดท้ายแล้วก็แป้ก สื่อสารผิดอะไรบางอย่างเหละ ออกมาไม่เจอใคร สุดท้ายนางก็ส่ง อกูส มารับแทน

วันนี้ไม่มีแผนจะทำอะไรแค่ไปดูการแสดง Kecak and Fire dance ที่ Uluwatu มีเวลาเลยขอแวะดื่มกาแฟ ครั้งแรกที่เคยได้ชิมตื่นตาตื่นใจมาก ครั้งนี้ครั้งที่2 จริงๆสถานที่แบบนี้มีเยอะมากๆที่นี่ จะมีคนเดินพาชมต้นตะไคร้ ขิง และอีกหลายๆต้น จะมีตัวชะมดเดินเล่นไปมาอยู่ในกรงโชว์ตัว ขี้กูนี่เหละที่แพงซะเหลือเกิน🤤 ถัดไปก็เป็นโชว์เมล็ดกาแฟ ตามขั้นตอนจนออกมาเป็นกาแฟ ซื้อ1แก้ว จะได้ชิมตามในภาพ พูดตรงนี้เลย !!!!!! กล้วยฉาบแถมฟรีอร่อยสุด (บางที่ชิมฟรีงะไม่ต้องสั่งก็ได้)

เสร็จแล้วก็ย้ายสังขารไปที่ วัดUluwatu ค่าเข้า 30.000 idr. มีโสร่งให้ใส่ มาถึงเราก็กินข้าวก่อนเลย Vado gado gado สั่งคนละจานกับอกูส บดๆขยี้ๆ ขลุกขลิก อร่อยยยยย555 รวมน้ำหมดไป 80.000 idr.

ครั้งที่2 แล้วที่ได้มาที่วัดนี้เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเท่าไหร่ ครั้งนี้ตั้งใจมาดูการแสดง ประมาณ 4 โมงเย็นก็เริ่มขายตั๋ว อกูสก็ซูนฝูงชนไปซื้อบัตรมาให้ รีบซื้อรีบเข้าไปนั่งก่อนก็ดีเพราะคนเยอะมาก ฉากหลังเป็นพระอาทิตย์ตกสวยเลย Kecak and Fire dance in Uluwatu ราคา 100.000 idr. มีกระดาษมาให้พร้อมกับตั๋วในนั้นก็จะเขียนเรื่องราวที่จะแสดงเป็นภาษาอังกฤษ พูดเลยว่าอ่านไม่ออก การแสดงจะไม่ใช้เครื่องดนตรี ใช้การประสานเสียงแทน เรื่องที่แสดงก็เป็นตอน ๆ

Rama,Sita and golden deer 🦌

Sita,Rahwana,Bagawan and Garuda.

Twalen,Rama,Laksamana and Hanoman

Sita,Trijata and Hanoman ใช้เวลาแสดงทั้งหมด1ชั่วโมง ฉากจบลุยไฟอลังการงานสร้างมาก

เริ่มต้นด้วยพิธีกรสาวสวย กล่าวเปิดการแสดง

เสร็จประมาณ 1 ทุ่มถ้าจำไม่ผิด เราก็ให้อกุสไปส่งโรงแรม เช็คอิน Beds Hostel By Soscomma เป็นแบบนอนรวม ทิ้งกระเป๋าแล้วออกไปหาอะไรกิน

เรียกโมไซ ใช้ gojek ให้ไปส่งที่ร้านอาหาร ชื่อ warung Pepe kuta เป็นอารมณ์เหมือนนั่งร้านเหล้าชิวๆ ดนตรีสดสบายๆ กินข้าว จบแล้ววันนี้

14 มี.ค.62

วันนี้ไป nusa penida นอนที่เกาะ 2 คืน ไม่มากไม่น้อยไป กำลังสบาย ไม่รีบ นัดอกูสมารับที่ Hostel ไปส่งที่ท่าเรือ sanur ให้นางหาซื้อตั๋วให้ ไป-กลับ ได้ราคา 400.000 idr. สำหรับใครที่ไม่มีตั๋วแนะนำให้ไปแต่เช้าแบบเรา เราไปถึงท่าเรือประมาณ 6:30 ค่อนข้างวุ่นวายเลย คนที่มีเวลาน้อย ก็ไปเที่ยวแบบไป-กลับ 1 วันก็ได้ มาแต่เช้าจะได้เรือรอบเช้า จะได้มีเวลาเที่ยวบนเกาะเยอะขึ้น สำหรับใครที่ไม่ได้มีไกด์ ก็สามารถเช่ามอเตอร์ไซค์ขี่บนเกาะได้ แต่ถนนหนทางจะไม่ค่อยดี ส่วนเราติดต่อไกด์ไว้แล้ว เพราะต้องการคนถ่ายรูปให้

ทุกอย่างเรียบร้อยก็เดินมากินข้าวร้านแถวท่าเรือ ข้าวห่อ ไม่รู้ชื่อรู้แค่ว่า อร่อย!!!!!!! กินที่ไหนก็อร่อย ที่โฮสเทลก็มีข้าวห่อแบบนี้ให้ตอนเช้า ถ้าหิวแล้วไม่รู้จะกินอะไรก็ซื้อข้าวห่อแบบนี้เลย ถูกและไม่ผิดหวังแน่นอน เดินทางไปเกาะใช้เวลา 45 นาที เราจำเวลาเรือออกไม่ได้

ตัดภาพมาที่ nusa penida มาถึงก็เจอไกด์ขับรถมาจอดรอเลย ถ้าขับลงไปรับในน้ำได้คงลงไปแล้ว วันนี้พักที่ Penida Lacasa Cottage จองผ่าน booking.com ไปถึงก็ดำน้ำเลย และแผนวันนี้คือ - ดำน้ำที่ manta Bay .wall point.gamat bay

-Angel Billabong

-Broken Beach

-Kelingking Beach

ขอข้ามภาพใต้น้ำไปเลยละกันถ่ายได้แต่วีดีโอ คลื่นที่นี้แรงมาก ซึ่งเราก็ว่ายน้ำไม่เป็น เป็น Snorkeling ที่นี่ยากมากสำหรับตัวเราเฟลนิดนึง เราชอบที่ gili meno รู้สึกง่ายสำหรับเรา

คนนี้ไกด์เราเอง จริงๆนางควรจะต้องรออยู่รถ แต่เราออกทะเลคนเดียวก็จะดูเหงาไงเลยลากมาด้วย5555

เสร็จจากดำน้ำ ก็มาแวะร้านอาหารเติมพลัง นิยามมันง่ายๆว่า ข้าวผัด และก็สงสัยว่ากลางวันแดดแรงขนาดนี้เอาเทียนมาให้ทำไม คำตอบคือไล่แมลงวัน ใครสนใจเอาวิธีนี้ไปใช้ได้เลย ได้ผลอยู่

ถ้าได้เห็นภาพนี้แล้วนั้น หมายความว่าเราได้จ่ายไปแล้ว 5.000 idr. ใช่ค่ะแวะถ่ายรูปตรงนี้ต้องจ่ายเงินเด้อ

Angel Billabong

สวยงาม อลังการจริงๆ คลื่นแรงมาก

มุมนี้ก็ไม่สามารถลงไปเล่นได้นะคะ เพราะคลื่นซัดแรงเข้ามาเลย

Broken Beach

เดินมาอีกนิดนึงก็จะเจอตรงนี้ ก็ไม่นิดนะ555 ร้อนมากด้วย ก็ต้องบอกว่าสวย สวยจริงๆ

Kelingking Beach

หอบร่างไปที่ถัดไป สถานที่ยอดฮิตที่ใครก็ต้องมา Kelingking แปลว่า "นิ้วก้อย" สวยมากกกกกกกกกกก จากการส่องลงไปด้านล่างแล้วเอาไว้คราวหน้าก็แล้วกันเนาะ

ไกด์บอกว่าวันนี้มีงานแต่ง คุณอยากไปไหม ก็อยากเห็นไงเลยตอบตกลงว่าไปค่ะ นางก็มาส่งเช็คอินที่โรงแรม แล้วนัดหมายเวลาจะมารับในเวลาราวๆ 1 ทุ่ม

บรรยากาศหน้าห้อง

และนี้คืองานแต่งงานแรกในชีวิตที่ไม่รู้จักใครเลย แม้กะทั่งชื่อเจ้าบ่าว เจ้าสาว อารมณ์เหมือนมาก้มหน้าก้มตากิน อย่างที่เห็นในภาพนั้นซุ้มที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวนั่ง เข้าไปในงานก้าวแรกคือการนั่งสัมภาษณ์ทั้งคู่บนเวทีแบบจริงจัง อาหารก็จะมีส่วนของหวาน ของคาว แบบบุฟเฟต์ หลังจากสัมภาษณ์เสร็จก็มีคนออกมารำ (บอกเลยว่าเครื่องเสียง และไดไอซ์ไม่ธรรมดาจริงๆ) นางรำก็จะเดินเข้ามาเลือกผู้ชายออกไปเต้นด้วย เค้าบอกว่ามันคือเรื่องสนุก ขำขันกันในงาน หรือ joke ผู้ชายก็จะ วี๊ดวิ้ว แซวกันใหญ่ และไม่กี่นาทีต่อจากนั้น ไฟก็ดับทั้งงาน เพราะบนเกาะฝนตกทุกวัน และคงต้องขอตัวกลับก่อนดูท่าว่ากินเบียร์ยาวๆทรงจะไม่ดีต่อชนีน้อยในต่างแดน😂 ยินดีกับทั้งคู่ด้วยค่ะ❤️ **ผิดพลาดการอธิบายประเพณีวัฒนธรรมประการใดต้องขออภัย🙏เพราะเล่าจากเพียงที่เห็นเท่านั้น

15 มี.ค.62

เริ่มที่แรกเช้านี้ •Peguyangan waterfall •

ยอมใจของคน กับการเดินลง และขึ้นบันไดกว่าร้อยล้านขั้น(เยอะไปเนาะ😂) เพื่อเคารพ บูชา สิ่งที่เค้านับถือ ระยะทางโครตบันได บันได บันได บันไดและบันได (เกลียดบันได) เสมือนเราเดินลงหน้าผาสูง เพราะวัดนั้นอยู่ด้านล่างติดริมทะเล ย้ำว่าล่างสุด สุดๆ จากการสังเกตุการ เค้าจะมากันเป็นคันรถ เดาว่าคือมาทั้งครอบครัว ใส่ชุดขาว โสร่ง ผ้าผูกเอว นั้นคือชุดเข้าวัดนั้นเอง (การเข้าไปในเขตวัดทุกๆที่ที่อินโดนีเซียต้องใส่โสร่ง เสื้อแขนยาว บางวัดก็จะมีผ้าผูกเอวให้ รวมถึงผู้ชายด้วย)(หลายคนคงเคยเห็นภาพผู้หญิงแบกกระบุงหรือตะกร้าไว้ที่หัว จากการถามไกด์เค้าบอกว่าสิ่งของที่จะเอาไปบูชาไม่ควรอยู่ที่ต่ำเพราะฉะนั้นไม่แปลกที่จะเห็นเค้าเทินไว้บนหัว) เค้าก็จะหอบสิ่งที่เค้าเตรียมมาลงไปบูชาโดยก่อนการบูชานั้นต้องล้างตัวให้สะอาด เค้าต่อน้ำจืดมาจากด้านบนลงมาด้านล่างให้คนมาอาบน้ำล้างตัว เดินเลยวัดไปหน่อย มีบ่อน้ำจืดใสปิ๊งไว้ให้ลงเล่น บ่อโครตธรรมชาติเลยเหละ ไม่ค่อยเห็นนักท่องเที่ยวลงมาสักเท่าไหร่เพราะขึ้นลงใช้เวลาเยอะ มาถึงจุดนี้ใครไม่ลงสัมผัสน้ำก็บ้าแล้ว😅

Saren cliff point

ย้ายก้นมาที่นี้เลยค่ะ อยากจะนอนตายอยู่ตรงนี้ให้จบๆ ไป เดินขึ้นบันไดขาเปลี้ยมาก

และนี้เป็นสถานที่สุดท้ายของวันนี้ หาซื้อของกินในตลาดแล้วอาบน้ำพักผ่อนให้สบายใจ

16 มี.ค.62

วันนี้เรานัดกันเช้ามาก ประมาณตี 4 เพื่อออกไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ Rumah Pohon " Tree House " บุญบาปเช้านั้นฝนตกห่าใหญ่มากไม่มีพระอาทิตย์ มีแต่เมฆและความมืดครึ้ม มาถึงฝนก็ตกแรงหลับรอในรถเลยละกัน ตี 5 ครึ่งฝนก็เริ่มปรอย ที่นี่เป็นโรงแรมที่เต็มยาวววววตลอด แต่เปิดให้คนลงไปถ่ายรูปได้ จากการลองลงไปถ่ายรูปแล้ว คิดว่าเต็มดีแล้ว กว่าจะเดินลงไปถึงก็เล่นเอารักแร้เปียก ฝนก็ปรอยๆ ถ้าพักที่นี่คิดว่าคงไม่ขึ้นแน่นอน

จิบชาร้อนๆ บรรยากาศโครตได้

Diamond Beach

สารภาพตรงนี้ว่าขี้เกียจเดิน เก็บไว้รอบหน้า เอาทางเดินเข้ามาฝาก

Goa Giri Putri Temple

ไปต่อกันที่วัด ไม่มีค่าเข้านะคะ เค้าจะให้บริจาคตามที่เราอยากจะให้ได้เลยค่ะ

ทางเข้าถ้ำเก๋มาก เป็นรูรอดเล็กๆให้ไถตูดเข้า ไม่ได้ถ่ายภาพมาให้ดู

เดินออกมาก็จะเจอร้านค้า ขายผ้า ขายของกิน เรานั่งเล่นอยู่ตรงนี้สักพักใหญ่ อุดหนุนผ้ามา 1 ผืน ไกด์บอกผ้าแบบนี้ ลายแบบนี้มีเฉพาะที่เกาะนี้เท่านั้น ของมันต้องมี สนับสนุนงานฝีมือค่ะ

3 สาวพาวเวอร์พัฟเกิร์ล กำลังเดินกลับบ้าน ออกมาจากถ้ำก็เป็นเวลาที่เด็กเลิกเรียนพอดี

เวลายังเหลือ เลยไปนั่งเล่นกันริมทะเล น้ำใสมาก รอเวลาเรือออก

รอบเรือถ้าจำไม่ผิดคือรอบ 5โมงเย็น ซึ่งอีกหลายชั่วโมงเลย putu เลยไปเปลี่ยนเวลากลับให้ เป็นบ่าย2ครึ่ง

วันนี้จะกลับไปพักที่เดิม Beds Hostel By Soscomma ใน kuta จากท่าเรือไปโฮสเทล เราลองเรียก gojek ดูราคาโอเครเลยแต่ว่าต้องเดินออกไปข้างนอกถนนใหญ่ แท็กซี่ หรือ gojek ไม่สามารถเข้าไปรับคนด้านในได้ไม่ต้องกลัวจะหากันไม่เจอนะ ในแอพมีให้แชทคุยกับคนขับได้

ปิดท้ายวันด้วยการเรียก Gojek ไปส่งที่ beachwalk ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆโฮสเทล กินข้าวง่ายๆ นั่งฟังเพลง

17 มี.ค.62

วันนี้จะย้ายไป ubud เลยแชทไปหา Gustu ตั้งแต่กลางคืน เธอๆๆมารับเราได้ป่าว ไปส่งฉันที่อูบุดที แต่ว่าฉันจะขอแวะเที่ยวสักที่สองที่นะ ไปค่ะที่แรก

วิวระหว่างทาง

Lempuyang Temple (Pura Lempuyang Luhur)

วัดนี้ไม่เสียค่าเข้านะคะ แล้วแต่จะบริจาคเลย ใครๆก็ต้องอยากมาที่นี้ เพราะมีมุมยอดฮิต ยังไม่อ๋อถ้ายังไม่เห็นรูป

เริ่มคุ้นมุมนี้กันบ้างรึยัง

ทีแรกคิดว่าคนเยอะเฉยๆ มองดีๆเอ้าแถวนิหว่า เอาไงดีจะกลับรึรอ สุดท้ายก็รอไหนๆก็มาแล้วงะเนาะ

นี่คือคิวนักท่องเที่ยวที่รอถ่ายภาพโค้งกันเป็นตัวยูเลย ยืนรอเป็นเวลา 1ชั่วโมงกว่า

ขั้นตอนที่เราจะได้ถ่ายภาพนั้น คือต้องเข้าคิว จะมีคนถ่ายเพียงคนเดียวคือคนพื้นที่ เค้าจะนั่งอยู่ตรงที่มุมดีที่สุด แล้วเรียกคิว เราแค่ยื่นโทรศัพท์ให้เค้าถ่าย ทุกคนจะมีโอกาสเพียง 4 5 ถึง6 โพส จะมาลำใย เอาใหม่ไม่ด๊ายยยยยยยยยยยยยยยย พังคือพัง สวยคือสวย เสร็จแล้วเราก็จ่ายเงินให้คนถ่าย เท่าไหร่ก็ได้ ไม่วุ่นวาย ไม่เยิ่นเย้อ

❤️❤️❤️เรื่องราวดีๆคือ มีคู่รักคู่หนึ่ง โพส โพส โพส และทันใดนั้นผู้ชายคุกเข่าเปิดแหวนออกมา ผ่างงงงงงงงงง จ๊ะ เป็นการขอแต่งงานสวยงาม และจบด้วยท่ายืนคู่พร้อมโชว์แหวนที่นิ้วนาง😣 ไม่ได้อิจฉาหรอกนะ จริงจริ๊ง

เสร็จจากตรงนี้ก็ซัดข้าวซะเลย โครตหิว ร้านนี้ Gustu ว่าดี ดีก็ดี

สถานที่ต่อไปเราอยากไป Hidden Canyon Beji Guwang ไปถึงปิดจ๊ะ เนื่องจากฝนตกทุกวันน้ำขึ้นสูง เป็นอันตรายห้ามเข้า ต้องเชื่อเค้านะเค้าว่าไงเราก็ต้องว่างั้น ไปไหนดีละทีนี้ Gustu เลยพาไปอีกที่ใกล้ๆกันน้ำตก

Tegenungan Waterfall

เสียค่าเข้าด้วยนะ 20.000 idr. ข้างในร้านอาหารสร้างติดกับน้ำตก มีสระว่ายน้ำ บาร์ ชิคๆ ชิคมาก วิวดี

เป็นไง อย่างชิค

เดินลงไปครึ่งทางของบันไดมีเสียงตะโกนจากเจ้าหน้าที่ข้างล่าง บางอย่างที่ฟังไม่รู้เรื่อง ไกด์หันมาบอกขึ้นมาๆ แล้วนางก็พุ่งตัววิ่งขึ้นไปก่อน ไม่ถึง5นาที ก็เป็นอย่างที่เห็น น้ำมา ที่ๆเคยยืนถ่ายรูปหายไปในพริบตา ส่วนด้านล่างนักท่องปลอดภัยดี ออกจากน้ำตกทัน นี้เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นการมาของน้ำป่า ป่าไหนไม่รู้

น่ากลัวนะคะไปเที่ยวธรรมชาติก็มองหน้ามองหลัง มองสิ่งรอบๆตัวดีๆ

นั่งมองกระแสน้ำ โถ่ชีวิต!!!!

นั่งสักพักก็ให้ Gustu ไปส่งที่โรงแรม เราพักที่ Biyukukung Suite & Spa เด๋วเอาบรรยากาศโรงแรมมาให้ดูนะคะ แล้วก็เช่ามอเตอร์ไซค์ขี่ไปร้านกาแฟรอเพื่อน เย็นนี้นัดเจอเพื่อนมาจากเม็กซิโก นางพาภรรยามาเที่ยวบาหลีพอดี เลยนัดกินข้าว กินกาแฟกรุบกริบกัน

ข้าวเย็นวันนี้ แล้วเราก็ให้เพื่อนเลี้ยงข้าว 5555 จบแล้ววันนี้

18 มี.ค.62

good morning บรรยากาศโครตดี Biyukukung Suite & Spa 2คืน 2319 บาท

เป็นบ้านไม้ไผ่ 2ชั้น ชั้น1 มีระเบียงหน้าบ้าน ห้องน้ำ ตู้เย็น ที่แขวนผ้า มุมชากาแฟ ชั้น2 เป็นห้องนอนหน้าต่างรอบทิศทาง หลังเราติดสระว่ายน้ำ วิวดี

บรรยากาศห้องพัก แสงแดดก็จะส่องเข้ามาแบบออร่าเว่อ

อาหารเช้า จะมีผลไม้มาให้ด้วย 1 จาน ส่วนอาหารเราสามารถเลือกได้เลยตามเมนู

มาดูบรรยากาศภายนอกบ้าง โรงแรมจะมีสระว่ายน้ำ 3 จุด ห้องพักมีอยู่ 2 3 แบบไม่แน่ใจ

ยืนจากที่เรากินข้าวเช้าตรงข้ามเป็นห้องพักที่เราต้องเดินผ่านเวลาเข้าออกโรงแรม ก็มีทุ่งนาอยู่ตรงกลาง ถามว่าเดินผ่ากลางได้ไหม หึ ต้องเดินอ้อม

อันนี้เป็นโซนบ้านไม้ไผ่ที่เราพัก

รีวิวโรงแรมยังกับได้พักฟรี แต่มันดีจริงๆ เวลาเดินก็จะมีเสียงเอี๊ยดอ๊าดหน่อย ไฟสลัวๆ มีผู้คงจะดีเลย

วันนี้เราก็ไม่ได้มีแผนอะไรเลยขอตามเพื่อนจากเม็กซิโกไปเที่ยว เริ่มจากเติมน้ำมัน ถ้าไม่รู้ว่าต้องเติมเท่าไหร่ ให้บอกไปเลย full เอะอะ fulllllll จ่ายไป 40.000 idr.

นี่วิว

นี่เพื่อน

วัดอูลันดานูบราตัน(Pura Ulun Danu Bratan) เพื่อนพูดถึงวัดนี้ขึ้นมา ความเข้าใจคือคิดว่านางอยากไป เพราะเราเคยไปมาแล้วแต่ไปอีกก็ได้ ไปก็ไป ขี่มอเตอร์ไซค์ประมาณ ชั่วโมงกว่า เสียค่าผ่านทางไปอีก 31.000 idr. ก็ขับตามกันไป นางก็ขับเลี้ยวเข้าร้านอาหาร เอ๊ะที่ 1 มาทำไรวะร้านอาหาร เอ๊ะที่2 ไหนไปวัดวะ สรุปคือ มากินกาแฟ !!!!!!!!!!!!! จ้าาาาาาา ขี่มอเตอร์ไซค์มาไกลเพื่อกินแค่กาแฟ กินก็กิน คิดซะว่ามาเสพอากาศหนาว สายหมอก โซนนี่เป็นโซนที่อากาศเย็นแทบจะตลอดปีมั้ง 555

วิวดื่มกาแฟ

ไม่กี่นาทีก็ไม่มีอะไรให้เห็นแล้ว อากาศเย็นเลย ผิดกับโซน Ubud

Gunung Kawi Sebatu

ต่อมาเราก็แว๊นมาที่วัดนี้ เพื่อลงอาบน้ำในบ่อ พูดแบบนี้หลายคนก็คงนึกถึง วัดเทมภัคสิริงค์ (Obyek Wisata Tirta) แต่วัดนี้พิเศษกว่านั้นคือไม่มีคนเลย เรียกว่าความพิเศษได้ไหม แฮ่ๆ ที่นี่ต้องจ่ายค่าเข้าแต่เราลืมแล้วว่าเท่าไหร่ มีโสร่งและผ้าผูกเอวให้ตรงที่ขายตั๋วเลย ใช่แล้วเรา 3 คนเตรียมพร้อมมาแล้วสำหรับการลงน้ำ เค้าพร้อมเรามีแค่เครื่องในกับกางเกงมาเปลี่ยน

ความสงบที่แท้จริง น้ำเย็นมาก แล้วฝนก็เทหนักมาก แต่ฟ้าฝนเป็นเรื่องปกติสำหรับที่นี่ เปียกก็เปียกอยู่แล้ว

จากนั้นเราก็แยกย้าย กลับมาเสพบรรยากาศที่ห้อง ฝนตกตลอดทั้งคืนยันเช้า

โทรสั่งข้าวมากินที่ห้อง อาจจะสงสัยว่าเอ๊ะโทรสั่งข้าวภาษาอังกฤษยังไง ก็google หาประโยคสั่งอาหาร แล้วก็อ่านตามเมนู บอกเลขห้องก็ได้กินแล้ว ทุกอย่างมีทางออกเสมอ ลาค่ะ

19 มี.ค.62

วันนี้ย้ายโรงแรมไปที่ Sunshine Vintage House พัก 3 คืน เป็นโฮสเทลเล็กๆมีทั้งหมด 8 เตียง

มุมเม้าท์มอย กินข้าว ดื่มชา นอนเล่น เจ้าของที่พักน่ารัก 2 สามีภรรยา เป็นกันเอง ใครที่ชอบนอนรวมแบบไม่วุ่นวายมากที่นี่เลย

วันนี้เราพาเพื่อนเม็กซิโกกลับไปที่น้ำตก Tegenungan Waterfall ที่มีน้ำป่ามางะ น้ำยังแรงอยู่เลย

เรากินข้าวกันที่นี่

ของเพื่อน

ของเมียเพื่อน

ของเรา เอิ่มมมมมมม สั่งอิหยังมาวะนิ

แวะจิบกาแฟเมาท์มอย วิวทุ่งนา จริงๆวันนี้ไม่มีอะไรทำนอกจากเดินตลาด กินกาแฟ เข้าร้านนู้นออกร้านนี้ ชีวิตสโลว์โครต

20 มี.ค.62

เมื่อวานเรานัดกันว่าวันนี้จะไปทำอะไรสักอย่าง เราก็ตกลงไปๆ ตอนนั้นคิดว่าเพื่อนชวนไปเรียนเพ้นท์ผ้าบาติก เช้าเราก็รีบแว๊นมอเตอร์ไซค์ไปจอดไว้ที่โรงแรมเพื่อน แล้วมีรถมารับไปส่งที่ที่นึง ตอนนั้นก็ยังไม่รู้ ฝรั่งใส่บิกินีทำไมวะ ผู้ชายใส่ขาสั้น แปลกๆละ เราจะไปล่องแก่งกัน ถึงบางอ้อเลย แล้วอะไรที่คิดว่าเพื่อนจะชวนกุไปเพ้นท์ผ้าาาาาาาาาาาาา ทุกคนเตรียมชุดมาเปลี่ยน อาบน้ำกันพร้อมเลย นี่มาแต่ตัว ฉันมาทำอะไรที่นี้ เล่นก็เล่นนี้เป็นครั้งแรกเลย ลำนึง 6 คน เรา 3คน อีกคนญี่ปุ่น อีกคนเยอรมัน อีกคนจำไม่ได้ ชะนี 5 ผู้ชาย 1

ต้นทาง ออกตัวได้ไม่ไกล คนคุมเรือจะคอยกำกับให้ทำนู้นนี่ ระหว่างทางมีแกะสลักหินสวยมาก ถ่ายแต่วีดีโอมาอยากเห็นต้องไปลองนะคะ

หนังชีวิตมากกกกกกกกก ตำแหน่งรั้งท้ายฉันหนะซิ ฉันหนะซิ ขากลับแบกไม้พายขึ้นเนิน ขึ้นบันไดหายใจแทบไม่ทัน คุณพระ!!!!

หลังจากเล่นเสร็จที่นี่ก็จะมีห้องอาบน้ำให้ แล้วก็ราคารวมกับอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว กินเสร็จคนขับรถก็ไปส่งเรากลับที่เดิม

เราก็แยกย้ายกับเพื่อนแล้วก็นัดกินข้าวกันตอนเย็น

21 มี.ค. 62

สวัสดีเช้าที่สดใส นั่งนิ่งเป็นเจ้าแม่เลย รออาหารเช้าค่ะก่อนจะออกไปแว๊น

อาหารเช้าของเราวันนี้ไม่ธรรมดา เรารีเควสออมเล็ต เค้าก็ใจดีทำให้ด้วย ขอบคุณนะคะ

ต่อจากวันนี้จะเป็นวันพักผ่อน พักผ่อนจริงๆ เช้านี้จะพาทุกคนมารู้จักกับ Sukawati Art Market เป็นแบบ local ลงมาอีกถ้าเทียบกับ ubud market มีแบบขายส่ง ของแต่งบ้าน กระเป๋าสาน แทบทุกอย่าง งานแกะสลักไม้ ส่วนราคาก็แนะนำให้ต่อราคาลงมาได้อีก

ตลาดจะมีโซนที่เปิดตอนเช้า-ปิดเที่ยง และโซนที่เปิดตลอดทั้งวัน วันนี้เรามาตามหา พระพิฆเนศแกะสลักไม้ ราคาโดนใจเลยทีเดียว

เดินเล่นไปเรื่อยๆ เห็นร้านน้ำมะพร้าวจอดอยู่ สักหน่อยหน่า

หวานเชียว จำราคาไม่ได้นะคะ ไม่แพงแน่นอนค่ะ

เริ่มหิวแล้ว ข้างๆมีร้านก๋วยเตี๋ยวจอดอยู่ จัดค่ะดูพี่เค้าตั้งใจทำ

bakso (บักโซ) เราเคยกิน เรามั่นใจแน่นอนว่าเรากินได้ ถ้าเห็นมอเตอร์ไซค์ด้านหลังใส่ตู้ขายของ เขียน Bakso กวักมือเรียกได้เลยจอดได้ทุกที่เราก็กินได้ทุกที่เหมือนกัน กินแล้วก็เอาถ้วยคืนเค้าไป ถ้าไม่รู้จะกินอะไรเป็นอีกทางเลือกที่โอเคร

หลังจากที่เพลิดเพลินกับการกิน เดินกลับมาที่ตลาด เฮ้ยยยยยย ปิดแล้ว!!!!!!!!!!!! ตอนนั้นไม่รู้ว่ามันปิดเที่ยง ยืนงงในดงร้านปิด พระพิฆเนศ พระพิฆเนศ พระพิฆเนศ ขี่มอเตอร์ไซค์เกือบครึ่งชั่วโมงเด้ออออออออออ ขี่กลับค่ะ ไปเดินเล่นตลาดอูบุดอัพเดทสินค้าและราคา 5555

วันนี้ช่วงเย็นมีนัดสปา The moksha spa packages เป็นสปาของโรงแรม The Moksha Ubud เราไม่ต้องพักที่โรงแรมนั้นเราก็สามารถเข้าไปทำสปาได้ googleตั้งแต่หาสปา หาcontact และสนทนาผ่าน whatapp เราเลือกแพ็คเก็จสปา romantic honeymoon คนเดียว 370.000 idr. ถ้า 2คน 720.000 idr. 3ชม. มี welcome drinks - balinese massage - body scrub & mask - facial treatment - romantic flower bath - herbal tea

ความจริงของความสวยงามของอ่างอาบน้ำ มันไม่เห็นจะนอนแช่สบายเลย ตัวมันลอย คอก็ปวด แช่สวยๆงะโอเคร แช่สบายยังไม่เคยได้รับความสบายนั้นนะ

เสร็จจากสปาก็หาข้าวกิน จุกๆแน่นๆ ดินเนอร์โครตโรแมนติก ร้านอาหารนี้อยู่ข้างๆร้านสตาร์บัคส์ถนน monkey forest หมดไป 186.300 idr. tax.15%เหนะ ปกติกินแต่ร้านข้างทางไม่มีบวก (วันพักผ่อนนนนนน) กินเสร็จกลับห้องนอนนนนนนนนนนนน

22 มี.ค.62

วันนี้ย้ายกลับไป kuta นัดคนขับรถมารับตอนบ่ายโมง ไปส่งโรงแรมที่กูตา เริ่มจากกินอาหารเช้าวันนี้

นิคเจ้าของโฮสเทลผูกเชือกเส้นนึงให้เราและคนอื่นๆที่นั่งกินชา กาแฟกันอยู่ เป็นเชือก 3 สี แดง ขาว ดำ เรียกว่า Tridatu มาจาก "tri" ที่แปลว่า three (สาม) Datu แปลว่า king (กษัตริย์)

สีแดง เป็นสัญลักษณ์ของพระเจ้า คือ พระพรหม(brahma)
สีขาว เป็นสัญลักษณ์ของพระเจ้า คือ พระศิวะ (Shiva)
สีดำ เป็นสัญลักษณ์ของพระเจ้า คือ พระวิษณุ (Vishnu)

tridatu เป็นสัญลักษณ์เตือนเราว่าชีวิตไม่ได้มีเพียงสีเดียว แต่มีหลายสี tridatu เป็นสัญลักษณ์ที่ชาวฮินดู และชาวบาหลีได้รับการคุ้มครองจากพระเจ้า (แปลผิดพลาดยังไงต้องขอโทษที) The use of the Tri Datu yarn is a symbol that Balinese Hindus are always protected by God. ภาษาอังกฤษว่าแบบนี้

มีเวลาครึ่งวันเดินเล่นชมเมือง

แล้วเราก็ได้ พระพิฆเนศ จากในตลาดอูบุด ดีไซน์เก๋ไก๋มาก

ดื่มด่ำกาแฟร้อน ขนม

ไม่รู้จะไปไหนแล้วก็กลับมานอนกลิ้งไปมาที่โฮสเทล รอเวลา

เราติดต่อ gustu มารับไป The Pavilion Hotel Kuta แต่นางส่งคนขับรถอีกคนมารับ ถึงโรงแรมก็นอนสบายใจ (ยังไม่รู้ตัวว่าต้องไปสนามบินคืนนี้) เพื่อนเลิกงานก็มารับไปกินข้าว นางเลี้ยวเข้าร้านนี้อย่างไว เธอต้องลอง!!! สั่งกรุบกริบมา 1 จาน ก็ยังไม่รู้ว่ามันชื่ออะไร พอกินได้ แต่ให้มาเองก็ไม่กล้าเข้าร้านนี้แน่นอน

ข้าวเกรียบ ของโปรด อารมณ์แบบสแน็คกินเล่น เพลินในราคา 1.000 idr. ภาษาอินโด กรูปุก (ลิ้นต้องตวัด ร เรือเบาๆ) ทำเสียงเบลอๆ

มากินจริงจังกันที่ร้านนี้ Gourmet sate house กินอิ่มกลับห้องนอนสบายใจเว่อ

23 มี.ค.62

ตื่นมา 9 โมง หยิบใบที่ปริ้นออกมา เอ๊ะ เอ๊ะ ในใบมันเขียนว่า 23 Mar 2019, 0135 AM (1:35 AM) ความมโนอะไรทำให้คิดว่าคืน 23 มีนาไปขึ้นเครื่อง แชทไปหาพี่สาว ช่วยกุดูดิ๊ กุต้องไปขึ้นเครื่องคืนนี้หรือเมื่อคืนนี้วะ พี่ตอบกลับมาว่าทำไมไม่ถามตั้งแต่เมื่อคืน ไปเอาความมั่นใจมาจากไหน จากบ้านจ้า ตกเครื่องค่ะครั้งแรกในชีวิตเลย แชทไปหาเพื่อนที่มาจากเม็กซิโกนางกลับมาที่ kuta ก่อนเรา เธอฉันตกเครื่อง นางเลยชวนไปตลาดด้วยกัน เราฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม แล้วเรียก gojek ไปหาเพื่อนที่โรงแรม เห็นหน้าเพื่อนแล้วอยากจะร้อง (เอาไงดี) เพื่อนพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ไม่เป็นไรฉันก็เคยตกเครื่องมาก่อน 55555

Art market kumbasari

เราเรียก gojek จากโรงแรมเพื่อนมาส่งที่ตลาด ส่วนเพื่อนกะเมียนาง แว๊นมอเตอร์ไซค์ตามมา ตลาดนี้มี 2 ฝั่ง ฝั่งนึงขายของ เช่น ผ้าบาติก กระเป๋า ของจุกจิกแต่งบ้าน ของฝาก ทุกสิ่งอย่าง อีกฝั่งอาคารเป็นขายของสด ส่วนใหญ่จะเป็นผัก เครื่องปรุง เยอะแยะไปหมด เหนือ sukawati ก็ที่นี้เหละ ยกตัวอย่าง ซื้อที่ติดตู้เย็นยกโหลที่นู้นขายให้ 50.000 มาเจอที่นี้ 10.000 ชนะเลิศไปเลย

สะพานข้ามฟาก

ไม่ค่อยได้ถ่ายรูป บรรยากาศเท่าไหร่

ตลาดสดมีความ Art เด้อ หาว่าไป

เสร็จจากตลาดเราก็เรียก มอเตอร์ไซค์ไปส่งที่ beachwalk ห้างนั้นเอง เพื่อนไปทำธุรแล้วเด๋วจะตามมา วันนี้เรากิน BURGER KING ง่ายๆกัน พร้อมกับหาตั๋วเครื่องบินใหม่ และหาโรงแรมใหม่ พอได้วันกลับ คือ 25 มีนาคม เราก็จองโรงแรม ใช้ app booking.com ในมือถือง่ายที่สุดแล้ว เพื่อนพาเดินไปเอากระเป๋าที่โรงแรมเก่าที่ฝากไว้ มาโรงแรมใหม่ The ONE Legian โรงแรมของนางก็ถัดไปอีกนิดเดียวใกล้ๆกัน

โรงแรมนี้ทำเลดี สถานบันเทิงเพียบ ร้านสะดวกซื้อเต็มไปหมด บนดาดฟ้าเป็นบาร์ มีสระว่ายน้ำ เปิดเพลงตื๊ดๆ ไหนๆบาหลีอยากให้อยู่ต่อเราก็ทิ้งตัวลงตรงนี้เลยแล้วกัน

ขอจบวันนี้ด้วยแสงสุดท้าย อาทิตย์ตกที่กูตาสวยจริงๆ วันที่ร้ายๆก็ยังมีอะไรดีๆอยู่ เรื่องที่เกิดขึ้นมันต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญ(แต่มันเป็นเวรกรรม)

24 มี.ค.62

วันนี้ไม่ได้มีแผนจะทำอะไรออกไปกินข้าว เดินเล่น ตอนเย็นเพื่อนพาไปดูพระอาทิตย์ตกต้องขอโทษทีจำชื่อไม่ได้งะ ไปถามแล้วจะมาบอกอีกทีละกันนะ

นั่งให้ลมตีหน้า ดูพระอาทิตย์ตกริมหน้าผา แสงแดดอ่อนๆ จิบเบียร์เย็นๆ ชีวิตจะต้องการอะไรไปมากกว่านี้ คุ้มแล้วที่ตกเครื่อง

คนจีนมาถ่ายพรีเวดดิ้งเยอะมาก จากในภาพแค่ส่วนหนึ่ง ยังไม่รวมอีกหลายๆจุด ต้องให้คะแนนวิวพระอาทิตย์ตกที่นี้เลยสวยจริงๆไม่แปลกที่จะมาถ่ายที่นี้

กลับจากดูพระอาทิตย์ตกก็หาอะไรกิน และนี่ คือ สะเต๊ะของแท้ ถูก อร่อย เพื่อนบอกว่าถ้าเธอเห็นร้านไหนที่เขียนคำว่า Madura ถูกและดีแน่นอน กินสะเต๊ะไป 3 จาน ข้าว2 ข้าวเกรียบ4 น้ำอีก 2 ขวด หมดไปประมาณ 40.000 idr. เงินไทยประมาณ 96 บาท โถ่!!! ซื้อกลับไทยได้ไหมเนี่ย ถ้าใครมีโอกาสได้ไปโบรโม่ ตอนเย็นๆจะมีร้านนึงขายสะเต๊ะตรงหัวโค้งถนน โครตอร่อย เรากินที 20 ไม้ขึ้นงะ

จบคืนสุดท้ายอย่างสวยงาม

25 มี.ค.62

กลับบ้านแล้วจ้า จากโรงแรมไปสนามบิน เราเรียก gojek จ่ายไป 35.000idr. บิน 11:55 เราไปรอตั้งแต่

9 โมง รอบนี้ไม่พลาดแน่นอน!!!!!!!!

บาหลี ครั้งหนึ่งในชีวิตคิดว่าควรมา ไม่มีข้อแม้ ไม่มีข้อสงสัยอะไรเลยว่าทำไมต้องมาที่นี่ บาหลี 5ครั้งสำหรับเราไม่เหมือนกันสักครั้ง และคิดว่าต้องมาอีกแน่นอน อกหัก ตกงาน เหงา มีปัญหาในชีวิต บาหลีสามารถเยี่ยวยาใจได้ มาคนเดียวก็ได้ มากับเพื่อนก็น่าจะสนุก มากับครอบครัวก็มีกิจกรรมให้ทำ มากับแฟนก็คงจะฟินน่าดู ไม่ต้องกลัวนะคะบาหลีปลอดภัย คนก็น่ารัก ธรรมชาติก็โครตจะฟินเลย ลองดูค่ะ

สุดท้ายขอบคุณทุกคนที่หลงเข้ามาอ่าน ผิดพลาดยังไงต้องขออภัยหวังว่าจะได้เอาข้อมูลไปใช้กันได้บ้างนะคะ อิอิ

มาสรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆนะคะ

โรงแรม 12 คืน 7173 บาท (รายละเอียดอยู่ด้านบน ถูกแพงแล้วแต่เราเลือกเลยอยากพักถูกกว่านี้นอนรวมทุกวันก็ได้)
ค่าไกด์บนเกาะ 1.500.000 idr. 3 วัน (3600 บาท) ถ้าใครไม่ใช้ไกด์ ก็เช่าโมไซน่าจะประหยัดไปได้เยอะเลย
ค่าทัวร์ อกูส 2 วัน 500.000 (1200บาท)
ค่าทัวร์ Gustu 1 วัน แวะเที่ยว 2 ที่ ส่งจาก kuta-ubud 600.000 (1440 บาท)

จำราคาแท็กซี่ ubud - kuta ไม่ได้

รวม 6240 บาท

*คำแนะนำ*

ใครที่ขี่มอร์เตอรไ์ไซค์ด้เช่าขี่มาubud ก็ได้นะถูกกว่าเยอะเลยได้แวะเที่ยวด้วย หรือใครขับรถเป็นก็เช่ารถขับ(รถจะติดหน่อยนะที่นี่) หรือใครจะนั่งรถบัสก็ได้ หรืออีกวิธีคือเรียก gojek เคยเรียกประมาณ 200.000+นิดๆ ถ้าพักนอกเขตเหมืองในอูบุดสบายเลย

เช่ามอเตอร์ไซค์ 5วัน x 60.000 = 300.000 (720 บาท)
ค่ารถแท็กซี่จากท่าเรือ sanur-โรงแรมBeds Hostel By Soscomma 61.000 (146 บาท) ถ้าเรียกแท็กซี่ต้องมี 1-2แสนแน่ๆ บางคนเช่าโมไซขี่อยู่แล้วในเมือง แล้วอยากไปเที่ยวเกาะแค่ 1 day trip ก็ขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดท่าเรือก็ได้นะคิดว่าต้องเสียค่าจอดด้วย
เรือไป-กลับ nusa penida 400.000 idr.(960บาท)
ดำน้ำ 400.000 idr.(ไม่รวมกับค่าไกด์) (960 บาท) ถ้ามีคนหารก็จะถูกกว่านี้
ค่าแท็กซี่ จากโรงแรม The ONE Legian - สนามบิน 35.000 (84 บาท) + ค่าเข้าสนามบิน 5.000(12บาท)= 96 บาท